ขอชื่นชม ทีมพากย์ไทย กับ ภ. Oppenheimer เรื่องนี้ ตั้งใจการทำงานพากย์ แบบขั้นสุดจริง ๆ
เพราะคำแต่ละคำ ที่อัดๆ เข้าไปในแต่ละตัวละคร สุดโต่งฝีมืองานพากย์ไทยมาก มากแบบมากจริง ๆ ชื่นชมจริง ๆ นะครับ
บทสนทนาคมคาย คนแปลบทก็เก่งจริง ๆ ตั้งใจมาก ๆ รู้เลยว่ามันโคตรหินเรื่องการใช้คำกับบทสนทนา
ที่ร่ายยาวจัดเต็มขนาดนี้ โปรดจารึกไว้เลยนะครับ ว่าทีมงานทำงาน ทั้งแปลภาษา ทั้งลงเสียงพากย์ ชนิดที่ต้องคาราวะจริง ๆ
จัดเต็มอัดแน่นสุดขั้ว งานพากย์ดีมากเข้าใจง่ายขั้นเทพ จังหวะอารมณ์เวลา ไต่ระดับไปตามช่วงเวลา
ยิ่งช่วงสอบสวน ไต่สวนกับองค์คณะกรรมการ พากย์กันเก่งจริง ๆ อินเลยครับ เก็บรายละเอียดทุกเม็ดจริงๆ
บทไดอะล็อคก่อนเข้าดูหนังเรื่องนี้ รู้เลยว่า ต้องมีทั้ง
-ภาษาทางฟิสิกส์
-ภาษาสำนวนทางการเมือง
-ภาษาทางกฎหมาย
-ภาษาทางปรัชญา
เลยต้องขอดูพากย์ไทยนำร่องก่อน เพื่อแบ่ง Section ส่วนต่าง ๆ ออก ให้สมอง เคลียร์คัท
หลังจากนั้นค่อยไปเก็บ เสียงอังกฤษ บรรยายไทย อีกที ในโรง IMAX
เพื่อดูภาพบรรยากาศของช่วงเวลาอารมณ์ต่าง ๆ
ที่โนแลนจงใจใส่เข้าไป
จังหวะการเล่าเรื่อง เหมือนไต่รถไฟเหาะไปเรื่อยๆ แบบ ช้าไปหาเร็ว เร็วจนรัว รัวจนมันส์
คนพากษ์ก็โต้คารม ได้เผ็ดร้อน เชือดเฉือนทั้งภาพทั้งเสียง
ทั้งอารมณ์การลำดับภาพของหนัง มันกรอปนลื่นไหลละเมียดเป็นเนื้อเดียว สุดขั้วจริงๆ ครับ
แต่ละช่วงของ ซีเควนซ์ซีนการตัดต่อภาพเพิ่อไล่อารมณ์ เข้าสู่จิตใจของตัวละคร
คือโนแลน เก่งวิธีการใช้ภาพตัดต่อ และลำดับภาพ ให้สอดคล้องไปทุกอณูจริง ๆ
คือไปให้ถึงจุดสุดยอดของภาพเชิงสัญลักษณ์ งานบทดัดแปลงบทสนทนาอันเฉียบคม
ใน 180 นาทีของหนัง จัดว่าหินจริงๆ แต่สามารถโชว์ศักภาพงานในแต่ละส่วน ได้เหลือเชื่อ
ลำดับภาพได้เทพมาก ทั้งงานภาพสี และ งานภาพขาวดำ ทั้งเร้าทั้งอัด ดั่งวาทยากร
คุมวงออร์เคสตราขนาดใหญ่
ดูจบแล้ว รู้สึกกรีดร้องภายในอย่างบอกไม่ถูก งานมันดี รู้สึกสุดจริงๆ
ลำดับคะแนน
Art Direction คะแนน 10 ให้ 10
Cinematography คะแนน 10 ให้ 10
Film Editing คะแนน 10 ให้ 10
Sound Mixing คะแนน 10 ให้ 10
Visual Effects คะแนน 10 ให้ 10
Actor คะแนน 10 ให้ 10
Director คะแนน 10 ให้ 10
Picture คะแนน 10 ให้ 10
Adapted Screenplay 10 ให้ 12 อินจริงๆ ขอบอก โนแลน คงพัฒนาบทมานานมากและดีมากๆ
อีกอย่าง หนังสืออัตชีวประวัติ American Prometheus ชีวประวัติในปี 2005 ของนักฟิสิกส์
เชิงทฤษฎี J. Robert Oppenheimer ที่เขียนโดย สองนักเขียน Kai Bird และ Martin J. Sherwin
ก็ได้ รางวัล Pulitzer Prize ด้วย เลยส่งหนังกันไปหมด
หวังว่าเวที รางวัลออสการ์ คงมีชื่อในทุกสาขาสำคัญๆ
ใจจริงไม่อยากมอบรางวัลแบบธรรมดาเลย ตอนดูหนังจบ
อยากเขวี้ยงตุ๊กตาทองให้เป็น 100 ตัวเลยถ้าทำได้(เก่งเกิ๊น)
สุดท้ายตบมือให้ นักแสดงสมทบ 47 คน(จริงๆคงมากกว่านั้นเห็นว่าถึง 89 คน) ดาวดังทั้งนั้นไม่นับตัวเอก 4 คน
เท่าที่ค้นเจอ ใน
https://en.wikipedia.org/wiki/Oppenheimer_(film)#Cast
ภ. Oppenheimer ชื่นชม ทีมพากย์ไทย และผู้แปลบทพากย์ มาก ๆ
เพราะคำแต่ละคำ ที่อัดๆ เข้าไปในแต่ละตัวละคร สุดโต่งฝีมืองานพากย์ไทยมาก มากแบบมากจริง ๆ ชื่นชมจริง ๆ นะครับ
บทสนทนาคมคาย คนแปลบทก็เก่งจริง ๆ ตั้งใจมาก ๆ รู้เลยว่ามันโคตรหินเรื่องการใช้คำกับบทสนทนา
ที่ร่ายยาวจัดเต็มขนาดนี้ โปรดจารึกไว้เลยนะครับ ว่าทีมงานทำงาน ทั้งแปลภาษา ทั้งลงเสียงพากย์ ชนิดที่ต้องคาราวะจริง ๆ
จัดเต็มอัดแน่นสุดขั้ว งานพากย์ดีมากเข้าใจง่ายขั้นเทพ จังหวะอารมณ์เวลา ไต่ระดับไปตามช่วงเวลา
ยิ่งช่วงสอบสวน ไต่สวนกับองค์คณะกรรมการ พากย์กันเก่งจริง ๆ อินเลยครับ เก็บรายละเอียดทุกเม็ดจริงๆ
บทไดอะล็อคก่อนเข้าดูหนังเรื่องนี้ รู้เลยว่า ต้องมีทั้ง
-ภาษาทางฟิสิกส์
-ภาษาสำนวนทางการเมือง
-ภาษาทางกฎหมาย
-ภาษาทางปรัชญา
เลยต้องขอดูพากย์ไทยนำร่องก่อน เพื่อแบ่ง Section ส่วนต่าง ๆ ออก ให้สมอง เคลียร์คัท
หลังจากนั้นค่อยไปเก็บ เสียงอังกฤษ บรรยายไทย อีกที ในโรง IMAX
เพื่อดูภาพบรรยากาศของช่วงเวลาอารมณ์ต่าง ๆ
ที่โนแลนจงใจใส่เข้าไป
จังหวะการเล่าเรื่อง เหมือนไต่รถไฟเหาะไปเรื่อยๆ แบบ ช้าไปหาเร็ว เร็วจนรัว รัวจนมันส์
คนพากษ์ก็โต้คารม ได้เผ็ดร้อน เชือดเฉือนทั้งภาพทั้งเสียง
ทั้งอารมณ์การลำดับภาพของหนัง มันกรอปนลื่นไหลละเมียดเป็นเนื้อเดียว สุดขั้วจริงๆ ครับ
แต่ละช่วงของ ซีเควนซ์ซีนการตัดต่อภาพเพิ่อไล่อารมณ์ เข้าสู่จิตใจของตัวละคร
คือโนแลน เก่งวิธีการใช้ภาพตัดต่อ และลำดับภาพ ให้สอดคล้องไปทุกอณูจริง ๆ
คือไปให้ถึงจุดสุดยอดของภาพเชิงสัญลักษณ์ งานบทดัดแปลงบทสนทนาอันเฉียบคม
ใน 180 นาทีของหนัง จัดว่าหินจริงๆ แต่สามารถโชว์ศักภาพงานในแต่ละส่วน ได้เหลือเชื่อ
ลำดับภาพได้เทพมาก ทั้งงานภาพสี และ งานภาพขาวดำ ทั้งเร้าทั้งอัด ดั่งวาทยากร
คุมวงออร์เคสตราขนาดใหญ่
ดูจบแล้ว รู้สึกกรีดร้องภายในอย่างบอกไม่ถูก งานมันดี รู้สึกสุดจริงๆ
ลำดับคะแนน
Art Direction คะแนน 10 ให้ 10
Cinematography คะแนน 10 ให้ 10
Film Editing คะแนน 10 ให้ 10
Sound Mixing คะแนน 10 ให้ 10
Visual Effects คะแนน 10 ให้ 10
Actor คะแนน 10 ให้ 10
Director คะแนน 10 ให้ 10
Picture คะแนน 10 ให้ 10
Adapted Screenplay 10 ให้ 12 อินจริงๆ ขอบอก โนแลน คงพัฒนาบทมานานมากและดีมากๆ
อีกอย่าง หนังสืออัตชีวประวัติ American Prometheus ชีวประวัติในปี 2005 ของนักฟิสิกส์
เชิงทฤษฎี J. Robert Oppenheimer ที่เขียนโดย สองนักเขียน Kai Bird และ Martin J. Sherwin
ก็ได้ รางวัล Pulitzer Prize ด้วย เลยส่งหนังกันไปหมด
หวังว่าเวที รางวัลออสการ์ คงมีชื่อในทุกสาขาสำคัญๆ
ใจจริงไม่อยากมอบรางวัลแบบธรรมดาเลย ตอนดูหนังจบ
อยากเขวี้ยงตุ๊กตาทองให้เป็น 100 ตัวเลยถ้าทำได้(เก่งเกิ๊น)
สุดท้ายตบมือให้ นักแสดงสมทบ 47 คน(จริงๆคงมากกว่านั้นเห็นว่าถึง 89 คน) ดาวดังทั้งนั้นไม่นับตัวเอก 4 คน
เท่าที่ค้นเจอ ใน https://en.wikipedia.org/wiki/Oppenheimer_(film)#Cast