ทอลองขับ BYD Dolphin std range ในมุมคนใช้ Atto3

กระทู้สนทนา
เกริ่นนำ
ใช้ BYD atto3 มาเกือบ 7 เดือน 12,000 km และมีรถน้ำมันในบ้านอีก 3 คัน
พอดีญาติถึงรอบเปลี่ยนรถ เลยมาขอความเห็นว่า BYD Dolphin น่าใช้มั้ย ก่อนให้ความเห็นผมเลยไปลองขับดู
เนื่องจากศูนย์มีแค่ตัว std range ให้ลอง ดังนั้นกระทู้นี้จะบอกข้อดี ข้อเสียของตัวนี้ เทียบกับ BYD atto3
แต่จะให้แฟร์ เหมือนคนขับ altis รุ่นท๊อป มาทดลองขับ Yaris รุ่นเริ่มต้น ราคาค่าตัวก็ต่างกันมาก
ดังนั้น อันไหนที่ผมคิดว่าคุ้มค่าตัว 7 แสน ผมใส่ในข้อดีนะครับ

ความรู้สึกขณะทดลองขับ
โดยรวมๆถือว่าทำได้ดี เทียบกับค่าตัว 7 แสน แน่นอนด้วยกำลังของรถมันสู้ atto3 ไม่ได้
ถ้าใช้ในเมืองเป็นหลัก ด้วยแรงบิดที่ให้มา เร่งแซงได้สบายไม่แพ้รถน้ำมันขนาด 1800cc ขับให้สนุกก็พอได้ในระดับหนึ่ง
แต่เนื่องจากรถ set มาออกแนวขับสบายๆ ช่วงล่างนุ่มแน่น ดังนั้นสายซิ่ง สายมุด ไปมองตัวอื่นดีกว่า
ส่วนใครชอบความคุ้มค่า อยากลองใช้ ev ระดับเริ่มต้น ที่ให้ option มาเต็มๆ ตัวนี้ถือว่าตอบโจทย์

ข้อดี
- ความประหยัดพลังงาน ด้วยตัวรถที่น้ำหนักเบากว่า Dolphin extended range อยู่ประมาณ 150 kg (และแน่นอนว่าเบากว่า atto3) รวมไปถึง motor ที่กำลังน้อยกว่า ดังนั้นใครขับในเมืองเน้นความประหยัด ต้องตัวนี้เลย
- ช่วงล่าง ถือว่าทำได้ดีทีเดียว ตอนแรกดู spec เห็นเป็น ทอชั่นบีม นึกว่าจะแย่กว่านี้ แต่พอขับจริง ในการใช้งานบางอย่าง ผมชอบกว่า atto3 ด้วยซ้ำ เช่นการขับผ่านหลังเต่า ขับขึ้นลงสะพานคอชันๆ หรือขับผ่านทางรถไฟ คือผมว่า atto3 มันนิ่มและย้วยไปหน่อย แต่ก็ต้องยอมรับว่าอย่างไรเสีย ช่วงล่าง multi link มันก็ดีกว่าในภาพรวมอยู่แล้ว เอาเป็นว่าช่วงล่าง BYD dolphin std range สอบผ่านในระดับค่อนข้างดีละกัน
- ระบบความปลอดภัยจัดมาเต็มตั้งแต่รุ่นล่างสุด กล้อง 360 องศา, adaptive cruise control, blind spot, sensor รอบคัน, ฯลฯ เรียกว่าแทบไม่น้อยหน้ากว่า atto3 เลย
- ขนาดห้องโดยสารกว้างขวาง คือถ้าเทียบใน b segement ผมว่าตัวนี้กินขาด head room, leg room เหลือๆ คนสูง 180 cm ก็นั่งได้สบายทั้งหน้าและหลัง เอาเป็นว่าขนาดภายในห้องโดยสารแทบจะไปเทียบกับ c segement บางตัวได้ด้วยซ้ำ
- งานประกอบ วัสดุ และ design ภายในห้องโดยสาร ถือว่าให้มาได้ดีในระดับราคานี้ แม้ว่าหลายอย่างจะสู้ atto3 ไม่ได้ เช่น เครื่องเสียง ความคมชัดของหน้าจอกลาง แต่ก็พอมองข้ามได้

ข้อเสีย
- อัตราเร่ง แน่นอนว่าถ้าใครชอบแรง ไปมองตัวอื่น แต่ถ้าถามว่าอืดมั้ย ตอบว่าไม่อืด เพียงพอกับการใช้งานทั่วไปเหลือๆ ในมุมคนเริ่มขับรถ หรือขับยังไม่แข็งมาก นี่อาจเป็นข้อดีซะด้วยซ้ำ เหยียบแล้วไม่พุ่งปรี๊ด แต่ถ้ากดเร่งแซง ก็มาเรื่อยๆ
- ฟังก์ชั่น รักษารถในเลน มัน sensitive ไป ขับแล้วน่ารำคาญ ต้องอธิบายเพิ่มเติมว่า ใน atto3 ก็มีนะครับ ผมใช้อยู่ แค่อัลกอริทึมมันดีกว่า มีเตือน มีดึงพวงมาลัยกลับ เป็นปกติ แต่ใช้แล้วผมโอเคกว่า Dolphin มากๆ ข้อนี้เรียกร้องหนักๆไปทาง BYD เลยว่าควรปรับปรุง ผมเชื่อว่านี่เป็นเรื่อง software ที่น่าจะแก้ไขได้ แต่ถ้าเป็นเหมือนรถทดลองขับ ผมปิดฟังก์ชั่นนี้แน่นอน
- เสียงสังเคราะห์ในช่วงความเร็วต่ำ เสียงมันฟรุ้งฟริ้งไปนิด ใครจะไปทดลองขับ ก็อย่าลืมลองฟังด้วยว่าถูกจริตมั้ย แต่ผมไม่ค่อยชอบ
- ไม่มีแอร์หลัง อันนี้ผมไม่แน่ใจว่าเทียบกับพวก city car รุ่นอื่นในระดับราคาเดียวกันเป็นอย่างไร แต่เมืองไทยอากาศร้อน มีแอร์หลังย่อมดีกว่าไม่มี
- เบาะนั่งคู่หน้า ประตูท้าย ไม่ใช่ไฟฟ้า อันนี้พอเข้าใจได้ว่าด้วยระดับราคา มันก็ได้แค่แบบ manual
- ขนาดแบตเตอรี่ ที่เล็กกว่า ใครชอบออก ตจว ไปมอง extended range เลยดีกว่า

อื่นๆ ก็อยู่ที่ชอบไม่ชอบ เช่น หน้าตา รูปร่าง ภายนอก ภายใน หลังคาธรรมดาไม่มี sunroof ล้อขอบ 16 นิ้ว บางคนชอบ บางคนไม่ชอบ
การไม่แถม wall charger บางคนชอบที่สามารถไปเลือกรุ่นอื่นในท้องตลาดได้ บางคนไม่ชอบที่ต้องจ่ายเพิ่ม

รถคันนี้เหมาะกับใคร
- คนที่มีความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐาน เช่น บ้านติดตั้งที่ชาร์จได้ หรืออยู่คอนโดที่มีที่ชาร์จ
- เน้นขับในเมือง ปริมณฑล หรือออก ตจว.ที่ range การขับต่อวันไม่เกิน 300km
- แม่บ้านรับส่งลูก ที่ต้องจอดรอลูกในรถอยู่บ่อยๆ บอกเลยว่ามาใช้รถไฟฟ้าเถอะ อย่างน้อยอากาศรอบๆโรงเรียนลูกคุณจะมีมลพิษน้อยลง จอดรถติดแอร์กินไฟน้อยมากๆ
- คนที่ใช้ city car ถึงรอบเปลี่ยนรถพอดี อยากลองหันมาใช้ ev ระดับเริ่มต้น ไม่ได้มีงบประมาณมากนัก ไปลองตัวนี้เทียบกับ Neta V ดู ในมุมผมที่ขับรถมาหลากหลายพอสมควร ผมว่าเพิ่ม 1.5 แสนบาท อัพจาก Neta V มาเป็น Dolphin std range คุ้มกว่า การเพิ่ม 1.6 แสนบาท อัพจาก Dolphin std range ไปเป็น Dolphin extended range (ใครเห็นต่าง ถกกันด้วยเหตุผลได้นะครับ)

เพิ่มเติม
คนที่กังวลเรื่อง แบตแพง ประกันแพง ราคาขายต่อตกฮวบ แนะนำว่า ตัวนี้ยอดขายในจีนก็เยอะอยู่ ปี 2022 ขายเฉพาะรุ่นนี้ไปกว่า 2 แสนคัน และตัวนี้ใช้ e-platform 3.0 เช่นเดียวกับ atto3 ด้วยปริมาณรถในตลาด ที่ขายไปแล้วและกำลังขายในอนาคต จะมีไม่ต่ำกว่า 1 ล้านคัน เรียกว่าพวกเยอะ ไม่เหงาแน่นอน อะไรที่มันแพง เมื่อมี economy of scale ใหญ่พอ เดี๋ยวก็มีคนเสนอทางเลือกราคาถูกมาให้เอง ไม่ได้บอกว่าทุกอย่างจะสวยหรู แต่น่าจะไม่แย่มากเท่าที่หลายคนกังวล การได้รับเงินอุดหนุนจากรัฐบาลทำให้ค่าตัวเหลือ 7 แสน ก็ถือว่าลดความเสี่ยงและค่าใช้จ่ายให้คนตัดสินใจซื้อไปได้พอสมควรทีเดียว
ส่วนใครยังอยากรอเทคโนโลยี่ที่ดีกว่านี้ ก็ไม่ผิดครับ จะมีรถทยอยเปิดตัวมาเรื่อยๆ ส่วนใครยังไม่มีความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐาน ยังไม่ถึงรอบการเปลี่ยนรถ หรือยังไม่เปิดใจกับ ev ก็ใช้รถน้ำมัน/ hybrids ต่อไป ไม่ผิดแต่อย่างใด
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่