เรือดำน้ำไทยในอดีต เมื่อวันที่ 4 ก.ย.2480 บริษัท มิตซูบิชิ แห่งเมืองโกเบ ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นบริษัทคู่สัญญาการว่าจ้างต่อเรือดำน้ำจำนวน 4 ลำ ให้กับกองทัพเรือ ได้สร้างเรือดำน้ำ 2 ลำแรก เสร็จสมบูรณ์ ได้แก่ เรือหลวงมัจฉาณุ และ เรือหลวงวิรุณ ได้ทำพิธีส่งมอบเรือดำน้ำทั้ง 2 ลำ ให้แก่กองทัพเรือ นับว่าเป็นวันสำคัญยิ่งอีกวันหนึ่งในประวัติศาสตร์กองทัพเรือ และต่อมาวันที่ 25 พ.ค.2481 บริษัทฯ สร้างเรือดำน้ำอีก 2 ลำ คือ เรือหลวงสินสมุทร และเรือหลวงพลายชุมพลเสร็จสมบูรณ์ เรือดำน้ำทั้ง 4 ลำได้ออกเดินทางจากประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 5 มิ.ย.2481 และเดินทางถึงประเทศไทย เมื่อวันที่ 29 มิ.ย.2481 ตามลำพังโดยปราศจากเรือพี่เลี้ยง ซึ่งยังความประหลาดใจแก่ชาวญี่ปุ่นและชาวอเมริกันเป็นอันมาก เพราะเรือดำน้ำขนาดเล็กเช่นนี้ต่างประเทศย่อมมีเรือพี่เลี้ยงทั้งสิ้น นี้เป็นสัญลักษณ์แสดงถึงความกล้าหาญและความสามารถของกำลังพลประจำเรือดำน้ำของกองทัพเรือ และเข้าประจำการเมื่อวันที่ 19 ก.ค.2481 ได้ออกปฏิบัติการในสงครามอินโดจีนกับฝรั่งเศส และสงครามโลกครั้งที่สอง ซึ่งเรือดำน้ำทั้ง 4 ลำ ได้รับใช้ราชการในกองทัพเรือเป็นเวลากว่า 14 ปีเต็ม ผบ.หมวดเรือดำน้ำคนแรกในประวัติศาสตร์สยาม คือ พล.ร.ต.กนก นพคุณ พ.ศ.2478 รัฐบาลมีนโยบายปรับปรุงกองทัพเรือ จึงได้สั่งต่อเรือดำน้ำรักษาฝั่งขนาดเล็กจำนวน 4 ลำจากบริษัทอู่ต่อเรือมิตซูบิชิ เมืองโกเบ ประเทศญี่ปุ่น ร.อ.กนก ยศขณะนั้น เป็นนายทหารที่ได้รับคัดเลือกกลุ่มแรก เพื่อเดินทางไปศึกษาการใช้เรือดำน้ำในความควบคุมของ น.อ.สวัสดิ์ จันทนี ซึ่งต่อมา น.อ.สวัสดิ์ ซึ่งป่วยจำเป็นต้องเดินทางกลับก่อน ร.อ.กนก ซึ่งอาวุโสรองลงมาจึงได้เลื่อนเป็นหัวหน้าทหารทั้งหมดที่ไปศึกษาการใช้เรือ ทหารเรือสยามต้องไปเรียนภาษาญี่ปุ่นที่เมืองฟูนาบาชิ 4 เดือน แล้วค่อยย้ายมาเรียนวิชาเรือดำน้ำที่เมืองโกเบ โดยพักอยู่รวมกันที่อาคาร 2 ชั้นบริเวณของอู่ต่อเรือมิตซูบิชิ มีอาจารย์ผู้ปกครองชื่อ น.อ.สุเกโยชิ ยัตสุชิโร และอาจารย์ที่สอนวิชาเรือดำน้ำชื่อ น.ท.โกโตฯ และ น.ท.มูรัตสุมิ
เรือหลวงสินสมุทร HTMS Sinsamut เป็นเรือดำน้ำประเภทเรือดำน้ำรักษาฝั่งขนาดเล็ก ระวางขับน้ำต่ำกว่า 500 ตัน ประกอบขึ้นที่อู่ต่อเรือบริษัทมิตซูบิชิ โกเบ ประเทศญี่ปุ่น มีความยาว 51 เมตร กว้าง 4.1 เมตร มีระวางขับน้ำขณะดำ 430 ตัน เข้าประจำการเมื่อเดือนกรกฎาคม 2481 และปลดประจำการเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2494
เรือหลวงมัจฉาณุ HTMS Matchanu เป็นเรือดำน้ำประเภทเรือดำน้ำรักษาฝั่งขนาดเล็ก มีความยาว 51 เมตร กว้าง 4.1 เมตร จุลูกเรือได้ทั้งหมด 33 นาย เรือลำนี้เข้าประจำการและปลดระวางพร้อมกันกับเรือหลวงสินสมุทร เรือหลวงพลายชุมพล
HTMS Phlai-chumphon เป็นประเภทเรือดำน้ำรักษาฝั่งขนาดเล็ก ระวางขับน้ำต่ำกว่า 500 ตัน ประกอบขึ้นที่อู่ต่อเรือบริษัท มิตซูบิชิ เมืองโกเบ ประเทศญี่ปุ่น พร้อมกันจำนวน 4 ลำ พร้อมกับ เรือหลวงมัจฉานุ เรือหลวงวิรุณ และเรือหลวงสินสมุทร โดยเรือหลวงพลายชุมพล ประกอบขึ้นพร้อมกับเรือหลวงสินสมุทร แต่มีรูปแบบแตกต่างกัน เรือหลวงวิรุณ
HTMS Wirun เรือหลวงวิรุณ ประกอบขึ้นพร้อมกับเรือหลวงมัจฉาณุ แล้วเสร็จสมบูรณ์เมื่อวันที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2480 ทางบริษัทมิตซูบิชิได้จัดพิธีส่งมอบให้เป็นกรรมสิทธิของกองทัพเรือไทย และนำลูกเรือเข้าประจำเรือ
ผบ.หมวดเรือดำน้ำคนแรกในประวัติศาสตร์สยาม และความเป็นมาเรือดำน้ำไทยในอดีต
เรือหลวงสินสมุทร HTMS Sinsamut เป็นเรือดำน้ำประเภทเรือดำน้ำรักษาฝั่งขนาดเล็ก ระวางขับน้ำต่ำกว่า 500 ตัน ประกอบขึ้นที่อู่ต่อเรือบริษัทมิตซูบิชิ โกเบ ประเทศญี่ปุ่น มีความยาว 51 เมตร กว้าง 4.1 เมตร มีระวางขับน้ำขณะดำ 430 ตัน เข้าประจำการเมื่อเดือนกรกฎาคม 2481 และปลดประจำการเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2494
เรือหลวงมัจฉาณุ HTMS Matchanu เป็นเรือดำน้ำประเภทเรือดำน้ำรักษาฝั่งขนาดเล็ก มีความยาว 51 เมตร กว้าง 4.1 เมตร จุลูกเรือได้ทั้งหมด 33 นาย เรือลำนี้เข้าประจำการและปลดระวางพร้อมกันกับเรือหลวงสินสมุทร เรือหลวงพลายชุมพล
HTMS Phlai-chumphon เป็นประเภทเรือดำน้ำรักษาฝั่งขนาดเล็ก ระวางขับน้ำต่ำกว่า 500 ตัน ประกอบขึ้นที่อู่ต่อเรือบริษัท มิตซูบิชิ เมืองโกเบ ประเทศญี่ปุ่น พร้อมกันจำนวน 4 ลำ พร้อมกับ เรือหลวงมัจฉานุ เรือหลวงวิรุณ และเรือหลวงสินสมุทร โดยเรือหลวงพลายชุมพล ประกอบขึ้นพร้อมกับเรือหลวงสินสมุทร แต่มีรูปแบบแตกต่างกัน เรือหลวงวิรุณ
HTMS Wirun เรือหลวงวิรุณ ประกอบขึ้นพร้อมกับเรือหลวงมัจฉาณุ แล้วเสร็จสมบูรณ์เมื่อวันที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2480 ทางบริษัทมิตซูบิชิได้จัดพิธีส่งมอบให้เป็นกรรมสิทธิของกองทัพเรือไทย และนำลูกเรือเข้าประจำเรือ