เรือเร็วตรวจการณ์ลำน้ำทั้ง 4 ลำ มีขีดความสามารถ ดังนี้ ความยาวตลอดลำ 12.78 เมตร ความกว้างตัวเรือสูงสุด 3.2 เมตร
ความสูงตัวเรือ 1.4 เมตร กินน้ำลึกสูงสุด 0.7 เมตร ระบบอาวุธประกอบด้วย ปืนกล ขนาด .50 นิ้วจำนวน 3 กระบอก ปืนกล ขนาด 7.62 มม. จำนวน 2 กระบอก 

และเครื่องยิงลูกระเบิดกล ขนาด 40 มม. จำนวน 1 กระบอก มีอุปกรณ์สื่อสารและเรดาร์เดินเรือสำหรับตรวจการณ์และติดตามเป้าพื้นน้ำ รวมถึงเครื่องหาตำแหน่งด้วยดาวเทียม มีกำลังพลประจำเรือ 5 นาย สามารถบรรทุกชุดปฏิบัติการพิเศษ 8 นาย

สามารถเคลื่อนตัวทางข้าง หันเลี้ยวได้ 180 องศา และหยุดเรือในขณะที่ใช้ความเร็วสูงสุดในลำน้ำและเขตน้ำตื้น ความเร็วสูงสุดไม่ต่ำกว่า 40 นอต ต่อเนื่องไม่ต่ำกว่า 35 นอต ระยะปฏิบัติการไม่น้อยกว่า 250 ไมล์ทะเล ที่ความเร็วมัธยัสถ์ 25 นอต สามารถปฏิบัติการในลำน้ำ และชายฝั่งทะเลได้ทั้งกลางวันและกลางคืน ในสภาวะทะเลได้ถึง Sea State 2 (คลื่นสูง 0.1 - 0.5 เมตร)

ข้อมูลจัดซื้อจัดจ้างและราคากลางกองทัพเรือไทย โครงการจ้างสร้างเรือเร็วตรวจการณ์ลำน้ำ (ไม่รวมระบบอาวุธ) จำนวน 4 ลำ โดย กรมอู่ทหารเรือ วงเงิน 84,012,120 บาท  เมื่อวันที่ 10 มกราคม พ.ศ.2565 ประกาศผู้ชนะโครงการนี้ในเดือน เมษายน 2565 คือ บริษัท มาร์ซัน โดยเสนอราคาเป็นวงเงิน 82,176,000 บาท

จึงเข้าใจว่าบริษัท  มาร์ซัน ไทยได้รับสัญญาเพื่อสร้างเรือ รตล.ชุดใหม่ที่มีพื้นฐานจากเรือตรวจการณ์ลำน้ำ M10 Riverine Patrol Boat และ M10 Riverine Patrol Boat MKII ที่บริษัทออกแบบพัฒนาและสร้างภายในไทย เป็นการส่งเสริมอุตสาหกรรมสร้างเรือในประเทศของกองทัพเรือไทย

กองเรือลำน้ำกำลังอยู่ระหว่างการทยอยจัดหาเรือเร็วตรวจการณ์ลำน้ำใหม่เพื่อทดแทนเรือเร็วตรวจการณ์ลำน้ำชุดเรือ ล.11(Patrol Boat, River PBR Mark II) จำนวน ๓๙ลำที่เข้าประจำการมาตั้งแต่ช่วงปี พ.ศ.2514-2522(1971-1979) ที่ใกล้จะปลดประจำการลงหมดทุกลำในอนาคตอันใกล้