เก็บเงียบ(โครงการเดี่ยวเอี่ยวทุกเรื่อง) โดย Furryjit

เคนเป็นชายหนุ่มร่างกายใหญ่โตแข็งแรง เพราะทำงานหนักมาแต่เล็กแต่น้อย ใบหน้าเขาคมเข้ม หากแต่สายตาอ่อนโยน

ปีนี้เขาอายุ24 ย่าง 25 

พ่อแม่เคนตายตั้งแต่เขายังเด็ก แต่ชีวิตหลังจากนั้นก็ไม่ได้รันทดนัก เพราะบุพการีทั้งสองทิ้งไร่นาสาโทเอาไว้ให้ทำกิน

ชายหนุ่มเป็นคนขยันขันแข็ง พากเพียรทำมาหากินอย่างไม่ย่อท้อ จนเก็บหอมรอมริบได้พอสมควร

ใครๆในหมู่บ้านก็รู้ว่าเคนมีใจรักให้แด่ชบา ลูกสาวผู้ใหญ่เทือง หากแต่สาวเจ้ายังสงวนท่าทีอยู่

ผู้ใหญ่เทืองไม่เคยแสดงอาการรังเกียจหรือกีดกันแต่อย่างใด แกเห็นชายหนุ่มมาแต่อ้อนแต่ออด รู้สึกเวทนาในความกำพร้า แถมยังรักในน้ำใจและความขยันขันแข็งของเคน

ทุกคนในหมู่บ้านเห็นดีเห็นงามกับหนุ่มสาวคู่นี้ ยกเว้นเจ้ามิ่ง ลูกชายกำนัน มันตามเทียวไล้เทียวขื่อชบามานานแล้วหากแต่หญิงสาวไม่เคยเหลือบแล

ไร่นาได้เก็บเกี่ยวแล้ว ปีนี้พืชผลอุดมสมบูรณ์ ทุกอย่างกำลังจะดีอยู่แล้ว

อนิจจา อาถรรพ์วัยเบญจเพสก็ได้บังเกิดขึ้นกับเคน อยู่ๆเขาก็ล้มหมอนนอนเสื่อและหมดลมหายใจเอาดื้อๆ เพื่อนฝูงตกใจรีบตามหมอยามารักษา แต่ปรากฎว่าหัวใจหยุดเต้นไปแล้ว เขาจะไม่มีวันกลับฟื้นขึ้นมาอีก
 
ทิ้งไว้2-3 วันก็คงสภาพเช่นนี้ จนเนื้อหนังเริ่มเฟะ หลุดลอกออกมา

ผู้ใหญ่เทืองจึงตัดสินใจเอาร่างที่ไร้วิญญาณของเคนไปณาปนกิจ พี่น้องผองเพื่อนที่รักใคร่เขา ร้องให้กันเป็นวรรคเป็นเวร ส่วนหญิงสาวชบาไม่มีใครรู้ว่าเธอเศร้าโศกหรือไม่ เพราะเก็บตัวเงียบเชียบไม่มีใครเห็น

มีอยู่คนหนึ่งที่ยินดีปรีดาเป็นยิ่งนัก นั่นคือเจ้ามิ่ง มันนั่งกินเหล้าฟังข่าวอยู่กับด้วยความสำราญ เสี้ยนหนามรักได้หมดไปแล้ว

ระหว่างช่วยกันหามแคร่โลงศพ ที่บรรจุร่างไร้ลมหายใจของเคนไปที่วัด

ชาวบ้านก็วิจารณ์กันไปต่างๆนาๆ คนดีๆอย่างเคนไม่น่ามาด่วนอายุสั้นอย่างนี้ ร่างกายมันแข็งแรงดุจหินผา โรคภัยไม่น่าเบียดเบียนได้

มีหลายคนเห็นพ้องต้องกันว่า ตายอย่างไร้ต้นสายปลายเหตุเช่นนี้ คงสืบเนื่องมาจากยาพิษ

คำถามคือ ใครที่จงเกลียดจงชังเขาขนาดที่ต้องใช้ยาพิษมาปลิดชีพ
เคน ชายหนุ่มอันเป็นที่รักของชาวบ้าน

คุยกันอยู่ดีๆฝาโลงก็ถูกกระแทกจากข้างใน ขบวนหามหยุดกึกดูท่าที

จวบจนครั้งที่สองซึ่งแรงกระแทกเพิ่มขึ้น จนโลงไม้ที่ประกอบขึ้นมาอย่างง่ายๆ ฝาปริเผยอออกมา

เหล่าคนหามตกใจ ปล่อยโลงร่วงลงกระแทกกับพื้นดิน ฝาโลงแตกออก แล้วร่างที่อยู่ข้างในก็พยุงตัวลุกขึ้นมา

มันจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากเคน ชายหนุ่มผู้อาภัพ แต่บัดนี้ผิวหนังเขาเริ่มเน่า ฟอนเฟะ ไม่เหลือสารรูปเดิมที่เคยหล่อเหลา

ขบวนส่งศพแตกกระจายไม่เป็นรูป วิ่งหนีกันไปคนละทาง

สุดท้ายก็เหลือแต่เคนอยู่เดียวดาย เขาไม่มีโอกาสอธิบายว่า ยมทูตนำวิญญาณเขาไป กว่าจะตรวจสอบพบว่าชะตาเขายังไม่ถึงฆาต วิญญาณก็ออกจากร่างเกินสามวัน ทำให้ร่างกายเน่าเสีย

พอข่าวถึงเจ้ามิ่ง ก็ควันออกหูทันที มันรีบไปเชิญหมอผี และระดมลูกน้องออกไล่ล่าเคน

เคนไม่ได้หลบไปไหน เขาพยายามอธิบายให้คนฟัง แต่ไม่มีใครยอมเข้าใกล้เขา ต่างพากันวิ่งหนีเตลิดเปิดเปิง

จนกระทั่งเจอเจ้ามิ่งกับสมุนที่พาหมอผีมา เคนไม่คิดหนีอยู่แล้วเขาต้องการแถลงให้ชาวบ้านเข้าใจ ดังนั้นจึงเข้าทางเจ้ามิ่ง โดยไม่รอช้ามันสั่งให้หมอผีจัดการทันที

หมอผีบริกรรมคาถาแล้วสาดข้าวสารเสกใส่เคน ชายหนุ่มร้องโอดโอย

ใบหน้าหมอผีมีรอยยิ้มอย่างเหนือชั้น เห็นไหม มันสู้ฤทธิ์ข้าไม่ได้หรอก เจ้ามิ่งและพรรคพวกเกิดศรัทธาขึ้นทันที

แต่แล้วเคยก็อุทธรณ์ว่า พ่อเฒ่าปาข้าวสารใส่ตาข้าทำไม

หมอผีรู้สึกเสื่อมเสียหน้า จึงล้วงเอาด้ามหวายออกมาจากย่าม ตรงเข้าไปหวดที่ตัวเคนทันที

ชายหนุ่มร้องออกมาอย่างเจ็บปวด หมอผีย่ามใจขณะจะหวดคำรบสอง เท้าของเคนก็ยันมาประทับที่หน้าอกหมอไสยเวทย์

มีผลให้ร่างหมอผีหงายหลังผลึ่งกระแทกกับพื้น

หมอผีลุกขึ้นมาได้อย่างลำบากยากเย็น แล้วเอ็ดตะโรลั่น เป็นทำนองว่า ไอ้นี่มันเป็นผีดิบต้องใช้ไฟเผา

เจ้ามิ่งสั่งลูกน้องให้ไปเตรียมน้ำมันก๊าดกับคบไฟมา ทุกคนแยกย้ายไปทำตามคำสั่ง

เคนเห็นท่าไม่ดี ขืนอยู่ต่อไปก็โดนเผาทั้งเป็น เพราะพูดกันไม่รู้เรื่อง เขารีบวิ่งผลุบเข้าไปในดงไม้

หลังจากนั้นเจ้ามิ่งกับพรรคพวกก็โพนทะนาทั่วทั้งหมู่บ้านว่าเคนเป็นผีดิบ เจอที่ไหนให้เอาไฟเผา

ชาวบ้านรู้สึกสมเพชเวทนาเคนยิ่งนัก มีหลายคนแปรพักตร์มาร่วมกับเจ้ามิ่งพลิกแผ่นดินหาเคน หลายคนได้แต่ปลงอนิจจัง ไม่คัดค้านแต่ก็ไม่ร่วมมือด้วย

เคนต้องหนีหัวซุกหัวซุน นอนกลางดินกินกลางทราย ของประทังชีวิตก็คือผลไม้ที่ขโมยกินจากสวนให้พอยาใส้

ที่สุดเจ้าของสวนก็ออกมาร่วมมือด้วยเพราะเกรงบารมีกำนัน ชายหนุ่มต้องหนีจากสวนขนัดหนึ่งไปยังขนัดหนึ่ง

จำนวนผู้ไล่ล่าก็เพิ่มจำนวนขึ้น จนเคนไม่มีที่จะไป

เขาจึงย้อนกลับมายังป่าละเมาะใกล้หมู่บ้าน คณะล่าผีดิบตามไปไกลแล้ว กว่าจะคิดได้ว่าชายหนุ่มหวนกลับมาคงอีกชั่วระยะหนึ่ง

ร่างกายเขาเปื่อยยุ่ยจนหมดสภาพแล้ว อีกทั้งใส้ก็กิ่วเพราะไม่มีอะไรตกถึงท้องมาหลายวัน

เคนจำต้องขโมยเสื้อผ้าชาวบ้านที่ตากไว้มาสวมใส่กันอุจาด เนื่องจากชุดเก่าของเขาขาดวิ่นไม่มีชิ้นดี

เวลาหิวก็แอบโขมยปลาที่ชาวบ้านตากแห้งไว้มากิน จนชาวบ้านรู้ทั่วกัน จัดยามคอยเฝ้าระแวงระไว

เคนสิ้นจนหนทางทุกอย่าง เนื้อบางส่วนของเขาหลุดออกมาจนเห็นกระดูกโพลน

เขาลอบไปยังที่สุดท้ายตามหัวใจปรารถนา ได้เห็นหลังคาก็ยังดี

ชบา หญิงสาวที่เขามอบหัวใจให้ หมั่นคอยแสดงความจริงใจให้หล่อนเห็นเสมอ

หากแต่เธอไม่เคยตอบรับหรือปฏิเสธ

ป่านนี้ ชบาคงรังเกียจและขยะแขยงเขายิ่งกว่าหมาเน่าเสียอีก

เขาเห็นหญิงสาวเดินลงจากเรือนด้วยสีหน้าหม่นหมอง ถือถาดอาหาร มีกับข้าวสองสามอย่างเอามาวางที่แคร่ไม้หน้าบ้าน แล้วเดินกลับขึ้นเรือนไป

ด้วยความหิวโหย เขาจึงย่องเข้าไปขโมยถาดอาหารนั้นมาแอบกินในดงกล้วย

พอกินหมด เคนกลับไปดูลาดเลาอีกครั้ง ไม่มีวี่แววกระโตกกระตากจากบ้านผู้ใหญ่เลย เขาจึงย่องเอาถาดเปล่าไปวางคืน นึกในใจว่ามื้อนี้คือมื้อสุดท้ายที่จะต่อชีวิตไปได้ เพราะหลังจากนี้ผู้ใหญ่เทืองคงรู้ตัวแล้ว

ที่ไหนได้ มีถาดใส่อาหารใหม่วางไว้วันรุ่งขึ้น และหลังจากนั้นต่อไป เหมือนเจ้าของบ้านไม่อนาทรร้อนใจเลย ว่าทำไมถาดใส่อาหารเกลี้ยงทุกวัน

คืนหนึ่งเคนลอบเข้ามาดูลาดเลาที่บ้านหลังนั้น เห็นถาดใส่อาหารเต็มวางไว้บนแคร่

ด้วยความชะล่าใจ เพราะทำสำเร็จหลายครั้งโดยไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขาจึงย่องเบาเข้าไป ตั้งใจจะคว้ามากิน

อ้ายเคน เสียงหนึ่งดังขึ้น พร้อมกับร่างบอบบางของหญิงสาวผู้หนึ่งที่ก้าวพ้นออกมาจากมุมมืดของเสาเรือน

ชายหนุ่มรีบเอาผ้าขาวม้าที่ขโมยมา คลุมศีรษะที่สุดแสนอัปลักษณ์ของตน

หญิงคนนั้นคือชบา เธอบอกว่าอย่าได้ปิดบังรูปลักษณ์ของอ้ายเลย ไม่ว่าจะเป็นอย่างไรก็ตาม อ้ายเคนคืออ้ายเคนในใจน้องเสมอ

ชายหนุ่มถอยหลัง หยาดน้ำคลอตาทั้งสองเบ้า เขาเพิ่งได้รู้ธาตุแท้จิตใจชบาคืนนี้เอง

เคนรู้สึกอัปยศอดสูกับสังขารตนเองยิ่งนัก น้ำตาลูกผู้ชายไหลหลั่งออกมา แต่หญิงสาวไม่แสดงท่าทีเดียจฉันท์แม่แต่น้อย หล่อนเดินมาใกล้

ชายหนุ่มถอยหลังไปยังดงไม้ พร้อมจะให้ความรกครึ้มของพุ่มพฤกษากลืนร่างเขาหายไปจากชบา

อีกก้าวเดียวเท่านั้น อ้ายเคนก็จะพ้นจากชีวิตเธอไปตลอดกาล ชบาจึงร่ำร้องสิ่งที่”เก็บเงียบ”ในใจเสมอมา

อ้ายเคน ข้ารักอ้าย

เคนชะงัก นั้นคือถ้อยคำที่เขาอยากได้ยินมาแสนนาน นึกไม่ถึงว่าจะได้ยินเอาเมื่อสาย

(มีต่อ)
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่