Chalun Ch
ความบังเอิญ (ของแท้)
ฉันพิจารณาร่างเพรียวบางที่กำลังเคลื่อนไหวอยู่ตรงหน้า เจ้าหล่อนเดินเลือกเค้กวันเกิดในร้านอย่างอารมณ์ดี ฉันชอบหุ่นนางแบบของพี่แซนมาก ผิวขาว หน้าตาจิ้มลิ้ม ปากนิดจมูกหน่อย ตาโต ผมยาวสลวย ส่วนสูงเกือบร้อยเจ็ดสิบเซนติเมตร ถ้าฉันเป็นพี่แซนนะฉันจะไปประกวดมิสแกรนด์ หลักกิโลอย่างฉันอย่าหวังเลย
วันนี้เป็นวันคล้ายวันเกิดเฮียมาร์คัสนักฟุตบอลอาชีพสังกัดอยู่ในสโมสรที่บริษัทของครอบครัวพี่แซนเป็นสปอนเซอร์รายใหญ่สนับสนุนอยู่และเจ้าหล่อนก็แอบไปปิ้ง ๆ กันเข้า พี่แซนบอกว่าวันนั้นไม่ได้ตั้งใจจะไปดูฟุตบอลแต่โดนคุณพ่อลากไปเป็นเพื่อนด้วย มาร์คัสซึ่งเป็นกองหลังของทีมก็ลงเตะอยู่ในสนาม แล้วเขาก็ทำประตูชัยจากการยิงไกลได้ก่อนลูกแรก และนั่นก็เป็นที่สะดุดตาของพี่แซนเข้า ความหลงใหลผุดขึ้นมาในใจ ปลื้ม ไม่สนใจว่ามาร์คัสจะเป็นคนผิวสีหรืออะไรก็ตาม รู้แต่ว่าคนนี้ใช่เลย
พอจบการแข่งขันทางคุณพ่อของพี่แซนก็ตบรางวัลให้กองหลังคนเก่ง นั่นทำให้พี่แซนได้ใกล้ชิดกับมาร์คัสและได้สบตากันเข้า ทำให้เคมีอะไรบางอย่างในตัวทำปฏิกิริยา สายตาบังเอิญประสานสายตาแล้วปิ้ง ๆ กันเข้า เหมือนเจ้าตัวก็รู้ความนัยที่พี่แซนสื่อถึง เรื่องของหัวใจมองตาก็รู้ไปถึงปอด เหมือนจะเป็นพรหมลิขิตดลบันดาลชักพาด้วย ท่านคิวปิดเริ่มทำงานยิงศรไปปักอกของทั้งคู่ พี่แซนกับมาร์คัสมีเฟซบุ๊กกันจากนั้นก็คุยกันเล่น ๆ ไป ๆ มา ๆ กลายเป็นแฟนกันแอบคบกันมายาวนานตอนนี้นับเวลาสองปีกว่า
เวลาพี่แซนกับเฮียมาร์คัสเดินด้วยกันมันคล้ายครีมรสนมกับรสช็อกโกแลตดี ๆ นี่เอง
ฉันเคยถามพี่แซนว่าไม่กลัวคนจะนินทาเหรอที่คบคนผิวสี เพราะบ้านเรายังไม่ค่อยนิยมเท่าไหร่ อีกทั้งครอบครัวของพี่แซนด้วยจะรับได้หรือ ฉันได้คำตอบกลับมาว่า 'ความรักมันบังคับกันได้ซะที่ไหน' ก็จริง และฉันก็ยินดีกับพี่แซนกับความรักของทั้งคู่ที่มีแต่ความเข้าใจซึ่งกันและกัน ไม่มองเพียงภายนอกทั้งคู่มองลึกเข้าไปในหัวใจที่ต้องการกันและกัน
"แพมปะเสร็จละ" พี่แซนเรียกฉันเมื่อได้เค้กวันเกิดให้กับแฟนแล้ว พวกเราจะไปแฮปปี้เบิร์ธเดย์เฮียที่สโมสร
ปกติเขาไม่ให้คนนอกเข้าไปวุ่นวายแต่ว่าพี่แซนเป็นคนนอกที่วีไอพีมาก ๆ ทางสโมสรจึงยอมให้เข้าไปได้โดยง่าย
"แพมเมื่อวานพี่ซันบอกว่าแกมาหาพี่ที่บ้านเหรอ" พี่แซนถามขณะขับรถพาฉันไปหามาร์คัส
'เอ๋... คนหล่อปากสว่างจัง' แค่นี้ก็เอาไปเล่าให้น้องสาวฟัง ฉันค้อนพี่ซันในใจ "ใช่ พอดีแพมมาทำธุระให้แม่แถวบ้านพี่แซนน่ะ พอเสร็จก็กะว่าจะมาหาพี่แซนสักหน่อย แต่ดันไม่อยู่ซะงั้น" เรื่องอะไรจะให้จับได้ไล่ทัน คนอย่างฉันหาทางหนีได้เสมอ
"แล้วทำไมไม่โทรหาพี่ก่อนล่ะว่าจะมา พี่จะได้รอไม่ออกไปข้างนอกก่อน"
"เอ่อ... แพมอยากเซอร์ไพรส์น่ะ"
"เหรอ... เซอร์ไพรส์มากเลยใช่มั้ย" พี่แซนปรายตามองฉันทั้งรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ คนน้องก็เจ้าเล่ห์เพทุบาย คนพี่ก็หน้าดุนิ่งขรึม สองคนนี้มีอะไรพอดีบ้างไหมเนี่ย "พี่ซันไปส่งแกด้วยใช่มั้ย ไปส่งหาไอ้เนยที่บ้าน"
"ก็... ก็แพมโดนพี่ชายของพี่แซนบังคับหนิ กะจะกลับเองแต่โดนขู่ให้ขึ้นรถไปด้วย" คราวนี้คือเรื่องจริงล้วน ๆ
"แล้วแกก็ชอบด้วยใช่ม้าย" พี่แซนล้อเลียนฉัน บ้ากันไปใหญ่แล้ว
"เปล๊า!" ฉันรีบตอบเสียงสูง
"แกชอบพี่ซันเหรอ เอาดิฉันเชียร์ รับประกันตอนนี้พี่ซันโสดและกำลังเฮิร์ทอยู่ อกหักจากนางงามจักรวาลไม่งั้นไม่หนีกลับไทย คุณพ่อกับคุณแม่อ้อนวอนแทบตายไม่ยอมกลับ แต่พออกหักไม่ต้องขอร้องเลย บินด่วนกลับทันที" คนเป็นน้องเม้าท์คนเป็นพี่สนุกปาก "พี่ไม่ติดอะไรหรอกถ้าจะได้น้องสายรหัสมาเป็นสะใภ้ของบ้านศิริกรโสภณ เอาหัวพี่เป็นประกันเลยว่าพี่ซันเป็นคนดี รักใครรักจริง" พี่แซนพูดแล้วก็หัวเราะ บ้า! ฉันค้อนขวับเข้าให้ ไม่ค่อยจะอวยยศพี่ชายเลย
อยากให้ฉันไปเป็นพี่สะใภ้ถามพี่ชายตัวเองหรือยังว่าเขาจะอยากให้เด็กกะโปโลอย่างฉันเป็นแฟนหรือเปล่า บ้า ๆ บอ ๆ แบบนี้ใครจะเอาไปเป็นแม่ของลูก ป่านนี้ฉันก็มีแฟนไปนานแล้วสิ ได้แค่แอบชอบก็ดีเท่าไหร่
....
มาถึงสโมสรฟุตบอลที่มาร์คัสสังกัดอยู่ก็เป็นช่วงที่นักฟุตบอลทุกคนพักพอดี เมื่อเราสองคนเดินมายังสนามฝึกซ้อมสายตาหลายคู่จ้องมองพวกเราราวกับเป็นสิ่งแปลกปลอมที่หลุดเข้ามา ก็แหงล่ะ... ไม่แปลกได้อย่างไรก็ที่นี่มีแต่ผู้ชายทั้งนั้น แถมยังมีหลายสัญชาติด้วย ทั้งผิวขาวผิวดำผมตรงผมหยิกปนกันไปหมด มีเราเพียงสองคนที่เป็นผู้หญิง 'สวย'
ฉันกับพี่แซนเดินมายังสนามฝึกซ้อม เดินตรงมายังที่มีมาร์คัสนั่งพักอยู่ ทุกคนในที่นี้หันไปมองมาร์คัสชายผิวสีและยิ้มให้ ส่วนคนที่กำลังเป็นเป้าหมายยืนขึ้นด้วยรอยยิ้มกว้างเมื่อเห็นพวกฉันสองคนเดินตรงมา เพราะรู้ดีว่าวันนี้เป็นวันอะไรและที่พวกฉันมาวันนี้ด้วยเรื่องอะไร
พี่แซนหยิบเค้กออกมาเปิดกล่องจุดไฟที่เทียนแล้วนำมันมามอบให้กับหวานใจ ทุกคนในที่นี่เหมือนจะรู้บทของตนเองดีรวมทั้งฉันด้วยต่างก็ปรบมือร้องเพลงแฮ็ปปี้เบิร์ธเดย์ให้กับชายผิวสีหวานใจของยัยผิวขาวที่ชื่อแซนดี้
"ขอบคุณมากนะครับที่รัก" มาร์คัสพูดขอบคุณพี่แซนเป็นภาษาอังกฤษ
"ไม่เป็นไรฉันทำเพื่อคุณค่ะที่รัก" พี่แซนตอบเป็นภาษาอังกฤษเช่นกัน เสียงวี้ดวิ้วเสียงเฮฮาและเสียงปรบมือดังขึ้นอีก "วันนี้ฉันกับแพมจะมาดูคุณซ้อมค่ะ"
"คุณพ่อรู้หรือเปล่า" มาร์คัสถาม คราวนี้ฉันมองเห็นนัยน์ตาสีดำของเขาคล้ายมีความกังวลอยู่หน่อย ๆ
"คุณพ่อไม่รู้ค่ะ ที่รักไม่ต้องห่วงนะ ถึงคุณพ่อรู้คุณพ่อก็ไม่ว่าอะไร" พี่แซนให้กำลังใจ
"คุณแน่ใจ..."
"แน่ใจค่ะ แซนตัดสินใจแล้วว่าหลังจากที่คุณพ่อกับคุณแม่กลับมาจากเหนือแซนจะบอกเรื่องของเราสองคนค่ะมาร์คัส" พี่แซนพูดภาษาอังกฤษกับมาร์คัส "แซนว่าคุณพ่อคุณแม่ท่านต้องเข้าใจ เพราะตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้วท่านไม่เคยห้ามลูก ๆ เรื่องมีแฟน" มาร์คัสพยักหน้าด้วยรอยยิ้มแห่งคนมีความหวัง
พอมอบเค้กให้เจ้าของวันเกิดเป่าแล้วพวกเราสองคนก็มานั่งดูมาร์คัสและเพื่อน ๆ ซ้อมฟุตบอลกันต่อ สังเกตว่าวันนี้ดูเหมือนพี่สาวทางสังคมของฉันจะอารมณ์ดีเป็นพิเศษ และยิ้มเยอะกว่าทุกวัน พี่แซนกะจะอยู่ที่นี่จนถึงบ่ายค่อยพาฉันกลับ
แต่แล้วฝันของพี่แซนก็ดูเหมือนจะแตกสลายเมื่อมีใครคนหนึ่งกับผู้ติดตามเดินมายังสนามซ้อมของนักฟุตบอล ทรงหล่อมาดเท่แบบนั้นเห็นแต่ไกล ๆ ก็รู้ว่าใคร นั่นคือ 'คุณชายซัน แสนสรัล ศิริกรโสภณ พี่ชายของคุณแซน ศรีอาภา ศิริกรโสภณ' คนที่นั่งยิ้มค้างอยู่ข้าง ๆ ฉันนี่
สายตาดุหันมามองพวกเราสองคนที่อัฒจันทร์ "พี่แซน ๆ พี่ซันมา" ฉันเขย่าแขนของพี่แซนเพื่อบอกว่าใครมา เพราะเจ้าหล่อนคงจะไม่ทันเห็นพี่ชาย
"เฮ้ย! ตายแล้วไหงพี่ซันมาที่ได้วะ" พี่แซนอุทาน ฉันมองคนข้าง ๆ ราวสงสัย เพราะอาการตื่นตระหนกของพี่แซนนั่นแหละ แต่แล้วก็นึกได้ว่า 'ครอบครังของพี่แซนยังไม่มีใครรู้เรื่องของมาร์คัส'
"พี่แซนจะเอาไงดี" ฉันถามและแอบดีใจไปในตัวที่เจอคนหล่อในดวงใจ และก็แอบห่วงพี่แซนกับเฮียคัสด้วย อย่างนี้จะมีผลกระทบอะไรไหม
"ไม่เป็นไร... และฉันจะไม่ยอมให้มาร์คัสมีปัญหาด้วย" พี่แซนตอบราวกับเดาอนาคตข้างหน้าได้ ครั้นจะหลบหน้าก็หลบไม่ทันแล้ว คนเป็นพี่กำลังเดินมุ่งหน้ามาทางนี้
คนมาดเท่เดินตรงมาหาพวกเราสองคนโดยมีคนติดตามเดินมาด้วย
"แกมาทำอะไรที่นี่เหรอแซน" คนเป็นพี่ชายถามคนเป็นน้องสาวและไม่สนใจคนนั่งข้าง ๆ อย่างฉันเลย นี่ฉันเป็นอากาศธาตุไม่มีตัวตนหรือไร
"เอ่อคือแซน แซนมาดูนักกีฬาซ้อมค่ะ" พี่แซนแก้ตัวได้น้ำตื้น ๆ มาก แต่ก็ดีกว่าไม่แก้ตัวเลย จะบอกความจริงก็เกรงว่าจะงานเข้า
"ไม่ใช่หน้าที่ของแก" คนหน้าเหี้ยมพูดกับคนเป็นน้องก่อนจะปรายตามามองฉันและมองไปยังสนามฝึกซ้อมด้วย "ข่าวที่เขาซุบซิบกันภายในสโมสรเป็นเรื่องจริงสินะ" ฉันเห็นพี่ซันกระตุกมุมปากช่างเยือกเย็นเหลือเกินบวกกับดวงตาที่แข็งกร้าวและใบหน้าที่นิ่งนั้น จะดุไปไหน! เคยยิ้มและหัวเราะกับเขาบ้างไหมคุณชายซันสุดหล่อของน้องแพม
"ซุบซิบอะไรคะ" คราวนี้พี่แซนจ้องมองพี่ชายตาเขม็ง สายตามองไปยังใบหน้าหล่อของคนเป็นพี่ไม่วางตา นัยน์ตาหวานปนเจ้าเล่ห์ไม่มีอีกแล้ว หากการมองสามารถเผาไหม้ได้ทั้งสองคนคงโดนเผาจนแหลกเป็นจุล "แซนทำอะไรผิด ทำอะไรเสียหายคนถึงจะได้ซุบซิบ"
"ก็แกกับนักฟุตบอลไงล่ะแซน แกแอบคบกับนักฟุตบอลในนี้ มาร์คัส เรชฟอร์ด" สองพี่น้องคุยกันไม่ได้โวยวายเสียงดังจึงทำให้คนในสนามไม่รู้เลยว่าคุยอะไรกันนอกจากฉันกับผู้ติดตามของพี่ซันที่รู้ทุกประโยค
"แล้วแซนรักกับเขามันผิดตรงไหน... มาร์คัสเขาก็เป็นคนดีคนหนึ่ง รักแซน จริงใจ จริงจัง ไม่เจ้าชู้ อบอุ่น เอาใจแซนเสมอต้นเสมอปลาย ตั้งใจเล่นฟุตบอลเพื่อสโมสร พาสโมสรได้ชัยชนะมาก็หลายครั้ง เพียงเพราะเขาแค่... แค่เป็นนักฟุตบอลไม่ใช่นักธุรกิจแบบพี่เหรอ หรือเพราะเขาเป็นคนผิวสีเหรอแซนถึงไม่เหมาะกับเขา" คราวนี้ฉันเห็นน้ำตาพี่แซนคลอ คงจะอัดอั้น และฉันเห็นจะเจอปัญหาในเส้นทางรักของรสนมและรสช็อกโกแลตแล้วล่ะ
"แกมีสิทธิ์เลือกได้มากกว่านี้" พี่ซันพูดเบา ๆ แต่ทรงพลัง
"เอาเป็นว่าให้มันเป็นเรื่องของแซนได้มั้ยคะพี่ซัน และก็แซนขอพี่ซันอย่าเพิ่งนำเรื่องนี้ไปบอกกับคุณพ่อคุณแม่นะคะ แซนตั้งใจจะบอกท่านอยู่แล้ว แค่รอให้ท่านทั้งสองคนกลับมาจากเหนือก่อน" คราวนี้พี่แซนมีน้ำเสียงอ่อนลง กล่าวอ้อนวอนพี่ชาย และฉันก็ลุ้นว่าคนหล่อหน้าดุจะใจอ่อนไหม
พี่ซันถอนหายใจดังเฮือก "แกก็ให้เขาพิสูจน์ให้ฉันเห็นว่าเขารักน้องสาวเพียงคนเดียวของฉันจริง ๆ ก็แล้วกัน" พี่แซนยิ้มออก รวมทั้งฉันด้วยที่คอยลุ้นไปด้วยคน
"ค่ะพี่ซัน แซนขอบคุณพี่ซันมากนะคะที่ให้โอกาสมาร์คัสกับแซน"
"อืม... กลับบ้านได้แล้ว มาทำอะไรที่นี่มีแต่ผู้ชาย" ไม่พูดเท่านั้นพี่ซันยังหันมามองฉันด้วย จะมากล่าวหาอะไรฉันน้องสาวตัวเองต่างหากที่พาฉันมา อ่านสายตาคมคู่นั้นของเขาออกหรอกว่าจะตำหนิฉันที่พาพี่แซนมาใช่ไหม
แต่พอหลบสายตาของพี่ซันก็ปะทะเข้ากับสายตาเจ้าเล่ห์ของพี่แซน เหอะ ๆ พี่แซนคนเดิมกลับมาแล้วสินะ อะไรกันนะสองพี่น้องคู่นี้ 'ไม่น่าไว้ใจทั้งสองคน'
"พี่ซันจะอยู่ที่สโมสรนานมั้ยคะ พอดีว่าแซนจะไปทำธุระต่อค่ะ แซนฝากไปส่งน้องหน่อยได้มั้ย" นั่นไง! สายตาเจ้าเล่ห์ที่ฉันปะทะเข้าเมื่อครู่ก็ได้ทำงานแล้ว แล้วพี่แซนจะไปไหน ตอนมายังบอกเลยว่าไม่มีธุระจะไปไหนต่อไหงตอนนี้ดันมีธุระด่วนซะงั้น
ฉันทำหน้ามุ่ยให้กับสาวเจ้าเล่ห์ ไม่อยากจะคิดเลยว่าถ้าแต่งงานกับมาร์คัสเจ้าตัวจะต้องปวดหัวกับความเจ้าเล่ห์ของภรรยาขนาดไหน
"พี่แซนจะไปไหนแพมไปด้วย" ฉันไม่ยอม ไม่ยอมนั่งรถไปกับพี่ซันหรอก ไม่ใช่กลัว แต่เรื่องอะไรมากับคนหนึ่งแต่กลับไปกับอีกคน แถมยังเป็นคนที่ทำให้หัวใจเต้นตูมตามตลอดเวลาที่เจอกันอีกด้วย แอบชอบก็ส่วนแอบชอบแต่แบบนี้ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่
"แกไปกับฉันไม่ได้หรอกแพม ฉันไปธุระนาน ไม่รู้จะเสร็จตอนไหน จริง ๆ ไปธุระให้มาร์คัสน่ะ พี่ขอโทษ... ที่พาแพมมาลำบาก กลับกับพี่ซันนะ" คนเจ้าเล่ห์ว่า สายตาและความเศร้าไม่อยากจะเชื่อสักนิด "พี่ซันคะแซนฝากน้องด้วยนะคะ พี่ซันต้องไปส่งน้องสาวของแซนให้ถึงบ้านโดยปลอดภัยนะคะ"
พี่ซันพยักหน้า... แนะ! รายนี้มีเออออห่อหมกไปกับเขาด้วยอีก แทนที่จะปฏิเสธว่า 'มากับใครก็ให้กลับกับคนนั้นสิ' ทำไมไม่พูดแบบนี้ ต้องพูดแบบนี้สิถึงจะถูก
"แพมไม่ต้องกลัว พี่ชายพี่เป็นสุภาพบุรุษ พี่ลาล่ะนะ" พี่แซนลุกเดินจากฉันไปอย่างหน้าตาเฉย ปล่อยให้ฉันอยู่กับคนโหดหน้าหล่อเพียงลำพัง แต่... ลึก ๆ 'ก็ดี' ได้อยู่ใกล้พี่ซันอีกแล้ว พรหมลิขิตกำลังทำงานแน่เลย ไม่รู้ว่าตัวเองเผลอฉีกยิ้มกว้างตอนไหน รู้ตัวก็เมื่อปะทะเข้ากับนัยน์ตาสีนิลที่กำลังจ้องมองหน้าฉันอยู่ จนฉันต้องหุบยิ้มในทันที
"รอฉันอีกครึ่งชั่วโมงนะ แล้วจะไปส่ง" พี่ซันบอก
"ค่ะ แพมรอได้" ฉันตอบ จากนั้นพี่ซันก็เดินลงไปจากอัฒจันทร์พร้อมผู้ติดตาม แต่แล้วก็หยุดกึกและหันมามองฉัน
"แพมจะนั่งอยู่ที่นี่คนเดียวเหรอ ตามฉันมาสิ" พี่ซันออกคำสั่ง หล่อชอบสั่ง!
ค่านายท่านบ่าวจะตามไปเดี๋ยวนี้ค่ะ ฉันค่อนขอดพี่ซันด้วยสายตาก่อนจะลุกเดินตามพี่ซันไปที่ขอบสนามฝึกซ้อมอย่างว่าง่าย
....
รักพิทักษ์ใจ (4)
Chalun Ch
ความบังเอิญ (ของแท้)
ฉันพิจารณาร่างเพรียวบางที่กำลังเคลื่อนไหวอยู่ตรงหน้า เจ้าหล่อนเดินเลือกเค้กวันเกิดในร้านอย่างอารมณ์ดี ฉันชอบหุ่นนางแบบของพี่แซนมาก ผิวขาว หน้าตาจิ้มลิ้ม ปากนิดจมูกหน่อย ตาโต ผมยาวสลวย ส่วนสูงเกือบร้อยเจ็ดสิบเซนติเมตร ถ้าฉันเป็นพี่แซนนะฉันจะไปประกวดมิสแกรนด์ หลักกิโลอย่างฉันอย่าหวังเลย
วันนี้เป็นวันคล้ายวันเกิดเฮียมาร์คัสนักฟุตบอลอาชีพสังกัดอยู่ในสโมสรที่บริษัทของครอบครัวพี่แซนเป็นสปอนเซอร์รายใหญ่สนับสนุนอยู่และเจ้าหล่อนก็แอบไปปิ้ง ๆ กันเข้า พี่แซนบอกว่าวันนั้นไม่ได้ตั้งใจจะไปดูฟุตบอลแต่โดนคุณพ่อลากไปเป็นเพื่อนด้วย มาร์คัสซึ่งเป็นกองหลังของทีมก็ลงเตะอยู่ในสนาม แล้วเขาก็ทำประตูชัยจากการยิงไกลได้ก่อนลูกแรก และนั่นก็เป็นที่สะดุดตาของพี่แซนเข้า ความหลงใหลผุดขึ้นมาในใจ ปลื้ม ไม่สนใจว่ามาร์คัสจะเป็นคนผิวสีหรืออะไรก็ตาม รู้แต่ว่าคนนี้ใช่เลย
พอจบการแข่งขันทางคุณพ่อของพี่แซนก็ตบรางวัลให้กองหลังคนเก่ง นั่นทำให้พี่แซนได้ใกล้ชิดกับมาร์คัสและได้สบตากันเข้า ทำให้เคมีอะไรบางอย่างในตัวทำปฏิกิริยา สายตาบังเอิญประสานสายตาแล้วปิ้ง ๆ กันเข้า เหมือนเจ้าตัวก็รู้ความนัยที่พี่แซนสื่อถึง เรื่องของหัวใจมองตาก็รู้ไปถึงปอด เหมือนจะเป็นพรหมลิขิตดลบันดาลชักพาด้วย ท่านคิวปิดเริ่มทำงานยิงศรไปปักอกของทั้งคู่ พี่แซนกับมาร์คัสมีเฟซบุ๊กกันจากนั้นก็คุยกันเล่น ๆ ไป ๆ มา ๆ กลายเป็นแฟนกันแอบคบกันมายาวนานตอนนี้นับเวลาสองปีกว่า
เวลาพี่แซนกับเฮียมาร์คัสเดินด้วยกันมันคล้ายครีมรสนมกับรสช็อกโกแลตดี ๆ นี่เอง
ฉันเคยถามพี่แซนว่าไม่กลัวคนจะนินทาเหรอที่คบคนผิวสี เพราะบ้านเรายังไม่ค่อยนิยมเท่าไหร่ อีกทั้งครอบครัวของพี่แซนด้วยจะรับได้หรือ ฉันได้คำตอบกลับมาว่า 'ความรักมันบังคับกันได้ซะที่ไหน' ก็จริง และฉันก็ยินดีกับพี่แซนกับความรักของทั้งคู่ที่มีแต่ความเข้าใจซึ่งกันและกัน ไม่มองเพียงภายนอกทั้งคู่มองลึกเข้าไปในหัวใจที่ต้องการกันและกัน
"แพมปะเสร็จละ" พี่แซนเรียกฉันเมื่อได้เค้กวันเกิดให้กับแฟนแล้ว พวกเราจะไปแฮปปี้เบิร์ธเดย์เฮียที่สโมสร
ปกติเขาไม่ให้คนนอกเข้าไปวุ่นวายแต่ว่าพี่แซนเป็นคนนอกที่วีไอพีมาก ๆ ทางสโมสรจึงยอมให้เข้าไปได้โดยง่าย
"แพมเมื่อวานพี่ซันบอกว่าแกมาหาพี่ที่บ้านเหรอ" พี่แซนถามขณะขับรถพาฉันไปหามาร์คัส
'เอ๋... คนหล่อปากสว่างจัง' แค่นี้ก็เอาไปเล่าให้น้องสาวฟัง ฉันค้อนพี่ซันในใจ "ใช่ พอดีแพมมาทำธุระให้แม่แถวบ้านพี่แซนน่ะ พอเสร็จก็กะว่าจะมาหาพี่แซนสักหน่อย แต่ดันไม่อยู่ซะงั้น" เรื่องอะไรจะให้จับได้ไล่ทัน คนอย่างฉันหาทางหนีได้เสมอ
"แล้วทำไมไม่โทรหาพี่ก่อนล่ะว่าจะมา พี่จะได้รอไม่ออกไปข้างนอกก่อน"
"เอ่อ... แพมอยากเซอร์ไพรส์น่ะ"
"เหรอ... เซอร์ไพรส์มากเลยใช่มั้ย" พี่แซนปรายตามองฉันทั้งรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ คนน้องก็เจ้าเล่ห์เพทุบาย คนพี่ก็หน้าดุนิ่งขรึม สองคนนี้มีอะไรพอดีบ้างไหมเนี่ย "พี่ซันไปส่งแกด้วยใช่มั้ย ไปส่งหาไอ้เนยที่บ้าน"
"ก็... ก็แพมโดนพี่ชายของพี่แซนบังคับหนิ กะจะกลับเองแต่โดนขู่ให้ขึ้นรถไปด้วย" คราวนี้คือเรื่องจริงล้วน ๆ
"แล้วแกก็ชอบด้วยใช่ม้าย" พี่แซนล้อเลียนฉัน บ้ากันไปใหญ่แล้ว
"เปล๊า!" ฉันรีบตอบเสียงสูง
"แกชอบพี่ซันเหรอ เอาดิฉันเชียร์ รับประกันตอนนี้พี่ซันโสดและกำลังเฮิร์ทอยู่ อกหักจากนางงามจักรวาลไม่งั้นไม่หนีกลับไทย คุณพ่อกับคุณแม่อ้อนวอนแทบตายไม่ยอมกลับ แต่พออกหักไม่ต้องขอร้องเลย บินด่วนกลับทันที" คนเป็นน้องเม้าท์คนเป็นพี่สนุกปาก "พี่ไม่ติดอะไรหรอกถ้าจะได้น้องสายรหัสมาเป็นสะใภ้ของบ้านศิริกรโสภณ เอาหัวพี่เป็นประกันเลยว่าพี่ซันเป็นคนดี รักใครรักจริง" พี่แซนพูดแล้วก็หัวเราะ บ้า! ฉันค้อนขวับเข้าให้ ไม่ค่อยจะอวยยศพี่ชายเลย
อยากให้ฉันไปเป็นพี่สะใภ้ถามพี่ชายตัวเองหรือยังว่าเขาจะอยากให้เด็กกะโปโลอย่างฉันเป็นแฟนหรือเปล่า บ้า ๆ บอ ๆ แบบนี้ใครจะเอาไปเป็นแม่ของลูก ป่านนี้ฉันก็มีแฟนไปนานแล้วสิ ได้แค่แอบชอบก็ดีเท่าไหร่
....
มาถึงสโมสรฟุตบอลที่มาร์คัสสังกัดอยู่ก็เป็นช่วงที่นักฟุตบอลทุกคนพักพอดี เมื่อเราสองคนเดินมายังสนามฝึกซ้อมสายตาหลายคู่จ้องมองพวกเราราวกับเป็นสิ่งแปลกปลอมที่หลุดเข้ามา ก็แหงล่ะ... ไม่แปลกได้อย่างไรก็ที่นี่มีแต่ผู้ชายทั้งนั้น แถมยังมีหลายสัญชาติด้วย ทั้งผิวขาวผิวดำผมตรงผมหยิกปนกันไปหมด มีเราเพียงสองคนที่เป็นผู้หญิง 'สวย'
ฉันกับพี่แซนเดินมายังสนามฝึกซ้อม เดินตรงมายังที่มีมาร์คัสนั่งพักอยู่ ทุกคนในที่นี้หันไปมองมาร์คัสชายผิวสีและยิ้มให้ ส่วนคนที่กำลังเป็นเป้าหมายยืนขึ้นด้วยรอยยิ้มกว้างเมื่อเห็นพวกฉันสองคนเดินตรงมา เพราะรู้ดีว่าวันนี้เป็นวันอะไรและที่พวกฉันมาวันนี้ด้วยเรื่องอะไร
พี่แซนหยิบเค้กออกมาเปิดกล่องจุดไฟที่เทียนแล้วนำมันมามอบให้กับหวานใจ ทุกคนในที่นี่เหมือนจะรู้บทของตนเองดีรวมทั้งฉันด้วยต่างก็ปรบมือร้องเพลงแฮ็ปปี้เบิร์ธเดย์ให้กับชายผิวสีหวานใจของยัยผิวขาวที่ชื่อแซนดี้
"ขอบคุณมากนะครับที่รัก" มาร์คัสพูดขอบคุณพี่แซนเป็นภาษาอังกฤษ
"ไม่เป็นไรฉันทำเพื่อคุณค่ะที่รัก" พี่แซนตอบเป็นภาษาอังกฤษเช่นกัน เสียงวี้ดวิ้วเสียงเฮฮาและเสียงปรบมือดังขึ้นอีก "วันนี้ฉันกับแพมจะมาดูคุณซ้อมค่ะ"
"คุณพ่อรู้หรือเปล่า" มาร์คัสถาม คราวนี้ฉันมองเห็นนัยน์ตาสีดำของเขาคล้ายมีความกังวลอยู่หน่อย ๆ
"คุณพ่อไม่รู้ค่ะ ที่รักไม่ต้องห่วงนะ ถึงคุณพ่อรู้คุณพ่อก็ไม่ว่าอะไร" พี่แซนให้กำลังใจ
"คุณแน่ใจ..."
"แน่ใจค่ะ แซนตัดสินใจแล้วว่าหลังจากที่คุณพ่อกับคุณแม่กลับมาจากเหนือแซนจะบอกเรื่องของเราสองคนค่ะมาร์คัส" พี่แซนพูดภาษาอังกฤษกับมาร์คัส "แซนว่าคุณพ่อคุณแม่ท่านต้องเข้าใจ เพราะตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้วท่านไม่เคยห้ามลูก ๆ เรื่องมีแฟน" มาร์คัสพยักหน้าด้วยรอยยิ้มแห่งคนมีความหวัง
พอมอบเค้กให้เจ้าของวันเกิดเป่าแล้วพวกเราสองคนก็มานั่งดูมาร์คัสและเพื่อน ๆ ซ้อมฟุตบอลกันต่อ สังเกตว่าวันนี้ดูเหมือนพี่สาวทางสังคมของฉันจะอารมณ์ดีเป็นพิเศษ และยิ้มเยอะกว่าทุกวัน พี่แซนกะจะอยู่ที่นี่จนถึงบ่ายค่อยพาฉันกลับ
แต่แล้วฝันของพี่แซนก็ดูเหมือนจะแตกสลายเมื่อมีใครคนหนึ่งกับผู้ติดตามเดินมายังสนามซ้อมของนักฟุตบอล ทรงหล่อมาดเท่แบบนั้นเห็นแต่ไกล ๆ ก็รู้ว่าใคร นั่นคือ 'คุณชายซัน แสนสรัล ศิริกรโสภณ พี่ชายของคุณแซน ศรีอาภา ศิริกรโสภณ' คนที่นั่งยิ้มค้างอยู่ข้าง ๆ ฉันนี่
สายตาดุหันมามองพวกเราสองคนที่อัฒจันทร์ "พี่แซน ๆ พี่ซันมา" ฉันเขย่าแขนของพี่แซนเพื่อบอกว่าใครมา เพราะเจ้าหล่อนคงจะไม่ทันเห็นพี่ชาย
"เฮ้ย! ตายแล้วไหงพี่ซันมาที่ได้วะ" พี่แซนอุทาน ฉันมองคนข้าง ๆ ราวสงสัย เพราะอาการตื่นตระหนกของพี่แซนนั่นแหละ แต่แล้วก็นึกได้ว่า 'ครอบครังของพี่แซนยังไม่มีใครรู้เรื่องของมาร์คัส'
"พี่แซนจะเอาไงดี" ฉันถามและแอบดีใจไปในตัวที่เจอคนหล่อในดวงใจ และก็แอบห่วงพี่แซนกับเฮียคัสด้วย อย่างนี้จะมีผลกระทบอะไรไหม
"ไม่เป็นไร... และฉันจะไม่ยอมให้มาร์คัสมีปัญหาด้วย" พี่แซนตอบราวกับเดาอนาคตข้างหน้าได้ ครั้นจะหลบหน้าก็หลบไม่ทันแล้ว คนเป็นพี่กำลังเดินมุ่งหน้ามาทางนี้
คนมาดเท่เดินตรงมาหาพวกเราสองคนโดยมีคนติดตามเดินมาด้วย
"แกมาทำอะไรที่นี่เหรอแซน" คนเป็นพี่ชายถามคนเป็นน้องสาวและไม่สนใจคนนั่งข้าง ๆ อย่างฉันเลย นี่ฉันเป็นอากาศธาตุไม่มีตัวตนหรือไร
"เอ่อคือแซน แซนมาดูนักกีฬาซ้อมค่ะ" พี่แซนแก้ตัวได้น้ำตื้น ๆ มาก แต่ก็ดีกว่าไม่แก้ตัวเลย จะบอกความจริงก็เกรงว่าจะงานเข้า
"ไม่ใช่หน้าที่ของแก" คนหน้าเหี้ยมพูดกับคนเป็นน้องก่อนจะปรายตามามองฉันและมองไปยังสนามฝึกซ้อมด้วย "ข่าวที่เขาซุบซิบกันภายในสโมสรเป็นเรื่องจริงสินะ" ฉันเห็นพี่ซันกระตุกมุมปากช่างเยือกเย็นเหลือเกินบวกกับดวงตาที่แข็งกร้าวและใบหน้าที่นิ่งนั้น จะดุไปไหน! เคยยิ้มและหัวเราะกับเขาบ้างไหมคุณชายซันสุดหล่อของน้องแพม
"ซุบซิบอะไรคะ" คราวนี้พี่แซนจ้องมองพี่ชายตาเขม็ง สายตามองไปยังใบหน้าหล่อของคนเป็นพี่ไม่วางตา นัยน์ตาหวานปนเจ้าเล่ห์ไม่มีอีกแล้ว หากการมองสามารถเผาไหม้ได้ทั้งสองคนคงโดนเผาจนแหลกเป็นจุล "แซนทำอะไรผิด ทำอะไรเสียหายคนถึงจะได้ซุบซิบ"
"ก็แกกับนักฟุตบอลไงล่ะแซน แกแอบคบกับนักฟุตบอลในนี้ มาร์คัส เรชฟอร์ด" สองพี่น้องคุยกันไม่ได้โวยวายเสียงดังจึงทำให้คนในสนามไม่รู้เลยว่าคุยอะไรกันนอกจากฉันกับผู้ติดตามของพี่ซันที่รู้ทุกประโยค
"แล้วแซนรักกับเขามันผิดตรงไหน... มาร์คัสเขาก็เป็นคนดีคนหนึ่ง รักแซน จริงใจ จริงจัง ไม่เจ้าชู้ อบอุ่น เอาใจแซนเสมอต้นเสมอปลาย ตั้งใจเล่นฟุตบอลเพื่อสโมสร พาสโมสรได้ชัยชนะมาก็หลายครั้ง เพียงเพราะเขาแค่... แค่เป็นนักฟุตบอลไม่ใช่นักธุรกิจแบบพี่เหรอ หรือเพราะเขาเป็นคนผิวสีเหรอแซนถึงไม่เหมาะกับเขา" คราวนี้ฉันเห็นน้ำตาพี่แซนคลอ คงจะอัดอั้น และฉันเห็นจะเจอปัญหาในเส้นทางรักของรสนมและรสช็อกโกแลตแล้วล่ะ
"แกมีสิทธิ์เลือกได้มากกว่านี้" พี่ซันพูดเบา ๆ แต่ทรงพลัง
"เอาเป็นว่าให้มันเป็นเรื่องของแซนได้มั้ยคะพี่ซัน และก็แซนขอพี่ซันอย่าเพิ่งนำเรื่องนี้ไปบอกกับคุณพ่อคุณแม่นะคะ แซนตั้งใจจะบอกท่านอยู่แล้ว แค่รอให้ท่านทั้งสองคนกลับมาจากเหนือก่อน" คราวนี้พี่แซนมีน้ำเสียงอ่อนลง กล่าวอ้อนวอนพี่ชาย และฉันก็ลุ้นว่าคนหล่อหน้าดุจะใจอ่อนไหม
พี่ซันถอนหายใจดังเฮือก "แกก็ให้เขาพิสูจน์ให้ฉันเห็นว่าเขารักน้องสาวเพียงคนเดียวของฉันจริง ๆ ก็แล้วกัน" พี่แซนยิ้มออก รวมทั้งฉันด้วยที่คอยลุ้นไปด้วยคน
"ค่ะพี่ซัน แซนขอบคุณพี่ซันมากนะคะที่ให้โอกาสมาร์คัสกับแซน"
"อืม... กลับบ้านได้แล้ว มาทำอะไรที่นี่มีแต่ผู้ชาย" ไม่พูดเท่านั้นพี่ซันยังหันมามองฉันด้วย จะมากล่าวหาอะไรฉันน้องสาวตัวเองต่างหากที่พาฉันมา อ่านสายตาคมคู่นั้นของเขาออกหรอกว่าจะตำหนิฉันที่พาพี่แซนมาใช่ไหม
แต่พอหลบสายตาของพี่ซันก็ปะทะเข้ากับสายตาเจ้าเล่ห์ของพี่แซน เหอะ ๆ พี่แซนคนเดิมกลับมาแล้วสินะ อะไรกันนะสองพี่น้องคู่นี้ 'ไม่น่าไว้ใจทั้งสองคน'
"พี่ซันจะอยู่ที่สโมสรนานมั้ยคะ พอดีว่าแซนจะไปทำธุระต่อค่ะ แซนฝากไปส่งน้องหน่อยได้มั้ย" นั่นไง! สายตาเจ้าเล่ห์ที่ฉันปะทะเข้าเมื่อครู่ก็ได้ทำงานแล้ว แล้วพี่แซนจะไปไหน ตอนมายังบอกเลยว่าไม่มีธุระจะไปไหนต่อไหงตอนนี้ดันมีธุระด่วนซะงั้น
ฉันทำหน้ามุ่ยให้กับสาวเจ้าเล่ห์ ไม่อยากจะคิดเลยว่าถ้าแต่งงานกับมาร์คัสเจ้าตัวจะต้องปวดหัวกับความเจ้าเล่ห์ของภรรยาขนาดไหน
"พี่แซนจะไปไหนแพมไปด้วย" ฉันไม่ยอม ไม่ยอมนั่งรถไปกับพี่ซันหรอก ไม่ใช่กลัว แต่เรื่องอะไรมากับคนหนึ่งแต่กลับไปกับอีกคน แถมยังเป็นคนที่ทำให้หัวใจเต้นตูมตามตลอดเวลาที่เจอกันอีกด้วย แอบชอบก็ส่วนแอบชอบแต่แบบนี้ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่
"แกไปกับฉันไม่ได้หรอกแพม ฉันไปธุระนาน ไม่รู้จะเสร็จตอนไหน จริง ๆ ไปธุระให้มาร์คัสน่ะ พี่ขอโทษ... ที่พาแพมมาลำบาก กลับกับพี่ซันนะ" คนเจ้าเล่ห์ว่า สายตาและความเศร้าไม่อยากจะเชื่อสักนิด "พี่ซันคะแซนฝากน้องด้วยนะคะ พี่ซันต้องไปส่งน้องสาวของแซนให้ถึงบ้านโดยปลอดภัยนะคะ"
พี่ซันพยักหน้า... แนะ! รายนี้มีเออออห่อหมกไปกับเขาด้วยอีก แทนที่จะปฏิเสธว่า 'มากับใครก็ให้กลับกับคนนั้นสิ' ทำไมไม่พูดแบบนี้ ต้องพูดแบบนี้สิถึงจะถูก
"แพมไม่ต้องกลัว พี่ชายพี่เป็นสุภาพบุรุษ พี่ลาล่ะนะ" พี่แซนลุกเดินจากฉันไปอย่างหน้าตาเฉย ปล่อยให้ฉันอยู่กับคนโหดหน้าหล่อเพียงลำพัง แต่... ลึก ๆ 'ก็ดี' ได้อยู่ใกล้พี่ซันอีกแล้ว พรหมลิขิตกำลังทำงานแน่เลย ไม่รู้ว่าตัวเองเผลอฉีกยิ้มกว้างตอนไหน รู้ตัวก็เมื่อปะทะเข้ากับนัยน์ตาสีนิลที่กำลังจ้องมองหน้าฉันอยู่ จนฉันต้องหุบยิ้มในทันที
"รอฉันอีกครึ่งชั่วโมงนะ แล้วจะไปส่ง" พี่ซันบอก
"ค่ะ แพมรอได้" ฉันตอบ จากนั้นพี่ซันก็เดินลงไปจากอัฒจันทร์พร้อมผู้ติดตาม แต่แล้วก็หยุดกึกและหันมามองฉัน
"แพมจะนั่งอยู่ที่นี่คนเดียวเหรอ ตามฉันมาสิ" พี่ซันออกคำสั่ง หล่อชอบสั่ง!
ค่านายท่านบ่าวจะตามไปเดี๋ยวนี้ค่ะ ฉันค่อนขอดพี่ซันด้วยสายตาก่อนจะลุกเดินตามพี่ซันไปที่ขอบสนามฝึกซ้อมอย่างว่าง่าย
....