สวัสดีครับ ขอปรึกษาปัญหาชีวิตคู่ครับ ว่าควรปรับที่ใคร และจะแก้ปัญหาอย่างไร รวมถึงต้นตอของปมปัญหา
ผมคุยกับคนนึงครับ จะบอกว่าคบกันก็ไม่เชิง เพราะไม่มีใครขอคบ แต่การกระทำก็เกินเลยคำว่าแฟน
ถ้าให้เกริ่นปัญหานะครับ คุยกันได้ครึ่งเดือน ยอมมาเดท แล้วก็ค้างด้วยกันที่ห้องผม ระยะแรกไม่ยอมมีอะไรด้วย แต่ต่อมาก็ยอม
และคะยั้นคะยอให้ผมตรวจ HIV โดยเขาเอาผลของเขาให้ดู ผมก็ตรวจครับเพื่อความสบายใจ
เขาต้องการอะไร ผมทำให้ทุกอย่างเท่าที่จะทำได้ และไม่เกินกำลัง ทั้งที่เป็นคำสั่งไร้เหตุผล และผมยุ่งกับการสมัครงาน
คงด้วยเขาเป็นอาจารย์พิเศษหลายสถาบันด้วยแหละครับ เพิ่งเป็นด้วย อาจจะมีความมั่นใจในตัวเองสูง
ผมได้งานแถวคอนโดเขาครับ ห่างจาก BTS เขา 1 ป้าย ช่วงนี้ฝนตกหนัก ผมเลิกราว 23.20 ได้
บางครั้งกว่าจะออกมาถึงสถานี รถเมล์ที่ต้องต่อเข้าห้องก็หมดละครับ จำใจจ่ายแท็กซี่ ซึ่งก็ชอบปฏิเสธบ่อยครั้ง
เขายืนยันชนิดหัวเด็ด ต.ขาด ว่าไม่ให้มาห้องเขา เขาวีดีโอคอลให้ดูได้ว่าไม่ได้มีความลับ แต่ก็ไม่เคยถ่ายในห้องนอนนะครับ
ขณะที่เพื่อนชายคนสนิทเขาตั้งแต่เยาว์วัยมาพักได้ คือไม่ได้จะมาพักหรอกนะครับ แต่รู้สึกว่าความสำคัญมันต่ำกว่าเพื่อนคนนั้น
ทั้งที่ผมให้เขาเทียบเท่ากันกับเพื่อนสนิท เขาบอกขนาดพ่อแม่ยังไม่เคยมาเลย
เหตุการณ์ก็มาถึงวันที่ทะเลาะกันครับ ผมคาดว่าจะตกรถ เลยบอกเขาว่าอาจจะมาค้างนะ แล้วจะรีบกลับขบวนสุดท้าย
เขาตอบ โน โน ... ผมก็รับคำเขา แล้วขึ้น BTS ไป 5 แยกลาดพร้าว เพื่อจะต่อรถกลับ ทั้งที่เพิ่งจะเริ่มสร้างตัว เงินเดือนยังไม่ออก
ปรากฏว่าฝนตกแรงมาก เรียกแกร็บราคาก็สูง จนต้องกัดฟันจ่าย ระหว่างรอก็เจอคนเมา คนจรจัดมาขอเงิน ร้องแซวจากสะพานลอย
มันน่ากลัวนะครับ ขนาดเป็นผู้ชายยังกลัวความไม่ปลอดภัย ผมเลยทักไปตัดพ้อบอกว่า ตอนนี้ถึง 5 แยก ฯ แล้วนะครับ ติดเกาะ
เจอคนจรจัดน่ากลัวมาก ( ไม่ลงรายละเอียด ) ไม่ต้องกังวลนะครับ ว่าเราจะขอค้างด้วย เรารู้ตัวเสมอว่าเราไม่ได้มีค่าไปมากกว่าเพื่อนคนนั้น
เข้ามา เขาอ่านแต่ไม่ตอบครับ เขาอ้างแค่ว่า อึดอัด ในช่วงบ่าย ความคิดเรามันไม่ตรงกัน ผมก็สวนคืนครับ ว่าอึดอัดเหมือนกัน แต่ไม่พูด
เลือกที่จะมองข้าม งั้นก็ขอพูดละกันครับ ว่าไม่พอใจมาก กับการบังคับไปตรวจ HIV ( ทั้งที่ร้องขอดีดี ก็ยินดีตรวจให้ และไม่ได้มั่วอยู่แล้ว )
รวมถึงขอดูเอกสารส่วนตัว ละลาบละล้วงความเป็นส่วนตัว แล้วก็โยงไปถึงเรื่องขอค้างว่า ผมให้เขาค้างได้ ทำไมเขาให้ผมค้างไม่ได้
ทั้งที่ก็ได้เสียกันไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง ก็ไม่ได้ต้องการจะค้างด้วยหรอกครับ แต่อย่างน้อยถามไถ่ก็ยังดี ถ้าเธอเป็นเราจะรู้สึกยังไง
เขาก็ขอโทษแบบประชดครับ ที่เขาไม่มีสามัญสำนึกที่วิญญูชนพึงมี ต่างเรียนรู้กันไป
ท้ายที่สุดก็โทรปรับความเข้าใจกันครับ เหตุผลคือเขาไม่ชอบให้ใครไปห้องเขา และไม่เคยพาใครมา นอกจากแฟนเก่า และเพื่อนคนนี้
เหตุเพราะเขาจะรู้สึกหงุดหงิด ถ้าคนอื่นอยู่ห้องตัวเอง แม้แต่ล็อบบี้เขาก็ไม่ยอมให้ผมมา ผมถามกลับว่า แล้วถ้าคนอื่นไม่ยอมให้ไปหาล่ะ
เขาก็บอกก็จะไม่ไปหา เพราะเขาก็ยังไม่ชอบใครให้ไปหา ผมเลยถามไปถึงอนาคต
ถ้าเขาเจอคนที่ใช่จริงๆ อาจจะไม่ใช่ผมก็ได้ ที่ถูกจริตเขาทุกอย่าง เหมือนกันเปะ แต่แยกบ้านกัน เจอกันข้างนอก เขาจะเป็นไง
เขาตอบไม่ได้ครับ เขาไม่รู้คำตอบด้วยซ้ำ แล้วเขาก็บอกจะพยายามปรับตัว และก็ขอโทษ แต่มันคงต้องใช้เวลา ก่อนจะแยกย้ายไปนอน
ผมส่งฝันดี เขาส่งฝันดีกลับ
จากปรึกษาคือ 1. การแก้ปัญหาต้องทำอย่างไรครับ
หนามยอกหนามบ่งดีไหม ไม่ให้มา ก็ไม่ให้มาห้องผมเหมือนกัน
จะเปิดโรงแรมก็ได้นะ แต่คุณจ่าย ถ้าเก็บอาการไม่ไหว
2. เขาจะมีปมฝังใจอะไรหรือเปล่าครับ จะแก้ปมได้อย่างไร
3. เขาบอกการขอดูเอกสารส่วนตัวไม่ว่าเรื่องใด เป็นเรื่องปกติ สำหรับเขากับเพื่อน แต่กับผมไม่ปกติครับ เสียมารยาท
4. คิดว่าจะไปกันรอดสักกี่น้ำเชียวครับ หรือถ้าต้องจบถ้าเขาไม่แก้ปมนี้ ก็คงมีปัญหากับคนใหม่ ๆ
เพราะที่ผ่านมาเขาก็ยอมรับครับว่าถูกปฏิเสธบ่อย ถูกทำร้ายจิตใจบ่อยครั้ง เลยเลือกคุยกับผม เพราะผมเปิดเผย
ปล. คือผมยอมแฟน ยอมเพื่อนอยู่ละแต่มีขอบเขต ตรงไปตรงมา แต่ถ้าหมดรักหมดความเชื่อใจ ก็ชนิดเกลียดไม่เผาผี
แฟนไม่ยอมให้ไปหา แต่ยอมมาหาเรา เพื่อนเก่าดันมาได้ แปลกไหมครับ
ผมคุยกับคนนึงครับ จะบอกว่าคบกันก็ไม่เชิง เพราะไม่มีใครขอคบ แต่การกระทำก็เกินเลยคำว่าแฟน
ถ้าให้เกริ่นปัญหานะครับ คุยกันได้ครึ่งเดือน ยอมมาเดท แล้วก็ค้างด้วยกันที่ห้องผม ระยะแรกไม่ยอมมีอะไรด้วย แต่ต่อมาก็ยอม
และคะยั้นคะยอให้ผมตรวจ HIV โดยเขาเอาผลของเขาให้ดู ผมก็ตรวจครับเพื่อความสบายใจ
เขาต้องการอะไร ผมทำให้ทุกอย่างเท่าที่จะทำได้ และไม่เกินกำลัง ทั้งที่เป็นคำสั่งไร้เหตุผล และผมยุ่งกับการสมัครงาน
คงด้วยเขาเป็นอาจารย์พิเศษหลายสถาบันด้วยแหละครับ เพิ่งเป็นด้วย อาจจะมีความมั่นใจในตัวเองสูง
ผมได้งานแถวคอนโดเขาครับ ห่างจาก BTS เขา 1 ป้าย ช่วงนี้ฝนตกหนัก ผมเลิกราว 23.20 ได้
บางครั้งกว่าจะออกมาถึงสถานี รถเมล์ที่ต้องต่อเข้าห้องก็หมดละครับ จำใจจ่ายแท็กซี่ ซึ่งก็ชอบปฏิเสธบ่อยครั้ง
เขายืนยันชนิดหัวเด็ด ต.ขาด ว่าไม่ให้มาห้องเขา เขาวีดีโอคอลให้ดูได้ว่าไม่ได้มีความลับ แต่ก็ไม่เคยถ่ายในห้องนอนนะครับ
ขณะที่เพื่อนชายคนสนิทเขาตั้งแต่เยาว์วัยมาพักได้ คือไม่ได้จะมาพักหรอกนะครับ แต่รู้สึกว่าความสำคัญมันต่ำกว่าเพื่อนคนนั้น
ทั้งที่ผมให้เขาเทียบเท่ากันกับเพื่อนสนิท เขาบอกขนาดพ่อแม่ยังไม่เคยมาเลย
เหตุการณ์ก็มาถึงวันที่ทะเลาะกันครับ ผมคาดว่าจะตกรถ เลยบอกเขาว่าอาจจะมาค้างนะ แล้วจะรีบกลับขบวนสุดท้าย
เขาตอบ โน โน ... ผมก็รับคำเขา แล้วขึ้น BTS ไป 5 แยกลาดพร้าว เพื่อจะต่อรถกลับ ทั้งที่เพิ่งจะเริ่มสร้างตัว เงินเดือนยังไม่ออก
ปรากฏว่าฝนตกแรงมาก เรียกแกร็บราคาก็สูง จนต้องกัดฟันจ่าย ระหว่างรอก็เจอคนเมา คนจรจัดมาขอเงิน ร้องแซวจากสะพานลอย
มันน่ากลัวนะครับ ขนาดเป็นผู้ชายยังกลัวความไม่ปลอดภัย ผมเลยทักไปตัดพ้อบอกว่า ตอนนี้ถึง 5 แยก ฯ แล้วนะครับ ติดเกาะ
เจอคนจรจัดน่ากลัวมาก ( ไม่ลงรายละเอียด ) ไม่ต้องกังวลนะครับ ว่าเราจะขอค้างด้วย เรารู้ตัวเสมอว่าเราไม่ได้มีค่าไปมากกว่าเพื่อนคนนั้น
เข้ามา เขาอ่านแต่ไม่ตอบครับ เขาอ้างแค่ว่า อึดอัด ในช่วงบ่าย ความคิดเรามันไม่ตรงกัน ผมก็สวนคืนครับ ว่าอึดอัดเหมือนกัน แต่ไม่พูด
เลือกที่จะมองข้าม งั้นก็ขอพูดละกันครับ ว่าไม่พอใจมาก กับการบังคับไปตรวจ HIV ( ทั้งที่ร้องขอดีดี ก็ยินดีตรวจให้ และไม่ได้มั่วอยู่แล้ว )
รวมถึงขอดูเอกสารส่วนตัว ละลาบละล้วงความเป็นส่วนตัว แล้วก็โยงไปถึงเรื่องขอค้างว่า ผมให้เขาค้างได้ ทำไมเขาให้ผมค้างไม่ได้
ทั้งที่ก็ได้เสียกันไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง ก็ไม่ได้ต้องการจะค้างด้วยหรอกครับ แต่อย่างน้อยถามไถ่ก็ยังดี ถ้าเธอเป็นเราจะรู้สึกยังไง
เขาก็ขอโทษแบบประชดครับ ที่เขาไม่มีสามัญสำนึกที่วิญญูชนพึงมี ต่างเรียนรู้กันไป
ท้ายที่สุดก็โทรปรับความเข้าใจกันครับ เหตุผลคือเขาไม่ชอบให้ใครไปห้องเขา และไม่เคยพาใครมา นอกจากแฟนเก่า และเพื่อนคนนี้
เหตุเพราะเขาจะรู้สึกหงุดหงิด ถ้าคนอื่นอยู่ห้องตัวเอง แม้แต่ล็อบบี้เขาก็ไม่ยอมให้ผมมา ผมถามกลับว่า แล้วถ้าคนอื่นไม่ยอมให้ไปหาล่ะ
เขาก็บอกก็จะไม่ไปหา เพราะเขาก็ยังไม่ชอบใครให้ไปหา ผมเลยถามไปถึงอนาคต
ถ้าเขาเจอคนที่ใช่จริงๆ อาจจะไม่ใช่ผมก็ได้ ที่ถูกจริตเขาทุกอย่าง เหมือนกันเปะ แต่แยกบ้านกัน เจอกันข้างนอก เขาจะเป็นไง
เขาตอบไม่ได้ครับ เขาไม่รู้คำตอบด้วยซ้ำ แล้วเขาก็บอกจะพยายามปรับตัว และก็ขอโทษ แต่มันคงต้องใช้เวลา ก่อนจะแยกย้ายไปนอน
ผมส่งฝันดี เขาส่งฝันดีกลับ
จากปรึกษาคือ 1. การแก้ปัญหาต้องทำอย่างไรครับ
หนามยอกหนามบ่งดีไหม ไม่ให้มา ก็ไม่ให้มาห้องผมเหมือนกัน
จะเปิดโรงแรมก็ได้นะ แต่คุณจ่าย ถ้าเก็บอาการไม่ไหว
2. เขาจะมีปมฝังใจอะไรหรือเปล่าครับ จะแก้ปมได้อย่างไร
3. เขาบอกการขอดูเอกสารส่วนตัวไม่ว่าเรื่องใด เป็นเรื่องปกติ สำหรับเขากับเพื่อน แต่กับผมไม่ปกติครับ เสียมารยาท
4. คิดว่าจะไปกันรอดสักกี่น้ำเชียวครับ หรือถ้าต้องจบถ้าเขาไม่แก้ปมนี้ ก็คงมีปัญหากับคนใหม่ ๆ
เพราะที่ผ่านมาเขาก็ยอมรับครับว่าถูกปฏิเสธบ่อย ถูกทำร้ายจิตใจบ่อยครั้ง เลยเลือกคุยกับผม เพราะผมเปิดเผย
ปล. คือผมยอมแฟน ยอมเพื่อนอยู่ละแต่มีขอบเขต ตรงไปตรงมา แต่ถ้าหมดรักหมดความเชื่อใจ ก็ชนิดเกลียดไม่เผาผี