เรื่องมีอยู่ว่าเมื่อสามวันก่อนเรากับครอบครัวมาเที่ยวอัมสเตอดัม วันที่สามที่นั่นไปนั่งกิน KFC กันแล้วกระเป๋าเราถูกขโมยไปพร้อมโทรศัพท์และพาสปอร์ตทั้งๆ ที่เรานั่งอยู่โต๊ะมุม ไม่รู้เลยว่าถูกขโมยไปตอนไหน พอรู้ตัวสามีก็รีบวิ่งหาสถานีตำรวจแจ้งความ เสร็จรีบกลับโรงแรมแล้วโทรหาธนาคารระงับบัตร (ระหว่างนั้นก็พยายามโทรระงับบัตรด้วยโทรศัพท์สามี แต่ด้วยความที่ยังเอิญใช้ ios beta แล้วมีปัญหากดหมายเลขที่ต้องกดเพื่อทำรายการต่อไม่ได้) ธนาคารรับเรื่องเช็คยอดให้บอกถูกรูดไปรวมๆ 40,000 บาท
1. SCB พอแจ้งอายัดบัตร ตรวจสอบเสร็จ บอกว่ามียอดใช้ 36,000 บาท แล้วรีบบอกว่ายอดนี้เจ้าของบัตรต้องรับผิดชอบ ฟังแล้วอยากจะเอาโทรศัพท์ปา คือบัตรนี้ไม่ใช่บัตรที่เราใช้สำหรับทริปนี้ด้วยนะ อยากรู้ว่าเค้าไม่มีการ detect เหรอ ว่ามันถูกใช้ที่ location ไหน มันถูกทุจริตหรือเปล่า
2. CITIBANK UOB เป็นบัตรเสริมของสามี นี้มียอดประมาณ 15,000 บาท ก็ยืนยันว่าเราต้องจ่ายเองเช่นกัน จะบอกว่าก่อนหน้านี้ที่ CITIBANK ไม่ใข่ของ UOB เคยบริการดีมาก สามีเคยโดนทุจริต เราแค่แจ้งแล้วเค้าไปตรวจสอบ จัดการเองให้หมด เราไม่ต้องทำอะไรและไม่ต้องจ่าย เราคิดว่าอันนี้เกิดจากการที่ UOB เข้ามาบริหารบัตร CITIBANK สงสัยตั้งแต่นี้ไปการบริการจะลงเหว
3. The One (ของ BAY) ขอชมเชยบัตรนี้ มียอดขึ้นมากไม่กี่พันก็โดนระงับแบบอัตโนมัติ โดยยังไม่ได้โทรไปแจ้ง ทำให้เกิดคำถามว่าเกิดอะไรขึ้นกับแบงค์อื่นๆ
มีใครเคยเจอปัญหาแบบนี้ไหม ตอนแรกจะยกธงขาวยอมจ่ายแล้ว แต่ญาติอยู่อังกฤษบอกว่าถ้าเป็นบัตรที่นี่จะได้รับการคุ้มครอง แต่บัตรไทยเท่าที่อ่านในพันทิปดูคือต้องไปสู้กันต่อในศาลใช่ไหม ทำไมผู้บริโภคชาวไทยต้องได้รับการปฏิบัติแบบนี้ทั้งๆ ที่บัตรเครดิตก็เป็น
เดี๋ยวนี้ใช้บัตรแบบ contactless ด้วยไม่ต้องตรวจสอบอะไรกันเลย แบบนี้ไม่ถือว่าเป้นการเปิดช่องทางให้มิจฉาชีพทำงานได้ง่ายขึ้นเหรอคะ ไม่ต้องตรวจสอบอะไรกันเลย แถมส่วนใหญ่ก็ไม่รับเงินสดกันแล้วด้วย รู้สึกว่าถูกผลักภาระให้ผุ้บริโภคมากๆ แบบนี้แล้วบัตรเครดิตมันจะต่างกับบัตรเครดิตยังไงล่ะคะ
ขอความรู้หน่อยค่ะ ขอบคุณค่ะ
เหลือรอคำตอบจาก SCB ค่ะ
เที่ยวต่างประเทศกระเป๋าถูกขโมย บัตรเครดิตถูกใช้ก่อนแจ้งระงับ แจ้งธนาคารปุ๊บธนาคารรีบบอกว่าหนี้เราต้องเป็นคนจ่าย?
1. SCB พอแจ้งอายัดบัตร ตรวจสอบเสร็จ บอกว่ามียอดใช้ 36,000 บาท แล้วรีบบอกว่ายอดนี้เจ้าของบัตรต้องรับผิดชอบ ฟังแล้วอยากจะเอาโทรศัพท์ปา คือบัตรนี้ไม่ใช่บัตรที่เราใช้สำหรับทริปนี้ด้วยนะ อยากรู้ว่าเค้าไม่มีการ detect เหรอ ว่ามันถูกใช้ที่ location ไหน มันถูกทุจริตหรือเปล่า
2. CITIBANK UOB เป็นบัตรเสริมของสามี นี้มียอดประมาณ 15,000 บาท ก็ยืนยันว่าเราต้องจ่ายเองเช่นกัน จะบอกว่าก่อนหน้านี้ที่ CITIBANK ไม่ใข่ของ UOB เคยบริการดีมาก สามีเคยโดนทุจริต เราแค่แจ้งแล้วเค้าไปตรวจสอบ จัดการเองให้หมด เราไม่ต้องทำอะไรและไม่ต้องจ่าย เราคิดว่าอันนี้เกิดจากการที่ UOB เข้ามาบริหารบัตร CITIBANK สงสัยตั้งแต่นี้ไปการบริการจะลงเหว
3. The One (ของ BAY) ขอชมเชยบัตรนี้ มียอดขึ้นมากไม่กี่พันก็โดนระงับแบบอัตโนมัติ โดยยังไม่ได้โทรไปแจ้ง ทำให้เกิดคำถามว่าเกิดอะไรขึ้นกับแบงค์อื่นๆ
มีใครเคยเจอปัญหาแบบนี้ไหม ตอนแรกจะยกธงขาวยอมจ่ายแล้ว แต่ญาติอยู่อังกฤษบอกว่าถ้าเป็นบัตรที่นี่จะได้รับการคุ้มครอง แต่บัตรไทยเท่าที่อ่านในพันทิปดูคือต้องไปสู้กันต่อในศาลใช่ไหม ทำไมผู้บริโภคชาวไทยต้องได้รับการปฏิบัติแบบนี้ทั้งๆ ที่บัตรเครดิตก็เป็น
เดี๋ยวนี้ใช้บัตรแบบ contactless ด้วยไม่ต้องตรวจสอบอะไรกันเลย แบบนี้ไม่ถือว่าเป้นการเปิดช่องทางให้มิจฉาชีพทำงานได้ง่ายขึ้นเหรอคะ ไม่ต้องตรวจสอบอะไรกันเลย แถมส่วนใหญ่ก็ไม่รับเงินสดกันแล้วด้วย รู้สึกว่าถูกผลักภาระให้ผุ้บริโภคมากๆ แบบนี้แล้วบัตรเครดิตมันจะต่างกับบัตรเครดิตยังไงล่ะคะ
ขอความรู้หน่อยค่ะ ขอบคุณค่ะ
เหลือรอคำตอบจาก SCB ค่ะ