ตามมาติดๆแบบทันใจ ในครั้งนี้ทางค่าย ASUS ได้เปิดตัวโน๊ตบุ๊คมาอีกรุ่นแล้วในรุ่น ROG STRIX G18 ที่ยังคงมาพร้อมกับงานดีไซน์ที่สวยหรู ดูพรีเมียม แต่ยังคงมีความเป็นเอกลักษณ์ของทางค่ายที่น่าใช้งานมากๆ จับถือขึ้นมือสุดๆ อีกทั้งยังคงมาพร้อมกับประสิทธิภาพการใช้งานที่ยังคงรวดเร็วทันใจเช่นเดิม ทางค่ายจัดเต็มกับสเปกการใช้งานให้ตอบโจทย์กับทุกไลฟ์สไตล์ ไม่ว่าจะทำกิจกรรมไหน ดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกม หรือทำงาน เจ้ารุ่นนี้ก็เอาอยู่ สามารถใช้งานในระยะยาวได้อย่างลื่นไหลรวดเร็ว หมดห่วงเรื่องความร้อนไปกับระบบระบายความร้อนที่ครอบคลุม แอดบอกเลยว่าจุดเด่นของรุ่นนี้ค่อนข้างตอบโจทย์โดนใจ เราไปอ่านรีวิวเพื่อเป็นตัวเลือกในการตัดสินใจได้เลย ขอบอกเลยว่าใครได้ลองแล้วจะต้องถูกใจแบบแอดแน่นอน
มาพร้อมกับหน้าจอขนาด 18 นิ้ว 2K QHD+ (2560 x 1600, WQXGA) 16:10 ที่มีอัตราค่ารีเฟรชเรท Refresh Rate 240Hz, Response Time 3ms, IPS-level, Brightness 500 nits, 100% DCI-P3, Anti-glare display, G-Sync, Pantone Validated, Dolby Vision HDR ขับเคลื่อนด้วยชิปประมวลผล Intel® Core™i9-13980HX Processor 2.2 GHz (36M L3 Cache, up to 5.6 GHz, 24 cores: 8 P-cores and 16 E-cores) (Max TDP 65W, PL2 175W) จัดเต็มไปกับ GPU NVIDIA® GeForce RTX™ 4070 Laptop GPU 8GB GDDR6 (Max TGP 140W), MUX Switch + NVIDIA® Advanced Optimus มาพร้อม RAM 32GB DDR5 (16GB*2 DDR5–4800 SO–DIMM, Max 32 GB) Support dual channel memory STORAGE 1TB PCIe® 4.0 NVMe™ M.2 ในรุ่นนี้ให้พอร์ตเชื่อมต่อมาอย่างครบครันเลยนะ โดยมีพอร์ตเชื่อมต่อ 1x RJ45 LAN port, 1x Thunderbolt™ 4 support DisplayPort™, 1x USB 3.2 Gen 2 Type-C support DisplayPort™, power delivery, G-SYNC 2x USB 3.2 Gen 2 Type-A1x HDMI 2.1, 1x 3.5mm Combo Audio Jack ทางด้านของคีย์บอร์ดจะเป็นคีย์บอร์ด Backlit Chiclet Keyboard 4-Zone RGB พร้อมทั้งมอบระบบเสียง Dolby Atmos ระบบจำลองเสียงรอบทิศทาง ประกอบด้วยทวีตเตอร์2 ตัวและวูฟเฟอร์ที่ยิงลงด้านล่าง 2 ตัว, การตัดเสียงรบกวนด้วย AI แบบสองทาง (Two-way AI noise-canceling technology) ในรุ่นนี้ใช้งาน Windows 11 Home อีกทั้งยังรองรับ Warranty 3 Years On-site + 1 Year Perfect Warranty อีกด้วยนะ เป็นอะไรที่แอดชอบมากๆ แบตเตอรี่อึดจุใจให้จัดเต็มมาถึง 90Whr Support PD Charge (Type–C) ภาพรวมสเปกเรียกได้ว่าโอเคมากเลยนะ
DESIGN
การออกแบบดีไซน์ในรุ่นนี้ยังคงเอกลักษณ์ความดุดันความเป็น ROG ไว้เช่นเดิม โทนสีของเครื่องคุมโทนดูหรูหรา พรีเมียม เข้ากับทุกเพศทุกวัยเลยแหละ อีกทั้งยังมาพร้อมกับแป้นพิมพ์ที่ติดแผงไฟ RGB ไว้เป็นลูกเล่นที่โดดเด่น สีสันสวยสะดุดตา น่าพิมพ์ใช้งานมาก ใครเห็นเป็นต้องหลงรัก ยิ่งตัดกับสีแป้นพิมพ์ที่เป็นสีดำแล้วนั้นยิ่งสวยลงตัวมากๆ เรียกได้ว่าเป็นจุดขายของรุ่นนี้เลย วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้พรีเมียมมาก แข็งแรงทนทาน พื้นผิวน่าสัมผัสใช้งาน ทางด้านหลังของเครื่องจะสลักโลโก้ค่ายไว้แบบเด่นๆ ด้วยโทนสีที่คล้ายกับสีของเครื่อง มองแล้วละมุมกลืนไปกับตัวสีเครื่องมาก อีกทั้งน้ำหนักของตัวเครื่องนั้นหนักเพียงแค่ 3 กิโลกรัมเท่านั้น นึงทำให้สามารถพกพาใช้งานนอกสถานที่ได้อย่างสบาย
ทางด้านของพื้นหลังแป้นพิมพ์ทางค่ายได้ออกแบบสลักชื่อไว้เป็นพื้นหลังเท่ๆ ดูสวยแปลกตาไปอีกแบบ การจัดเรียงวางตำแหน่งของแป้นพิมพ์และ Touch Pad อยู่ในตำแหน่งที่พอดีเหมาะสม ใช้งานได้ถนัดมือ
ช่วยรอยต่อของเครื่องนั้นแข็งแรง หมดกังวลเรื่องหลุด ชำรุดเสียหายได้เลย สามารถปิดพับใช้งานได้แบบลื่นๆ บริเวณช่องรอยต่อทางค่ายจะแอบแฝงใส่ลำโพงมาให้ พร้อมกับสลักชื่อ ROG STRIX มาไว้แบบเด่นๆให้ด้วยนะ
ทางด้านของแผงด้านหลังในรุ่นนี้ยังคงออกแบบให้มีความเท่ ความดุดัน เรียกได้ว่าใส่ใจในทุกจุดจริงๆ มีการสลักชื่อแผงด้านหลังที่เขียนชื่อรุ่นไว้ให้เห็นแบบเด่นชัด เมื่อดุงแผงออกมาจะเห็นได้เลยว่ามีการจัดระบบระเบียบต่างๆได้ดี ทั้งในเรื่องของระบบระบายความร้อน การจัดวางชิปประมวลผลต่างๆที่เป็นระเบียบ ช่วยให้สามารถทำงานได้อย่างมีคุณภาพ การออกแบบดีไซน์ในรุ่นนี้ค่อนข้างกินขาดว่ารุ่นก่อนๆในหลายๆจุดเลยแหละ
SPEC
- หน้าจอขนาด 18 นิ้ว 2K QHD+ (2560 x 1600, WQXGA) 16:10, อัตราค่ารีเฟรชเรท Refresh Rate 240Hz, Response Time 3ms, IPS-level, Brightness 500 nits, 100% DCI-P3, Anti-glare display, G-Sync, Pantone Validated, Dolby Vision HDR
- 13th Gen Intel® Core™i9-13980HX Processor 2.2 GHz (36M L3 Cache, up to 5.6 GHz, 24 cores: 8 P-cores and 16 E-cores) (Max TDP 65W, PL2 175W)
- NVIDIA® GeForce RTX™ 4070 Laptop GPU 8GB GDDR6 (Max TGP 140W), MUX Switch + NVIDIA® Advanced Optimus
- RAM 32GB DDR5 (16GB*2 DDR5–4800 SO–DIMM, Max 32 GB) Support dual channel memory
- STORAGE 1TB PCIe® 4.0 NVMe™ M.2
- พอร์ตเชื่อมต่อ 1x RJ45 LAN port, 1x Thunderbolt™ 4 support DisplayPort™, 1x USB 3.2 Gen 2 Type-C support DisplayPort™, power delivery, G-SYNC 2x USB 3.2 Gen 2 Type-A1x HDMI 2.1, 1x 3.5mm Combo Audio Jack
- คีย์บอร์ด Backlit Chiclet Keyboard 4-Zone RGB
- ระบบเสียง Dolby Atmos ระบบจำลองเสียงรอบทิศทาง ประกอบด้วยทวีตเตอร์2 ตัวและวูฟเฟอร์ที่ยิงลงด้านล่าง 2 ตัว, การตัดเสียงรบกวนด้วย AI แบบสองทาง (Two-way AI noise-canceling technology)
- 2-speaker system with Smart Amplifier Technology
- Wi–Fi 6E(802.11ax) (Triple band) 2*2, Bluetooth® 5.2
- Windows 11 Home
- Warranty 3 Years On-site + 1 Year Perfect Warranty
- แบตเตอรี่ 90Whr Support PD Charge (Type–C)
- น้ำหนัก 3 kg
PERFORMANCE
มาต่อกันที่ทางด้านของประสิทธิภาพการใช้งานมาพร้อมกับชิปประมวลผล Intel® Core™i9-13980HX Processor 2.2 GHz (36M L3 Cache, up to 5.6 GHz, 24 cores: 8 P-cores and 16 E-cores) (Max TDP 65W, PL2 175W) เรียกได้ว่าสเปกจัดหนักจัดเต็มอยู่นะ ใช้งานได้อย่างลื่นไหลไม่มีสะดุด ไม่อืดไม่ค้างกวนใจ มาพร้อมกับ GPU RTX 4070 สายงานไหนก็เอาอยู่ ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ได้อย่างลงตัว อีกทั้งยังมาพร้อมกับ RAM 32GB DDR5 (16GB*2 DDR5–4800 SO–DIMM, Max 32 GB) Support dual channel memory และ STORAGE 1TB PCIe® 4.0 NVMe™ M.2 ขอบอกเลยว่ารองรับการใช้งานได้สบายๆเลย ยิ่งการใช้งานพื้นฐานทั่วไปนี้ไม่ต้องพูดถึงเลย รวดเร็วทันใจ จากการทดสอบคะแนนนั้นก็ทำคะแนนออกมาได้ดีในระดับนึงเลยนะ ทางด้านของการใช้งานนั้นแอดว่ารุ่นนี้เอาอยู่ ไม่ว่าจะสายงานก็เอาอยู่
จากการทดสอบคะแนนต่างๆแล้วนั้น คะแนนที่ออกมาในแต่ละตัวค่อนข้างสูงเลยทีเดียว รองรับการใช้งานได้สบายๆ รวดเร็วทันใจ แอดมินได้ทำการทดสอบคะแนนในอุณหภูมิปกติ ไม่ได้เปิดแอร์ช่วยเลย คะแนนที่ออกมาในระดับนี้ถือว่าดีเยี่ยม การอ่านและเขียนสามารถตอบสนองได้ไว ไม่อือไม่ค้าง ภาพรวมถือว่าโอเคในระดับนึงเลย
SCREEN
ทางด้านของหน้าจอในรุ่นนี้นั้นมาพร้อมกับหน้าจอขนาด 18 นิ้ว 2K QHD+ (2560 x 1600, WQXGA) อัตราส่วนหน้าจออยู่ที่ 16:10 พร้อมอัตราค่ารีเฟรชเรท Refresh Rate 240Hz พร้อมกับค่า Response Time 3ms ด้วยความที่มาพร้อมกับหน้าจอที่มีขนาดกำลังพอดีจึงเป็นอะไรที่ลงตัวมากๆ ทางด้านของความสว่างสามารถแสดงความสว่างสูงสุดได้ถึง 500 nits อีกทั้งยังมาพร้อมการรองรับผ่านมาตราฐาน100% DCI-P3 และรองรับ Pantone Validated นอกจากนี้ยังมี Dolby Vision HDR ภาพรวมสเปกหน้าจอแอดให้เลยสามผ่าน ภาพโทนสีสวย คมชัด เสมือนจริงมากๆ ให้สีดำที่ดำสนิทหรือว่าจะเป็นโทนสีก็ให้สีที่สวยชัดมาก แอดรักเลยตรงนี้ เอาใจสายตัดต่อออกแบบอยู่นะ สีสวย สีตรง ทำงานได้ลื่นๆสบายๆเลย หรือว่าจะเป็นทำกิจกรรมดูหนังฟังเพลงก็ตอบโจทย์ ทางด้านของหน้าจอแอดไม่ติดปัญหาตรงไหนเลยนะ ทางค่ายปรับออกมาได้ค่อนข้างดี มองมุมไหนมิติไหน ก็ยังคงเห็นภาพเห็นรายละเอียดได้ดี ใช้งานนอกสถานที่ได้สบาย เครื่องเดียวครบ จบเอาอยู่
KEYBOARD
ทางด้านของแป้นพิมพ์ในรุ่นนี้เป็นแบบ Backlit Chiclet Keyboard 4-Zone RGB ที่ยังคงใส่แผงไฟ RGB เข้าไปเช่นเดิม เพิ่มลูกเล่นความหรูหราให้น่าใช้งานไปอีกหนึ่งระดับ และมาพร้อมกับ AuraRGB 4 Zone ปรับได้อิสระมากๆ ภาพรวมเมื่อมองแล้วสวยดูเท่สบายตาสุดๆ เห็นแล้วอยากจะกดใช้งานจริงๆ ทางด้านของการเว้นระยะหรือการสัมผัสต่างๆนั้น ยังคงทำออกมาได้ดีเช่นเดิม การสัมผัสใช้งานนั้นไม่แตกต่างจากเดิมมาก สำหรับคนที่เป็นสาวกทางค่ายอยู่แล้วนั้นจะจะคล่องมือเลยทีเดียว ปุ่มเปิดปิดของเครื่องยังคงอยู่ตำแหน่งคล้ายๆของเดิม และในรุ่นนี้ไม่มีการใส่ NumberPad เข้ามามาให้เราได้ใช้งานแล้ว แต่ก็ไม่ติดปัญหาในการใช้งานเลยนะ ด้วยขนาดของปุ่มที่มีขนาดพอดีมือทำให้สามารถกดใช้งานได้สบายๆ
[SR] รีวิว ROG STRIX G18 สวย คุ้ม แถมใช้ i9 ตัวแรง + RTX 4070 !
ตามมาติดๆแบบทันใจ ในครั้งนี้ทางค่าย ASUS ได้เปิดตัวโน๊ตบุ๊คมาอีกรุ่นแล้วในรุ่น ROG STRIX G18 ที่ยังคงมาพร้อมกับงานดีไซน์ที่สวยหรู ดูพรีเมียม แต่ยังคงมีความเป็นเอกลักษณ์ของทางค่ายที่น่าใช้งานมากๆ จับถือขึ้นมือสุดๆ อีกทั้งยังคงมาพร้อมกับประสิทธิภาพการใช้งานที่ยังคงรวดเร็วทันใจเช่นเดิม ทางค่ายจัดเต็มกับสเปกการใช้งานให้ตอบโจทย์กับทุกไลฟ์สไตล์ ไม่ว่าจะทำกิจกรรมไหน ดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกม หรือทำงาน เจ้ารุ่นนี้ก็เอาอยู่ สามารถใช้งานในระยะยาวได้อย่างลื่นไหลรวดเร็ว หมดห่วงเรื่องความร้อนไปกับระบบระบายความร้อนที่ครอบคลุม แอดบอกเลยว่าจุดเด่นของรุ่นนี้ค่อนข้างตอบโจทย์โดนใจ เราไปอ่านรีวิวเพื่อเป็นตัวเลือกในการตัดสินใจได้เลย ขอบอกเลยว่าใครได้ลองแล้วจะต้องถูกใจแบบแอดแน่นอน
มาพร้อมกับหน้าจอขนาด 18 นิ้ว 2K QHD+ (2560 x 1600, WQXGA) 16:10 ที่มีอัตราค่ารีเฟรชเรท Refresh Rate 240Hz, Response Time 3ms, IPS-level, Brightness 500 nits, 100% DCI-P3, Anti-glare display, G-Sync, Pantone Validated, Dolby Vision HDR ขับเคลื่อนด้วยชิปประมวลผล Intel® Core™i9-13980HX Processor 2.2 GHz (36M L3 Cache, up to 5.6 GHz, 24 cores: 8 P-cores and 16 E-cores) (Max TDP 65W, PL2 175W) จัดเต็มไปกับ GPU NVIDIA® GeForce RTX™ 4070 Laptop GPU 8GB GDDR6 (Max TGP 140W), MUX Switch + NVIDIA® Advanced Optimus มาพร้อม RAM 32GB DDR5 (16GB*2 DDR5–4800 SO–DIMM, Max 32 GB) Support dual channel memory STORAGE 1TB PCIe® 4.0 NVMe™ M.2 ในรุ่นนี้ให้พอร์ตเชื่อมต่อมาอย่างครบครันเลยนะ โดยมีพอร์ตเชื่อมต่อ 1x RJ45 LAN port, 1x Thunderbolt™ 4 support DisplayPort™, 1x USB 3.2 Gen 2 Type-C support DisplayPort™, power delivery, G-SYNC 2x USB 3.2 Gen 2 Type-A1x HDMI 2.1, 1x 3.5mm Combo Audio Jack ทางด้านของคีย์บอร์ดจะเป็นคีย์บอร์ด Backlit Chiclet Keyboard 4-Zone RGB พร้อมทั้งมอบระบบเสียง Dolby Atmos ระบบจำลองเสียงรอบทิศทาง ประกอบด้วยทวีตเตอร์2 ตัวและวูฟเฟอร์ที่ยิงลงด้านล่าง 2 ตัว, การตัดเสียงรบกวนด้วย AI แบบสองทาง (Two-way AI noise-canceling technology) ในรุ่นนี้ใช้งาน Windows 11 Home อีกทั้งยังรองรับ Warranty 3 Years On-site + 1 Year Perfect Warranty อีกด้วยนะ เป็นอะไรที่แอดชอบมากๆ แบตเตอรี่อึดจุใจให้จัดเต็มมาถึง 90Whr Support PD Charge (Type–C) ภาพรวมสเปกเรียกได้ว่าโอเคมากเลยนะ
DESIGN
การออกแบบดีไซน์ในรุ่นนี้ยังคงเอกลักษณ์ความดุดันความเป็น ROG ไว้เช่นเดิม โทนสีของเครื่องคุมโทนดูหรูหรา พรีเมียม เข้ากับทุกเพศทุกวัยเลยแหละ อีกทั้งยังมาพร้อมกับแป้นพิมพ์ที่ติดแผงไฟ RGB ไว้เป็นลูกเล่นที่โดดเด่น สีสันสวยสะดุดตา น่าพิมพ์ใช้งานมาก ใครเห็นเป็นต้องหลงรัก ยิ่งตัดกับสีแป้นพิมพ์ที่เป็นสีดำแล้วนั้นยิ่งสวยลงตัวมากๆ เรียกได้ว่าเป็นจุดขายของรุ่นนี้เลย วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้พรีเมียมมาก แข็งแรงทนทาน พื้นผิวน่าสัมผัสใช้งาน ทางด้านหลังของเครื่องจะสลักโลโก้ค่ายไว้แบบเด่นๆ ด้วยโทนสีที่คล้ายกับสีของเครื่อง มองแล้วละมุมกลืนไปกับตัวสีเครื่องมาก อีกทั้งน้ำหนักของตัวเครื่องนั้นหนักเพียงแค่ 3 กิโลกรัมเท่านั้น นึงทำให้สามารถพกพาใช้งานนอกสถานที่ได้อย่างสบาย
ทางด้านของพื้นหลังแป้นพิมพ์ทางค่ายได้ออกแบบสลักชื่อไว้เป็นพื้นหลังเท่ๆ ดูสวยแปลกตาไปอีกแบบ การจัดเรียงวางตำแหน่งของแป้นพิมพ์และ Touch Pad อยู่ในตำแหน่งที่พอดีเหมาะสม ใช้งานได้ถนัดมือ
ช่วยรอยต่อของเครื่องนั้นแข็งแรง หมดกังวลเรื่องหลุด ชำรุดเสียหายได้เลย สามารถปิดพับใช้งานได้แบบลื่นๆ บริเวณช่องรอยต่อทางค่ายจะแอบแฝงใส่ลำโพงมาให้ พร้อมกับสลักชื่อ ROG STRIX มาไว้แบบเด่นๆให้ด้วยนะ
ทางด้านของแผงด้านหลังในรุ่นนี้ยังคงออกแบบให้มีความเท่ ความดุดัน เรียกได้ว่าใส่ใจในทุกจุดจริงๆ มีการสลักชื่อแผงด้านหลังที่เขียนชื่อรุ่นไว้ให้เห็นแบบเด่นชัด เมื่อดุงแผงออกมาจะเห็นได้เลยว่ามีการจัดระบบระเบียบต่างๆได้ดี ทั้งในเรื่องของระบบระบายความร้อน การจัดวางชิปประมวลผลต่างๆที่เป็นระเบียบ ช่วยให้สามารถทำงานได้อย่างมีคุณภาพ การออกแบบดีไซน์ในรุ่นนี้ค่อนข้างกินขาดว่ารุ่นก่อนๆในหลายๆจุดเลยแหละ
SPEC
- หน้าจอขนาด 18 นิ้ว 2K QHD+ (2560 x 1600, WQXGA) 16:10, อัตราค่ารีเฟรชเรท Refresh Rate 240Hz, Response Time 3ms, IPS-level, Brightness 500 nits, 100% DCI-P3, Anti-glare display, G-Sync, Pantone Validated, Dolby Vision HDR
- 13th Gen Intel® Core™i9-13980HX Processor 2.2 GHz (36M L3 Cache, up to 5.6 GHz, 24 cores: 8 P-cores and 16 E-cores) (Max TDP 65W, PL2 175W)
- NVIDIA® GeForce RTX™ 4070 Laptop GPU 8GB GDDR6 (Max TGP 140W), MUX Switch + NVIDIA® Advanced Optimus
- RAM 32GB DDR5 (16GB*2 DDR5–4800 SO–DIMM, Max 32 GB) Support dual channel memory
- STORAGE 1TB PCIe® 4.0 NVMe™ M.2
- พอร์ตเชื่อมต่อ 1x RJ45 LAN port, 1x Thunderbolt™ 4 support DisplayPort™, 1x USB 3.2 Gen 2 Type-C support DisplayPort™, power delivery, G-SYNC 2x USB 3.2 Gen 2 Type-A1x HDMI 2.1, 1x 3.5mm Combo Audio Jack
- คีย์บอร์ด Backlit Chiclet Keyboard 4-Zone RGB
- ระบบเสียง Dolby Atmos ระบบจำลองเสียงรอบทิศทาง ประกอบด้วยทวีตเตอร์2 ตัวและวูฟเฟอร์ที่ยิงลงด้านล่าง 2 ตัว, การตัดเสียงรบกวนด้วย AI แบบสองทาง (Two-way AI noise-canceling technology)
- 2-speaker system with Smart Amplifier Technology
- Wi–Fi 6E(802.11ax) (Triple band) 2*2, Bluetooth® 5.2
- Windows 11 Home
- Warranty 3 Years On-site + 1 Year Perfect Warranty
- แบตเตอรี่ 90Whr Support PD Charge (Type–C)
- น้ำหนัก 3 kg
PERFORMANCE
มาต่อกันที่ทางด้านของประสิทธิภาพการใช้งานมาพร้อมกับชิปประมวลผล Intel® Core™i9-13980HX Processor 2.2 GHz (36M L3 Cache, up to 5.6 GHz, 24 cores: 8 P-cores and 16 E-cores) (Max TDP 65W, PL2 175W) เรียกได้ว่าสเปกจัดหนักจัดเต็มอยู่นะ ใช้งานได้อย่างลื่นไหลไม่มีสะดุด ไม่อืดไม่ค้างกวนใจ มาพร้อมกับ GPU RTX 4070 สายงานไหนก็เอาอยู่ ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ได้อย่างลงตัว อีกทั้งยังมาพร้อมกับ RAM 32GB DDR5 (16GB*2 DDR5–4800 SO–DIMM, Max 32 GB) Support dual channel memory และ STORAGE 1TB PCIe® 4.0 NVMe™ M.2 ขอบอกเลยว่ารองรับการใช้งานได้สบายๆเลย ยิ่งการใช้งานพื้นฐานทั่วไปนี้ไม่ต้องพูดถึงเลย รวดเร็วทันใจ จากการทดสอบคะแนนนั้นก็ทำคะแนนออกมาได้ดีในระดับนึงเลยนะ ทางด้านของการใช้งานนั้นแอดว่ารุ่นนี้เอาอยู่ ไม่ว่าจะสายงานก็เอาอยู่
จากการทดสอบคะแนนต่างๆแล้วนั้น คะแนนที่ออกมาในแต่ละตัวค่อนข้างสูงเลยทีเดียว รองรับการใช้งานได้สบายๆ รวดเร็วทันใจ แอดมินได้ทำการทดสอบคะแนนในอุณหภูมิปกติ ไม่ได้เปิดแอร์ช่วยเลย คะแนนที่ออกมาในระดับนี้ถือว่าดีเยี่ยม การอ่านและเขียนสามารถตอบสนองได้ไว ไม่อือไม่ค้าง ภาพรวมถือว่าโอเคในระดับนึงเลย
SCREEN
ทางด้านของหน้าจอในรุ่นนี้นั้นมาพร้อมกับหน้าจอขนาด 18 นิ้ว 2K QHD+ (2560 x 1600, WQXGA) อัตราส่วนหน้าจออยู่ที่ 16:10 พร้อมอัตราค่ารีเฟรชเรท Refresh Rate 240Hz พร้อมกับค่า Response Time 3ms ด้วยความที่มาพร้อมกับหน้าจอที่มีขนาดกำลังพอดีจึงเป็นอะไรที่ลงตัวมากๆ ทางด้านของความสว่างสามารถแสดงความสว่างสูงสุดได้ถึง 500 nits อีกทั้งยังมาพร้อมการรองรับผ่านมาตราฐาน100% DCI-P3 และรองรับ Pantone Validated นอกจากนี้ยังมี Dolby Vision HDR ภาพรวมสเปกหน้าจอแอดให้เลยสามผ่าน ภาพโทนสีสวย คมชัด เสมือนจริงมากๆ ให้สีดำที่ดำสนิทหรือว่าจะเป็นโทนสีก็ให้สีที่สวยชัดมาก แอดรักเลยตรงนี้ เอาใจสายตัดต่อออกแบบอยู่นะ สีสวย สีตรง ทำงานได้ลื่นๆสบายๆเลย หรือว่าจะเป็นทำกิจกรรมดูหนังฟังเพลงก็ตอบโจทย์ ทางด้านของหน้าจอแอดไม่ติดปัญหาตรงไหนเลยนะ ทางค่ายปรับออกมาได้ค่อนข้างดี มองมุมไหนมิติไหน ก็ยังคงเห็นภาพเห็นรายละเอียดได้ดี ใช้งานนอกสถานที่ได้สบาย เครื่องเดียวครบ จบเอาอยู่
KEYBOARD
ทางด้านของแป้นพิมพ์ในรุ่นนี้เป็นแบบ Backlit Chiclet Keyboard 4-Zone RGB ที่ยังคงใส่แผงไฟ RGB เข้าไปเช่นเดิม เพิ่มลูกเล่นความหรูหราให้น่าใช้งานไปอีกหนึ่งระดับ และมาพร้อมกับ AuraRGB 4 Zone ปรับได้อิสระมากๆ ภาพรวมเมื่อมองแล้วสวยดูเท่สบายตาสุดๆ เห็นแล้วอยากจะกดใช้งานจริงๆ ทางด้านของการเว้นระยะหรือการสัมผัสต่างๆนั้น ยังคงทำออกมาได้ดีเช่นเดิม การสัมผัสใช้งานนั้นไม่แตกต่างจากเดิมมาก สำหรับคนที่เป็นสาวกทางค่ายอยู่แล้วนั้นจะจะคล่องมือเลยทีเดียว ปุ่มเปิดปิดของเครื่องยังคงอยู่ตำแหน่งคล้ายๆของเดิม และในรุ่นนี้ไม่มีการใส่ NumberPad เข้ามามาให้เราได้ใช้งานแล้ว แต่ก็ไม่ติดปัญหาในการใช้งานเลยนะ ด้วยขนาดของปุ่มที่มีขนาดพอดีมือทำให้สามารถกดใช้งานได้สบายๆ
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้