เลิกคบเพื่อนที่คบมาครึ่งชีวิตเพราะเหตุผลนี้ผิดไหม?

เรื่องมีว่า มีเพื่อนอยู่คนหนึ่งที่เรียกได้เต็มปากว่าเพื่อนสนิทเลือกผู้ชายที่มีแฟนอยู่แล้ว โดยมีเราเป็นที่ปรึกษามาตลอดเกือบปี ทางเราและเพื่อนทุกคนได้เตือนแล้วอธิบายถึงสิ่งไม่ดีตรงนั้นแล้ว เขาก็ได้แต่รับฟัง อารมณ์เหมือนพูดทีก็คิดได้ทีแต่ไม่ยังไม่เลิกรา จนเมื่อ2เดือนก่อนเราขอใช้คำว่าด่าเลยก็ได้ เราพูดแบบไม่ถนอมน้ำใจเลยตอนนั้นเพราะเขาโทรมาร้องไห้กับเราตอนเราดื่ม เราดึงเพื่อนเราคนนี้เป็นครั้งสุดท้ายแล้วเราคิดว่าจบ ปรากฏว่า2อาทิตย์กว่าๆถัดมาเขาแอบนัดเจอกันอีก โดยมีคนที่เขารู้จักกับพวกเรามาเล่าให้ฟัง วันนั้นเราเก็บอารมณ์ได้แค่ครึ่งวัน จนสุดท้ายเราขอตัดทันทีเมื่อได้ฟังเหตุผลที่ว่า ฝั่งนั้นขอให้รอ ถ้ารออย่างเดียวแบบไม่ติดต่อกันจะไม่ว่าแต่ระหว่างที่เขารอกันยังมีแอบนัดเจอกันโดยที่เราถามย้ำแล้วและเขาลังเลกับคำตอบเราเลยขอไม่ไปต่อกับเพื่อนคนนี้ 

ไม่รู้ว่าทำไมเราถึงรู้สึกผิดไปหมด เหมือนทิ้งเขาไว้โดยที่เราสามารถยืนเคียงข้างเขาได้จนสุดทางแต่เราดันทำ ทุกวันนี้มีแอบส่องตามโซเชียลบ้าง ถามจากเพื่อนอีกคนบ้าง เรายอมรับว่าเราเป็นห่วงเขามาก แต่เราก็ไม่ชอบมือที่3เหมือนกัน ยิ่งเป็นเพื่อนเราที่ทำเองเราเลยเสียความรู้สึก

สิ่งที่เราทำตอนนี้มันผิดหรือเปล่าเราก็ถามตัวเองทุกวันเหมือนกัน 
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 4
ส่วนตัวคิดว่าทำไม่ถูกนะ คุณแยกแยะระหว่างความเป็นส่วนตัวของเพื่อนกับมิตรภาพที่มีไม่ได้

ถ้าคุณไม่ชอบที่เพื่อนเป็นมือที่ 3 คุณก็บอกไปว่าคุณไม่สนับสนุนและจะไม่ขอให้คำปรึกษาใดๆเกี่ยวกับเรื่องนี้กับเพื่อนให้ชัดเจน เพราะเรามีทัศนคติเรื่องนี้ไม่ตรงกัน ก็จบ ถ้าเพื่อนจะมาปรึกษาอีก ก็ตัดบท เราไม่คุยเรื่องนี้นะ ตกลงกันแล้วแกรไปคุยกับคนอื่นเถอะ แล้วเงียบ วางสาย หรือไม่ตอบแชท คือทำไม่สนใจได้เลย

ส่วนเรื่องอื่นๆ คุณก็คุยปกติไป พอเพื่อนจะพร่ำเพ้อถึง ผช อีก คุณก็บอก หยุด! ไปพร่ำเพ้อที่อื่น.

มันก็น่าจะหงุดหงิดแหล่ะ เจอเพื่อนที่ศีลไม่ตรงกับเรา แต่อย่างที่บอก ถ้ามีแค่เฉพาะเรื่องความรักของเพื่อนที่มีปัญหา มันก็ไม่ควรถึงขั้นตัดเพื่อน แต่แค่เว้นระยะห่างออกมาอีกนิด เฉพาะเรื่องที่เรารับไม่ได้ แค่นั้นก็พอ

ปล. เราทำงี้กับเพื่อนที่ทัศนคติทางการเมืองไม่ตรงกันน่ะ ก็แค่ไม่คุยเรื่องการเมืองก็พอ ที่เหลือก็คุยปกติ พอเป็นการเมืองเราก็ตัดบทจบเลย
ความคิดเห็นที่ 16
คนเรามีสิทธิจะเลือกคบเพื่อนอะ ทำไมต้องรู้สึกผิดที่จะเลิกคบใครด้วยอะ
ใครที่เอาปัญหาความไม่สบายใจมาให้ ทำไมเราต้องทนฟัง โดยเฉพาะเรื่องที่มันผิดถูกชัดเจนอยู่แล้ว ให้คำแนะนำแล้วก็ไม่ได้สนใจ
คนเหล่านี้ไม่ได้แคร์เวลาและความรู้สึกอันมีค่าของเราด้วยซ้ำ
ความคิดเห็นที่ 24
1) ถ้ายังคบต่อ  ก็เป็น"กระโถน"ให้เค้าเล่าเรื่องชั่วๆต่อไป
2) "นอกใจ" ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ  ... สมเหตุสมผลที่จะเลิกคบหา   จนกว่าเค้าจะคิดได้ และเลิกจริงๆ
3) การรับฟัง ให้กำลังใจเพื่อทำชั่วต่อไป ... แน่ใจเหรอว่าไม่บาป
4) การด่า  ก็เป็นการทำร้ายเพื่อน  ซึ่งก็คือบาปอีก ... หลีกเลี่ยงไปเลยดีกว่า
5) สังคมควรจริงจังขาวดำ .. เพื่อให้คนแยก"ขาวดำ"ได้ชัด  เพื่อเป็น"บรรทัดฐาน"
เหมือนประเทศพัฒนาแล้ว มีกฎหมายชัด  ปรับเงินคนมีชู้จนหมดตัว  เช่นสิงคโปร์ อเมริกา
6) คนเราต้องดูแลตัวเอง  รู้ว่านรก แต่ไม่ยอมออกมา ... จะให้คนอื่นแบกความซวยที่ตนไม่ก่อ??
7) ชีวิตทุกคน ก็เจอ TOXIC มากมาย   ทำไมต้องเอาToxic ใส่ตัวเพิ่ม (ใจคุณเกลียดเรื่องนี้ชัดเจน)
8) เป็นชู้คือเห็นแก่ตัว  รู้ว่าชั่วก็ยังทำ  อ่อนแอไม่จบสิ้น ... สติต่างกัน ศีลธรรมต่างกัน

.... จน กว่า สติ ปัญ ญา จะ ปรา กฎ ..  แล้วค่อยคุยกันตอนที่เค้าล้มเป็นหมา!!
ความคิดเห็นที่ 23
1) เพื่อนเคยปรึกษาคุณหลายครั้ง จึงไม่นับว่าคุณไปก้าวก่าย  หรือ ยุ่งกับเรื่องส่วนตัวของคนอื่น

2) เพื่อนไปยุ่งเกี่ยวกับคนที่มีเจ้าของแล้ว   อันนี้ ผิดมากไหม    ข้อนี้ ผิดมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับจริยธรรมค่ะ  ระดับจริยธรรมของแต่ละคนไม่เท่ากัน   คนที่มีระดับจริยธรรมสูงอธิบายให้คนที่มีระดับจริยธรรมต่ำให้คอแทบแตกตาย  เขาก็ไม่เข้าใจ    

3) ถ้าเพื่อนมีระดับจริยธรรมแตกต่างกันมาก  จะคบกันเป็นเพื่อนสนิทต่อไปก็คงลำบาก  เขาไม่อายในสิ่งที่เราเห็นว่าน่าอาย  เขาไม่รู้สึกผิดในสิ่งที่ผิดทั้งทางโลกและทางธรรม   คุณได้พยายามเป็นกัลยาณมิตรแล้วแต่ไม่ได้ผล  ก็ถึงเวลาที่จะลดระดับความสัมพันธ์จากเพื่อน เป็นคนรู้จัก  ไม่ต้องสอนหรือให้คำแนะนำใดใดต่อเขาในเรื่องนี้อีกต่อไป

*
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่