ต่อจากกระทู้แรก ตอนนี้ระยะเวลาผ่านมา 3 เดือนแล้ว อะไรดีๆที่ทำร่วมกันในชีวิตประจำวัน เราทั้งสองคนก็ยังคงทำให้แก่กันเหมือนเดิม แต่ในส่วนเรื่องแย่ๆที่เรายังไม่เข้าใจความรู้สึกแฟนเรา ว่าอะไรคือสาเหตุของการหมดรัก ตอนแรกเราก็วนอยู่ในอ่างสักพักใหญ่ ว่ามันเพราะอะไรบ้าง อาจจะตีความไปต่างๆนานา
ว่าพฤติกรรมอะไรที่ทำให้เขารู้สึกแย่ขนาดนั้น หลักๆเรื่องที่เรารู้แล้วแน่ๆ ก็คือเรื่องที่เราไม่พอใจแล้วไปว่าใส่แฟนเสียงดังแย่ๆ ซึ่งเท่าที่เราพอนึกได้
ตั้งแต่คบกันมานานจนเข้าปีที่ 10 เราไม่ค่อยมีเหตุการณ์ทะเลาะอะไรกันบ่อย แต่ถึงแม้มันจะไม่บ่อยแต่มันก็ทำให้เขาเสียความรู้สึกลงไปเรื่อยๆกับการที่เราเป็นคนพูดเสียงดังต่อว่าต่างๆ
และก็ยังมีเหตุการณ์อื่นๆที่คล้ายๆกันแต่อาจจะไม่รุนแรงเท่า ก็คือตอนที่เราหงุดหงิดกับเรื่องอื่นๆอยู่ แล้วแฟนเราอาจจะเข้ามาแสดงความคิดเห็นอะไรในเหตุการณ์นั้น หรือเข้ามามีคำถามร่วมกับเหตุการณ์นั้นๆ (ไม่ว่าจะเข้ามามีส่วนร่วมเพราะอยากจะช่วยหรืออะไรก็แล้วแต่) ความหงุดหงิดที่ยังมีอยู่ในตัวเรามันยังไม่หายไป ทำให้เราตอบกลับแฟนเราด้วยน้ำเสียงที่ดูหงุดหงิด อาการหงุดหงิดของเรามันอาจจะไม่รุนแรงเท่ากับตอนที่เราตั้งใจหงุดหงิดเวลาที่แฟนเราเป็นต้นเหตุของเรื่อง แต่ถึงยังไง มันก็คืออาการที่ไปหงุดหงิดใส่เขาอยู่ดี ซึ่งในหลายๆครั้งเราอาจจะไม่ได้เจตนา หรือ รู้สึกหงุดหงิดไปโดยไม่รู้ตัว
จนตอนนี้สิ่งเหล่านี้มันนำพาแต่ด้านลบเข้ามาหาแฟนเรา ตอนนี้แฟนเราก็ให้โอกาสเราเพื่อปรับปรุงตัวอยู่นะคะ ซึ่งตอนไหนที่เราหงุดหงิดขึ้นมาแล้วเราไม่รู้ตัวเขาก็เลือกที่จะไม่บอกเราอีก เก็บเงียบเอาไว้แบบที่เคยเพราะไม่อยากให้ต้องมีปัญหาแล้วมานั่งคุยกันยาวๆแบบนี้ เรารู้สึกว่าเขาเลือกที่จะไม่เผชิญหน้าแต่ถ้าเขาต้องการที่จะให้เราปรับปรุงก็ควรที่จะต้องบอกให้เรารับทราบหน่อย ครั้งนี้เราจึงเป็นคนถามเขาขึ้นมาเองว่าเรามีเผลอหงุดหงิดใส่อะไรไปมั้ยเมื่อกี้ เพราะเราไม่แน่ใจจริงๆว่าเราได้เผลอทำแบบนั้นไปบ้างมั้ย ซึ่งมันก็มีค่ะ
แต่เราก็บอกตามตรงว่า เรื่องนี้ยากสำหรับเราพอสมควร (เรื่องพยายามไม่ให้แฟนโดนเราหงุดหงิดไปด้วยในเวลาที่เรากำลังหงุดหงิดอยู่) เพราะบางทีมันอาจจะยากในควบคุม แต่เราก็อยากทำให้ได้ดีขึ้น มันเป็นสิ่งที่ใครๆก็ไม่อยากจะมาโดนหงุดหงิดใส่ และเราคิดว่าทุกคนก็คงเคยเผลอทำอาการหงุดหงิดกระทบคนใกล้ตัวเรา
เราอยากได้คำแนะนำค่ะ ว่าเราควรจะทำยังไงดีเพื่อให้มันดีขึ้นกว่านี้ เวลาที่เรากำลังหงุดหงิดถ้าแฟนเรารู้ว่าเรากำลังหงุดหงิดอะไรอยู่ ก็ไม่ต้องให้เขาเข้ามามีบทสนทนาอะไรกับเราตอนนั้นจะดีกว่ามั้ย รอจนกว่าเรื่องที่เราเจอทำให้เราหงุดหงิดนั้นจะจบลงไปด้วยการแก้ปัญหาของเราเอง ลองเว้นช่วงสักหน่อย แล้วเขาถึงจะค่อยเข้ามาคุยกับเราเรื่องอื่นๆ มันอาจจะดีกว่าที่ต้องมาลุ้นว่าจะโดนเราหงุดหงิดใส่มั้ย แต่ถ้ามีวิธีที่ดีกว่านี้ให้เพื่อให้เราควบคุมตัวเองได้ดีขึ้นก็ขอให้แนะนำทีนะคะ
เราไม่อยากให้ปัญหาแบบนี้มาเป็นจุดจบในความสัมพันธ์ ไม่อยากให้แฟนเรามาคอยรู้สึกแย่ค่ะ
จริงๆเราสองคนมีสิ่งดีๆที่ทำให้กันมันมากมาย แต่มันอาจจะไม่พอที่ทำให้เขามองข้ามข้อเสียเหล่านี้ของเรา
ถ้าเขารับไม่ได้ เราก็แค่เปลี่ยนที่ตัวเราค่ะ ถึงจะเปลี่ยนไม่ได้ 100% แต่เราคิดว่ามันจะต้องดีขึ้นเพราะเราเริ่มรู้สาเหตุและรู้อะไรๆมากขึ้นแล้ว
เมื่อแฟนบอกว่ารู้สึก "หมดรัก" (ภาคต่อ) อยากขอคำปรึกษาค่ะ
ว่าพฤติกรรมอะไรที่ทำให้เขารู้สึกแย่ขนาดนั้น หลักๆเรื่องที่เรารู้แล้วแน่ๆ ก็คือเรื่องที่เราไม่พอใจแล้วไปว่าใส่แฟนเสียงดังแย่ๆ ซึ่งเท่าที่เราพอนึกได้
ตั้งแต่คบกันมานานจนเข้าปีที่ 10 เราไม่ค่อยมีเหตุการณ์ทะเลาะอะไรกันบ่อย แต่ถึงแม้มันจะไม่บ่อยแต่มันก็ทำให้เขาเสียความรู้สึกลงไปเรื่อยๆกับการที่เราเป็นคนพูดเสียงดังต่อว่าต่างๆ
และก็ยังมีเหตุการณ์อื่นๆที่คล้ายๆกันแต่อาจจะไม่รุนแรงเท่า ก็คือตอนที่เราหงุดหงิดกับเรื่องอื่นๆอยู่ แล้วแฟนเราอาจจะเข้ามาแสดงความคิดเห็นอะไรในเหตุการณ์นั้น หรือเข้ามามีคำถามร่วมกับเหตุการณ์นั้นๆ (ไม่ว่าจะเข้ามามีส่วนร่วมเพราะอยากจะช่วยหรืออะไรก็แล้วแต่) ความหงุดหงิดที่ยังมีอยู่ในตัวเรามันยังไม่หายไป ทำให้เราตอบกลับแฟนเราด้วยน้ำเสียงที่ดูหงุดหงิด อาการหงุดหงิดของเรามันอาจจะไม่รุนแรงเท่ากับตอนที่เราตั้งใจหงุดหงิดเวลาที่แฟนเราเป็นต้นเหตุของเรื่อง แต่ถึงยังไง มันก็คืออาการที่ไปหงุดหงิดใส่เขาอยู่ดี ซึ่งในหลายๆครั้งเราอาจจะไม่ได้เจตนา หรือ รู้สึกหงุดหงิดไปโดยไม่รู้ตัว
จนตอนนี้สิ่งเหล่านี้มันนำพาแต่ด้านลบเข้ามาหาแฟนเรา ตอนนี้แฟนเราก็ให้โอกาสเราเพื่อปรับปรุงตัวอยู่นะคะ ซึ่งตอนไหนที่เราหงุดหงิดขึ้นมาแล้วเราไม่รู้ตัวเขาก็เลือกที่จะไม่บอกเราอีก เก็บเงียบเอาไว้แบบที่เคยเพราะไม่อยากให้ต้องมีปัญหาแล้วมานั่งคุยกันยาวๆแบบนี้ เรารู้สึกว่าเขาเลือกที่จะไม่เผชิญหน้าแต่ถ้าเขาต้องการที่จะให้เราปรับปรุงก็ควรที่จะต้องบอกให้เรารับทราบหน่อย ครั้งนี้เราจึงเป็นคนถามเขาขึ้นมาเองว่าเรามีเผลอหงุดหงิดใส่อะไรไปมั้ยเมื่อกี้ เพราะเราไม่แน่ใจจริงๆว่าเราได้เผลอทำแบบนั้นไปบ้างมั้ย ซึ่งมันก็มีค่ะ
แต่เราก็บอกตามตรงว่า เรื่องนี้ยากสำหรับเราพอสมควร (เรื่องพยายามไม่ให้แฟนโดนเราหงุดหงิดไปด้วยในเวลาที่เรากำลังหงุดหงิดอยู่) เพราะบางทีมันอาจจะยากในควบคุม แต่เราก็อยากทำให้ได้ดีขึ้น มันเป็นสิ่งที่ใครๆก็ไม่อยากจะมาโดนหงุดหงิดใส่ และเราคิดว่าทุกคนก็คงเคยเผลอทำอาการหงุดหงิดกระทบคนใกล้ตัวเรา
เราอยากได้คำแนะนำค่ะ ว่าเราควรจะทำยังไงดีเพื่อให้มันดีขึ้นกว่านี้ เวลาที่เรากำลังหงุดหงิดถ้าแฟนเรารู้ว่าเรากำลังหงุดหงิดอะไรอยู่ ก็ไม่ต้องให้เขาเข้ามามีบทสนทนาอะไรกับเราตอนนั้นจะดีกว่ามั้ย รอจนกว่าเรื่องที่เราเจอทำให้เราหงุดหงิดนั้นจะจบลงไปด้วยการแก้ปัญหาของเราเอง ลองเว้นช่วงสักหน่อย แล้วเขาถึงจะค่อยเข้ามาคุยกับเราเรื่องอื่นๆ มันอาจจะดีกว่าที่ต้องมาลุ้นว่าจะโดนเราหงุดหงิดใส่มั้ย แต่ถ้ามีวิธีที่ดีกว่านี้ให้เพื่อให้เราควบคุมตัวเองได้ดีขึ้นก็ขอให้แนะนำทีนะคะ
เราไม่อยากให้ปัญหาแบบนี้มาเป็นจุดจบในความสัมพันธ์ ไม่อยากให้แฟนเรามาคอยรู้สึกแย่ค่ะ
จริงๆเราสองคนมีสิ่งดีๆที่ทำให้กันมันมากมาย แต่มันอาจจะไม่พอที่ทำให้เขามองข้ามข้อเสียเหล่านี้ของเรา
ถ้าเขารับไม่ได้ เราก็แค่เปลี่ยนที่ตัวเราค่ะ ถึงจะเปลี่ยนไม่ได้ 100% แต่เราคิดว่ามันจะต้องดีขึ้นเพราะเราเริ่มรู้สาเหตุและรู้อะไรๆมากขึ้นแล้ว