ความเห็นส่วนตัวนะครับ

ผมมองว่า ทั้ง 2 คนก็ทำงานแล้ว มีรายได้เป็นของตนเอง ถ้ายังไม่แต่งงาน แนะนำว่าแต่ละคนบริหารจัดการเงินของตนเอง

ค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันของใครของมัน ควรรับผิดชอบเอง มีมากใช้มาก มีน้อยใช้น้อย

ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายร่วมกัน เช่น เวลาทานข้าวหรือเที่ยวต่างจังหวัด ก็ควรจะคุยกันให้เคลียตั้งแต่แรก ว่าใครจะออกค่าอะไร

หรืออาจจะถามความพร้อมเรื่องการเงินกันก่อนว่าพอมีไหม พร้อมเที่ยวไหม ถ้าไม่ก็อย่าไปฝืน เพราะสุดท้ายคุณมาจ่ายเองหมด ก็จะเครียดแบบนี้

และยังมีความรู้สึกที่ไม่ดีมากขึ้นไปอีก

ส่วนเรื่องหยิบยืมกัน ผมว่าเรื่องปกติ เพราะเป็นแฟนกันก็ต้องช่วยเหลือกันยามจำเป็น แต่ถ้าหยิบยืมมากจนเกินไป อันนี้จะเป็นปัญหา เพราะแปลว่าเขามีนิสัยฟุ่มเฟือย ใช้จ่ายมากกว่าที่หามาได้

ผมว่าคุณควรจะพิจารณาเป็นเรื่องๆไป ผมว่าเรื่องนอกใจหรืออื่นๆ เป็นคนละประเด็นกัน อย่าเอามาผสมปนเปกัน เคลียใจกันเป็นเรื่องๆไป

เพราะถ้าคุณไปเจอใครคนใหม่ในอนาคต ถ้าเขาไม่มีปัญหาเรื่องเงินมากวนใจคุณเลย แต่กลับกัน เขาดันมีเรื่องชู้สาวมาให้คุณเครียดแทน คุณจะทำยังไง

เพราะฉะนั้น เอาปัญหาปัจจุบันมานั่งคุยกันดีกว่า ถ้าคุยแล้วก็ต้องคุยให้เคลีย คุยให้จบ คุยให้เข้าใจ อาจมีใช้คำพูดแรงบ้างก็เป็นเรื่องธรรมดา

แต่ก็ต้องให้เวลาเขาปรับตัวด้วย อาจจะดูว่า 3-6 เดือนเป็นยังไง ถ้าดีก็ดีไป ถ้าไม่ดีขึ้น คุณควรพิจารณายุติความสัมพันธ์ เพราะเรื่องเหล่านี้ก็จะกลับมาตามทำให้คุณและแฟนมีปัญหากันในอนาคตอย่างแน่นอน และเมื่อหลังแต่งงานมีครอบครัว ภาระค่าใช้จ่ายจะมากกว่านี้เป็นเท่าตัว ถ้าไม่แก้ไขตั้งแต่ตอนนี้ อนาคตก็จะมีโอกาสหย่าร้างกันสูง ซึ่งปัญหาตอนนั้นจะใหญ่กว่าปัญหาตอนนี้มาก

ผมว่าปรับความเข้าใจกันก่อน คุยกันอย่างใจเย็นและมีสติ และหวังว่ามันจะดีขึ้น แต่ถ้าไม่ คุณต้องพิจารณาแล้วว่าในอนาคตคุณยังจะอยู่กับคนนี้ไหม เพราะผมมองว่าทั้งคู่ควรจะช่วยกันหา มากกว่าช่วยกันใช้ ฐานะการเงินของทั้งสองคนจะได้มั่นคงเป็นปึกแผ่น

อย่างน้อยก็ควรรับผิดชอบตัวเองได้นะ อันนี้ก็เกินไปหน่อย มีแฟนควรทำให้ชีวิตดีขึ้น ถ้ามีแล้วแย่ อย่ามีดีกว่า

จะอยู่ทำไมละครับ ถอยให้ไว😂