ไม่นานมานี้ มักจะมีประเด็นเรื่อง "ก็หนูไม่ได้ขอมาเกิดหนิ" มาถกเถียงกันให้ปวดหัววุ่นวาย
โดยความรู้สึกของจขกท.คือว่า จะมีความคิดอยู่2ฝ่าย
- พ่อแม่คือเจ้าของชีวิตเรา เขาจะดุด่าเรา ก็ไม่มีสิทธิ์เคืองใจ เขาไล่ไปตายก็ยังได้ เถียงคือ ทรพี เนรคุณ
ประเภทที่2 - มนุษย์ทุกคนมีความรู้สึก ไม่ว่าจะสถานะไหน นี่สมัยใหม่แล้ว ควรจะพูดคุยกันด้วยเหตุและผล พ่อแม่ควรจะปลูกฝังและเปิดใจ เรื่องมีเหตุผล ให้กับลูก ควรจะสอนให้ลูก/เด็กรู้จักทำหน้าที่ของตัวเอง บางทีเด็กอธิบายอะไรให้ฟัง ก็ปิดใจสักนิดนึง ถูกผิดก็ค่อยๆพูดกัน
ทุกๆคนแหละ เคยผ่านการเป็นเด็ก และ วัยรุ่นหัวเลี้ยวหัวต่อมาก่อน น่าจะเข้าใจดี แต่ผู้ใหญ่บางคนเหมือนไม่เคยผ่านการเป็นเด็กมาก่อน จะให้ความคิดเด็กวัย13-18 เหมือนตัวเอง
ตัวเราเองไม่มีลูกนะ แต่มีหลานชาย คลุกคลีกับเขาตั้งแต่ทารกจนตอนนี้ม.ปลายละ โคตรเข้าใจความรู้สึกเขาเลย บางทีโดนพ่อแม่ดุ เรานี่แหละก็ตามไปอธิบายให้เขาฟัง เพราะพ่อแม่บางทีสัจแต่ว่าคิดว่าตัวเองเป็นพ่อแม่จะด่าว่าอะไรก็ได้ ซึ่งก็ไม่ผิดหรอก แต่ว่าเด็กช่วงวัยเนี่ย จะเอาความคิดวิเคราะห์ความเข้าใจในคำพูดแย่ๆของพ่อแม่แบบนี้มาจากไหนนักหนาหรอ ผู้ใหญ่บางคนบอกว่า ที่เขาด่าเพราะเขาหวังดี😅 ความหวังดี เลือกที่จะแสดงออกในแบบอื่นได้มั้ย
ส่วนเรื่องกตัญญู ตอบแทนบุญคุณพ่อแม่
อันนี้ เราว่าขึ้นอยู่กับการเลี้ยงดู การปลูกฝังมาล้วนๆ คุณเลี้ยงลูกหลานคุณมาแบบไหนล่ะ ปล่อยให้เขา ตกระกำลำบาก หาเงินเรียนเอง อดๆอยากๆ เขาโตมาประสบผลสำเร็จด้วยตัวเขาเองหรือเปล่า
ตัวเราเองนั้น พ่อแม่หาให้กิน ซักผ้ารีดผ้า ส่งเรียน ปัจจุบัน สร้างบ้านให้ ทำธุรกรรมไว้ให้เรา ตอนนี้พ่อเสียชีวิตไป เงินประกันส่วนนึงเราก็ได้ สมัยก่อนพ่อแม่ดุบ่น ตอนนั้นอายุยังไม่ถึง25 ไม่เข้าใจ จะบ่นไรนักหนาวะ
น่ารำคาญ
พออายุเกิน25 เข้าใจทุกอย่าง ถ้าไม่มีเขาช่วยผลักดัน ก็ไม่มีวันนี้ ซึ่งเราไม่ได้ประสบผลสำเร็จในชีวิตด้วยตัวเราเอง
ถ้าเปรียบว่า การที่เราจะปลูกผักผลไม้ไว้กิน อยากให้งอกงามออกดอกออกผล ก็ควรจะรดน้ำ ใส่ปุ๋ย
ไม่ใช่ สัจแต่ว่ามีปัญญาไปลูก แต่ไม่ดูแล หวังแต่จะรอกินผล หวังแต่จะตัดดอก
สุดท้ายแล้ว ขอแค่ว่า ตอนเด็ก เราเคยเจอผู้ใหญ่แย่ๆแบบไหน ก็อย่าโตไปเป็นผู้ใหญ่ที่เราเคยไม่ชอบแบบนั้น
เรื่องบุพการี เป็นเรื่องที่ๆไม่ควรพูด หรือพูดยาก พอๆกับเรื่องการเมือง และเรื่องสถาบันเบื้องบน
โดยความรู้สึกของจขกท.คือว่า จะมีความคิดอยู่2ฝ่าย
- พ่อแม่คือเจ้าของชีวิตเรา เขาจะดุด่าเรา ก็ไม่มีสิทธิ์เคืองใจ เขาไล่ไปตายก็ยังได้ เถียงคือ ทรพี เนรคุณ
ประเภทที่2 - มนุษย์ทุกคนมีความรู้สึก ไม่ว่าจะสถานะไหน นี่สมัยใหม่แล้ว ควรจะพูดคุยกันด้วยเหตุและผล พ่อแม่ควรจะปลูกฝังและเปิดใจ เรื่องมีเหตุผล ให้กับลูก ควรจะสอนให้ลูก/เด็กรู้จักทำหน้าที่ของตัวเอง บางทีเด็กอธิบายอะไรให้ฟัง ก็ปิดใจสักนิดนึง ถูกผิดก็ค่อยๆพูดกัน
ทุกๆคนแหละ เคยผ่านการเป็นเด็ก และ วัยรุ่นหัวเลี้ยวหัวต่อมาก่อน น่าจะเข้าใจดี แต่ผู้ใหญ่บางคนเหมือนไม่เคยผ่านการเป็นเด็กมาก่อน จะให้ความคิดเด็กวัย13-18 เหมือนตัวเอง
ตัวเราเองไม่มีลูกนะ แต่มีหลานชาย คลุกคลีกับเขาตั้งแต่ทารกจนตอนนี้ม.ปลายละ โคตรเข้าใจความรู้สึกเขาเลย บางทีโดนพ่อแม่ดุ เรานี่แหละก็ตามไปอธิบายให้เขาฟัง เพราะพ่อแม่บางทีสัจแต่ว่าคิดว่าตัวเองเป็นพ่อแม่จะด่าว่าอะไรก็ได้ ซึ่งก็ไม่ผิดหรอก แต่ว่าเด็กช่วงวัยเนี่ย จะเอาความคิดวิเคราะห์ความเข้าใจในคำพูดแย่ๆของพ่อแม่แบบนี้มาจากไหนนักหนาหรอ ผู้ใหญ่บางคนบอกว่า ที่เขาด่าเพราะเขาหวังดี😅 ความหวังดี เลือกที่จะแสดงออกในแบบอื่นได้มั้ย
ส่วนเรื่องกตัญญู ตอบแทนบุญคุณพ่อแม่
อันนี้ เราว่าขึ้นอยู่กับการเลี้ยงดู การปลูกฝังมาล้วนๆ คุณเลี้ยงลูกหลานคุณมาแบบไหนล่ะ ปล่อยให้เขา ตกระกำลำบาก หาเงินเรียนเอง อดๆอยากๆ เขาโตมาประสบผลสำเร็จด้วยตัวเขาเองหรือเปล่า
ตัวเราเองนั้น พ่อแม่หาให้กิน ซักผ้ารีดผ้า ส่งเรียน ปัจจุบัน สร้างบ้านให้ ทำธุรกรรมไว้ให้เรา ตอนนี้พ่อเสียชีวิตไป เงินประกันส่วนนึงเราก็ได้ สมัยก่อนพ่อแม่ดุบ่น ตอนนั้นอายุยังไม่ถึง25 ไม่เข้าใจ จะบ่นไรนักหนาวะ น่ารำคาญ พออายุเกิน25 เข้าใจทุกอย่าง ถ้าไม่มีเขาช่วยผลักดัน ก็ไม่มีวันนี้ ซึ่งเราไม่ได้ประสบผลสำเร็จในชีวิตด้วยตัวเราเอง
ถ้าเปรียบว่า การที่เราจะปลูกผักผลไม้ไว้กิน อยากให้งอกงามออกดอกออกผล ก็ควรจะรดน้ำ ใส่ปุ๋ย
ไม่ใช่ สัจแต่ว่ามีปัญญาไปลูก แต่ไม่ดูแล หวังแต่จะรอกินผล หวังแต่จะตัดดอก
สุดท้ายแล้ว ขอแค่ว่า ตอนเด็ก เราเคยเจอผู้ใหญ่แย่ๆแบบไหน ก็อย่าโตไปเป็นผู้ใหญ่ที่เราเคยไม่ชอบแบบนั้น