งานวิจัยใหม่เผย คนโสดชาวอเมริกัน ฐานะการเงิน ‘แย่’ กว่าคนมีคู่

จาก https://workpointtoday.com/single-adults-make-less-money/

การเป็น ‘คนโสด’ สำหรับบางคนอาจเป็นเรื่องน่าเศร้า แต่เชื่อเถอะว่าโลกนี้ยังมีคนอีกมากมายที่อยู่ในสถานะนี้
โดยงานวิจัยใหม่จาก Pew Research Center พบว่า ในปี 2019 ราว 38% ของพลเมืองชาวอเมริกันวัย 25-54 ปีเป็นคนที่ยังไม่แต่งงานหรือไม่มีแฟน ซึ่งเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมากจากรายงานการสำรวจก่อนหน้านี้ในปี 1990 ที่อยู่ที่ 29% เท่านั้น

ที่น่าตกใจกว่าก็คือ ข้อมูลจากงานวิจัยล่าสุดยังชี้ให้เห็นอีกว่า คนโสดเหล่านี้มีแนวโน้มที่จะมีสถานะทางการเงินแย่กว่าคนมีคู่
[อยู่ด้วยกันช่วยเพิ่มสถานะการเงิน ยิ่งแต่งงานยิ่งช่วยได้มาก]

รายงานระบุว่า คู่รักชาวมิลเลนเนียลจำนวนมากขึ้นอยู่ด้วยกันก่อนแต่งงาน บางคู่ถึงขั้นซื้อบ้านอยู่ด้วยกันก่อนแต่งงานด้วยซ้ำ
และคนกลุ่มที่อาศัยอยู่กับคนรักโดยที่ยังไม่ได้แต่งงาน มักจะมีสถานะการเงินดีกว่าเพื่อนที่โสด

แต่ถึงอย่างนั้น ผู้ใหญ่ที่แต่งงานแล้วก็ยังมีการเงินดีกว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหมู่ผู้ชาย

คำอธิบายหนึ่งในรายงานระบุว่า ผู้ชายที่มีรายได้สูงมีแนวโน้มที่จะแต่งงานมากกว่า ยิ่งกว่านั้นก็คือ งานวิจัยพบว่ารายได้ของผู้ชายเพิ่มขึ้นเมื่อแต่งงานแล้ว ส่วนผู้หญิงเองก็ไปในทิศทางเดียวกัน แม้ว่าจะเพิ่มขึ้นในสัดส่วนที่น้อยกว่าผู้ชายก็ตาม

นอกจากนี้ ผู้ชายที่อาศัยอยู่กับคนรัก มักจะมีงานทำมากกว่าผู้ชายที่อยู่คนเดียว เทียบสัดส่วนระหว่างสองกลุ่มคือ 91% กับ 73% และแท้ที่จริงแล้ว ผู้ชายโสดมักจะมีสิ่งต่างๆ ‘แย่กว่า’ ชายมีคู่ ทั้งในเรื่องการจ้างงาน, รายได้, การศึกษา และความเปราะบางทางการเงิน [ข่าวร้ายสำหรับวัยผู้ใหญ่ที่ยังโสด]

งานวิจัยของ Pew ยังพบอีกว่า ผู้ใหญ่ที่ไม่มีคู่ครองมีผลทางเศรษฐกิจที่แตกต่างจากคนรอบข้าง และผลเหล่านั้นมักจะแย่กว่า
ในบรรดาคนที่มีรายได้ ชายและหญิงที่ไม่มีคู่นั้นหาเงินได้น้อยกว่าคนที่มีคู่แล้ว โดยในปี 2019 ชายโสดมีรายได้เฉลี่ย 35,600 เหรียญสหรัฐฯ ขณะที่ผู้ชายมีคู่แล้วมีรายได้เฉลี่ย 57,000 เหรียญ

ในผู้หญิงก็เช่นกัน คนมีแฟนแล้วมีรายได้เฉลี่ย 40,000 เหรียญ ส่วนคนโสดมีรายได้เฉลี่ยอยู่ที่ 32,000 เหรียญ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าผู้หญิงโสดมีสถานะการเงินถดถอย

Pew ระบุว่า สำหรับผู้หญิงแล้วความต่างที่กว้างขึ้นนี้ไม่ได้เป็นเพราะผู้หญิงโสดมีสถานะการเงินแย่กว่าในปี 1990 แต่เป็นเพราะผู้หญิงมีคู่มีชีวิตที่ดีขึ้นอย่างมากต่างหาก

เนื่องจากในปัจจุบัน ผู้หญิงมีคู่ได้รับการศึกษามากขึ้น ทำงานมากเกือบเท่ากับหญิงโสด และที่สำคัญ “ผู้หญิงกลุ่มนี้ที่ขาดทรัพยากรในการใช้ชีวิตแบบอิสระ ก็มีจำนวนน้อยกว่ามากด้วย” [มิลเลนเนียลมองเรื่องแต่งงานเปลี่ยนไป]

ปัจจุบัน ชาวอเมริกันเป็นโสดมากกว่าเมื่อ 30 ปีที่แล้ว โดยในปี 1990 มีเพียง 29% เท่านั้นที่ครองสถานะโสด แต่โดยเฉลี่ยแล้วพวกเขาจะแต่งงานกันในภายหลัง

โดยรายงาน ระบุว่า ในปี 2019 มีเพียง 51% ของคนอายุ 30 ปีเท่านั้น ที่แต่งงานแล้ว ขณะที่ในปี 1962 ตัวเลขดังกล่าวอยู่ที่ 90% ส่วนปี 2000 อยู่ที่สูงกว่า 60%

จากรายงาน ระบุอีกว่า เป็นเพราะคนมิลเลนเนียลอาจต้องเรียนหนังสือนานขึ้น และมุ่งความสนใจไปที่อาชีพการงานของตนก่อนจะเข้าสู่เหตุการณ์สำคัญในชีวิต เช่น การซื้อบ้าน หรือการแต่งงาน และอันที่จริงแล้ว จำนวนผู้หญิงโสดมีงานทำเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในปัจจุบัน โดยมีสัดส่วนอยู่ที่ 77% ส่วนผู้หญิงมีคู่อยู่ที่ 74%

นอกจากนี้ คนมีคู่ทั้งชายและหญิงมีแนวโน้มที่จะได้รับการศึกษามากขึ้น โดยในปี 2019 มีเพียง 26% ของชายโสดวัยทำงานที่สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีเป็นอย่างน้อย ส่วนชายมีคู่อยู่ที่ 37%

แนวโน้มนี้คล้ายกันในผู้หญิง คือ 43% ของหญิงมีคู่จบการศึกษาระดับปริญญาตรี ส่วนหญิงโสดอยู่ที่ 33%
Pew ระบุว่า โดยรวมแล้วจำนวนคนโสดที่เพิ่มขึ้นไม่ได้เกิดจากการหย่าร้างหรือเป็นม่าย แต่การเติบโตของจำนวนคนโสดทั้งหมดตั้งแต่ปี 1990 มาจากการเพิ่มขึ้นของคนที่ไม่ได้แต่งงานมากกว่า

ที่มา:
https://www.businessinsider.com/single-adults-make-less-money-married-living-alone-rew-research-2021-10
https://www.pewresearch.org/social-trends/2021/10/05/rising-share-of-u-s-adults-are-living-without-a-spouse-or-partner/#fn-31655-1
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่