หลายๆคนคงรู้ดีว่าการเป็นแม่คนไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะการจะรับผิดชอบชีวิตใครสักคนมันต้องพร้อมจริงๆ วันนี้เลยอยากมาแชร์ประสบการณ์ของเราเรื่องลูกค่ะ เราเป็นคนนึงที่แต่งงานตอนที่รู้สึกว่าตัวเองพร้อมแล้ว มีเงินเก็บพอสมควรและมีหน้าที่การงานที่มั่นคง ปัจจุบันตอนนี้เราอายุ 42 ปี เรากับสามีอายุเท่ากัน คบกันตั้งแต่สมัยเรียนมหาลัย และตัดสินใจแต่งงานกันตอนอายุ 30 เราเป็นลูกคนเดียว สามีเลยต้องแต่งเข้าบ้าน ซึ่งตอนแต่งงาน 2 ปีแรก เราและสามีอยากมีลูกมาก แต่น้องก็ไม่ยอมมาสักที พยายามหาหมอ อยากมีด้วยวิธีธรรมชาติ จนเข้าปีที่ 2 ในที่สุดน้องก็ยอมมาเกิดด้วยแล้วค่ะ ทุกคนที่บ้านตื่นเต้นกันสุดๆ เพราะเป็นหลานคนแรกของทั้งฝั่งเราและบ้านสามี
ตั้งแต่รู้ว่ามีน้องการใช้ชีวิตเราก็เปลี่ยนไป รวมถึงสามีด้วย สามีเราเขาก็จู้จี้เป็นพิเศษ จากที่เมื่อก่อนจะกินอะไรก็ไม่เคยห้าม เดี๋ยวนี้ห้ามแทบจะทุกอย่าง บังคับให้กินแต่ของที่มีประโยชน์กับลูกในท้องให้ได้มากที่สุด เรื่องแอลกอฮอล์คือไม่แตะเลย ปกติจะเป็นสายชอบดื่ม สามีก็ยังมีไปสังสรรค์กับเพื่อนบ้างตามประสา แต่ก็ไม่ได้บ่อยเหมือนเคย
ถึงวันครบกำหนดคลอด หลังจากเจ็บท้องหลายวันแต่ปากมดลูกยังไม่เปิด เป็นอะไรที่ทรมานและรอคอยไปพร้อมๆกัน จนในที่สุดน้องก็ยอมออกมาด้วยวิธีธรรมชาติ ลูกสาวคนแรกของตระกูล🎉🎉
ประโยคที่บอกว่า “มีลูกแล้วจะรักพ่อแม่มากขึ้น “ นั่นคือเรื่องจริงที่เรารู้สึก ตั้งใจจะเลี้ยงเค้าให้ดีอย่างที่พ่อแม่เลี้ยงเรามาให้ได้ ซีนดราม่าเริ่มมา55555 นี่สินะ จุดเปลี่ยนชีวิตของจริง
เราทำงานเอกชน ลาคลอด 3 เดือน แล้วพ่อแม่เราช่วยเลี้ยงตอนที่เรากับสามีไปทำงาน ส่วนนมจะปั๊มไว้ให้ เพราะเราอยากให้ลูกกินนมแม่ ส่วนกลางคืนก็เอามานอนด้วยทุกวัน สามีเราเห่อลูกมาก ส่วนเราเองเวลาที่อยู่ออฟฟิศอยากรีบทำงานให้เสร็จแล้วกลับบ้านไปหาลูกทุกวันเลย
พอลูกเข้าวัยเรียน เราและสามีตัดสินใจให้ลูกเรียนเอกชน ก่อนไปทำงานก็จะไปส่งลูกก่อน ส่วนตอนมารับจะเป็นสามี เพราะเค้าเลิกงานเร็วกว่าเรา หรือถ้าวันไหนเลิกช้าจริงๆพ่อเราก็จะขับรถคันเก่าไปรับหลาน บ่นตลอดว่าตั้งแต่หลานไปรร.แล้วเหงา ตามประสาคนแก่ที่เกษียรแล้วอยู่แต่บ้าน
ลูกเราค่อนข้างแปลกคน เพราะชอบไปโรงเรียน ปกติเด็กส่วนใหญ่จะงอแง แต่นี่ไปถึงรีบวิ่งเข้ารร.เพราะอยากไปเล่นกับเพื่อน เห็นแบบนั้นแม่ก็เลิกกังวล จนช่วงน้องเรียน ป.3 กำลังจะ 9 ขวบ เราไปงานกิจกรรมกีฬาสีลูกที่โรงเรียน สังเกตว่าลูกตัวเล็กกว่าเด็กคนอื่นมาก อาจจะด้วยเรื่องของพันธุกรรมก็มีส่วน เพราะเราเป็นคนตัวเล็ก ส่วนฝั่งสามีก็มาตรฐานชายไทย ไม่เตี้ยไม่สูง
น้องไม่ชอบกินนมเลยค่ะ จะนมจืด นมหวาน คือบาย นางจะไม่แตะเลย ตอนแรกก็มีบังคับ มีหลอกล่อ แต่ก็ยากเย็นแสนเข็ญ กว่าจะยอมกินแต่ละรอบ เราเริ่มคิดหาวิธีว่าควรทำยังไงดี เพราะถ้าไม่เริ่มตอนเด็ก โตมาจะสูงยาก
ถามลูกว่าอยากตัวสูงเหมือนเพื่อนมั้ย นางก็บอกว่าอยากสูง แต่ไม่ชอบกินนมบอกมันไม่อร่อย เราบอกกับลูกว่า ถ้าอยากสูงต้องมีวินัย ก็เลยปรับิธีการใช้ชีวิตนิดหน่อย เช่น ให้ดูการ์ตูนในไอแพดถึง 2 ทุ่ม เท่านั้น และนอนก่อน 3 ทุ่ม ส่วนเรื่องอาหารการกินก็จะให้กินแต่อาหารที่มีประโยชน์ ครบ 5 หมู่ ทั้งพวก แป้ง โปรตีน คารโบไฮเดรต วิตามิน ผัก ผลไม้
เราทำอาหารให้ลูกกินเองทุกเช้า ส่วนแม่เราจะเป็นคนจ่ายตลาด เราก็จะจดเมนูให้แม่ว่ามีอะไรบ้าง
ด้วยความที่ลูกไม่กินนม แน่นอนว่าเรื่องนี้คนเป็นแม่อย่างเราจะไม่ปล่อยผ่านค่ะ คิดไอเดียได้ว่า ในเมื่อไม่ยอมกินนม ก็หา
แคลเซียมจากอย่างอื่นทดแทนก็ได้ เราจะให้ลูกกินแคลเซียมเสริมแบบแคปซูลแทน แต่เด็ก 9 ขวบ คงไม่ชอบกินยาเม็ดแน่ เราก็จะแกะเม็ดแคปซูล มาโรยกับอาหาร ให้ลูกกิน เช้า-เย็น ครั้งละเม็ดเลย
ปัจจุบันตอนนี้น้องอายุ 10 ขวบ อยู่ป.4 สังเกตเห็นว่าลูกเริ่มสูงทันเพื่อนแล้ว แทบจะสูงแซงเพื่อนบางคนอีกด้วย วัดส่วนสูงล่าสุด อยู่ที่ 145 แล้ว สูงขึ้นมา 13 ซ.ม. ภายใน 1 ปี อีกนิดก็น่าจะสูงทันแม่
อยากบอกทุกคนว่าการเลี้ยงลูกนั้น นอกจากครอบครัวที่อบอุ่น เรื่องอาหารการกินก็สำคัญ เรื่องอื่นเราไม่เคยบังคับลูก ไม่ว่าจะชอบเรียนวิชาไหน หรือกีฬาอะไร พร้อมซัพพอร์ต และปล่อยให้ลูกค้นหาตัวเอง อาจจะมีที่ปรับนิสัยเรื่องการกินการนอนหน่อย เพราะสุขภาพเป็นสิ่งสำคัญกับร่างกายที่สุดในการใช้ชีวิต สุดท้ายนี้ ลูกเราเลี้ยงได้แต่ตัว โตขึ้นจะเป็นยังไงให้เค้าเลือกเอง ที่ทำได้ตอนนี้คือดูแลเค้าให้ดีที่สุด “เพราะลูกไม่ได้ขอมาเกิด”
[CR] กลุ้มใจ! ลูกตัวเล็กเกินไป ปัญหาใหญ่ของแม่
ตั้งแต่รู้ว่ามีน้องการใช้ชีวิตเราก็เปลี่ยนไป รวมถึงสามีด้วย สามีเราเขาก็จู้จี้เป็นพิเศษ จากที่เมื่อก่อนจะกินอะไรก็ไม่เคยห้าม เดี๋ยวนี้ห้ามแทบจะทุกอย่าง บังคับให้กินแต่ของที่มีประโยชน์กับลูกในท้องให้ได้มากที่สุด เรื่องแอลกอฮอล์คือไม่แตะเลย ปกติจะเป็นสายชอบดื่ม สามีก็ยังมีไปสังสรรค์กับเพื่อนบ้างตามประสา แต่ก็ไม่ได้บ่อยเหมือนเคย
ถึงวันครบกำหนดคลอด หลังจากเจ็บท้องหลายวันแต่ปากมดลูกยังไม่เปิด เป็นอะไรที่ทรมานและรอคอยไปพร้อมๆกัน จนในที่สุดน้องก็ยอมออกมาด้วยวิธีธรรมชาติ ลูกสาวคนแรกของตระกูล🎉🎉
ประโยคที่บอกว่า “มีลูกแล้วจะรักพ่อแม่มากขึ้น “ นั่นคือเรื่องจริงที่เรารู้สึก ตั้งใจจะเลี้ยงเค้าให้ดีอย่างที่พ่อแม่เลี้ยงเรามาให้ได้ ซีนดราม่าเริ่มมา55555 นี่สินะ จุดเปลี่ยนชีวิตของจริง
เราทำงานเอกชน ลาคลอด 3 เดือน แล้วพ่อแม่เราช่วยเลี้ยงตอนที่เรากับสามีไปทำงาน ส่วนนมจะปั๊มไว้ให้ เพราะเราอยากให้ลูกกินนมแม่ ส่วนกลางคืนก็เอามานอนด้วยทุกวัน สามีเราเห่อลูกมาก ส่วนเราเองเวลาที่อยู่ออฟฟิศอยากรีบทำงานให้เสร็จแล้วกลับบ้านไปหาลูกทุกวันเลย
พอลูกเข้าวัยเรียน เราและสามีตัดสินใจให้ลูกเรียนเอกชน ก่อนไปทำงานก็จะไปส่งลูกก่อน ส่วนตอนมารับจะเป็นสามี เพราะเค้าเลิกงานเร็วกว่าเรา หรือถ้าวันไหนเลิกช้าจริงๆพ่อเราก็จะขับรถคันเก่าไปรับหลาน บ่นตลอดว่าตั้งแต่หลานไปรร.แล้วเหงา ตามประสาคนแก่ที่เกษียรแล้วอยู่แต่บ้าน
ลูกเราค่อนข้างแปลกคน เพราะชอบไปโรงเรียน ปกติเด็กส่วนใหญ่จะงอแง แต่นี่ไปถึงรีบวิ่งเข้ารร.เพราะอยากไปเล่นกับเพื่อน เห็นแบบนั้นแม่ก็เลิกกังวล จนช่วงน้องเรียน ป.3 กำลังจะ 9 ขวบ เราไปงานกิจกรรมกีฬาสีลูกที่โรงเรียน สังเกตว่าลูกตัวเล็กกว่าเด็กคนอื่นมาก อาจจะด้วยเรื่องของพันธุกรรมก็มีส่วน เพราะเราเป็นคนตัวเล็ก ส่วนฝั่งสามีก็มาตรฐานชายไทย ไม่เตี้ยไม่สูง
น้องไม่ชอบกินนมเลยค่ะ จะนมจืด นมหวาน คือบาย นางจะไม่แตะเลย ตอนแรกก็มีบังคับ มีหลอกล่อ แต่ก็ยากเย็นแสนเข็ญ กว่าจะยอมกินแต่ละรอบ เราเริ่มคิดหาวิธีว่าควรทำยังไงดี เพราะถ้าไม่เริ่มตอนเด็ก โตมาจะสูงยาก
ถามลูกว่าอยากตัวสูงเหมือนเพื่อนมั้ย นางก็บอกว่าอยากสูง แต่ไม่ชอบกินนมบอกมันไม่อร่อย เราบอกกับลูกว่า ถ้าอยากสูงต้องมีวินัย ก็เลยปรับิธีการใช้ชีวิตนิดหน่อย เช่น ให้ดูการ์ตูนในไอแพดถึง 2 ทุ่ม เท่านั้น และนอนก่อน 3 ทุ่ม ส่วนเรื่องอาหารการกินก็จะให้กินแต่อาหารที่มีประโยชน์ ครบ 5 หมู่ ทั้งพวก แป้ง โปรตีน คารโบไฮเดรต วิตามิน ผัก ผลไม้
เราทำอาหารให้ลูกกินเองทุกเช้า ส่วนแม่เราจะเป็นคนจ่ายตลาด เราก็จะจดเมนูให้แม่ว่ามีอะไรบ้าง
ด้วยความที่ลูกไม่กินนม แน่นอนว่าเรื่องนี้คนเป็นแม่อย่างเราจะไม่ปล่อยผ่านค่ะ คิดไอเดียได้ว่า ในเมื่อไม่ยอมกินนม ก็หาแคลเซียมจากอย่างอื่นทดแทนก็ได้ เราจะให้ลูกกินแคลเซียมเสริมแบบแคปซูลแทน แต่เด็ก 9 ขวบ คงไม่ชอบกินยาเม็ดแน่ เราก็จะแกะเม็ดแคปซูล มาโรยกับอาหาร ให้ลูกกิน เช้า-เย็น ครั้งละเม็ดเลย
ปัจจุบันตอนนี้น้องอายุ 10 ขวบ อยู่ป.4 สังเกตเห็นว่าลูกเริ่มสูงทันเพื่อนแล้ว แทบจะสูงแซงเพื่อนบางคนอีกด้วย วัดส่วนสูงล่าสุด อยู่ที่ 145 แล้ว สูงขึ้นมา 13 ซ.ม. ภายใน 1 ปี อีกนิดก็น่าจะสูงทันแม่
อยากบอกทุกคนว่าการเลี้ยงลูกนั้น นอกจากครอบครัวที่อบอุ่น เรื่องอาหารการกินก็สำคัญ เรื่องอื่นเราไม่เคยบังคับลูก ไม่ว่าจะชอบเรียนวิชาไหน หรือกีฬาอะไร พร้อมซัพพอร์ต และปล่อยให้ลูกค้นหาตัวเอง อาจจะมีที่ปรับนิสัยเรื่องการกินการนอนหน่อย เพราะสุขภาพเป็นสิ่งสำคัญกับร่างกายที่สุดในการใช้ชีวิต สุดท้ายนี้ ลูกเราเลี้ยงได้แต่ตัว โตขึ้นจะเป็นยังไงให้เค้าเลือกเอง ที่ทำได้ตอนนี้คือดูแลเค้าให้ดีที่สุด “เพราะลูกไม่ได้ขอมาเกิด”
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้