ตามหัวข้อเลยครับ แม่ผมกำลังจะหย่ากับพ่อเพราะสถานการณ์ครอบครัวกำลังแย่หนี้สินเร่งรัด ที่ดินก็ขายหมดแล้วเหลือแค่บ้านที่ยังพอเป็นที่พักอาศัยเดียว ตอนนี้พ่อกับแม่ทำงานคนละที่กันจะเรียกว่าแยกกันอยู่ได้ไหมก็ไม่รู้ ส่วนผมอาศัยอยู่กับตายายและน้องชายที่กำลังเรียนอยู่ม.ต้น ตัวผมนั้นอายุ20ไม่ได้ทำงานประจำต้องอยู่ดูแลตากับยายที่อายุมากแล้ว แต่ตอนดึกก็ไปรับจ้างป้าช่วยส่งของที่ตลาดก็พอได้เงินมาให้น้องไปรร.กับค่าใช้จ่ายหน่อยๆ ผมอยู่ชนบทเลยไม่ได้มีค่าใช้จ่ายอะไรมาก
ส่วนพ่อผมทำงานที่ต่างจังหวัดเงินเดือนหมื่นห้า ส่งมาใช้หนี้ทุกเดือนแต่ก็เป็นหนี้เล็กๆ หนี้ใหญ่ก็ยังไม่ได้ใช้เลยเพราะไม่มีส่งให้เขา ส่งแต่หนี้ที่ใช้บ้านค้ำแต่ก็ส่งแต่ดอกไม่ได้ส่งต้น เหลือก็ส่งมาให้เราใช้จ่ายในครอบครัวบ้างไม่ได้เยอะ
ส่วนแม่ทำงานที่มาเลเซียได้เงินเดือนประมาณหมื่นเจ็ด-หมื่นแปดแล้วแต่เดือน ส่งใช้หนี้เหมือนกันแต่จะพวกนอกระบบ และบางเดือนก็ส่งมาให้ตากับยายบ้างประมาณห้าร้อย-พันนึง
เรื่องมีอยู่ว่าแม่ทำงานที่ต่างประเทศเลยได้มีโอกาสได้รู้จักกับคนๆนึงเขามีหน้าที่การงานดีจะเรียกว่ารวยก็ใกล้เคียง เขาเป็นคนประเทศอังกฤษ ขายที่ดินที่บ้านเกิดแล้วมาพักที่มาเลเซีย แม่คุยกับเขาได้ประมาณสองอาทิตย์แล้วไปหากันครั้งนึงเพราะอยู่คนละเมือง ฝั่งนั้นเขาจริงจังกับความสัมพันธ์ แม่เลยมาคุยกับเราว่า ถ้าแม่จะหย่ากับพ่อเราโอเคไหม เราก็ตอบว่าไม่ว่าแม่กับพ่อจะเลิกกันพ่อแม่ก็ยังเป็นพ่อแม่ผมไม่มีอะไรเปลี่ยนหรอก ดังนั้นแม่ไม่ต้องห่วงเรื่องผมกับน้อง พวกเราเคารพการตัดสินใจของแม่ ปากพูดแบบนี้แต่ไม่อยากให้มันเกิดเลย😢 แต่แม่ก็บอกว่ายังไม่ตัดสินใจรอคุยกันไปเรื่อยๆก่อน ตอนนี้พ่อก็เป็นคนที่รับผิดชอบครอบครัวที่ดีดูแลค่าใช้อย่างไม่ขาดตกบกพร่องถามตลอดว่ามีเงินใช้ไหม เราสงสารพ่อไม่อยากให้พ่อต้องถูกทิ้งไว้แบบนี้ พ่อรักแม่นะและแม่ก็รักพ่อ แต่เพราะคำว่าเงินมันบีบให้เราต้องทำแบบนี้ ผมอยากหาเงินเยอะๆเพื่อมาแก้ปัญหานี้ปีหน้าผมอยากจะสอบไปทำงานประเทศเกาหลีเพราะดูท่าจะหาเงินได้เยอะและเร็วสุด แต่ก็ต้องรอเกณฑ์ทหารปีหน้าก่อนซึ่งก็ต้องเสี่ยงดวงอีกว่าจะติดไหมถ้าติดก็คือต้องรอเวลาไปอีกสองปี ซึ่งมันนานเกินไป
สุดท้ายนี้ผมอยากจะขอความเห็นทุกคนหน่อยว่าผมควรยอมรับในสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น หรือปล่อยให้มันเป็นไปตามเดิมแล้วรอวันที่ผมจะได้ไปทำงานที่ต่างประเทศ
แม่กำลังจะหย่ากับพ่อ
ส่วนพ่อผมทำงานที่ต่างจังหวัดเงินเดือนหมื่นห้า ส่งมาใช้หนี้ทุกเดือนแต่ก็เป็นหนี้เล็กๆ หนี้ใหญ่ก็ยังไม่ได้ใช้เลยเพราะไม่มีส่งให้เขา ส่งแต่หนี้ที่ใช้บ้านค้ำแต่ก็ส่งแต่ดอกไม่ได้ส่งต้น เหลือก็ส่งมาให้เราใช้จ่ายในครอบครัวบ้างไม่ได้เยอะ
ส่วนแม่ทำงานที่มาเลเซียได้เงินเดือนประมาณหมื่นเจ็ด-หมื่นแปดแล้วแต่เดือน ส่งใช้หนี้เหมือนกันแต่จะพวกนอกระบบ และบางเดือนก็ส่งมาให้ตากับยายบ้างประมาณห้าร้อย-พันนึง
เรื่องมีอยู่ว่าแม่ทำงานที่ต่างประเทศเลยได้มีโอกาสได้รู้จักกับคนๆนึงเขามีหน้าที่การงานดีจะเรียกว่ารวยก็ใกล้เคียง เขาเป็นคนประเทศอังกฤษ ขายที่ดินที่บ้านเกิดแล้วมาพักที่มาเลเซีย แม่คุยกับเขาได้ประมาณสองอาทิตย์แล้วไปหากันครั้งนึงเพราะอยู่คนละเมือง ฝั่งนั้นเขาจริงจังกับความสัมพันธ์ แม่เลยมาคุยกับเราว่า ถ้าแม่จะหย่ากับพ่อเราโอเคไหม เราก็ตอบว่าไม่ว่าแม่กับพ่อจะเลิกกันพ่อแม่ก็ยังเป็นพ่อแม่ผมไม่มีอะไรเปลี่ยนหรอก ดังนั้นแม่ไม่ต้องห่วงเรื่องผมกับน้อง พวกเราเคารพการตัดสินใจของแม่ ปากพูดแบบนี้แต่ไม่อยากให้มันเกิดเลย😢 แต่แม่ก็บอกว่ายังไม่ตัดสินใจรอคุยกันไปเรื่อยๆก่อน ตอนนี้พ่อก็เป็นคนที่รับผิดชอบครอบครัวที่ดีดูแลค่าใช้อย่างไม่ขาดตกบกพร่องถามตลอดว่ามีเงินใช้ไหม เราสงสารพ่อไม่อยากให้พ่อต้องถูกทิ้งไว้แบบนี้ พ่อรักแม่นะและแม่ก็รักพ่อ แต่เพราะคำว่าเงินมันบีบให้เราต้องทำแบบนี้ ผมอยากหาเงินเยอะๆเพื่อมาแก้ปัญหานี้ปีหน้าผมอยากจะสอบไปทำงานประเทศเกาหลีเพราะดูท่าจะหาเงินได้เยอะและเร็วสุด แต่ก็ต้องรอเกณฑ์ทหารปีหน้าก่อนซึ่งก็ต้องเสี่ยงดวงอีกว่าจะติดไหมถ้าติดก็คือต้องรอเวลาไปอีกสองปี ซึ่งมันนานเกินไป
สุดท้ายนี้ผมอยากจะขอความเห็นทุกคนหน่อยว่าผมควรยอมรับในสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น หรือปล่อยให้มันเป็นไปตามเดิมแล้วรอวันที่ผมจะได้ไปทำงานที่ต่างประเทศ