สวัสดีค่าา วันนี้ก็อยากมาระบายและสอบถามความคิดเห็นในมุมมองของคนอื่นค่ะ คือเรามีเพื่อนสนิทคนนึง เรียนอยู่สาขาเดียวกัน ตอนแรกไม่ได้อยู่ด้วยกัน แต่พอเปิดเทอมเทอมนี้ตัดสินใจย้ายมาอยู่ด้วยกันค่ะ ก็คือเป็นทั้งเพื่อนที่ค่อนข้างสนิทและรูมเมท เรื่องที่ค่อนข้างรู้สึกอึดอัดก็คือ เพื่อนชอบทำตามเรา คือไม่เข้าใจน่ะค่ะว่าเพราะอะไร ยกตัวอย่างเหตุการณ์ เช่น เพื่อนไดร์เป่าผมพัง เพื่อนก็มาถามว่าเออเราเนี่ยใช้ไดร์เป่าผมรุ่นอะไรอยู่ เราก็ไม่ได้คิดอะไรค่ะ ก็แนะนำเพื่อนไปว่าใช้ของ sharp ราคาหลักพันอยู่ เพื่อนก็บอกว่ามันแพง เราก็เลยแนะนำรุ่น sasha (ถ้าพิมพ์ชื่อแบรนด์ผิดต้องขออภัย ณ ที่นี้ด้วย) ราคา 3-4 ร้อยค่ะ แล้วเพื่อนก็ซื้อแบรนด์นี้มา พอผ่านไป เพื่อนก็มาถามอีกว่าเราใช้เครื่องหนีบผมรุ่นอะไร จะซื้อบ้าง เราก็ไม่ได้คิดอะไรอีกค่ะ ก็แนะนำเพื่อนไป แต่เครื่องหนีบที่เราใช้คือเราเอาของแม่มาใช้ค่ะ รุ่นน่าจะเก่าแล้ว แล้วเพื่อนก็หาใน shoppy อยู่นานแล้วมีมาถามบ่อยๆว่า เอออันนี้ใช่มั้ย รุ่นนี้หรือเปล่า เรื่องต่อไปคือ เรื่องเครื่องสำอางหรือครีมบำรุงผิวค่ะ เพื่อนอยากใช้ moisture แล้วเพื่อนก็มาถามอีกว่าเราใช้ยี่ห้อไหน ซึ่งหน้าเพื่อนเป็นคนหน้าแห้ง เราเป็นคนหน้ามัน ก็เริ่มรู้สึกว่า เรื่องละเอียดอ่อนแบบนี้ต้องมาซื้อตามกันอีกหรอ ทำไมไม่ลองไปศึกษาดูว่าผลิตภัณฑ์ไหนที่เหมาะกับผิวหน้าตัวเอง เราก็เลยบอกไปว่า ใช้ของ cerave ราคาประมาณ 4-5 ร้อยบาท แล้วก็เลยแนะนำไปอีกค่ะว่าเธอเป็นคนหน้าแห้ง ลองใช้สูตรสำหรับหน้าแห้งดูสิ ดูเหมือนเพื่อนก็ยังไม่ได้ซื้อ แล้วผ่านไปนานอยู่ค่ะ 2-3 เดือน เพื่อนกลับมาถามอีกว่าใช้ moisture ของอะไรนะ รู้สึกว่าหน้าแห้ง เราก็คิดว่าเข้าใจแล้วว่าหน้าเราไม่เหมือนกัน ยังจะซื้อตามอีกหรอ แล้วเพื่อนเป็นสิว เพื่อนก็มาถามเราอีกว่าใช้ยาแต้มสิวของอะไร เราก็บอกไปว่า clinda-m แล้วเพื่อนก็ไปซื้อจริง ซื้อวันนั้นเลย ขนาดยายังซื้อตาม (ของเรา clinda-m ที่ใช้มาจากคำแนะนำของแพทย์เฉพาะทางค่ะ) ก็ยังไม่ได้อะไรมาก ก็พอเข้าใจได้เพื่อนมาปรึกษาค่ะ แล้ววันนึงเพื่อนเห็นเราใช้น้ำหอม เพื่อนก็มาถามอีกว่าซื้อที่ไหน กี่บาท จะซื้อบ้าง คือทำให้รู้สึกเริ่มอึดอัดแล้วอ่ะค่ะ ต่อมาเราซื้อรองเท้าแตะมาค่ะ เค้าเห็น เค้าก็มาถามว่า ซื้อมาที่ไหน กี่บาท เราก็บอกว่าช็อปปี้ 290 บาท แล้วเราก็ลองใส่รองเท้าที่คู่ที่ซื้อมาแหละค่ะ ปรากฎว่ามันมีขนาดที่เล็กกว่าเท้าเล็กน้อย แต่พอใส่ได้ เราก็พูดทำนองว่า หึยมันเล็กอีกแล้ว แล้วเพื่อนก็พูดขึ้นมาว่า ขายต่อกูก็ได้นะ เดี๋ยวเอฟเอง คือมันต้องอยากได้สิ่งที่เรามีทุกอย่างเลยหรอ555555555 ก็เริ่มแบบ เอ๊า ต่อมาเรื่องอุปกรณ์กีฬาค่ะ ตอนแรกเราตกลงว่าจะซื้อไม้แบดมินตันแบบหารกัน มี 2 ไม้ = คนละไม้ แต่พอซื้อมาแล้ววัสดุมันค่อนข้างที่จะไม่ดี เราก็เลยตัดสินใจซื้อไม้ yonex (ไม่ทราบรุ่น) ราคาประมาณ 490 บาทค่ะ เพราะรู้สึกว่าไม้มันเบากว่าอันเก่าค่ะ เราก็เอาไปตีปกติ เพื่อนเห็น เพื่อนถามว่า ซื้อที่ไหน กี่บาทอ่ะ (อีกแล้ว) เราก็บอกราคาไปค่ะ พอผ่านไป เพื่อนมาพร้อมกับไม้ yonex รุ่นเดียวกันเป๊ะ เอ๊า เอ๊า 555555 แล้วเราก็ซื้อกระเป๋ารองเท้ามาเพื่อนใส่ไม้แบดค่ะ5555 มันเป็นทำนองกระเป๋าเป้น่ะค่ะ ต่อมา นางก็ใส่ตาม เป๊ะเป๊ะ เห็นแล้วก็ เอ๊า นะคะ แต่ก็ปล่อยมาตลอด
ล่าสุด เราซื้อ Apple Watch รุ่น se มาค่ะ แล้วนางก็มาถามว่า เนี่ย ซื้อมาเท่าไหร่หรอ เห็นในช๊อปปี้ถูกมาก เราจำราคาไม่ได้ก็เลยเข้าไปดูให้ แบบ ไม่อยากดูไม่อยากบอกอ่ะค่ะ คือนางก็บอกอยู่ว่านางเห็นในช็อปปี้แล้ว แสดงว่าดูราคามาแล้ว แล้วจะมาถามอีกทำไม พอดูราคาที่ซื้อมาก็บอกนางไปว่า ซื้อมา 9,900 ไม่รวมฟิล์ม+ประกัน นางก็อ๋อ เดี๋ยวจะซื้อบ้าง (ซึ่งก่อนหน้านี้นางเคยบอกว่านางไม่ชอบใส่ accessories ใดๆเลย) ก่อนหน้านี้ก็ค่อนข้างมั่นใจว่านางไม่เคยพูดถึง Apple Watch เลย แต่พอเห็นเรามี กลับอยากได้ซะงั้น แล้วนางยังบอกอีกนะคะว่า เดี๋ยวจะผ่อนซื้อ (ถึงกับต้องผ่อนซื้อ)
ต้องทำถึงขนาดนี้เลยหรอคะ ค่อนข้างอึดอัดมากๆเลยค่ะ แล้วสามารถแก้ไขปัญหานี้ได้อย่างไรบ้างคะ ควรคุยตรงๆหรือปล่อยผ่านคะ แล้วทำไมเพื่อนต้องทำแบบนี้คะ
รู้สึกอึดอัดและไม่เข้าใจ เมื่อเพื่อนชอบทำตามเรา
ล่าสุด เราซื้อ Apple Watch รุ่น se มาค่ะ แล้วนางก็มาถามว่า เนี่ย ซื้อมาเท่าไหร่หรอ เห็นในช๊อปปี้ถูกมาก เราจำราคาไม่ได้ก็เลยเข้าไปดูให้ แบบ ไม่อยากดูไม่อยากบอกอ่ะค่ะ คือนางก็บอกอยู่ว่านางเห็นในช็อปปี้แล้ว แสดงว่าดูราคามาแล้ว แล้วจะมาถามอีกทำไม พอดูราคาที่ซื้อมาก็บอกนางไปว่า ซื้อมา 9,900 ไม่รวมฟิล์ม+ประกัน นางก็อ๋อ เดี๋ยวจะซื้อบ้าง (ซึ่งก่อนหน้านี้นางเคยบอกว่านางไม่ชอบใส่ accessories ใดๆเลย) ก่อนหน้านี้ก็ค่อนข้างมั่นใจว่านางไม่เคยพูดถึง Apple Watch เลย แต่พอเห็นเรามี กลับอยากได้ซะงั้น แล้วนางยังบอกอีกนะคะว่า เดี๋ยวจะผ่อนซื้อ (ถึงกับต้องผ่อนซื้อ)
ต้องทำถึงขนาดนี้เลยหรอคะ ค่อนข้างอึดอัดมากๆเลยค่ะ แล้วสามารถแก้ไขปัญหานี้ได้อย่างไรบ้างคะ ควรคุยตรงๆหรือปล่อยผ่านคะ แล้วทำไมเพื่อนต้องทำแบบนี้คะ