สวัสดีครับผมชื่อรี่หรือจะเรียกผมว่าริมก็ได้ครับเพราะเพื่อนๆก็เรียกกันแบบนั้นมาจากชื่อจริง กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกของผม วันนี้ผมจะมาเล่าประสบการณ์จริงสิ่งลี้ลับที่เกิดขึ้นกับตัวเอง จริงๆแล้วเรื่องนี้ผมตั้งใจจะไปเล่าใน The ghost radio แต่ไม่มีเวลาเลยถือโอกาสใช้พื้นที่ตรงนี้ ถ้าผิดพลาดยังไงผมขออภัยด้วยนะครับ
เริ่มเรื่อง....ลืมของ
เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อปลายปี 2563 ตอนนั้นผมอายุ 21 ทำงานอยู่บริษัทเอกชนแห่งหนึ่งในสะพานสูง กทม.ตอนนั้นบริษัทจัดทริปไปเที่ยวเวียดนาม แต่เนื่องด้วยสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ต้องเปลี่ยนแพลนมาเที่ยวในประเทศแทน สถานที่ที่ผมไปเที่ยวเป็นเกาะ ผมจะไม่ขอเอ่ยชื่อจังหวัดกับรีสอร์ทนะครับเพราะกลัวมีผลกระทบ ถ้าเอ่ยขึ้นมาจะรู้ทันทีว่าเกาะอะไร แต่จริงๆแล้วทุกที่มันก็มีเรื่องพวกนี้หมดแหละครับเพียงแต่บางที่จะแรงหรือไม่แรง วันนั้นรถบัสออกจากบริษัทตอน 7 โมง ถ้าตามเวลา GOOGLE MAP คือ 6 ชม.ครับ แต่วันนั้นไปถึงเกาะตอน 5 โมงเย็น แวะรับประทานอาหารสังสรรค์อีกกว่าจะเข้ารีสอร์ทก็ 2 ทุ่มแล้วครับ ระหว่างเดินทางรถทัวร์ก็พาแวะอีกหลายที่ เลยทำให้ล่าช้ากว่ากำหนด พอถึงรีสอร์ทถ่ายรูปรวมเสร็จก็เข้าห้อง รีสอร์ทนี้เป็นรีสอร์ท 5 ดาวครับจำได้ว่าห้องผมอยู่เบอร์ 101 และอยู่ใกล้กับฟร้อนล็อบบี้มากที่สุด ลักษณะของห้องเนี่ยเปิดประตูมาขวามือเป็นห้องน้ำครับ ซ้ายมือเป็นตู้เสื้อผ้า เดินตรงไปเป็นห้องใหญ่ๆ 1 เตียงนอน เดินตรงไปอีกเป็นประตูกระจกบานเลื่อน ผ่านประตูกระจกเป็นที่นั่งเล่น ผ่านที่นั่งเล่นเป็นสวนหย่อม ผ่านสวนหย่อมเป็นทางเดิน คืนแรกก็นอนไม่มีอะไร อ่อผมลืมบอกว่าทริปนี้ผมจะตีคู่ดูโอ้ไปกับบังซีด ซึ่งบังซีดเป็นลูกพี่ลูกน้องกับผมอยู่บ้านหลังเดียวกัน วันที่สองผมตื่นมาตอน 6 โมงเช้า มานั่งจิบกาแฟสูบบุหรี่อยู่ตรงที่นั่งเล่น สักพัก HR ก็ทักมาในกรุ๊ปไลน์ว่า "ท่านใดยังไม่ได้ทานข้าวให้มาที่เรสเตอร์รองตรงริมชายหาดได้เลยนะคะ" พอผมสองคนทานข้าวกันเสร็จแล้วก็เดินมานั่งเล่นที่ห้อง แล้ว HR ก็ส่งข้อความมาอีกครั้งว่า "ท่านใดต้องการนั่งเรือสปีดโบ๊ทเที่ยวให้มาที่ริมชายหาดตอน 9 โมงได้เลยนะคะ" 9 โมงผมก็พาบังซีดเดินไป วันนั้นนั่งเรือไปเล่นหลายที่เลยครับแถมพาไปดำน้ำอีก เพอร์เฟคเริ่ดหรูสุดๆ และแล้วก็มาจอดอยู่ที่เกาะๆนึง เกาะนี้แหละครับเป็นจุดเริ่มต้นของสิ่งที่ผมกำลังจะเล่าต่อไปนี้ พนักงานทุกคนลงเล่นน้ำมีเพียงผมกับบังซีดที่ไม่ค่อยเล่นเพราะเพิ่งเข้างานได้แค่ 3 เดือนเลยยังไม่ค่อยสนิทกับใคร จนกระทั่งผมเริ่มรู้สึกปวดฉี่ก็เลยเดินเลี่ยงๆไปนิดนึงพอได้จังหวะผมก็ยิงขึ้นเกาะเลยครับ จากนั้นก็เดินกลับมา พอกิจกรรมตรงนั้นเสร็จก็กลับมาที่รีสอร์ทตอนเที่ยง แวะหาอะไรกินแล้วกลับห้องครับ คือเขาให้พักตามอัธยาศัยเลยครับใครจะทำไรก็ทำ ผมกับบังซีดไปนั่งคุยกับหัวหน้าช่างพวกเขากินเหล้ากันส่วนผมไม่ใช่คนกินเลยไม่เมา พอช่วงหัวค่ำถึง5ทุ่มเที่ยงคืนเนี่ย จะเป็นปาร์ตี้แล้วครับ จะมีจับรางวัล แสดงโชว์ ร้องเพลง เต้น ฯลฯ ผมกลับเข้าห้องตอนเที่ยงคืนมานอนเล่นโทรศัพท์เปิดเดอะโกสฟัง จำได้ว่าชื่อเรื่อง เพื่อนดีเป็นศรีแก่ตัว ขออณูญาตินะครับ จังหวะที่เจ้าของเรื่องเล่าไปถึงว่า เพื่อนของเขานอนมองหน้าทำตาโตๆแล้วยิ้มแบบเห็นฟัน 32 ซี่ บังซีดก็ถามขึ้นมาว่า
บังซีด : คิดว่าน่ากลัวมั้ยวะ
ผม : น่ากลัวดิ
บังซีด : ถ้าเจอแบบนี้จะทำไง
ผม : ถ้าเจอแบบนี้จะกระทืบให้จมไปเลย
จากนั้นบังซีดก็นอนไป ผมเองก็นอนตะแคงขวาหันหลังให้แก จากนั้นมีคนสะกิดหลังผมแล้วเรียก รี่ๆๆๆ ผมหันกลับมาเห็นบังซีดมันทำตาโตๆแล้วยิ้มยีฟันให้ ผมเห็นผมตกใจตกเตียง
ผม : เห้ยๆๆๆๆๆๆ (ตกเตียง)
บังซีด : 5555 ไหนบอกว่าจะกระทืบไง
ผม : เล่นไรวะ
บังซีด : อ่ะนอนๆๆ กูไม่แกล้งละ
จากนั้นผมก็ขึ้นมานอนแล้วกำลังกึ่งหลับกึ่งตื่น ผมได้ยินเสียงเหมือนมีคนใช้ชีวิตอยู่ในห้อง ตอนแรกผมไม่ได้เอะใจ แต่พอมันมีเสียงก๊อกแก๊กๆๆ ดังมาเรื่อยๆผมเริ่มรู้สึกรำคาญเลยลืมตาขึ้นมา สิ่งที่ผมเห็นเป็นเงาดำๆ ไม่รู้ว่าจะอธิบายยังไงดี เอางี้ละกันนะครับ ถ้าทุกคนที่อ่านกระทู้ผมแล้วเคยดูหนังเรื่องร่างทรง ให้นึกภาพฉากกล้อง CCTV ไว้นะครับ นั่นแหละครับแบบนั้นเลยที่เจอ ผมเลยหลับตาเพื่อจะไม่ให้เห็น ทันใดนั้นตรงเท้าซ้ายผมเตียงมันยวบ ผมก็คิดว่าบังซีดจะลุกไปไหน คิดอยู่ในใจว่าอย่าลุกไปไหนนะอยู่เป็นเพื่อนกันก่อน จากนั้นเตียงก็ย้ายที่ยวบมาอยู่ตรงไหล่ผม ผมเลยตัดสินใจลืมตาอีกครั้ง สิ่งที่ผมเห็นเป็นผญ.คนนึงกำลังยืนคล่อมบังซีดอยู่ ก้มหน้ามองหน้าบังซีด ผมเลยเอาเท้าสะกิดเท้าบังซีด และแล้วผญ.คนนั้นก็หันหน้ามาขวับ มองหน้า ตอนนั้นเข้าใจความรู้สึกของคนโดนผีอำเลยครับว่าขยับตัวไม่ได้แม้แต่ส่วนเดียว ด้วยความที่เป็นอิสลามผมเลยอ่านดุอา (สวดมนต์) ผญ.คนนั้นก็ถอยหลังลงจากเตียงเดินไปหน้าห้องแล้วเลี้ยวเข้าห้องน้ำไป จากนั้นจังหวะนรก ผมปวดฉี่หนักไม่รู้จะทำไง ผญ.คนนั้นก็เดินเข้าห้องน้ำไป แต่ในความโชคร้ายยังมีความโชคดี ผมหันไปเห็นขวดนมเมจิที่ซื้อมากิน ก็เลยเอื้อมไปหยิบแล้วนอนตะแคงฉี่ วางไว้ และก็หลับแบบไม่รู้เรื่อง ตื่นขึ้นมาอีกทีกลางดึกเห็นมีคนยืนก้มหน้าอยู่ที่ปลายเท้าพอเพ่งมองดีๆคือบังซีดครับ ผมเลยเรียกแก
ผม : บังซีด
บังซีด : (หันมา) ห้ะๆๆๆ ว่า
ผม : ยืนทำไรนอนไม่หลับหรอ
บังซีด : ป่าวไม่มีไรนอนไปเหอะ
จากนั้นแกกำลังเดินออกไปทางประตูกระจก
ผม : บังซีดจะไปไหน
บังซีด : เออ!! เดี๋ยวกูมานอนไปเหอะไม่ต้องมายุ่งหรอก!!!!
ด้วยความที่เป็นห่วงพี่ชายเลยเดิมตามออกไป แล้วแกเดินไวมาก ผมออกไปเห็นชายเสื้อแกเดินเลี้ยวไปแล้ว เท่าที่เห็นความไวในการเดินของแกเท่ากับวิ่งเลยครับไม่ใช่ว่าแกวิ่งหรืออะไรแต่แกเดิน แต่ความไวในการเดินเท่ากับวิ่ง ถ้าเป็นคนปกติธรรมดาทำไมได้แน่ หรือบังซีดไม่ธรรมดา ผมเดินตามไปจนถึงริมชายหาดแกยืนอยู่ที่ขอบสระว่ายน้ำ ผมเลยเดินไปข้างหลังแก
ผม : นอนไม่หลับหรอมาทำไรตรงนี้
บังซีด : ไอรี่ลืมไรไว้ที่เกาะหรือป่าว
ผม : ไม่นะ
บังซีด : แล้วตอนไปเอาอะไรไปบ้าง
ผม : กระเป๋า แก้ว แว่น หมวก โทรศัพท์
บังซีด : แน่ใจนะว่าเอากลับมาหมดแล้ว
ผม : แน่ใจ ของทุกอย่างยังหยิบจับก่อนนอนเพราะฉะนั้นไม่ลืมอะไรแน่นอน
บังซีด : แต่กูว่าลืมว่ะ
ผม : แล้วบังซีดคิดว่ารี่ลืมอะไร
บังซีด : กลับไปเก็บเยี่ยวเดี๋ยวนี้
ผม : บ้าหรือป่าวจะให้ไปเก็บเยี่ยว แล้วจะไปเก็บยังไง
บังซีด : ก็ขับเรือไป
ผม : บ้าป่าว เรือเขาไม่ใช่เรือเรา เอาไปเดี๋ยวก็โดนข้อหาลักโขมย ถึงเอาไปได้ก็ไม่รู้ว่าเกาะไหน ถึงรู้ว่าเกาะไหนแล้วจะไปเก็บยังไง ดีไม่ดีมันอาจจะลอยไปกับน้ำแล้วก็ได้ หรือไม่ก็แห้งติดโขดหิน แล้วถ้าไปเก็บได้จะเก็บมายังไง เอามีดขูดโขดหินหรอ บ้าหรือป่าว พูดเป็นหนังการ์ตูน ไร้สาระ
ผมก็หันหลังแล้วเดินไปได้ 3-4 ก้าว บังซีดก็เรียก
บังซีด : รี่
ผม : ว่า
บังซีด : อยากเห็นไรปะ
ทันใดนั้นบังซีดก็เริ่มตั้งท่ารำขึ้นมา แกรำอยู่สักพัก ส่วนผมนะหรอ ยืนหัวเราะอยู่ แล้วพูดว่า
ผม : เล่นไรอ่ะผีนางรำหรอ ไม่รู้หรอว่าไม่กลัว รำไปเรื่อยๆจะยืนดูตรงนี้แหละ5555555
จากนั้นแกหยุดรำแล้วสิ่งที่แกทำต่อไปนี้ผมสาบานเลยว่ามันคือเรื่องจริง สิ่งที่ผมเห็นจู่ๆหัวบังซีดแกก็ร่วงลงไปในสระน้ำ ตอนนั้นผมเริ่มขาแข็ง จึงรวบรวมความกล้าแล้วใส่เกียร์หมาให้ไว ช็อตนี้ผมไปเล่าพี่ชายแท้ๆฟังพี่ชายหัวเราะแล้วบอกว่า "อย่าบอกนะว่าไอซีดบินตาม55555" คือเอามาเล่ามันก็ตลกไปอีกแบบนะ แต่ไอตอนเจอจริงๆนี่สิบรรยายแทบไม่ถูก ผมวิ่งกลับมาถึงห้องปิดประตูล็อคกลอนยืนหอบสักพัก หันมาที่เตียงตกใจเลย บังซีดนอนอยู่ที่เตียงแล้วไอคนเมื่อกี้คือใคร ด้วยความที่อยากรู้ว่าตัวจริงหรือป่าวเลยเอื้อมมือไปแตะที่ตัวเช็คดูว่าตัวอุ่นหรือป่าว สุดท้ายตัวแกอุ่นผมเลยโล่งใจนอนลงแต่ไม่หลับตา ทันใดนั้นผมได้ยินเสียงฝีเท้าเดินมาแต่ไกลจากข้างนอก ตึกตัก ตึกตัก ตึกตัก ! แล้วเดินมาหยุดอยู่ที่ประตูกระจกแล้วก็มีเสียงเคาะ ก๊อกๆๆ "รี่เปิดประตูให้บังหน่อย" เสียงมันก็วนอยู่แบบนั้นผมเลยพูดไปว่า
ผม : ไปยืนรำอยู่ที่ริมหาดนู่นอย่ามายุ่งกับกู
จากนั้นเสียงโหยหวนก็ดังขึ้น
หื้ออออออออ! ตามด้วยเสียงทุบประตูกระจกอย่างรุนแรง ปังๆๆๆ !!!ไปเก็บเยี่ยวเดี๋ยวนี้!!! ปังๆๆๆ ไปเก็บเยี่ยวเดี๋ยวนี้
ผม : (อุดหู) พอสักทีๆๆๆ
ปังๆๆๆๆ ไปเก็บเยี่ยวเดี๋ยวนี้ ปังๆๆๆๆ
ผม : (อ่านดุอาวนๆซ้ำๆ) ถ้าไม่หยุดกูจะให้อัลลอฮฺลงบารอ
อธิบายตรงนี้นิดนึงครับ อัลลอฮฺ = พระเจ้าของอิสลาม บารอ = การลงโทษอย่างรุนแรง,หนัก ภาษาไทย = ขอให้พระเจ้าลงโทษเจ้า,คุณ,ท่าน, อย่างหนัก
เสียงก็เริ่มหายไป จากนั้นเสียงทุกสิ่งทุกอย่างก็เงียบเหมือนโดนปิด Volume ไม่ได้ยินแม้กระทั่งเสียงหายใจตัวเองหรือสรรพสิ่งรอบข้าง จู่ๆก็มีเสียงนี้ขึ้นมา กริ๊งงงงงงง!!!! ใช่ครับเสียงโทรศัพท์ในห้องดังขึ้น ผมกระโดดด้วยความตกใจแล้วจ้องไปที่โทรศัพท์ ยังลังเลอยู่ว่าจะรับดีมั้ย ถ้ารับแล้วเป็นเสียงตอบกลับ ฮัลโหล แบบน่าขนลุกผมพร้อมจะปาโทรศัพท์เข้ากำแพงแน่นอน ผมตัดสินใจรับแล้วเสียงปลายสายพูดขึ้นว่า
ฟร้อน : สวัสดีค่ะ ไม่ทราบว่าที่ห้องเกิดปัญหาหรือทะเลาะอะไรกันมั้ยคะ พอดีได้ยินเสียงทุบอะไรสักอย่างมากจากห้องลูกค้า ถ้าห้องคุณลูกค้ากำลังเสียงดังอยู่ช่วยลดเสียงได้มั้ยคะ ดิฉันกลัวจะรบกวนลูกค้าท่านอื่นค่ะ
ผม : อ๋อไม่มีไรครับ ห้องอื่นหรือป่าว ผมเองก็เพิ่งตื่นตอนคุณโทรมา ส่วนอีกคนก็หลับสนิท ลองเช็คห้องอื่นดูครับถ้าห้องผมไม่ใช่แน่นอน
ฟร้อน : อ่อค่ะ ถ้าต้องการอะไรสามารถโทรหาทางเราได้ตลอด 24.ชม.เลยนะคะ
พอวางไปผมก็มานั่งนึกดูแล้ว "ถ้าทางนั้นเขาได้ยินห้องอื่นก็ต้องได้ยินสิ" แต่ผมไม่อยากนึกอะไรแล้วเลยนอนลงไป ผมนอนได้ประมาณครึ่งชม.เสียงนาฬิกาปลุกตอนตี 5 ครึ่งก็ดังขึ้นแต่ฟ้ายังไม่สว่างผมจึงรอให้ฟ้าสว่างค่อยออกไปนั่งเล่นกินกาแฟ
วันที่ 3 จะต้องเป็นวันที่ทุกคนเตรียมตัวกลับบ้าน ทุกคนไปนั่งอยู่ที่ล็อบบี้ครับ จากนั้นรถตู้ก็เข้ามารับ ผมขึ้นคันสุดท้ายในรถมีแค่คนขับกับผมและบังซีด ผมนั่งริมสุด ก่อนรถจะออกผมเห็นว่ามีคนนั่งอยู่ที่ขอบบ่อน้ำพุ ใส่กางเกงสีดำไม่ใส่เสื้อ ที่สำคัญไม่มีหัวผมเลยรีบปิดผ้าม่านในรถ ใส่หูฟังแล้วนอนลง
เรื่องก็มีอยู่เท่านี้ครับ
เรื่องนี้จำไม่เคยลืมเลยครับและยังจำได้จนถึงทุกวันนี้ และสัญญากับตัวเองไว้ ไม่ว่าจะไปเที่ยวที่ไหนอย่าไปปล่อยทุกข์มั่วซั่ว เพราะเคยเกิดเหตุการณ์คล้ายกันกับเรื่องนี้เมื่อตอนยังเด็ก ผมไปเที่ยวบ้านเพื่อนพ่อบนเขาแล้วเขาพาเที่ยวในป่า ผมปวดฉี่แม่เลยพาไป จากนั้นแปปเดียวครับทั้งขาทั้งของลับบวมเป่งเป็นรอยเขียวๆรูปมือเป็นจ้ำๆ เล่าให้ใครฟังก็ตลกครับไอที่ว่าผีบีบไข่เนี่ย55555 แต่ตอนนั้นทรมานมากนะ
กรุณาคอมเม้นท์กันอย่างสุภาพนะครับ ติชมได้ ถ้าชอบผมยังมีอีกน้าาาา เพราะตัวผมเองเจอมาตั้งแต่เล็กจนโตแต่ส่วนมากจะเจอผ่านๆหรือได้ยินเสียงมากกว่า เป็นคนชอบเรื่องพวกนี้อยู่แล้ว ตรงไหนที่เขาว่ามีไอรี่ยิ่งอยู่แถวนั้น55555 ขอบคุณที่สละเวลาเข้ามาอ่าน ขอบคุณครับ
ประสบการณ์การขนหัวลุก เรื่อง ลืมของ
เริ่มเรื่อง....ลืมของ
เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อปลายปี 2563 ตอนนั้นผมอายุ 21 ทำงานอยู่บริษัทเอกชนแห่งหนึ่งในสะพานสูง กทม.ตอนนั้นบริษัทจัดทริปไปเที่ยวเวียดนาม แต่เนื่องด้วยสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ต้องเปลี่ยนแพลนมาเที่ยวในประเทศแทน สถานที่ที่ผมไปเที่ยวเป็นเกาะ ผมจะไม่ขอเอ่ยชื่อจังหวัดกับรีสอร์ทนะครับเพราะกลัวมีผลกระทบ ถ้าเอ่ยขึ้นมาจะรู้ทันทีว่าเกาะอะไร แต่จริงๆแล้วทุกที่มันก็มีเรื่องพวกนี้หมดแหละครับเพียงแต่บางที่จะแรงหรือไม่แรง วันนั้นรถบัสออกจากบริษัทตอน 7 โมง ถ้าตามเวลา GOOGLE MAP คือ 6 ชม.ครับ แต่วันนั้นไปถึงเกาะตอน 5 โมงเย็น แวะรับประทานอาหารสังสรรค์อีกกว่าจะเข้ารีสอร์ทก็ 2 ทุ่มแล้วครับ ระหว่างเดินทางรถทัวร์ก็พาแวะอีกหลายที่ เลยทำให้ล่าช้ากว่ากำหนด พอถึงรีสอร์ทถ่ายรูปรวมเสร็จก็เข้าห้อง รีสอร์ทนี้เป็นรีสอร์ท 5 ดาวครับจำได้ว่าห้องผมอยู่เบอร์ 101 และอยู่ใกล้กับฟร้อนล็อบบี้มากที่สุด ลักษณะของห้องเนี่ยเปิดประตูมาขวามือเป็นห้องน้ำครับ ซ้ายมือเป็นตู้เสื้อผ้า เดินตรงไปเป็นห้องใหญ่ๆ 1 เตียงนอน เดินตรงไปอีกเป็นประตูกระจกบานเลื่อน ผ่านประตูกระจกเป็นที่นั่งเล่น ผ่านที่นั่งเล่นเป็นสวนหย่อม ผ่านสวนหย่อมเป็นทางเดิน คืนแรกก็นอนไม่มีอะไร อ่อผมลืมบอกว่าทริปนี้ผมจะตีคู่ดูโอ้ไปกับบังซีด ซึ่งบังซีดเป็นลูกพี่ลูกน้องกับผมอยู่บ้านหลังเดียวกัน วันที่สองผมตื่นมาตอน 6 โมงเช้า มานั่งจิบกาแฟสูบบุหรี่อยู่ตรงที่นั่งเล่น สักพัก HR ก็ทักมาในกรุ๊ปไลน์ว่า "ท่านใดยังไม่ได้ทานข้าวให้มาที่เรสเตอร์รองตรงริมชายหาดได้เลยนะคะ" พอผมสองคนทานข้าวกันเสร็จแล้วก็เดินมานั่งเล่นที่ห้อง แล้ว HR ก็ส่งข้อความมาอีกครั้งว่า "ท่านใดต้องการนั่งเรือสปีดโบ๊ทเที่ยวให้มาที่ริมชายหาดตอน 9 โมงได้เลยนะคะ" 9 โมงผมก็พาบังซีดเดินไป วันนั้นนั่งเรือไปเล่นหลายที่เลยครับแถมพาไปดำน้ำอีก เพอร์เฟคเริ่ดหรูสุดๆ และแล้วก็มาจอดอยู่ที่เกาะๆนึง เกาะนี้แหละครับเป็นจุดเริ่มต้นของสิ่งที่ผมกำลังจะเล่าต่อไปนี้ พนักงานทุกคนลงเล่นน้ำมีเพียงผมกับบังซีดที่ไม่ค่อยเล่นเพราะเพิ่งเข้างานได้แค่ 3 เดือนเลยยังไม่ค่อยสนิทกับใคร จนกระทั่งผมเริ่มรู้สึกปวดฉี่ก็เลยเดินเลี่ยงๆไปนิดนึงพอได้จังหวะผมก็ยิงขึ้นเกาะเลยครับ จากนั้นก็เดินกลับมา พอกิจกรรมตรงนั้นเสร็จก็กลับมาที่รีสอร์ทตอนเที่ยง แวะหาอะไรกินแล้วกลับห้องครับ คือเขาให้พักตามอัธยาศัยเลยครับใครจะทำไรก็ทำ ผมกับบังซีดไปนั่งคุยกับหัวหน้าช่างพวกเขากินเหล้ากันส่วนผมไม่ใช่คนกินเลยไม่เมา พอช่วงหัวค่ำถึง5ทุ่มเที่ยงคืนเนี่ย จะเป็นปาร์ตี้แล้วครับ จะมีจับรางวัล แสดงโชว์ ร้องเพลง เต้น ฯลฯ ผมกลับเข้าห้องตอนเที่ยงคืนมานอนเล่นโทรศัพท์เปิดเดอะโกสฟัง จำได้ว่าชื่อเรื่อง เพื่อนดีเป็นศรีแก่ตัว ขออณูญาตินะครับ จังหวะที่เจ้าของเรื่องเล่าไปถึงว่า เพื่อนของเขานอนมองหน้าทำตาโตๆแล้วยิ้มแบบเห็นฟัน 32 ซี่ บังซีดก็ถามขึ้นมาว่า
บังซีด : คิดว่าน่ากลัวมั้ยวะ
ผม : น่ากลัวดิ
บังซีด : ถ้าเจอแบบนี้จะทำไง
ผม : ถ้าเจอแบบนี้จะกระทืบให้จมไปเลย
จากนั้นบังซีดก็นอนไป ผมเองก็นอนตะแคงขวาหันหลังให้แก จากนั้นมีคนสะกิดหลังผมแล้วเรียก รี่ๆๆๆ ผมหันกลับมาเห็นบังซีดมันทำตาโตๆแล้วยิ้มยีฟันให้ ผมเห็นผมตกใจตกเตียง
ผม : เห้ยๆๆๆๆๆๆ (ตกเตียง)
บังซีด : 5555 ไหนบอกว่าจะกระทืบไง
ผม : เล่นไรวะ
บังซีด : อ่ะนอนๆๆ กูไม่แกล้งละ
จากนั้นผมก็ขึ้นมานอนแล้วกำลังกึ่งหลับกึ่งตื่น ผมได้ยินเสียงเหมือนมีคนใช้ชีวิตอยู่ในห้อง ตอนแรกผมไม่ได้เอะใจ แต่พอมันมีเสียงก๊อกแก๊กๆๆ ดังมาเรื่อยๆผมเริ่มรู้สึกรำคาญเลยลืมตาขึ้นมา สิ่งที่ผมเห็นเป็นเงาดำๆ ไม่รู้ว่าจะอธิบายยังไงดี เอางี้ละกันนะครับ ถ้าทุกคนที่อ่านกระทู้ผมแล้วเคยดูหนังเรื่องร่างทรง ให้นึกภาพฉากกล้อง CCTV ไว้นะครับ นั่นแหละครับแบบนั้นเลยที่เจอ ผมเลยหลับตาเพื่อจะไม่ให้เห็น ทันใดนั้นตรงเท้าซ้ายผมเตียงมันยวบ ผมก็คิดว่าบังซีดจะลุกไปไหน คิดอยู่ในใจว่าอย่าลุกไปไหนนะอยู่เป็นเพื่อนกันก่อน จากนั้นเตียงก็ย้ายที่ยวบมาอยู่ตรงไหล่ผม ผมเลยตัดสินใจลืมตาอีกครั้ง สิ่งที่ผมเห็นเป็นผญ.คนนึงกำลังยืนคล่อมบังซีดอยู่ ก้มหน้ามองหน้าบังซีด ผมเลยเอาเท้าสะกิดเท้าบังซีด และแล้วผญ.คนนั้นก็หันหน้ามาขวับ มองหน้า ตอนนั้นเข้าใจความรู้สึกของคนโดนผีอำเลยครับว่าขยับตัวไม่ได้แม้แต่ส่วนเดียว ด้วยความที่เป็นอิสลามผมเลยอ่านดุอา (สวดมนต์) ผญ.คนนั้นก็ถอยหลังลงจากเตียงเดินไปหน้าห้องแล้วเลี้ยวเข้าห้องน้ำไป จากนั้นจังหวะนรก ผมปวดฉี่หนักไม่รู้จะทำไง ผญ.คนนั้นก็เดินเข้าห้องน้ำไป แต่ในความโชคร้ายยังมีความโชคดี ผมหันไปเห็นขวดนมเมจิที่ซื้อมากิน ก็เลยเอื้อมไปหยิบแล้วนอนตะแคงฉี่ วางไว้ และก็หลับแบบไม่รู้เรื่อง ตื่นขึ้นมาอีกทีกลางดึกเห็นมีคนยืนก้มหน้าอยู่ที่ปลายเท้าพอเพ่งมองดีๆคือบังซีดครับ ผมเลยเรียกแก
ผม : บังซีด
บังซีด : (หันมา) ห้ะๆๆๆ ว่า
ผม : ยืนทำไรนอนไม่หลับหรอ
บังซีด : ป่าวไม่มีไรนอนไปเหอะ
จากนั้นแกกำลังเดินออกไปทางประตูกระจก
ผม : บังซีดจะไปไหน
บังซีด : เออ!! เดี๋ยวกูมานอนไปเหอะไม่ต้องมายุ่งหรอก!!!!
ด้วยความที่เป็นห่วงพี่ชายเลยเดิมตามออกไป แล้วแกเดินไวมาก ผมออกไปเห็นชายเสื้อแกเดินเลี้ยวไปแล้ว เท่าที่เห็นความไวในการเดินของแกเท่ากับวิ่งเลยครับไม่ใช่ว่าแกวิ่งหรืออะไรแต่แกเดิน แต่ความไวในการเดินเท่ากับวิ่ง ถ้าเป็นคนปกติธรรมดาทำไมได้แน่ หรือบังซีดไม่ธรรมดา ผมเดินตามไปจนถึงริมชายหาดแกยืนอยู่ที่ขอบสระว่ายน้ำ ผมเลยเดินไปข้างหลังแก
ผม : นอนไม่หลับหรอมาทำไรตรงนี้
บังซีด : ไอรี่ลืมไรไว้ที่เกาะหรือป่าว
ผม : ไม่นะ
บังซีด : แล้วตอนไปเอาอะไรไปบ้าง
ผม : กระเป๋า แก้ว แว่น หมวก โทรศัพท์
บังซีด : แน่ใจนะว่าเอากลับมาหมดแล้ว
ผม : แน่ใจ ของทุกอย่างยังหยิบจับก่อนนอนเพราะฉะนั้นไม่ลืมอะไรแน่นอน
บังซีด : แต่กูว่าลืมว่ะ
ผม : แล้วบังซีดคิดว่ารี่ลืมอะไร
บังซีด : กลับไปเก็บเยี่ยวเดี๋ยวนี้
ผม : บ้าหรือป่าวจะให้ไปเก็บเยี่ยว แล้วจะไปเก็บยังไง
บังซีด : ก็ขับเรือไป
ผม : บ้าป่าว เรือเขาไม่ใช่เรือเรา เอาไปเดี๋ยวก็โดนข้อหาลักโขมย ถึงเอาไปได้ก็ไม่รู้ว่าเกาะไหน ถึงรู้ว่าเกาะไหนแล้วจะไปเก็บยังไง ดีไม่ดีมันอาจจะลอยไปกับน้ำแล้วก็ได้ หรือไม่ก็แห้งติดโขดหิน แล้วถ้าไปเก็บได้จะเก็บมายังไง เอามีดขูดโขดหินหรอ บ้าหรือป่าว พูดเป็นหนังการ์ตูน ไร้สาระ
ผมก็หันหลังแล้วเดินไปได้ 3-4 ก้าว บังซีดก็เรียก
บังซีด : รี่
ผม : ว่า
บังซีด : อยากเห็นไรปะ
ทันใดนั้นบังซีดก็เริ่มตั้งท่ารำขึ้นมา แกรำอยู่สักพัก ส่วนผมนะหรอ ยืนหัวเราะอยู่ แล้วพูดว่า
ผม : เล่นไรอ่ะผีนางรำหรอ ไม่รู้หรอว่าไม่กลัว รำไปเรื่อยๆจะยืนดูตรงนี้แหละ5555555
จากนั้นแกหยุดรำแล้วสิ่งที่แกทำต่อไปนี้ผมสาบานเลยว่ามันคือเรื่องจริง สิ่งที่ผมเห็นจู่ๆหัวบังซีดแกก็ร่วงลงไปในสระน้ำ ตอนนั้นผมเริ่มขาแข็ง จึงรวบรวมความกล้าแล้วใส่เกียร์หมาให้ไว ช็อตนี้ผมไปเล่าพี่ชายแท้ๆฟังพี่ชายหัวเราะแล้วบอกว่า "อย่าบอกนะว่าไอซีดบินตาม55555" คือเอามาเล่ามันก็ตลกไปอีกแบบนะ แต่ไอตอนเจอจริงๆนี่สิบรรยายแทบไม่ถูก ผมวิ่งกลับมาถึงห้องปิดประตูล็อคกลอนยืนหอบสักพัก หันมาที่เตียงตกใจเลย บังซีดนอนอยู่ที่เตียงแล้วไอคนเมื่อกี้คือใคร ด้วยความที่อยากรู้ว่าตัวจริงหรือป่าวเลยเอื้อมมือไปแตะที่ตัวเช็คดูว่าตัวอุ่นหรือป่าว สุดท้ายตัวแกอุ่นผมเลยโล่งใจนอนลงแต่ไม่หลับตา ทันใดนั้นผมได้ยินเสียงฝีเท้าเดินมาแต่ไกลจากข้างนอก ตึกตัก ตึกตัก ตึกตัก ! แล้วเดินมาหยุดอยู่ที่ประตูกระจกแล้วก็มีเสียงเคาะ ก๊อกๆๆ "รี่เปิดประตูให้บังหน่อย" เสียงมันก็วนอยู่แบบนั้นผมเลยพูดไปว่า
ผม : ไปยืนรำอยู่ที่ริมหาดนู่นอย่ามายุ่งกับกู
จากนั้นเสียงโหยหวนก็ดังขึ้น
หื้ออออออออ! ตามด้วยเสียงทุบประตูกระจกอย่างรุนแรง ปังๆๆๆ !!!ไปเก็บเยี่ยวเดี๋ยวนี้!!! ปังๆๆๆ ไปเก็บเยี่ยวเดี๋ยวนี้
ผม : (อุดหู) พอสักทีๆๆๆ
ปังๆๆๆๆ ไปเก็บเยี่ยวเดี๋ยวนี้ ปังๆๆๆๆ
ผม : (อ่านดุอาวนๆซ้ำๆ) ถ้าไม่หยุดกูจะให้อัลลอฮฺลงบารอ
อธิบายตรงนี้นิดนึงครับ อัลลอฮฺ = พระเจ้าของอิสลาม บารอ = การลงโทษอย่างรุนแรง,หนัก ภาษาไทย = ขอให้พระเจ้าลงโทษเจ้า,คุณ,ท่าน, อย่างหนัก
เสียงก็เริ่มหายไป จากนั้นเสียงทุกสิ่งทุกอย่างก็เงียบเหมือนโดนปิด Volume ไม่ได้ยินแม้กระทั่งเสียงหายใจตัวเองหรือสรรพสิ่งรอบข้าง จู่ๆก็มีเสียงนี้ขึ้นมา กริ๊งงงงงงง!!!! ใช่ครับเสียงโทรศัพท์ในห้องดังขึ้น ผมกระโดดด้วยความตกใจแล้วจ้องไปที่โทรศัพท์ ยังลังเลอยู่ว่าจะรับดีมั้ย ถ้ารับแล้วเป็นเสียงตอบกลับ ฮัลโหล แบบน่าขนลุกผมพร้อมจะปาโทรศัพท์เข้ากำแพงแน่นอน ผมตัดสินใจรับแล้วเสียงปลายสายพูดขึ้นว่า
ฟร้อน : สวัสดีค่ะ ไม่ทราบว่าที่ห้องเกิดปัญหาหรือทะเลาะอะไรกันมั้ยคะ พอดีได้ยินเสียงทุบอะไรสักอย่างมากจากห้องลูกค้า ถ้าห้องคุณลูกค้ากำลังเสียงดังอยู่ช่วยลดเสียงได้มั้ยคะ ดิฉันกลัวจะรบกวนลูกค้าท่านอื่นค่ะ
ผม : อ๋อไม่มีไรครับ ห้องอื่นหรือป่าว ผมเองก็เพิ่งตื่นตอนคุณโทรมา ส่วนอีกคนก็หลับสนิท ลองเช็คห้องอื่นดูครับถ้าห้องผมไม่ใช่แน่นอน
ฟร้อน : อ่อค่ะ ถ้าต้องการอะไรสามารถโทรหาทางเราได้ตลอด 24.ชม.เลยนะคะ
พอวางไปผมก็มานั่งนึกดูแล้ว "ถ้าทางนั้นเขาได้ยินห้องอื่นก็ต้องได้ยินสิ" แต่ผมไม่อยากนึกอะไรแล้วเลยนอนลงไป ผมนอนได้ประมาณครึ่งชม.เสียงนาฬิกาปลุกตอนตี 5 ครึ่งก็ดังขึ้นแต่ฟ้ายังไม่สว่างผมจึงรอให้ฟ้าสว่างค่อยออกไปนั่งเล่นกินกาแฟ
วันที่ 3 จะต้องเป็นวันที่ทุกคนเตรียมตัวกลับบ้าน ทุกคนไปนั่งอยู่ที่ล็อบบี้ครับ จากนั้นรถตู้ก็เข้ามารับ ผมขึ้นคันสุดท้ายในรถมีแค่คนขับกับผมและบังซีด ผมนั่งริมสุด ก่อนรถจะออกผมเห็นว่ามีคนนั่งอยู่ที่ขอบบ่อน้ำพุ ใส่กางเกงสีดำไม่ใส่เสื้อ ที่สำคัญไม่มีหัวผมเลยรีบปิดผ้าม่านในรถ ใส่หูฟังแล้วนอนลง
เรื่องก็มีอยู่เท่านี้ครับ
เรื่องนี้จำไม่เคยลืมเลยครับและยังจำได้จนถึงทุกวันนี้ และสัญญากับตัวเองไว้ ไม่ว่าจะไปเที่ยวที่ไหนอย่าไปปล่อยทุกข์มั่วซั่ว เพราะเคยเกิดเหตุการณ์คล้ายกันกับเรื่องนี้เมื่อตอนยังเด็ก ผมไปเที่ยวบ้านเพื่อนพ่อบนเขาแล้วเขาพาเที่ยวในป่า ผมปวดฉี่แม่เลยพาไป จากนั้นแปปเดียวครับทั้งขาทั้งของลับบวมเป่งเป็นรอยเขียวๆรูปมือเป็นจ้ำๆ เล่าให้ใครฟังก็ตลกครับไอที่ว่าผีบีบไข่เนี่ย55555 แต่ตอนนั้นทรมานมากนะ
กรุณาคอมเม้นท์กันอย่างสุภาพนะครับ ติชมได้ ถ้าชอบผมยังมีอีกน้าาาา เพราะตัวผมเองเจอมาตั้งแต่เล็กจนโตแต่ส่วนมากจะเจอผ่านๆหรือได้ยินเสียงมากกว่า เป็นคนชอบเรื่องพวกนี้อยู่แล้ว ตรงไหนที่เขาว่ามีไอรี่ยิ่งอยู่แถวนั้น55555 ขอบคุณที่สละเวลาเข้ามาอ่าน ขอบคุณครับ