‘วันชัย ตัน’ ย้อนวาทะ ‘สุจินดา’ ผิดคำพูด ชวนจับตาพรรคหนึ่ง ปวศ.จะย้อนรอยเดิมหรือไม่
https://www.matichon.co.th/politics/news_4094371
‘วันชัย ตัน’ ย้อนที่มา ‘พฤษภาทมิฬ 35’ ที่ ‘สุจินดา’ ผิดคำพูด ชวนจับตาพรรคหนึ่ง ปวศ.จะย้อนรอยเดิมหรือไม่
เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นาย
วันชัย ตันติวิทยาพิทักษ์ หรือ วันชัย ตัน นักเขียนรางวัลศรีบูรพา พ.ศ.2554 และอดีตผู้อำนวยการฝ่ายข่าว พีพีทีวี โพสต์เฟซบุ๊กเมื่อวาน ระบุว่า
เสียสัตย์เพื่อชาติ
“ผมจำเป็นต้องเสียสัตย์ที่เคยกล่าวไว้ว่า ‘จะไม่รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี’ เพราะฉะนั้นเมื่อเกิดความจำเป็นที่เราจะต้องทำงานเพื่อประเทศชาติ การเสียชื่อเสียง เสียสัจจะวาจาก็อาจจะเป็นความจำเป็น…”
พล.อ.สุจินดา คราประยูร อดีตนายกรัฐมนตรีกล่าวถึงสาเหตุที่จำเป็นต้องยอมผิดคำพูดจนนำไปสู่การประท้วงรัฐบาลครั้งใหญ่ก่อนลงเอยด้วยการเสียเลือดเสียเนื้อของประชาชน จนถูกขนานนามเหตุการณ์ดังกล่าวว่า “พฤษภาทมิฬ” 2535
มาดูสิว่า พรรคการเมืองหนึ่งประกาศชัดเจนก่อนเลือกตั้งว่าจะไม่จับมือกับพรรคการเมืองที่ร่วมรัฐบาลเผด็จการ แต่กำลังจะจูบปากกันตั้งรัฐบาล ประวัติศาสตร์จะย้อนรอยเดิมหรือไม่ อีกไม่นานเกินรอ
https://www.facebook.com/vanchai.tantivitayapitak/posts/pfbid04agx4zszt5Mn1rA3dRjqn2xfpyin1qkUAJFTTTrv39HLcKfZoWvts4Ca43BS2bN2l
"พิธา" เชื่อ "เพื่อไทย" ยังจับมือ 8 พรรค "ก้าวไกล" ไม่จับ พรรคทหารจำแลง
https://www.thairath.co.th/news/politic/2711751
"พิธา" เชื่อ "เพื่อไทย" ยังจับมือ 8 พรรค แน่น ยังไม่สรุป จับมือพรรคอื่นเพิ่ม ขอรักษาสัจจะกับประชาชน ยัน "ก้าวไกล" ไม่จับมือกับพรรคทหารจำแลง รับ หากมีการเชิญมาจริง "ก้าวไกล" ก็อยู่ด้วยไม่ได้
วันที่ 23 ก.ค. 2566 นาย
พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ลงพื้นที่ขอบคุณประชาชน อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี พร้อมให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนบอกว่า ตอนนี้กำลังใจยังดีอยู่ ยังตั้งใจที่จะทำงานต่อและลงพื้นที่ช่วย ส.ส. ใช้เวลาให้เป็นประโยชน์ เป็นโค้ชให้แต่ละพื้นที่ เพราะเรามีความรู้ และสามารถที่จะทำงานต่อได้
ส่วนประเด็นที่หลายฝ่ายพยายามจะให้พรรคก้าวไกลเสียสละ มองว่า ตอนนี้เรื่องสำคัญคือสัจจะ ไม่ใช่การเสียสละ ถ้าเรารักษาสัจจะที่ให้ไว้กับประชาชน ก็ไม่มีใครต้องเสียสละ เพราะเป็นไปตามกฎกติกาที่มีอยู่ตามครรลองการเมืองที่เป็นปกติ แต่ถ้าบอกว่าให้เสียสละ ก็เหมือนกับว่าเอาคะแนน 14 ล้านเสียง ไปเทกระจาด ทำให้ประชาชนผิดหวัง ซึ่งตอนนี้ต้องยึดสัจจะและหลักการให้มั่น มากกว่าการที่จะมาบอกว่าใครควรที่จะต้องเสียสละ
ส่วนที่ตอนนี้พรรคเพื่อไทย มีการเชิญพรรคพลังประชารัฐและรวมไทยสร้างชาติ มาหารือกัน ถือว่าเป็นการทำตามมติ 8 พรรคร่วมที่ได้คุยกันไว้หรือไม่ นาย
พิธา บอกว่า ตอนนี้ต้องรอพรรคเพื่อไทยกลับมาพูดคุยกับ 8 พรรคร่วมอย่างเป็นทางการก่อน ซึ่งเมื่อวานนี้ลงพื้นที่ทั้งวัน ยังไม่ได้ติดตามข่าว แต่เท่าที่ทราบมาเป็นเพียงการเชิญแต่ละพรรคไปแลกเปลี่ยนความเห็นกัน ต้องรอให้พรรคเพื่อไทยชี้แจงอีกครั้ง ส่วนตอนนี้ขอรอพรรคเพื่อไทยอย่างเดียว และไม่ขอตัดสินใจผ่านหน้าข่าวหรือตัดสินใจโดยไม่ได้ฟังจากปากของคนที่อยู่ใน 8 พรรคร่วม ยืนยันว่า ยังเชื่อใจและเชื่อมั่นพรรคเพื่อไทยเหมือนเดิม
ส่วนการพูดคุยกับพรรคพลังประชารัฐและรวมไทยสร้างชาติ จะเป็นเงื่อนไขที่ทำให้มองว่า พรรคก้าวไกลถูกผลักออกจากพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่นั้น ตอนนี้ยังเป็นการพูดคุย แต่ถ้ามีการเชิญเข้ามาร่วมรัฐบาลจริงๆ ยืนยันว่า พรรคก้าวไกลอยู่ด้วยไม่ได้
“
ณ เช้าวันอาทิตย์แบบนี้ก็เป็นแค่การพูดคุย แต่ถ้าเป็นการเชื้อเชิญเข้ามาร่วมรัฐบาลจริงๆ ก้าวไกลอยู่ด้วยไม่ได้ในสมการนั้น ถ้าเกิดเชิญมาร่วมรัฐบาลจริงๆ ก็คือจะต้องไม่มีก้าวไกล แต่ ณ ปัจจุบันนี้พูดให้ชัด ผมเข้าใจว่ายังเป็นการเชิญมาเพื่อที่จะพูดคุยอยู่ ยังไม่มีการเชิญร่วมรัฐบาล เพราะฉะนั้นตรงนี้ต้องรอฟังจากทางพรรคเพื่อไทยก่อนว่ามตกลงแล้วมันยังไงกันแน่ แล้วผมก็จะฟังจากปากของพรรคเพื่อไทย ไม่ได้ตัดสินใจตามหน้าข่าวหรือการฟังการสัมภาษณ์เพียงสั้นๆ แต่ต้องฟังเหตุและผลยาวๆ”
ส่วนเรื่องการถอยมาตรา 112 หากที่ประชุม 8 พรรคร่วมเห็นตรงกันจะถอยได้แค่ไหน นาย
พิธา บอกว่า ถ้าจะให้ถอย ต้องดูว่าจะให้ถอยด้วยเรื่องอะไรและเนื้อหาอะไร เพราะเหรียญมีสองด้าน ต้องดูว่ารายละเอียดที่ต้องการคืออะไร ไม่ใช่แค่หายไปแล้วจบ เพราะฉะนั้นตรงนี้ต้องฟังรายละเอียดและให้เกียรติพรรคเพื่อไทยว่า ที่ไปพูดคุยมานั้นคุยกันเรื่องไหนบ้าง ตรงตามที่ สว.เคยอภิปรายในสภาหรือไม่
ส่วนเมื่อวานนี้ที่พรรคเพื่อไทย เชิญพรรคภูมิใจไทย พรรคชาติพัฒนากล้า และพรรครวมไทยสร้างชาติ หารือด้วย ซึ่งทั้ง 3 พรรคเห็นตรงกันว่า การมีพรรคก้าวไกลอยู่ถือเป็นอุปสรรคในการจัดตั้งรัฐบาล มองว่าถูกบีบหรือไม่ ตรงนี้ไม่ได้รู้สึกอะไร เพราะถ้า 8 พรรคจับมือกันให้แน่น ใครก็มาบีบไม่ได้ และถ้าเราหนักแน่นและยังยืนยันในหลักการ ก็จะทำให้คนเข้ามาร่วมได้มากขึ้นโดยใช้เหตุผล หลักการ และใช้ความต้องการของประชาชนเป็นหลัก และตอนนี้ยังเชื่อใจพรรคเพื่อไทยว่า จะพยายามเต็มที่และใช้ทุกวิถีทางจัดตั้งรัฐบาลให้ได้
ส่วนเรื่องคดีที่ถูกร้องตอนนี้ ฝ่ายกฎหมายกำลังทำงานอยู่ ต้องให้เวลา และยืนยันในความบริสุทธิ์ว่า ทั้ง 2 คดีไม่น่ามีปัญหาอะไร เมื่อถามว่า พรรคก้าวไกลเดินเกมผิดหรือไม่ ที่ทำให้เสียทั้งประธานสภา และเก้าอี้นายกรัฐมนตรี นาย
พิธา มองว่าไม่ได้เดินเกมผิด เพราะตั้งใจที่จะทำงานให้รุกได้ ถอยเป็น และสามารถจัดตั้งรัฐบาลให้ได้ ซึ่งแน่นอนว่า ต้องมีบริบทที่เปลี่ยนแปลงไป แต่ก็ไม่ได้เกินกว่าที่คาดคิดไว้ เพราะฉะนั้นก็ยังจะเดินหน้าทำงานต่อไป.
บก.ลายจุด เปิดแผนม็อบแปรอักษร ‘ค.’ สื่อความหมาย ‘คิดสิคิด’
https://www.matichon.co.th/politics/news_4094434
บก.ลายจุด เปิดแผนม็อบแปรอักษร ‘ค.’ สื่อความหมาย ‘คิดสิคิด’
เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม นาย
สมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด นักกิจกรรมทางการเมือง โพสต์เฟซบุ๊ก
สมบัติ บุญงามอนงค์ เป็นภาพการแปรอักษร ค. บนถนน พร้อมระบุว่า
“ทีมงานแปรอักษรส่งภาพนี้มาครับ”
“จริงๆ แล้วข้อความมันยาวกว่านี้ แต่ติดเรื่องขนาดพื้นที่ถนนน่าจะไม่พอ จึงเหลืออักษร ค.เพียงตัวเดียว
ส่วนความหมายที่แท้จริงของ ค.คือ คิด คิดสิ คิดดีๆ คิดให้ออก คุณคิดว่าอำนาจสูงสุดของประเทศนี้เป็นของใคร คิดนะคิด”
“เริ่มแปรอักษรตั้งแต่ 17.00 น”
ทั้งนี้ นาย
สมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด ได้นัดหมายชุมนุมใหญ่ที่แยกอโศกมนตรี ถนนสุขุมวิท ในวันนี้ เริ่มตั้งแต่เวลา 17.00 น. ไปจนถึงเวลา 21.00 น. ซึ่งจะมีการจัดกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ที่หลากหลาย
โดยก่อนหน้านี้ 1 วัน นาย
สมบัติได้เดินทางมาแจ้งการชุมนุมสาธารณะเป็นไปตามกฎหมายกับ พ.ต.ต.
สุทธิพงษ์ แป้นจันทร์ สว.สส.สน.ทองหล่อ รวมทั้งได้เข้าหารือกับ พ.ต.อ.
พันษา อมราพิทักษ์ ผกก.สน.ทองหล่อ เพื่อพูดคุยถึงแผนการจัดกิจกรรมชุมนุม #พร้อมเวลา 17.00 น.
https://www.facebook.com/nuling/posts/6973482502664068?ref=embed_post
JJNY : ย้อนวาทะ ‘สุจินดา’│"พิธา" เชื่อ "เพื่อไทย" ยังจับมือ 8 พรรค│บก.ลายจุด เปิดแผนม็อบแปรอักษร│อินเดียปัดข้อเสนอ BYD
https://www.matichon.co.th/politics/news_4094371
‘วันชัย ตัน’ ย้อนที่มา ‘พฤษภาทมิฬ 35’ ที่ ‘สุจินดา’ ผิดคำพูด ชวนจับตาพรรคหนึ่ง ปวศ.จะย้อนรอยเดิมหรือไม่
เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวันชัย ตันติวิทยาพิทักษ์ หรือ วันชัย ตัน นักเขียนรางวัลศรีบูรพา พ.ศ.2554 และอดีตผู้อำนวยการฝ่ายข่าว พีพีทีวี โพสต์เฟซบุ๊กเมื่อวาน ระบุว่า
เสียสัตย์เพื่อชาติ
“ผมจำเป็นต้องเสียสัตย์ที่เคยกล่าวไว้ว่า ‘จะไม่รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี’ เพราะฉะนั้นเมื่อเกิดความจำเป็นที่เราจะต้องทำงานเพื่อประเทศชาติ การเสียชื่อเสียง เสียสัจจะวาจาก็อาจจะเป็นความจำเป็น…”
พล.อ.สุจินดา คราประยูร อดีตนายกรัฐมนตรีกล่าวถึงสาเหตุที่จำเป็นต้องยอมผิดคำพูดจนนำไปสู่การประท้วงรัฐบาลครั้งใหญ่ก่อนลงเอยด้วยการเสียเลือดเสียเนื้อของประชาชน จนถูกขนานนามเหตุการณ์ดังกล่าวว่า “พฤษภาทมิฬ” 2535
มาดูสิว่า พรรคการเมืองหนึ่งประกาศชัดเจนก่อนเลือกตั้งว่าจะไม่จับมือกับพรรคการเมืองที่ร่วมรัฐบาลเผด็จการ แต่กำลังจะจูบปากกันตั้งรัฐบาล ประวัติศาสตร์จะย้อนรอยเดิมหรือไม่ อีกไม่นานเกินรอ
https://www.facebook.com/vanchai.tantivitayapitak/posts/pfbid04agx4zszt5Mn1rA3dRjqn2xfpyin1qkUAJFTTTrv39HLcKfZoWvts4Ca43BS2bN2l
"พิธา" เชื่อ "เพื่อไทย" ยังจับมือ 8 พรรค "ก้าวไกล" ไม่จับ พรรคทหารจำแลง
https://www.thairath.co.th/news/politic/2711751
"พิธา" เชื่อ "เพื่อไทย" ยังจับมือ 8 พรรค แน่น ยังไม่สรุป จับมือพรรคอื่นเพิ่ม ขอรักษาสัจจะกับประชาชน ยัน "ก้าวไกล" ไม่จับมือกับพรรคทหารจำแลง รับ หากมีการเชิญมาจริง "ก้าวไกล" ก็อยู่ด้วยไม่ได้
วันที่ 23 ก.ค. 2566 นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ลงพื้นที่ขอบคุณประชาชน อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี พร้อมให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนบอกว่า ตอนนี้กำลังใจยังดีอยู่ ยังตั้งใจที่จะทำงานต่อและลงพื้นที่ช่วย ส.ส. ใช้เวลาให้เป็นประโยชน์ เป็นโค้ชให้แต่ละพื้นที่ เพราะเรามีความรู้ และสามารถที่จะทำงานต่อได้
ส่วนประเด็นที่หลายฝ่ายพยายามจะให้พรรคก้าวไกลเสียสละ มองว่า ตอนนี้เรื่องสำคัญคือสัจจะ ไม่ใช่การเสียสละ ถ้าเรารักษาสัจจะที่ให้ไว้กับประชาชน ก็ไม่มีใครต้องเสียสละ เพราะเป็นไปตามกฎกติกาที่มีอยู่ตามครรลองการเมืองที่เป็นปกติ แต่ถ้าบอกว่าให้เสียสละ ก็เหมือนกับว่าเอาคะแนน 14 ล้านเสียง ไปเทกระจาด ทำให้ประชาชนผิดหวัง ซึ่งตอนนี้ต้องยึดสัจจะและหลักการให้มั่น มากกว่าการที่จะมาบอกว่าใครควรที่จะต้องเสียสละ
ส่วนที่ตอนนี้พรรคเพื่อไทย มีการเชิญพรรคพลังประชารัฐและรวมไทยสร้างชาติ มาหารือกัน ถือว่าเป็นการทำตามมติ 8 พรรคร่วมที่ได้คุยกันไว้หรือไม่ นายพิธา บอกว่า ตอนนี้ต้องรอพรรคเพื่อไทยกลับมาพูดคุยกับ 8 พรรคร่วมอย่างเป็นทางการก่อน ซึ่งเมื่อวานนี้ลงพื้นที่ทั้งวัน ยังไม่ได้ติดตามข่าว แต่เท่าที่ทราบมาเป็นเพียงการเชิญแต่ละพรรคไปแลกเปลี่ยนความเห็นกัน ต้องรอให้พรรคเพื่อไทยชี้แจงอีกครั้ง ส่วนตอนนี้ขอรอพรรคเพื่อไทยอย่างเดียว และไม่ขอตัดสินใจผ่านหน้าข่าวหรือตัดสินใจโดยไม่ได้ฟังจากปากของคนที่อยู่ใน 8 พรรคร่วม ยืนยันว่า ยังเชื่อใจและเชื่อมั่นพรรคเพื่อไทยเหมือนเดิม
ส่วนการพูดคุยกับพรรคพลังประชารัฐและรวมไทยสร้างชาติ จะเป็นเงื่อนไขที่ทำให้มองว่า พรรคก้าวไกลถูกผลักออกจากพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่นั้น ตอนนี้ยังเป็นการพูดคุย แต่ถ้ามีการเชิญเข้ามาร่วมรัฐบาลจริงๆ ยืนยันว่า พรรคก้าวไกลอยู่ด้วยไม่ได้
“ณ เช้าวันอาทิตย์แบบนี้ก็เป็นแค่การพูดคุย แต่ถ้าเป็นการเชื้อเชิญเข้ามาร่วมรัฐบาลจริงๆ ก้าวไกลอยู่ด้วยไม่ได้ในสมการนั้น ถ้าเกิดเชิญมาร่วมรัฐบาลจริงๆ ก็คือจะต้องไม่มีก้าวไกล แต่ ณ ปัจจุบันนี้พูดให้ชัด ผมเข้าใจว่ายังเป็นการเชิญมาเพื่อที่จะพูดคุยอยู่ ยังไม่มีการเชิญร่วมรัฐบาล เพราะฉะนั้นตรงนี้ต้องรอฟังจากทางพรรคเพื่อไทยก่อนว่ามตกลงแล้วมันยังไงกันแน่ แล้วผมก็จะฟังจากปากของพรรคเพื่อไทย ไม่ได้ตัดสินใจตามหน้าข่าวหรือการฟังการสัมภาษณ์เพียงสั้นๆ แต่ต้องฟังเหตุและผลยาวๆ”
ส่วนเรื่องการถอยมาตรา 112 หากที่ประชุม 8 พรรคร่วมเห็นตรงกันจะถอยได้แค่ไหน นายพิธา บอกว่า ถ้าจะให้ถอย ต้องดูว่าจะให้ถอยด้วยเรื่องอะไรและเนื้อหาอะไร เพราะเหรียญมีสองด้าน ต้องดูว่ารายละเอียดที่ต้องการคืออะไร ไม่ใช่แค่หายไปแล้วจบ เพราะฉะนั้นตรงนี้ต้องฟังรายละเอียดและให้เกียรติพรรคเพื่อไทยว่า ที่ไปพูดคุยมานั้นคุยกันเรื่องไหนบ้าง ตรงตามที่ สว.เคยอภิปรายในสภาหรือไม่
ส่วนเมื่อวานนี้ที่พรรคเพื่อไทย เชิญพรรคภูมิใจไทย พรรคชาติพัฒนากล้า และพรรครวมไทยสร้างชาติ หารือด้วย ซึ่งทั้ง 3 พรรคเห็นตรงกันว่า การมีพรรคก้าวไกลอยู่ถือเป็นอุปสรรคในการจัดตั้งรัฐบาล มองว่าถูกบีบหรือไม่ ตรงนี้ไม่ได้รู้สึกอะไร เพราะถ้า 8 พรรคจับมือกันให้แน่น ใครก็มาบีบไม่ได้ และถ้าเราหนักแน่นและยังยืนยันในหลักการ ก็จะทำให้คนเข้ามาร่วมได้มากขึ้นโดยใช้เหตุผล หลักการ และใช้ความต้องการของประชาชนเป็นหลัก และตอนนี้ยังเชื่อใจพรรคเพื่อไทยว่า จะพยายามเต็มที่และใช้ทุกวิถีทางจัดตั้งรัฐบาลให้ได้
ส่วนเรื่องคดีที่ถูกร้องตอนนี้ ฝ่ายกฎหมายกำลังทำงานอยู่ ต้องให้เวลา และยืนยันในความบริสุทธิ์ว่า ทั้ง 2 คดีไม่น่ามีปัญหาอะไร เมื่อถามว่า พรรคก้าวไกลเดินเกมผิดหรือไม่ ที่ทำให้เสียทั้งประธานสภา และเก้าอี้นายกรัฐมนตรี นายพิธา มองว่าไม่ได้เดินเกมผิด เพราะตั้งใจที่จะทำงานให้รุกได้ ถอยเป็น และสามารถจัดตั้งรัฐบาลให้ได้ ซึ่งแน่นอนว่า ต้องมีบริบทที่เปลี่ยนแปลงไป แต่ก็ไม่ได้เกินกว่าที่คาดคิดไว้ เพราะฉะนั้นก็ยังจะเดินหน้าทำงานต่อไป.
บก.ลายจุด เปิดแผนม็อบแปรอักษร ‘ค.’ สื่อความหมาย ‘คิดสิคิด’
https://www.matichon.co.th/politics/news_4094434
บก.ลายจุด เปิดแผนม็อบแปรอักษร ‘ค.’ สื่อความหมาย ‘คิดสิคิด’
เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม นายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด นักกิจกรรมทางการเมือง โพสต์เฟซบุ๊ก สมบัติ บุญงามอนงค์ เป็นภาพการแปรอักษร ค. บนถนน พร้อมระบุว่า
“ทีมงานแปรอักษรส่งภาพนี้มาครับ”
“จริงๆ แล้วข้อความมันยาวกว่านี้ แต่ติดเรื่องขนาดพื้นที่ถนนน่าจะไม่พอ จึงเหลืออักษร ค.เพียงตัวเดียว
ส่วนความหมายที่แท้จริงของ ค.คือ คิด คิดสิ คิดดีๆ คิดให้ออก คุณคิดว่าอำนาจสูงสุดของประเทศนี้เป็นของใคร คิดนะคิด”
“เริ่มแปรอักษรตั้งแต่ 17.00 น”
ทั้งนี้ นายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด ได้นัดหมายชุมนุมใหญ่ที่แยกอโศกมนตรี ถนนสุขุมวิท ในวันนี้ เริ่มตั้งแต่เวลา 17.00 น. ไปจนถึงเวลา 21.00 น. ซึ่งจะมีการจัดกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ที่หลากหลาย
โดยก่อนหน้านี้ 1 วัน นายสมบัติได้เดินทางมาแจ้งการชุมนุมสาธารณะเป็นไปตามกฎหมายกับ พ.ต.ต.สุทธิพงษ์ แป้นจันทร์ สว.สส.สน.ทองหล่อ รวมทั้งได้เข้าหารือกับ พ.ต.อ.พันษา อมราพิทักษ์ ผกก.สน.ทองหล่อ เพื่อพูดคุยถึงแผนการจัดกิจกรรมชุมนุม #พร้อมเวลา 17.00 น.
https://www.facebook.com/nuling/posts/6973482502664068?ref=embed_post