เซทซึโกะ คาวาชิมะ (ชิโนบุ เทราจิมะ) สาวโสดวัย 40 ปีทำงานออฟฟิศที่ดูเหมือนจะติดอยู่กับชีวิตที่ไร้ความหมายในโตเกียว
วันหนึ่งมิกะหลานสาวของเธอติดต่อมา โดยมิกะขอร้องให้เซทซึโกะ ไปเข้าคลาสเรียนภาษาอังกฤษแทนตัวเธอเป็นเวลา 1 ปี
เหตุเพราะเธอสมัครไว้แต่ไม่มีเงินที่จะส่งเรียนได้ต่อ....เซทซึโกะ ยอมไปเรียนอย่างเสียไม่ได้
ที่นั่น เซทซึโกะ พบกับ จอห์น (จอช ฮาร์ทเน็ทท์) ครูสอนภาษาอังกฤษ และเขาก็ได้สร้างตัวตนใหม่ให้เธอในชื่อแบบอเมริกันว่า ‘ลูซี่’
และสวมวิกผมสีบลอนด์สดใสเพื่อที่เธอจะได้มีบุคลิกแบบอเมริกัน ...ด้วยความที่เป็นคนมีอัธยาศัยดีของจอห์น
ทำให้เซ็ตสึโกะหลงใหลในตัวครูสอนภาษาอย่างรวดเร็ว และตัดสินใจเข้าเรียนต่อในทันที
แต่แล้วเมื่อเธอเข้าคลาสสอนในวันรุ่งขึ้น ปรากฏว่า จอห์นลาออกอย่างกะทันหันเพื่อกลับไปอเมริกา
และที่ทำให้เธอเจ็บมากไปกว่านั้นก็คือ มิกะหลานสาวของเธอไปกับจอห์นอีกด้วย...
เซทซึโกะเลยตัดสินใจแน่วแน่ว่า เธอจะตัดสินใจตามตัวหลานสาวของเธอกลับมา
และเป้าหมายหลักที่แท้จริงก็คือตามหาความรักที่บินหายไปนั่นก็คือ จอห์น....
Oh Lucy! เป็นผลงานกำกับและเขียนบทโดย Atsuko Hirayanagi ที่สร้างจากหนังสั้นชื่อเดียวกันของเธอในปี 2014
เป็นหนังดราม่าชีวิตของคนขี้เหงาในมหานครที่วุ่นวายอย่างโตเกียว เมื่อสาวโสดเกิดหลงรักครูสอนภาษาอังกฤษของเธอ
และตัดสินใจตามเขาไปที่ลอสแองเจลิสเมื่อเขาหายตัวไป
หนังเรื่องนี้ได้จอช ฮาร์ทเน็ทท์ (จาก Operation Fortune: Ruse de Guerre) รับบทครูสอนภาษาเสน่ห์แรง
มามัดใจสาวญี่ปุ่นอย่าง ชิโนบุ เทราจิมะ (จาก Tokyo Tower) จนถอนตัวไม่ขึ้น..
ซึ่งนอกจากคู่นี้แล้ว ในหนังยังมีเส้นเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างพี่กับน้อง และแม่กับลูกให้เราได้ชมกันอีกด้วย..
ซึ่งสายใยทั้งหมดถูกผูกเอาไว้ด้วยปมซึ่งผิดพลาดกันมาตั้งแต่ต้น
พอถึงเวลาที่ต้องคลายมันออกมา สุดท้ายก็จะยุ่งเหยิงและแก้ไม่ได้ง่ายๆ...
เซทซึโกะ เป็นผู้หญิงที่น่าสงสาร เพราะเธอเฝ้ารอความรักมาตลอด พอใกล้จะสมหวังก็ถูกแย่งไปจากคนใกล้ตัวทั้งสิ้น (ทั้งในอดีตและปัจจุบัน)
เธอเลยตัดสินใจอยู่ในโลกใบนี้อย่างไม่รู้สึกรู้สา และพอเธอพบกับความหวังครั้งใหม่ทุกอย่างก็วนกลับมาเป็นเหมือนเดิมอีกครั้ง ...
แต่แม้จะต้องเจ็บอีกสักกี่หน สุดท้ายแล้วมนุษย์เราก็ยังต้องการความรักอยู่ดี...
=== ทิ้งท้ายครับ หนังที่ดีสำหรับตัวเรา แน่นอนว่าอาจจะไม่ได้ดีและไม่ได้ถูกใจสำหรับใคร
ซึ่งอยู่ที่ความชอบของแต่ละบุคคล ภาพยนตร์ก็เหมือนอาหารล่ะครับ อยู่ที่เราเลือกที่จะอยากชิมรสชาติแบบไหนเท่านั้นเอง ===
== Oh Lucy! (2017) พลิกฟ้า..ตามหารัก.. ==
เซทซึโกะ คาวาชิมะ (ชิโนบุ เทราจิมะ) สาวโสดวัย 40 ปีทำงานออฟฟิศที่ดูเหมือนจะติดอยู่กับชีวิตที่ไร้ความหมายในโตเกียว
วันหนึ่งมิกะหลานสาวของเธอติดต่อมา โดยมิกะขอร้องให้เซทซึโกะ ไปเข้าคลาสเรียนภาษาอังกฤษแทนตัวเธอเป็นเวลา 1 ปี
เหตุเพราะเธอสมัครไว้แต่ไม่มีเงินที่จะส่งเรียนได้ต่อ....เซทซึโกะ ยอมไปเรียนอย่างเสียไม่ได้
ที่นั่น เซทซึโกะ พบกับ จอห์น (จอช ฮาร์ทเน็ทท์) ครูสอนภาษาอังกฤษ และเขาก็ได้สร้างตัวตนใหม่ให้เธอในชื่อแบบอเมริกันว่า ‘ลูซี่’
และสวมวิกผมสีบลอนด์สดใสเพื่อที่เธอจะได้มีบุคลิกแบบอเมริกัน ...ด้วยความที่เป็นคนมีอัธยาศัยดีของจอห์น
ทำให้เซ็ตสึโกะหลงใหลในตัวครูสอนภาษาอย่างรวดเร็ว และตัดสินใจเข้าเรียนต่อในทันที
แต่แล้วเมื่อเธอเข้าคลาสสอนในวันรุ่งขึ้น ปรากฏว่า จอห์นลาออกอย่างกะทันหันเพื่อกลับไปอเมริกา
และที่ทำให้เธอเจ็บมากไปกว่านั้นก็คือ มิกะหลานสาวของเธอไปกับจอห์นอีกด้วย...
เซทซึโกะเลยตัดสินใจแน่วแน่ว่า เธอจะตัดสินใจตามตัวหลานสาวของเธอกลับมา
และเป้าหมายหลักที่แท้จริงก็คือตามหาความรักที่บินหายไปนั่นก็คือ จอห์น....
Oh Lucy! เป็นผลงานกำกับและเขียนบทโดย Atsuko Hirayanagi ที่สร้างจากหนังสั้นชื่อเดียวกันของเธอในปี 2014
เป็นหนังดราม่าชีวิตของคนขี้เหงาในมหานครที่วุ่นวายอย่างโตเกียว เมื่อสาวโสดเกิดหลงรักครูสอนภาษาอังกฤษของเธอ
และตัดสินใจตามเขาไปที่ลอสแองเจลิสเมื่อเขาหายตัวไป
หนังเรื่องนี้ได้จอช ฮาร์ทเน็ทท์ (จาก Operation Fortune: Ruse de Guerre) รับบทครูสอนภาษาเสน่ห์แรง
มามัดใจสาวญี่ปุ่นอย่าง ชิโนบุ เทราจิมะ (จาก Tokyo Tower) จนถอนตัวไม่ขึ้น..
ซึ่งนอกจากคู่นี้แล้ว ในหนังยังมีเส้นเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างพี่กับน้อง และแม่กับลูกให้เราได้ชมกันอีกด้วย..
ซึ่งสายใยทั้งหมดถูกผูกเอาไว้ด้วยปมซึ่งผิดพลาดกันมาตั้งแต่ต้น
พอถึงเวลาที่ต้องคลายมันออกมา สุดท้ายก็จะยุ่งเหยิงและแก้ไม่ได้ง่ายๆ...
เซทซึโกะ เป็นผู้หญิงที่น่าสงสาร เพราะเธอเฝ้ารอความรักมาตลอด พอใกล้จะสมหวังก็ถูกแย่งไปจากคนใกล้ตัวทั้งสิ้น (ทั้งในอดีตและปัจจุบัน)
เธอเลยตัดสินใจอยู่ในโลกใบนี้อย่างไม่รู้สึกรู้สา และพอเธอพบกับความหวังครั้งใหม่ทุกอย่างก็วนกลับมาเป็นเหมือนเดิมอีกครั้ง ...
แต่แม้จะต้องเจ็บอีกสักกี่หน สุดท้ายแล้วมนุษย์เราก็ยังต้องการความรักอยู่ดี...
=== ทิ้งท้ายครับ หนังที่ดีสำหรับตัวเรา แน่นอนว่าอาจจะไม่ได้ดีและไม่ได้ถูกใจสำหรับใคร
ซึ่งอยู่ที่ความชอบของแต่ละบุคคล ภาพยนตร์ก็เหมือนอาหารล่ะครับ อยู่ที่เราเลือกที่จะอยากชิมรสชาติแบบไหนเท่านั้นเอง ===