สวัสดีครับ สวัสดีผู้อ่านทุกๆคนเลยนะครับ
คอลัมน์ ฉบับผมเขียนขึ้นในวันที่ 10 / 7 / 66
เนื้อหาทั้งหมดผมจะอัพเดทให้ทันกับ เหตุการณ์ในปัจจุบัน นะครับ หากพิมพ์ผิดไปในบางประโยคต้องขอ อภัย ด้วยนะครับ
พอดีผมใช้ keyboard gaming ในการพิมพ์ พิมพ์ค่อนข้างยาก เพราะ keyboard ตัวเก่าเก่าไปแล้วครับ
ผมจะแบ่งออกเป็นหลาย ตอน นะครับ เพื่อให้เข้าใจ และ รู้ถึงจุดกำเนิดของ กลุ่มพันธมิตร ( Cartel )
** หากอ่านแล้วชอบ บทความของผมแล้วอยากนำไปเสนอผ่านช่องทางต่างๆ หรือ อยากติดต่องาน
วิเคราะห์ เหตุการณ์ความรุนแรงของ México ในปัจจุบัน สามารถ หลังไมค์มาได้เลยนะครับ
- -
หมายเหตุอันสุดท้าย
คอลัมน์ นี้ผมตั้งใจเขียนขึ้นมากๆ ผ่านการอ่านข่าว ศึกษาประวัติศาสตร์ และ ดูคลิป ของ กลุ่มพันธมิตร ต่างๆที่สังหารคู่แข่ง
ตัดตอน หรือ ลักพาตัว นับร้อย นับพัน
จน กลั่นออกมาให้ทุกๆคนได้อ่านกันครับ จะพยายามนำเสนอให้ดีที่สุดนะครับ ขอบคุณมากๆครับ
- -
Episode 1. ( Open Era )
- จุดกำเนิด C.D.G ( Cártel del Golfo ) -
ย้อนกลับไปในช่วงแรกของการลักลอบทำผิดกฎหมาย ตามเขตชายแดน US - Mexico
( อันนี้ผมจะพูดถึงชายแดนทางใต้ของ สหรัฐ ( เท็กซัส ) และ ตอนเหนือของ Mexico อย่าง รัฐ ( ตาเมาลีปัส ) เพราะมันจะเกี่ยวกับเรื่องนี้โดยตรงครับ
เราจะย้อนกลับไปในยุค 2463 หรือ ปี 1920 มันเป็นยุค Prohibition ของ อเมริกา
หรือ เป็นช่วงที่การซื้อขายแอลกอฮอล์ในดินแดนลุงแซมเป็นเรื่องผิดกฎหมาย
ในยุคนั้น กลุ่มค้ายาเสพติด พอจะมีบ้างตามแนวชายแดน ส่วนใหญ่จะเป็น ฝิ่น (Opium) แต่โดยภาพรวมก็เป็นเพียงกลุ่มเล็กๆ ทำกันเองไม่กี่คน
และ ลักลอบนำเข้าเมืองแบบผิดกฎหมาย
แต่กลุ่มที่ได้รับการมองว่า เป็นกลุ่มบุกเบิกของวงการค้ายาเม็กซิกันคือ " Cártel de Matamoros (Matamoros Cartel) "
ที่มีฐานที่มั่นอยู่ในเมือง Matamoros ( มาตาโมโรส ) รัฐ ตาเมาลีปัส มีชื่อผู้ก่อตั้งคือ Juan Nepomuceno Guerra Cárdenas
ในช่วงนั้น Matamoros Cartel ทำหน้าที่ลักลอบนำเข้าวิสกี้เข้าไปใน รัฐเท็กซัส เป็นหลัก หลังจากนั้นก็ได้ ขยายเครือข่ายอาชญากร
ไปสู่สินค้าผิดกฎหมายอื่นๆ เช่น การลักลอบส่งออกของเถื่อน ฝิ่น , และ กัญชา เป็นหลัก
- จุดเปลี่ยนผ่าน -
เข้าสู่ยุค 70s Godfather of U.S–Mexico border cartels อย่าง Juan Nepomuceno Guerra Cárdenas ได้วางมือจากตำแหน่งผู้นำของกลุ่ม Matamoros Cartel และ ส่งอำนาจต่อให้กับหลานชายอย่าง Juan García Abrego ซึ่งดูแลธุรกิจลักลอบค้ากัญชาเป็นหลัก ซึ่งหลานชายอย่าง
Juan García Abrego นี้แหละที่เป็นคน rebrand จาก Matamoros Cartel มาเป็น Cártel del Golfo (CDG, Gulf Cartel) ในยุค 1980
( รัฐ ตาเมาลีปัส เป็น รัฐที่ติด อ่าวเม็กซิโก ทางด้านขวา จึงไม่แปลกที่จะมีคำว่า Gulf เข้ามาเกี่ยวข้อง )
ในช่วงเริ่มต้น Abrego ทำหน้าที่เกี่ยวกับ การค้ามนุษย์ให้ข้ามแดนแบบผิดกฎหมาย ดูแลธุรกิจกัญชา และ การโจรกรรมรถยนต์ เป็นหลัก มีโคเคนเข้ามาผสมด้วยเล็กน้อยครับ จนมารับหน้าที่ต่อจาก น้าชาย ของตัวเอง Abrego เริ่มการขยาย พันธมิตรอย่างรวดเร็ว จาก รัฐ ตาเมาลีปัส เข้าไปสู่รัฐ Nuevo León ที่อยู่ใกล้เคียง หากคุณดูจาก Google maps จะพบว่า Nuevo León กับ ตาเมาลีปัส อยู่ติดกันเลยครับ โดยรัฐ Nuevo León มีเมืองธงคือ Monterrey ซึ่งเป็นเมืองแห่งอนาคต และ เจริญ มากๆในปัจจุบันครับ และ Tesla กำลังสร้างโรงงานอยู่ที่เมืองนี้ครับด้วยมูลค่าการลงทุนของ Elon musk กว่าหลักพันล้าน ดอลลาร์ ครับ ในปัจจุบัน Mexico มีโรงงานประกอบรถยนต์ Toyota, Honda, Nissan, Volkswagen, Audi, Mazda, Mercedes, Kia และ BMW ครับ
เอาหล่ะครับเข้าเรื่องกันต่อครับในช่วงนั้น Guadalajara Cartel ของ Miguel Ángel Félix Gallardo กำลังเสื่อมถอยอย่างหนัก
เนื่องจากโดนทาง DEA ไล่ลาอย่างหนักหน่วง จากการที่สังหารเจ้าหน้าที่ DEA คุณ " Enrique "Kiki" Camarena Salazar "
เมื่อเป็นเช่นนั้น Juan García Abrego เล็งเห็นถึงความแตกแยก ระส่ำระสาย ของ Guadalajara Cartel และด้วยความต้องการที่จะขยายธุรกิจ
ไปยังการค้า โคเคนมากขึ้น เพราะในช่วงนั้น Guadalajara Cartel เป็นคู่แข่งตัวฉกาจของ Gulf Cartel จึงได้เพื่อสร้างความสัมพันธ์โดยตรง
ไปยังCali Cartel ในโคลัมเบีย เพื่อเปลี่ยนอาณาจักรอาชญากรไปสู่การค้าโคเคน ในตอนนั้น Cali Cartel ก็โดนทาง DEA ไล่ล่าอย่างหนักเหมือนกันครับ
และ คุณฟังไม่ผิดครับ Cali Cartel ในช่วงนั้นก็แข่งกับ Cartel de Medellín ของ Pablo Escobar
** ผมมี 3 หัวข้อเล็กๆ จะอธิบายเพิ่มครับ
1. ในช่วงนั้น ตอนแรกเส้นทางการค้า ยาเสพติดไม่ใช่ เม็กซิโก เป็นหลักครับ แต่เป็นประเทศในแถบทะเลแคริบเบียน เช่น บาฮามาส , คิวบา , โดมินิกัน , เปอร์โตริโก เป็นหลัก และ เข้าทาง ฟลอริด้า ไมอามี่ ครับ จนมาถึงยุค 80s อเมริกาใช้กฎหมายเข้มเข้น และ การตั้งสำนักงาน DEA ในประเทศเหล่านั้น ทำให้ทาง พันธมิตรโคลัมเบีย ต้องหาเส้นทางใหม่ นั้นคือ เม็กซิโก นั้นเอง
2. ในช่วงนั้น Pablo Escobar โหดเหี้ยมมาก กำจัดศัตรูทุกคนที่ขวางหน้า ทางฝั่ง พันธมิตร เม็กซิโกเอง ก็หวั่นใจว่า ทำธุรกิจกับทาง Cartel de Medellín ไปนานๆอาจจะโดนหักหลังได้ จึงเน้นไปคุยกับทาง Cali Cartel ที่เน้นธุรกิจ และ การพูดคุยเป็นหลักมากกว่าครับ
3. สำหรับคนที่ไม่ทราบ เม็กซิโก ปกครองด้วยพรรคการเมือง พรรค Partido Revolucionario Institucional หรือ PRI มายาวนานเกือบ 70 ปี
ตั้งแต่ ปี 1934 - 2000 ครับ
- จุดไฟแห่งสงคราม -
ในช่วงของ ปธน Carlos Salinas de Gortari ระหว่างปี 1988 ถึง 1994 มีรายงานข่าวลือว่า Gulf Cartel ได้รับความคุ้มครองจาก รัฐบาล
และ มีการอ้างถึง Raúl Salinas ซึ่งเป็นน้องชายของประธานาธิบดี ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับ C.D.G
ในช่วงรุ่งเรืองของ Gulf Cartel ทางผู้นำ Juan García Abrego ได้ติดสิบอับดับของ FBI Most Wanted List ในปี 1995
กลุ่ม Gulf Cartel ได้สร้างหมอกแห่งความกลัว และ ความอํามหิต ไปทั่ว รัฐ ตาเมาลีปัส ในช่วงนั้นคู่แข่งของ Gulf Cartel พยายามที่จะแย่งส่วนแบ่งการตลาดเช่น ค้ามนุษย์ และ ยาเสพติด ทางฝั่ง Abrego ไม่รอช้าสั่ง Sicario ( มือปืน ) ให้สังหารคู่แข่งแบบไม่เลือกหน้า มีทั้ง ซุ่มยิง ลักพาตัว
และ หากยิงแล้วยังไม่เสียชีวิตก็ตามไปสังหารต่อในโรงพยาบาล
ยังไม่นับการติดสินบนเจ้าหน้าที่อีกหลายคน คือ น่าเห็นใจครับผมบอกตรงๆ คือ หาก คุณไม่รับสินบน คุณก็ลาโลกแบบนี้แบบเร่งด่วนทันใจ แต่หากคุณรับไปแล้ว คุณทำงานให้พวกพันธมิตรไม่ได้ดั่งใจ คุณก็ลาโลกนี้แบบเร่งด่วนได้เหมือนกัน แต่หาก คุณมีชีวิตรอดไปได้ คุณก็จะโดยทางการตั้ง ข้อหา อยู่ดี
เพราะฉนั้น มันเป็นทางแยกที่ไม่อยากจะเลี้ยว ซ้าย หรือ ขวา เลยล่ะครับ
ในปี 1984 มีเหตุการณ์ที่ Abrego ส่ง Sicario ไปยังโรงพยาบาลที่มี อริ รักษาตัวอยู่ Sicario กราดยิงแบบไม่เลือกหน้า ผู้บริสุทธิ์หลายคนเสียชีวิต และ ที่แน่นอนคือ อริ คนนั้นก็สิ้นใจด้วยเช่นกัน และ ในช่วงนั้น บรรณาธิการของหนังสือพิมพ์ที่รายงานข่าวเกี่ยวกับ Gulf Cartel ก็โดนลักพาตัว และ สังหารอย่างโหดเหี้ยมไปหลายคน
แต่ในที่สุดจากการไล่ล่าอย่างหนักของ ทั้ง DEA และ FBI ประกอบกับ หน่วยงานลับของทาง เม็กซิโก Juan García Abrego ก็ถูกจับกุมในเดือน มกราคม ปี 1996 ในฟาร์มปศุสัตว์นอกเมืองมอนเตร์เรย์ รัฐ Nuevo León ด้วยความกดดันจาก รัฐบาล สหรัฐ ทำให้ Abrego ถูกส่งตัวข้ามแดน
ไปติดคุกที่แดนลุงแซมแบบด่วนจี้ EMS ยังอาย
หลังการจับกุมหัวหน้าใหญ่ของ Gulf Cartel แล้วมีการขยายผลพบว่า เครือข่ายของ Gulf Cartel มีเยอะมากไล่ตั้งแต่ แอตแลนตา จนถึง นิวยอร์ก ล้วนแต่เป็นเมืองที่ Gulf Cartel ได้ส่งโคเคน และ ค้าโคเคน มายาวนาน เงินนับ พันล้าน ดอลลาร์สะพัด ในเมืองเหล่านี้
ในช่วงที่ Juan García Abrego ถูกจับ กลุ่มพันธมิตรต่างๆในเม็กซิโกเริ่ม มองหา และ เลียนแบบ Gulf Cartel ยกตัวอย่างเช่น Juárez Cartel
ของ Amado Carillo Fuentes แต่ใน Episode นี้ผมจะไม่พูดถึงนะครับ แต่เก็บเอาไว้เป็นตอนต่อไป
- New Era -
หลังถูกจับ Gulf Cartel อยู่ในช่วงสูญญากาศ มีการแย่งชิงอำนาจผู้นำ เกิดการตัดตอนกันเองมากมาย ทั้งจาก เครือญาติ ของ Juan García Abrego
และ ทางนักฆ่าของ Gulf Cartel เอง ในตอนแรก Humberto García Abrego ผู้เป็นน้องชายของ Juan García Abrego มีชื่อเป็นผู้นำของกลุ่ม แต่อยู่ได้ไม่นานก็ต้องออก เนื่องจากประสบปัญหา การนำกลุ่ม ไม่มีบารมีพอที่จะออกคำสั่งได้ ประกอบคำ ทางฝั่ง พันธมิตรโคลัมเบีย เองก็ไม่ถูกใจในตัวน้องชายมากนัก ต่อมาก็เป็น Óscar Malherbe de León และ Raúl Valladares del Ángel แต่อยู่ได้ไม่นานก็ถูกจับเข้าคุกทั้งคู่ ต่อมาก็เป็น El Checo หรือชื่อเต็มคือ Sergio Gómez แต่อยู่ได้ไม่นานก็ถูกสังหาร ต่อมาก็คือ El Chava หรือชื่อเต็มคือ Salvador Gómez Herrera ขึ้นเป็นผู้นำกลุ่ม และ มีเพื่อน สนิทคือ Osiel Cárdenas Guillen แต่ก็นั้นแหละครับ อยู่ได้ไม่นาน El Chava ก็ถูกเพื่อนสนิทอย่าง Osiel ล่อซื้อด้วยการออก อุบาย นัดมาคุยเรื่อง ธุรกิจแต่กลับโดนเพื่อนรัก กระหน่ำกระสุนแทนคำพูด จนท้ายที่สุด Osiel Cárdenas Guillen หรือฉายา Mata Amigos (Friend Killer) ก็ได้ขึ้นเป็นผู้นำกลุ่มในปี 1999
Osiel นั้นมีความคิดที่รุนแรง ต้องการรักษาสถานะเก้าอี้ผู้นำของตัวเองไว้อย่างถึงที่สุด ตลอดจนต้องการขึ้นเป็นผู้นำกลุ่มพันธมิตรที่ใหญ่ที่สุดในเม็กซิโก และ ต้องการต่อสู้กับกองทัพเม็กซิโก จนในที่สุดได้เริ่มรับสมัคร ทหารที่อยากจะแปรพักตร์ จากหน่วยรบพิเศษของเม็กซิโก หรือ คัดเลือกทหารที่เกษียณแล้ว แต่อยากสัมผัสกลิ่นของเลือดอยู่ โดยติดต่อผ่าน ทหารชั้นยอดนายหนึ่งชื่อ Arturo Guzmán Decena ว่า " ต้องการคนที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ " โดยหน่วยที่คัดเลือกมาจะเป็น The Mexican Special Forces Corps ซะส่วนใหญ่ ทหารจากหน่วนนี้ส่วนใหญ่จะได้รับการฝึกอบรมด้านคอมมานโดและการทำสงครามในเมือง เรียกได้ว่าเล่นใหญ่ และ เล่นหนักของจริง และ นี้เป็นจุดกำเนิดของกลุ่ม Los Zetas กลุ่มที่ได้ชื่อว่า ได้เข้ามาเปลี่ยนอะไรหลายๆอย่างในสงครามยาเสพติดของ เม็กซิโก อะไรที่ไม่เคยเห็น อะไรที่ไม่เคยเจอ ก็จะได้เจอและเห็น หลังจากโลกนี้ได้รู้จักคำว่า " Los Zetas "
** ใน EP หน้า ผมจะมาพูดถึง Los Zetas นะครับ **
ต่อในความคิดเห็นนะครับ
México จุดเริ่มต้นของความรุนแรง กับ ปัญหาอาชญากรรม ฉบับสมบูรณ์
คอลัมน์ ฉบับผมเขียนขึ้นในวันที่ 10 / 7 / 66
เนื้อหาทั้งหมดผมจะอัพเดทให้ทันกับ เหตุการณ์ในปัจจุบัน นะครับ หากพิมพ์ผิดไปในบางประโยคต้องขอ อภัย ด้วยนะครับ
พอดีผมใช้ keyboard gaming ในการพิมพ์ พิมพ์ค่อนข้างยาก เพราะ keyboard ตัวเก่าเก่าไปแล้วครับ
ผมจะแบ่งออกเป็นหลาย ตอน นะครับ เพื่อให้เข้าใจ และ รู้ถึงจุดกำเนิดของ กลุ่มพันธมิตร ( Cartel )
** หากอ่านแล้วชอบ บทความของผมแล้วอยากนำไปเสนอผ่านช่องทางต่างๆ หรือ อยากติดต่องาน
วิเคราะห์ เหตุการณ์ความรุนแรงของ México ในปัจจุบัน สามารถ หลังไมค์มาได้เลยนะครับ
- -
หมายเหตุอันสุดท้าย
คอลัมน์ นี้ผมตั้งใจเขียนขึ้นมากๆ ผ่านการอ่านข่าว ศึกษาประวัติศาสตร์ และ ดูคลิป ของ กลุ่มพันธมิตร ต่างๆที่สังหารคู่แข่ง
ตัดตอน หรือ ลักพาตัว นับร้อย นับพัน
จน กลั่นออกมาให้ทุกๆคนได้อ่านกันครับ จะพยายามนำเสนอให้ดีที่สุดนะครับ ขอบคุณมากๆครับ
- -
Episode 1. ( Open Era )
- จุดกำเนิด C.D.G ( Cártel del Golfo ) -
ย้อนกลับไปในช่วงแรกของการลักลอบทำผิดกฎหมาย ตามเขตชายแดน US - Mexico
( อันนี้ผมจะพูดถึงชายแดนทางใต้ของ สหรัฐ ( เท็กซัส ) และ ตอนเหนือของ Mexico อย่าง รัฐ ( ตาเมาลีปัส ) เพราะมันจะเกี่ยวกับเรื่องนี้โดยตรงครับ
เราจะย้อนกลับไปในยุค 2463 หรือ ปี 1920 มันเป็นยุค Prohibition ของ อเมริกา
หรือ เป็นช่วงที่การซื้อขายแอลกอฮอล์ในดินแดนลุงแซมเป็นเรื่องผิดกฎหมาย
ในยุคนั้น กลุ่มค้ายาเสพติด พอจะมีบ้างตามแนวชายแดน ส่วนใหญ่จะเป็น ฝิ่น (Opium) แต่โดยภาพรวมก็เป็นเพียงกลุ่มเล็กๆ ทำกันเองไม่กี่คน
และ ลักลอบนำเข้าเมืองแบบผิดกฎหมาย
แต่กลุ่มที่ได้รับการมองว่า เป็นกลุ่มบุกเบิกของวงการค้ายาเม็กซิกันคือ " Cártel de Matamoros (Matamoros Cartel) "
ที่มีฐานที่มั่นอยู่ในเมือง Matamoros ( มาตาโมโรส ) รัฐ ตาเมาลีปัส มีชื่อผู้ก่อตั้งคือ Juan Nepomuceno Guerra Cárdenas
ในช่วงนั้น Matamoros Cartel ทำหน้าที่ลักลอบนำเข้าวิสกี้เข้าไปใน รัฐเท็กซัส เป็นหลัก หลังจากนั้นก็ได้ ขยายเครือข่ายอาชญากร
ไปสู่สินค้าผิดกฎหมายอื่นๆ เช่น การลักลอบส่งออกของเถื่อน ฝิ่น , และ กัญชา เป็นหลัก
- จุดเปลี่ยนผ่าน -
เข้าสู่ยุค 70s Godfather of U.S–Mexico border cartels อย่าง Juan Nepomuceno Guerra Cárdenas ได้วางมือจากตำแหน่งผู้นำของกลุ่ม Matamoros Cartel และ ส่งอำนาจต่อให้กับหลานชายอย่าง Juan García Abrego ซึ่งดูแลธุรกิจลักลอบค้ากัญชาเป็นหลัก ซึ่งหลานชายอย่าง
Juan García Abrego นี้แหละที่เป็นคน rebrand จาก Matamoros Cartel มาเป็น Cártel del Golfo (CDG, Gulf Cartel) ในยุค 1980
( รัฐ ตาเมาลีปัส เป็น รัฐที่ติด อ่าวเม็กซิโก ทางด้านขวา จึงไม่แปลกที่จะมีคำว่า Gulf เข้ามาเกี่ยวข้อง )
ในช่วงเริ่มต้น Abrego ทำหน้าที่เกี่ยวกับ การค้ามนุษย์ให้ข้ามแดนแบบผิดกฎหมาย ดูแลธุรกิจกัญชา และ การโจรกรรมรถยนต์ เป็นหลัก มีโคเคนเข้ามาผสมด้วยเล็กน้อยครับ จนมารับหน้าที่ต่อจาก น้าชาย ของตัวเอง Abrego เริ่มการขยาย พันธมิตรอย่างรวดเร็ว จาก รัฐ ตาเมาลีปัส เข้าไปสู่รัฐ Nuevo León ที่อยู่ใกล้เคียง หากคุณดูจาก Google maps จะพบว่า Nuevo León กับ ตาเมาลีปัส อยู่ติดกันเลยครับ โดยรัฐ Nuevo León มีเมืองธงคือ Monterrey ซึ่งเป็นเมืองแห่งอนาคต และ เจริญ มากๆในปัจจุบันครับ และ Tesla กำลังสร้างโรงงานอยู่ที่เมืองนี้ครับด้วยมูลค่าการลงทุนของ Elon musk กว่าหลักพันล้าน ดอลลาร์ ครับ ในปัจจุบัน Mexico มีโรงงานประกอบรถยนต์ Toyota, Honda, Nissan, Volkswagen, Audi, Mazda, Mercedes, Kia และ BMW ครับ
เอาหล่ะครับเข้าเรื่องกันต่อครับในช่วงนั้น Guadalajara Cartel ของ Miguel Ángel Félix Gallardo กำลังเสื่อมถอยอย่างหนัก
เนื่องจากโดนทาง DEA ไล่ลาอย่างหนักหน่วง จากการที่สังหารเจ้าหน้าที่ DEA คุณ " Enrique "Kiki" Camarena Salazar "
เมื่อเป็นเช่นนั้น Juan García Abrego เล็งเห็นถึงความแตกแยก ระส่ำระสาย ของ Guadalajara Cartel และด้วยความต้องการที่จะขยายธุรกิจ
ไปยังการค้า โคเคนมากขึ้น เพราะในช่วงนั้น Guadalajara Cartel เป็นคู่แข่งตัวฉกาจของ Gulf Cartel จึงได้เพื่อสร้างความสัมพันธ์โดยตรง
ไปยังCali Cartel ในโคลัมเบีย เพื่อเปลี่ยนอาณาจักรอาชญากรไปสู่การค้าโคเคน ในตอนนั้น Cali Cartel ก็โดนทาง DEA ไล่ล่าอย่างหนักเหมือนกันครับ
และ คุณฟังไม่ผิดครับ Cali Cartel ในช่วงนั้นก็แข่งกับ Cartel de Medellín ของ Pablo Escobar
** ผมมี 3 หัวข้อเล็กๆ จะอธิบายเพิ่มครับ
1. ในช่วงนั้น ตอนแรกเส้นทางการค้า ยาเสพติดไม่ใช่ เม็กซิโก เป็นหลักครับ แต่เป็นประเทศในแถบทะเลแคริบเบียน เช่น บาฮามาส , คิวบา , โดมินิกัน , เปอร์โตริโก เป็นหลัก และ เข้าทาง ฟลอริด้า ไมอามี่ ครับ จนมาถึงยุค 80s อเมริกาใช้กฎหมายเข้มเข้น และ การตั้งสำนักงาน DEA ในประเทศเหล่านั้น ทำให้ทาง พันธมิตรโคลัมเบีย ต้องหาเส้นทางใหม่ นั้นคือ เม็กซิโก นั้นเอง
2. ในช่วงนั้น Pablo Escobar โหดเหี้ยมมาก กำจัดศัตรูทุกคนที่ขวางหน้า ทางฝั่ง พันธมิตร เม็กซิโกเอง ก็หวั่นใจว่า ทำธุรกิจกับทาง Cartel de Medellín ไปนานๆอาจจะโดนหักหลังได้ จึงเน้นไปคุยกับทาง Cali Cartel ที่เน้นธุรกิจ และ การพูดคุยเป็นหลักมากกว่าครับ
3. สำหรับคนที่ไม่ทราบ เม็กซิโก ปกครองด้วยพรรคการเมือง พรรค Partido Revolucionario Institucional หรือ PRI มายาวนานเกือบ 70 ปี
ตั้งแต่ ปี 1934 - 2000 ครับ
- จุดไฟแห่งสงคราม -
ในช่วงของ ปธน Carlos Salinas de Gortari ระหว่างปี 1988 ถึง 1994 มีรายงานข่าวลือว่า Gulf Cartel ได้รับความคุ้มครองจาก รัฐบาล
และ มีการอ้างถึง Raúl Salinas ซึ่งเป็นน้องชายของประธานาธิบดี ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับ C.D.G
ในช่วงรุ่งเรืองของ Gulf Cartel ทางผู้นำ Juan García Abrego ได้ติดสิบอับดับของ FBI Most Wanted List ในปี 1995
กลุ่ม Gulf Cartel ได้สร้างหมอกแห่งความกลัว และ ความอํามหิต ไปทั่ว รัฐ ตาเมาลีปัส ในช่วงนั้นคู่แข่งของ Gulf Cartel พยายามที่จะแย่งส่วนแบ่งการตลาดเช่น ค้ามนุษย์ และ ยาเสพติด ทางฝั่ง Abrego ไม่รอช้าสั่ง Sicario ( มือปืน ) ให้สังหารคู่แข่งแบบไม่เลือกหน้า มีทั้ง ซุ่มยิง ลักพาตัว
และ หากยิงแล้วยังไม่เสียชีวิตก็ตามไปสังหารต่อในโรงพยาบาล
ยังไม่นับการติดสินบนเจ้าหน้าที่อีกหลายคน คือ น่าเห็นใจครับผมบอกตรงๆ คือ หาก คุณไม่รับสินบน คุณก็ลาโลกแบบนี้แบบเร่งด่วนทันใจ แต่หากคุณรับไปแล้ว คุณทำงานให้พวกพันธมิตรไม่ได้ดั่งใจ คุณก็ลาโลกนี้แบบเร่งด่วนได้เหมือนกัน แต่หาก คุณมีชีวิตรอดไปได้ คุณก็จะโดยทางการตั้ง ข้อหา อยู่ดี
เพราะฉนั้น มันเป็นทางแยกที่ไม่อยากจะเลี้ยว ซ้าย หรือ ขวา เลยล่ะครับ
ในปี 1984 มีเหตุการณ์ที่ Abrego ส่ง Sicario ไปยังโรงพยาบาลที่มี อริ รักษาตัวอยู่ Sicario กราดยิงแบบไม่เลือกหน้า ผู้บริสุทธิ์หลายคนเสียชีวิต และ ที่แน่นอนคือ อริ คนนั้นก็สิ้นใจด้วยเช่นกัน และ ในช่วงนั้น บรรณาธิการของหนังสือพิมพ์ที่รายงานข่าวเกี่ยวกับ Gulf Cartel ก็โดนลักพาตัว และ สังหารอย่างโหดเหี้ยมไปหลายคน
แต่ในที่สุดจากการไล่ล่าอย่างหนักของ ทั้ง DEA และ FBI ประกอบกับ หน่วยงานลับของทาง เม็กซิโก Juan García Abrego ก็ถูกจับกุมในเดือน มกราคม ปี 1996 ในฟาร์มปศุสัตว์นอกเมืองมอนเตร์เรย์ รัฐ Nuevo León ด้วยความกดดันจาก รัฐบาล สหรัฐ ทำให้ Abrego ถูกส่งตัวข้ามแดน
ไปติดคุกที่แดนลุงแซมแบบด่วนจี้ EMS ยังอาย
หลังการจับกุมหัวหน้าใหญ่ของ Gulf Cartel แล้วมีการขยายผลพบว่า เครือข่ายของ Gulf Cartel มีเยอะมากไล่ตั้งแต่ แอตแลนตา จนถึง นิวยอร์ก ล้วนแต่เป็นเมืองที่ Gulf Cartel ได้ส่งโคเคน และ ค้าโคเคน มายาวนาน เงินนับ พันล้าน ดอลลาร์สะพัด ในเมืองเหล่านี้
ในช่วงที่ Juan García Abrego ถูกจับ กลุ่มพันธมิตรต่างๆในเม็กซิโกเริ่ม มองหา และ เลียนแบบ Gulf Cartel ยกตัวอย่างเช่น Juárez Cartel
ของ Amado Carillo Fuentes แต่ใน Episode นี้ผมจะไม่พูดถึงนะครับ แต่เก็บเอาไว้เป็นตอนต่อไป
- New Era -
หลังถูกจับ Gulf Cartel อยู่ในช่วงสูญญากาศ มีการแย่งชิงอำนาจผู้นำ เกิดการตัดตอนกันเองมากมาย ทั้งจาก เครือญาติ ของ Juan García Abrego
และ ทางนักฆ่าของ Gulf Cartel เอง ในตอนแรก Humberto García Abrego ผู้เป็นน้องชายของ Juan García Abrego มีชื่อเป็นผู้นำของกลุ่ม แต่อยู่ได้ไม่นานก็ต้องออก เนื่องจากประสบปัญหา การนำกลุ่ม ไม่มีบารมีพอที่จะออกคำสั่งได้ ประกอบคำ ทางฝั่ง พันธมิตรโคลัมเบีย เองก็ไม่ถูกใจในตัวน้องชายมากนัก ต่อมาก็เป็น Óscar Malherbe de León และ Raúl Valladares del Ángel แต่อยู่ได้ไม่นานก็ถูกจับเข้าคุกทั้งคู่ ต่อมาก็เป็น El Checo หรือชื่อเต็มคือ Sergio Gómez แต่อยู่ได้ไม่นานก็ถูกสังหาร ต่อมาก็คือ El Chava หรือชื่อเต็มคือ Salvador Gómez Herrera ขึ้นเป็นผู้นำกลุ่ม และ มีเพื่อน สนิทคือ Osiel Cárdenas Guillen แต่ก็นั้นแหละครับ อยู่ได้ไม่นาน El Chava ก็ถูกเพื่อนสนิทอย่าง Osiel ล่อซื้อด้วยการออก อุบาย นัดมาคุยเรื่อง ธุรกิจแต่กลับโดนเพื่อนรัก กระหน่ำกระสุนแทนคำพูด จนท้ายที่สุด Osiel Cárdenas Guillen หรือฉายา Mata Amigos (Friend Killer) ก็ได้ขึ้นเป็นผู้นำกลุ่มในปี 1999
Osiel นั้นมีความคิดที่รุนแรง ต้องการรักษาสถานะเก้าอี้ผู้นำของตัวเองไว้อย่างถึงที่สุด ตลอดจนต้องการขึ้นเป็นผู้นำกลุ่มพันธมิตรที่ใหญ่ที่สุดในเม็กซิโก และ ต้องการต่อสู้กับกองทัพเม็กซิโก จนในที่สุดได้เริ่มรับสมัคร ทหารที่อยากจะแปรพักตร์ จากหน่วยรบพิเศษของเม็กซิโก หรือ คัดเลือกทหารที่เกษียณแล้ว แต่อยากสัมผัสกลิ่นของเลือดอยู่ โดยติดต่อผ่าน ทหารชั้นยอดนายหนึ่งชื่อ Arturo Guzmán Decena ว่า " ต้องการคนที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ " โดยหน่วยที่คัดเลือกมาจะเป็น The Mexican Special Forces Corps ซะส่วนใหญ่ ทหารจากหน่วนนี้ส่วนใหญ่จะได้รับการฝึกอบรมด้านคอมมานโดและการทำสงครามในเมือง เรียกได้ว่าเล่นใหญ่ และ เล่นหนักของจริง และ นี้เป็นจุดกำเนิดของกลุ่ม Los Zetas กลุ่มที่ได้ชื่อว่า ได้เข้ามาเปลี่ยนอะไรหลายๆอย่างในสงครามยาเสพติดของ เม็กซิโก อะไรที่ไม่เคยเห็น อะไรที่ไม่เคยเจอ ก็จะได้เจอและเห็น หลังจากโลกนี้ได้รู้จักคำว่า " Los Zetas "
** ใน EP หน้า ผมจะมาพูดถึง Los Zetas นะครับ **
ต่อในความคิดเห็นนะครับ