แนวเคลือบผิว (Skin barrier ) อยู่บนผิวหนังชั้นนอกสุด (Epidermis) เป็นเหมือนกำแพงหรือเกราะปราการของผิวที่สร้างขึ้นมาจากเซลล์ผิวหนัง เพื่อช่วยป้องกันบรรดาสิ่งแปลกปลอมที่จะเข้าสู่ร่างกาย โดยมีไขมันและมอยส์เจอร์ไรเซอร์เคลือบชั้นผิวและยึดเซลล์ผิวหนังให้เกราะกันอย่างแข็งแรง เพื่อเป็นการกักเก็บความชุ่มชื้นไม่ให้หายไปจากชั้นผิว แต่ในทางกลับกัน ถ้าหากไม่มีเกราะป้องกันผิวหรือแนวเคลือบผิวถูกทำลายจนอ่อนแอ ก็จะทำให้เกิดช่องว่างขึ้นระหว่างชั้นผิว ทำให้เก็บความชุ่มชื้นไว้ไม่ได้ เป็นการเปิดช่องทางให้สิ่งสกปรก เชื้อโรค เชื้อแบคทีเรียเข้ามาทำร้ายผิวได้ง่ายขึ้น ก่อให้เกิดปัญหาผิวแห้ง ขาดน้ำ แดง มีผื่น คัน แพ้ง่าย ดังนั้น ถ้าจะกล่าวไปแล้วแนวเคลือบผิว(Skin barrier )หรือเกราะป้องกันผิว ทำหน้าที่เป็นเหมือนนักรบบนชั้นผิวหนังที่คอยทำหน้าที่ปกป้องผิวเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาต่างๆตามมานั่นเอง
ดังนั้น ถ้าจะว่าไปถ้าหากเรามีแนวเคลือบผิวที่แข็งแรง ก็จะทำให้ผิวของเราถูกรบกวนได้น้อยลง ปัญหาผิวก็จะลดน้อยลงตามไปด้วย และในทำนองเดียวกันถ้าเกราะป้องกันผิวแข็งแรง ผิวก็จะเก็บความชุ่มชื้นได้ดี ส่งผลดีต่อสุขภาพผิวดังต่อไปนี้ ทำให้ผิวมีความชุ่มชื้น อิ่มน้ำ ช่วยลดปัญหาผิวเรื้อรัง ทั้งผิวแห้ง ผื่นแดง คัน หน้ามัน และเป็นสิวง่าย ผิวแข็งแรง ทำให้ไม่เกิดอาการแพ้ง่ายๆ มีสีผิวที่สม่ำเสมอ ผิวเปล่งปลั่ง สดใส ดูสุขภาพดีอย่างเป็นธรรมชาติ
วิธีเสริมเกราะป้องกันผิว (Skin Barrier)
-เลือกทานผัก, ผลไม้ ที่มีวิตามิน A, C, E สูง หรือเลือกทานอาหารที่มีกรดไขมันดี (โอเมก้า) 3, 6, 9 สูง
-หมั่นทาครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอ แม้จะไม่ได้ออกแดด แต่การทาครีมกันแดดก็ยังจำเป็นนะคะ เลือกทากันแดดที่ช่วยกันแสงสีฟ้าจากหน้าจอ หรือป้องกันมลภาวะไปในตัวได้ยิ่งดีเลยค่ะ
-เลือกใช้สกินแคร์ที่ช่วยเสริมชั้นผิว เสริมปราการเกราะป้องกันผิว สกินแคร์ที่ช่วย Boost ให้ผิวแข็งแรง
ยกตัวอย่าง Skin Barrier
1.DR.WU Hydrating System Intensive Hydrating Serum With Hyaluronic Acid
2.FYNE Skin Barrier Prebiotic Serum in Cream
3.CeraVe Daily Moisturizing Lotion
4.SKINRx LAB MadeCera Cream (Re-turn)
5.Pestlo Pantherecipe Cream
[CR] Skin Barrier สำคัญต่อผิวอย่างไร
ดังนั้น ถ้าจะว่าไปถ้าหากเรามีแนวเคลือบผิวที่แข็งแรง ก็จะทำให้ผิวของเราถูกรบกวนได้น้อยลง ปัญหาผิวก็จะลดน้อยลงตามไปด้วย และในทำนองเดียวกันถ้าเกราะป้องกันผิวแข็งแรง ผิวก็จะเก็บความชุ่มชื้นได้ดี ส่งผลดีต่อสุขภาพผิวดังต่อไปนี้ ทำให้ผิวมีความชุ่มชื้น อิ่มน้ำ ช่วยลดปัญหาผิวเรื้อรัง ทั้งผิวแห้ง ผื่นแดง คัน หน้ามัน และเป็นสิวง่าย ผิวแข็งแรง ทำให้ไม่เกิดอาการแพ้ง่ายๆ มีสีผิวที่สม่ำเสมอ ผิวเปล่งปลั่ง สดใส ดูสุขภาพดีอย่างเป็นธรรมชาติ
วิธีเสริมเกราะป้องกันผิว (Skin Barrier)
-เลือกทานผัก, ผลไม้ ที่มีวิตามิน A, C, E สูง หรือเลือกทานอาหารที่มีกรดไขมันดี (โอเมก้า) 3, 6, 9 สูง
-หมั่นทาครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอ แม้จะไม่ได้ออกแดด แต่การทาครีมกันแดดก็ยังจำเป็นนะคะ เลือกทากันแดดที่ช่วยกันแสงสีฟ้าจากหน้าจอ หรือป้องกันมลภาวะไปในตัวได้ยิ่งดีเลยค่ะ
-เลือกใช้สกินแคร์ที่ช่วยเสริมชั้นผิว เสริมปราการเกราะป้องกันผิว สกินแคร์ที่ช่วย Boost ให้ผิวแข็งแรง
ยกตัวอย่าง Skin Barrier
1.DR.WU Hydrating System Intensive Hydrating Serum With Hyaluronic Acid
2.FYNE Skin Barrier Prebiotic Serum in Cream
3.CeraVe Daily Moisturizing Lotion
4.SKINRx LAB MadeCera Cream (Re-turn)
5.Pestlo Pantherecipe Cream
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้