LENOVO LEGION ตระกูลนี้หลายๆคนน่าจะคุ้นเคยกันดีครับสำหรับสายเกมของค่าย LENOVO ซึ่งหลังๆพัฒนามาหลากหลายรุ่นย่อย และ มาในชื่อ SLIM ด้วยเช่นกันตัวนี้เป็นตัว SLIM 5i ที่มาพร้อมกับหน้าจอ 16 นิ้ว แต่ด้วยขนาดการออกแบบถือว่าบางกว่าที่คิดตามชื่อ และใช้งาน INTEL GEN 13 ตัวล่าสุดกันเลยทีเดียวเพราะเป็นการพัฒนาล่าสุด อาจจะเหมาะกับสายเกมแบบจริงจังได้แบบสบายๆ แต่ราคาไม่โหดไปรวมถึงสายทำงานซื้อเครื่องเดียวจบทำงาน เรนเดอร์ เล่นเกม รองรับได้สบายๆครับด้วยพลังของทีมฟ้า INTEL นั้นเอง ซึ่งหลังๆเนี่ยพัฒนาได้โหด แรง และไว พร้อมกับประหยัดพลังงานกว่าเจนก่อนๆไปเรื่อยๆ ซึ่งในรุ่นนี้จะใช้งาน RTX 4070 ตัวแรงเอาเรื่องด้วยนะ
LENOVO LEGION SLIM 5i มาพร้อมกับ Intel® Core™ i7-13700H processor ทำงานร่วมกับ NVIDIA GeForce RTX 4070 Laptop GPU ถือว่าสเปกแรงสุดกันเลยทีเดียวในรุ่นนี้ครับ ใช้งานหน้าจอ 16 นิ้ว PureSight Gaming 16″ WQXGA (2560 x 1600) IPS; 16:10 (240 Hz / 100% sRGB / 500 nits / DisplayHDR™ 400 Certified / NVIDIA® G-SYNC® Support / TÜV Low Blue Light Certified / Anti-glare) ซึ่งทั้งหน้าจอ และ สเปกที่จัดมาทำได้น่าสนใจ ทางค่ายนี้จุดเด่นคือสั่งปรับสเปกตามที่เราต้องการได้อีกมากมายครับ บอกเลยว่าอันนี้แหละข้อดีของเขา รวมถึงใช้งาน ระบบปฏิบัติการ Windows 11 Home 64 Single Language หน่วยความจำ 32 GB DDR5-5200MHz (SODIMM) การจัดเก็บข้อมูล 1TB SSD M.2 2280 PCIe Gen4 TLC และ สเปกที่แจ้งมานั้นอยู่ในแล็ปท็อปมีน้ำหนักไม่เกิน 2.3 กก. และบางเพียง 19.7 มม. แบตเตอรี่ที่มีความจุมากถึง 80Whr ถือว่าสุดมากรวมถึงมี Super Rapid Charge ที่ช่วยให้ตัวแล็ปท็อปสามารถชาร์จได้ถึง 70% ในเวลาเพียง 30 นาที ทำให้ผู้ใช้สามารถเล่นเกมและทำงานได้อย่างต่อเนื่อง และใช้งาน Nahimic®โดย SteelSeries ลำโพง 2W 2 ตัวแน่นๆไปเลย รวมถึงมีสี Storm Grey และ Misty Grey
Legion Slim 5i (16”, Gen 8) พร้อมจำหน่ายแล้ววันนี้ ราคาเริ่มต้น 55,990 บาท
DESIGN
งานออกแบบแน่นอนว่าด้วยความที่ชื่อ SLIM ในแง่ของสายเกมอาจจะต้องเข้าใจก่อนว่ามันจะไม่สามารถบางเท่ากับพวกสายทำงานอื่นๆได้ แต่ถ้ามองในแง่ของเกมด้วยกันมันถือว่าบางมากแล้ว รวมถึงพวกวัสดุต่างๆทำได้ดีเช่นเดิมค่ายนี้ผมชอบงานประกอบความแน่นเวลาสัมผัสนะถือว่าดูดีเลยแหละ ทำให้ตัวนี้อยู่ในขนาดที่พอรับได้กับสายเกมคือ ไม่เกิน 2.3 กก. และบางเพียง 19.7 มม. เท่านั้นและจุดเด่นคือหน้าจอที่สามารถกางได้แบบ 180 องศาในแง่ของสายเกม เป็นไม่กี่ตัวที่ทำแบบนี้ได้
ฝาหลังอาจจะเรียบๆถ้าไม่บอกว่าสายเกมก็ไม่รู้เลยว่าเป็นสายเกมครับ แสงสีลวดลายอะไรไม่เยอะแต่เน้นไปที่การใช้งาน ทำให้ถ้าใครสายทำงานอยากได้คอมเล่นเกมด้วย ทำงานด้วย ถือไปทำงานไม่เขินในแง่ของความเกมเยอะไปตัวนี้ทำออกมาได้ตอบโจทย์แน่นอน เอาไปพรีเซนต์งาน เล่นเกมเข้ากันได้ทุกๆสถานที่ ส่วนการออกแบบผมชอบที่ย้ายพอร์ตหลายๆส่วนมาไว้ด้านหลัง เพราะมันจะไม่เกะกะเวลาทำงาน และ สาย LAN สำหรับสายเกมแบบนี้อาจจะต้องเสียบเล่นเกมกันบ่อยและไม่เกะกะครับ และเราจะเห็นว่าความบางความเนียนของขาพับหน้าจอคือดูดีมาก และกางได้แบบเรียบเนียนเลย
ในแง่ของการออกแบบปุ่มการวางเต็มสัดส่วนหน้าจอ 16 นิ้ว และ ยังคงไม่ตัด NumPad ออกไปครับทำให้ค่อนข้างเหมาะกับขนาดตัวประมาณนี้ และช่องระบายอากาศนั้นตัวนี้วางแนวยาวไว้ขอบบนกับปุ่มเปิด/ปิดเครื่องสวยงาม และด้วยความเป็น Gaming จริงๆยังคงมี RGB อยู่เหมือนเดิม
ในด้านหลังเราจะเห็นลำโพงตัวหลักที่จะยิงลงด้วยเช่นกัน มาพร้อมกับ 2 ข้างตัวละ 2W ที่พัฒนาร่วมกับทาง Nahimic®Audio โดยSteelSeries ที่จะทำให้เสียง 3 มิติออกมาสมจริงมากกว่าเดิม และทางด้านช่องระบายอากาศใหญ่สะใจเป็นแผงยาวพร้อมกับพัดลมคู่ และดูดระบายอากาศไปเต็มๆจะยิงออกด้านข้าง และด้านบน ถือว่าเป็นรุ่นที่เส้นสายไม่รก ไม่เยอะ ดูผ่านๆไม่เหมือนสายเกม แต่เรื่องทิศทางลม การระบายออกมาเท่าที่ใช้งานมาไม่ค่อยร้อนในสภาพอากาศไทยตอนนี้นะ
SPEC
- โปรเซสเซอร์ สูงสุด 13th Gen Intel®Core™ i7-13700H
- ระบบปฏิบัติการ สูงสุด Windows 11 Pro
- การ์ดแสดงผล Up to NVIDIA GeForce RTX4070 Laptop GPU, 8GB GDDR6 (140W), 2175Mhz Boost Clock
- หน่วยความจำ สูงสุด 32GB 5200Mhz DDR5 (2 x 16GB)
- พื้นที่จัดเก็บข้อมูล PCIe SSD Gen 4 สูงสุดถึง 1TB
- แบตเตอรี่ สูงถึง 80Whr สูงสุด 8.9hr (local video playback) 7.6hr (MM18)
- Supports Super Rapid Charge (charge up to 50% in 30min)
- เสียง ลำโพง 2W จำนวน 2 ตัว พร้อม Nahimic®เสียง
- กล้อง Up to 1080p webcam with e-shutter, fixed focus
- พอร์ต / ช่องเสียบ ซ้าย: USB-C 3.2 Gen 2 USB-C 3.2 Gen 2 (data transfer / DP 1.4 only) หูฟัง / ไมค์แบบคอมโบ ขวา: Card reader ด้านหลัง: DC-inอีเทอร์เน็ต (RJ45) USB 3.2 Gen 2 (Always 0n) USB 3.2 Gen 2 HDMI
- WiFi 2x 2 Intel®WiFi 6E (802.11ax)* เริ่มต้นจาก Bluetooth®5.1
- จอแสดงผล 16″ WQXGA (2560 x 1600) IPS; 16:10 (240 Hz / 100% sRGB / 500 nits / DisplayHDR™ 400 Certified / NVIDIA® G-SYNC® Support / TÜV Low Blue Light Certified / Anti-glare)
- NVIDIA® GeForce RTX™ 4070 Laptop GPU SKU
- 359.7mm x 260.3mm x 19.9-25.2mm / 14.16″ x 10.25″ x 078″-0.99″
- น้ำหนัก Less than 2.4kg / 5.29lbs
- คีย์บอร์ด 1.5 มม. แบล็กไลท์สีขาวหรือ 4-Zone RGB เสริม ร่องลึก 0.3 มม. Anti-Ghosting 100% ชุดปุ่มกดแบบถอดเปลี่ยนได้ (4 ปุ่มกด) รองรับซอฟต์แวร์ Lenovo Legion Spectrum RGB
- สี Storm GreyMisty Grey
PERFORMANCE
แน่นอนว่าด้วยพระเอกของเราคือ Intel®Core™ i7-13700H ทำงานแบบ 14 Core / 20 Thread ที่ความเร็วสูงสุด 5.0GHz โดยมี P-Core และ E-Core + มี Intel Thread Director ช่วยประมวลผลจัดการที่หลากหลาย รวมถึงทางด้าน NVIDIA GeForce RTX 4070 ค่อนข้างสุดครับในการทำงานเล่นเกมหรือทดสอบประสิทธิภาพต่างๆคือเกินพอจริงๆ และด้วยความที่เป็นเจนใหม่แบบนี้การประมวลผลต่างๆคือเอาเรื่องเลยนะ แต่จะโหดไม่สุดถ้าไม่ได้ SSD ดีๆครับตัวนี้เลยให้ M.2 2280 PCIe® 4.0×4 ซึ่งสามารถอ่านเขียนได้โหดมากถึง 6670 MB/s และ เขียนที่ 4945 MB/s ซึ่งเราสามารถเพิ่มได้สูงสุดถึง PCIe SSD Gen 4 ถึง 1TB จัดเต็มมากถึง 2 ช่องซึ่งในยุคใหม่ๆเราจะเห็นการออกแบบใช้ M.2 เป็นหลักแล้ว และในเครื่องที่เรารีวิวคือกดมาที่ 1TB เต็มๆแต่อ่านเขียนไวมาก
ส่วนทางด้านคะแนน Fire Strike สามารถทำคะแนนไปได้ถึง 26790 ส่วนนี้จะเป็นการดึง GPU ทำงานแบบหนักหน่วงกันเลยครับ สามารถรันได้แบบสบายๆซึ่งสายเกมบอกเลยว่าหายห่วง กับรุ่นนี้ตัว 4070 ถ้ามองกันจริงๆสามารถรันภาพได้อีกยาวๆรองรับเกมได้หลายเกมในอนาคต
และมาถึงทีม CPU กันบ้างกับคะแนนในตัว CINEBENCH R23 ที่เป็นการทดสอบตัวล่าสุดโหดสุด สามารถดึงพลังงานของ CPU แบบ 100% ในการทดสอบครับตัวนี้ Intel®Core™ i7-13700H สามารถรันคะแนนได้โหดมาก 18674 แบบ Multi Core และ Single Core 1842 กันเลยทีเดียวและถ้ามองย้อนกลับไปเจน 12 ก่อนหน้า คะแนนเพิ่มขึ้นมาอยู่เหมือนกันครับในรหัสเทียบกับ 12700 ก่อนหน้าถือว่าพัฒนาได้โหดอยู่นะ
SCREEN
หน้าจอตัวนี้มาพร้อมกับหน้าจอแบบด้านแน่นอนว่าในแง่ของสายเกมหน้าจอแบบนี้เล่นสบายตาและลดแสงรบกวนได้เยอะมาก แต่ถ้าสายทำงานอาจจะไม่ชอบครับ ตัวนี้มาพร้อมกับ Lenovo PureSight WQXGA 16:10 ขนาด 16 นิ้ว รองรับสูงสุดถึง 240Hz และรองรับ NVIDIA®G-Sync® + HDR 400 เทคโนโลยี X-rite และพื้นที่หน้าจอสูงระดับ AAR 93% ในแง่ของการใช้งาน สเปกตัวนี้สามารถกดได้สูงสุดคือ ขนาดหน้าจอ 16″ WQXGA (2560 x 1600) IPS; 16:10 (240 Hz / 100% sRGB / 500 nits / DisplayHDR™ 400 Certified / NVIDIA® G-SYNC® Support / TÜV Low Blue Light Certified / Anti-glare) เท่าที่ใช้งานมานั้นเราสามารถเล่นเกมได้แบบไหลลื่น และ สีในส่วนมืดๆตอบสนองได้ดีครับ ด้วยความที่รองรับ G-Sync ด้วยทำให้ในหลายๆเกมที่เป็น FPS ภาพไม่ฉีกไม่ขาดด้วยนะ และ ด้วยพลังของ i7 + RTX แบบนี้ภาพสวยมากจริงๆส่วนการสู้แสงในหลายๆสภาพแสงอาจจะไม่ได้โหดมากนักด้วยสเปกที่ใส่มา แต่ถ้าควบคุมแสงได้ถือว่าสีออกมาสวยครับ และ ในแง่ของสายทำงานจริงๆมาตรฐาน HDR400 คือโหดมากๆ เรื่องจอตัวนี้น่าจะเด่นสุดแล้ว
KEYBOARD
ซึ่งข้อดีของการออกแบบ คีย์บอร์ดรุ่นนี้เขาพยายามยืดให้มันเต็มสุดของเครื่อง ทำให้เราจะไม่ต้องเจอปัญหาปุ่มโดนบีบหรือตัด Numberpad ออกไปอันนี้แหละดีงามมาก รวมถึงปุ่ม 4 ทิศทางที่มาแบบใหญ่สะใจสายเกมถูกใจแน่นอนและยังคงให้ RGB 4 Zone มาครบๆปรับแต่งได้และสามารถตั้งค่าคีย์ลัดต่างๆเหมือนเดิมเช่นกันในบางปุ่ม ส่วนเรื่องฟีลลิ่งในแง่ของการกดรู้สึกว่าแม้จะบางแต่ระยะกด 1.5มม. Lenovo Legion TrueStrike ทำได้ดีกว่าที่คิดในแง่ของการทำงานหรือพิมพ์ ส่วนในการเล่นเกม ซึ่งรองรับ 100% Anti-Ghosting อันนี้ดีมากๆ แถมการออกแบบปุ่มจะโค้งรับมือได้ดีฟีลลิ่งจะเป็นแบบ Tactile นิดๆครับแข็งๆนิด ผมชอบนะคล้ายๆใน PC Mechanic พวกนั้นแต่มาอยู่ใน Laptop แบบนี้วางนิ้วเบาๆได้ไม่ลั่นและตอนกดตอบสนองได้ไวมีระยะแข็งๆนิดๆอยากให้ลอง
CONNECTOR
ในส่วนของพอร์ตเชื่อมต่ออันนี้ขอชมว่าจัดเต็ม แม้จะสายถ่ายภาพก็ยังชอบคือมี SD Card Reader มาให้ครับ รวมถึงมีสวิตช์ปิดกล้องด้วย และการย้ายพอร์ตสำคัญๆมาด้านหลังทำให้ใช้งานไม่เกะกะเวลาลากเมาส์ หรือ ต่อสายออกหน้าจอครับ ด้านหลังจะมาพร้อมกับ ช่องระบายอากาศขนาดใหญ่สะใจ และ แทรกพอร์ตไว้ตรงกลางคือ DC-in + อีเทอร์เน็ต (RJ45) + USB 3.2 Gen 2 + USB 3.2 Gen 2 x เป็น Sleep&Charge ใช้ชาร์จแบตเตอรี่ เครื่องอื่นได้ + HDMI 2.1 ถือว่าครบมากๆ แต่แอบเสียดายว่า USB-C แบบ PD หรือ Displayport ไม่มีมาให้ด้านหลังเครื่องครับ
[SR] รีวิว Legion Slim 5i สุดโหดกับสเปก i7-13700H + RTX4070 พร้อมจอ 16 นิ้ว 240Hz !
LENOVO LEGION ตระกูลนี้หลายๆคนน่าจะคุ้นเคยกันดีครับสำหรับสายเกมของค่าย LENOVO ซึ่งหลังๆพัฒนามาหลากหลายรุ่นย่อย และ มาในชื่อ SLIM ด้วยเช่นกันตัวนี้เป็นตัว SLIM 5i ที่มาพร้อมกับหน้าจอ 16 นิ้ว แต่ด้วยขนาดการออกแบบถือว่าบางกว่าที่คิดตามชื่อ และใช้งาน INTEL GEN 13 ตัวล่าสุดกันเลยทีเดียวเพราะเป็นการพัฒนาล่าสุด อาจจะเหมาะกับสายเกมแบบจริงจังได้แบบสบายๆ แต่ราคาไม่โหดไปรวมถึงสายทำงานซื้อเครื่องเดียวจบทำงาน เรนเดอร์ เล่นเกม รองรับได้สบายๆครับด้วยพลังของทีมฟ้า INTEL นั้นเอง ซึ่งหลังๆเนี่ยพัฒนาได้โหด แรง และไว พร้อมกับประหยัดพลังงานกว่าเจนก่อนๆไปเรื่อยๆ ซึ่งในรุ่นนี้จะใช้งาน RTX 4070 ตัวแรงเอาเรื่องด้วยนะ
LENOVO LEGION SLIM 5i มาพร้อมกับ Intel® Core™ i7-13700H processor ทำงานร่วมกับ NVIDIA GeForce RTX 4070 Laptop GPU ถือว่าสเปกแรงสุดกันเลยทีเดียวในรุ่นนี้ครับ ใช้งานหน้าจอ 16 นิ้ว PureSight Gaming 16″ WQXGA (2560 x 1600) IPS; 16:10 (240 Hz / 100% sRGB / 500 nits / DisplayHDR™ 400 Certified / NVIDIA® G-SYNC® Support / TÜV Low Blue Light Certified / Anti-glare) ซึ่งทั้งหน้าจอ และ สเปกที่จัดมาทำได้น่าสนใจ ทางค่ายนี้จุดเด่นคือสั่งปรับสเปกตามที่เราต้องการได้อีกมากมายครับ บอกเลยว่าอันนี้แหละข้อดีของเขา รวมถึงใช้งาน ระบบปฏิบัติการ Windows 11 Home 64 Single Language หน่วยความจำ 32 GB DDR5-5200MHz (SODIMM) การจัดเก็บข้อมูล 1TB SSD M.2 2280 PCIe Gen4 TLC และ สเปกที่แจ้งมานั้นอยู่ในแล็ปท็อปมีน้ำหนักไม่เกิน 2.3 กก. และบางเพียง 19.7 มม. แบตเตอรี่ที่มีความจุมากถึง 80Whr ถือว่าสุดมากรวมถึงมี Super Rapid Charge ที่ช่วยให้ตัวแล็ปท็อปสามารถชาร์จได้ถึง 70% ในเวลาเพียง 30 นาที ทำให้ผู้ใช้สามารถเล่นเกมและทำงานได้อย่างต่อเนื่อง และใช้งาน Nahimic®โดย SteelSeries ลำโพง 2W 2 ตัวแน่นๆไปเลย รวมถึงมีสี Storm Grey และ Misty Grey
Legion Slim 5i (16”, Gen 8) พร้อมจำหน่ายแล้ววันนี้ ราคาเริ่มต้น 55,990 บาท
DESIGN
งานออกแบบแน่นอนว่าด้วยความที่ชื่อ SLIM ในแง่ของสายเกมอาจจะต้องเข้าใจก่อนว่ามันจะไม่สามารถบางเท่ากับพวกสายทำงานอื่นๆได้ แต่ถ้ามองในแง่ของเกมด้วยกันมันถือว่าบางมากแล้ว รวมถึงพวกวัสดุต่างๆทำได้ดีเช่นเดิมค่ายนี้ผมชอบงานประกอบความแน่นเวลาสัมผัสนะถือว่าดูดีเลยแหละ ทำให้ตัวนี้อยู่ในขนาดที่พอรับได้กับสายเกมคือ ไม่เกิน 2.3 กก. และบางเพียง 19.7 มม. เท่านั้นและจุดเด่นคือหน้าจอที่สามารถกางได้แบบ 180 องศาในแง่ของสายเกม เป็นไม่กี่ตัวที่ทำแบบนี้ได้
ฝาหลังอาจจะเรียบๆถ้าไม่บอกว่าสายเกมก็ไม่รู้เลยว่าเป็นสายเกมครับ แสงสีลวดลายอะไรไม่เยอะแต่เน้นไปที่การใช้งาน ทำให้ถ้าใครสายทำงานอยากได้คอมเล่นเกมด้วย ทำงานด้วย ถือไปทำงานไม่เขินในแง่ของความเกมเยอะไปตัวนี้ทำออกมาได้ตอบโจทย์แน่นอน เอาไปพรีเซนต์งาน เล่นเกมเข้ากันได้ทุกๆสถานที่ ส่วนการออกแบบผมชอบที่ย้ายพอร์ตหลายๆส่วนมาไว้ด้านหลัง เพราะมันจะไม่เกะกะเวลาทำงาน และ สาย LAN สำหรับสายเกมแบบนี้อาจจะต้องเสียบเล่นเกมกันบ่อยและไม่เกะกะครับ และเราจะเห็นว่าความบางความเนียนของขาพับหน้าจอคือดูดีมาก และกางได้แบบเรียบเนียนเลย
ในแง่ของการออกแบบปุ่มการวางเต็มสัดส่วนหน้าจอ 16 นิ้ว และ ยังคงไม่ตัด NumPad ออกไปครับทำให้ค่อนข้างเหมาะกับขนาดตัวประมาณนี้ และช่องระบายอากาศนั้นตัวนี้วางแนวยาวไว้ขอบบนกับปุ่มเปิด/ปิดเครื่องสวยงาม และด้วยความเป็น Gaming จริงๆยังคงมี RGB อยู่เหมือนเดิม
ในด้านหลังเราจะเห็นลำโพงตัวหลักที่จะยิงลงด้วยเช่นกัน มาพร้อมกับ 2 ข้างตัวละ 2W ที่พัฒนาร่วมกับทาง Nahimic®Audio โดยSteelSeries ที่จะทำให้เสียง 3 มิติออกมาสมจริงมากกว่าเดิม และทางด้านช่องระบายอากาศใหญ่สะใจเป็นแผงยาวพร้อมกับพัดลมคู่ และดูดระบายอากาศไปเต็มๆจะยิงออกด้านข้าง และด้านบน ถือว่าเป็นรุ่นที่เส้นสายไม่รก ไม่เยอะ ดูผ่านๆไม่เหมือนสายเกม แต่เรื่องทิศทางลม การระบายออกมาเท่าที่ใช้งานมาไม่ค่อยร้อนในสภาพอากาศไทยตอนนี้นะ
SPEC
- โปรเซสเซอร์ สูงสุด 13th Gen Intel®Core™ i7-13700H
- ระบบปฏิบัติการ สูงสุด Windows 11 Pro
- การ์ดแสดงผล Up to NVIDIA GeForce RTX4070 Laptop GPU, 8GB GDDR6 (140W), 2175Mhz Boost Clock
- หน่วยความจำ สูงสุด 32GB 5200Mhz DDR5 (2 x 16GB)
- พื้นที่จัดเก็บข้อมูล PCIe SSD Gen 4 สูงสุดถึง 1TB
- แบตเตอรี่ สูงถึง 80Whr สูงสุด 8.9hr (local video playback) 7.6hr (MM18)
- Supports Super Rapid Charge (charge up to 50% in 30min)
- เสียง ลำโพง 2W จำนวน 2 ตัว พร้อม Nahimic®เสียง
- กล้อง Up to 1080p webcam with e-shutter, fixed focus
- พอร์ต / ช่องเสียบ ซ้าย: USB-C 3.2 Gen 2 USB-C 3.2 Gen 2 (data transfer / DP 1.4 only) หูฟัง / ไมค์แบบคอมโบ ขวา: Card reader ด้านหลัง: DC-inอีเทอร์เน็ต (RJ45) USB 3.2 Gen 2 (Always 0n) USB 3.2 Gen 2 HDMI
- WiFi 2x 2 Intel®WiFi 6E (802.11ax)* เริ่มต้นจาก Bluetooth®5.1
- จอแสดงผล 16″ WQXGA (2560 x 1600) IPS; 16:10 (240 Hz / 100% sRGB / 500 nits / DisplayHDR™ 400 Certified / NVIDIA® G-SYNC® Support / TÜV Low Blue Light Certified / Anti-glare)
- NVIDIA® GeForce RTX™ 4070 Laptop GPU SKU
- 359.7mm x 260.3mm x 19.9-25.2mm / 14.16″ x 10.25″ x 078″-0.99″
- น้ำหนัก Less than 2.4kg / 5.29lbs
- คีย์บอร์ด 1.5 มม. แบล็กไลท์สีขาวหรือ 4-Zone RGB เสริม ร่องลึก 0.3 มม. Anti-Ghosting 100% ชุดปุ่มกดแบบถอดเปลี่ยนได้ (4 ปุ่มกด) รองรับซอฟต์แวร์ Lenovo Legion Spectrum RGB
- สี Storm GreyMisty Grey
PERFORMANCE
แน่นอนว่าด้วยพระเอกของเราคือ Intel®Core™ i7-13700H ทำงานแบบ 14 Core / 20 Thread ที่ความเร็วสูงสุด 5.0GHz โดยมี P-Core และ E-Core + มี Intel Thread Director ช่วยประมวลผลจัดการที่หลากหลาย รวมถึงทางด้าน NVIDIA GeForce RTX 4070 ค่อนข้างสุดครับในการทำงานเล่นเกมหรือทดสอบประสิทธิภาพต่างๆคือเกินพอจริงๆ และด้วยความที่เป็นเจนใหม่แบบนี้การประมวลผลต่างๆคือเอาเรื่องเลยนะ แต่จะโหดไม่สุดถ้าไม่ได้ SSD ดีๆครับตัวนี้เลยให้ M.2 2280 PCIe® 4.0×4 ซึ่งสามารถอ่านเขียนได้โหดมากถึง 6670 MB/s และ เขียนที่ 4945 MB/s ซึ่งเราสามารถเพิ่มได้สูงสุดถึง PCIe SSD Gen 4 ถึง 1TB จัดเต็มมากถึง 2 ช่องซึ่งในยุคใหม่ๆเราจะเห็นการออกแบบใช้ M.2 เป็นหลักแล้ว และในเครื่องที่เรารีวิวคือกดมาที่ 1TB เต็มๆแต่อ่านเขียนไวมาก
ส่วนทางด้านคะแนน Fire Strike สามารถทำคะแนนไปได้ถึง 26790 ส่วนนี้จะเป็นการดึง GPU ทำงานแบบหนักหน่วงกันเลยครับ สามารถรันได้แบบสบายๆซึ่งสายเกมบอกเลยว่าหายห่วง กับรุ่นนี้ตัว 4070 ถ้ามองกันจริงๆสามารถรันภาพได้อีกยาวๆรองรับเกมได้หลายเกมในอนาคต
และมาถึงทีม CPU กันบ้างกับคะแนนในตัว CINEBENCH R23 ที่เป็นการทดสอบตัวล่าสุดโหดสุด สามารถดึงพลังงานของ CPU แบบ 100% ในการทดสอบครับตัวนี้ Intel®Core™ i7-13700H สามารถรันคะแนนได้โหดมาก 18674 แบบ Multi Core และ Single Core 1842 กันเลยทีเดียวและถ้ามองย้อนกลับไปเจน 12 ก่อนหน้า คะแนนเพิ่มขึ้นมาอยู่เหมือนกันครับในรหัสเทียบกับ 12700 ก่อนหน้าถือว่าพัฒนาได้โหดอยู่นะ
SCREEN
หน้าจอตัวนี้มาพร้อมกับหน้าจอแบบด้านแน่นอนว่าในแง่ของสายเกมหน้าจอแบบนี้เล่นสบายตาและลดแสงรบกวนได้เยอะมาก แต่ถ้าสายทำงานอาจจะไม่ชอบครับ ตัวนี้มาพร้อมกับ Lenovo PureSight WQXGA 16:10 ขนาด 16 นิ้ว รองรับสูงสุดถึง 240Hz และรองรับ NVIDIA®G-Sync® + HDR 400 เทคโนโลยี X-rite และพื้นที่หน้าจอสูงระดับ AAR 93% ในแง่ของการใช้งาน สเปกตัวนี้สามารถกดได้สูงสุดคือ ขนาดหน้าจอ 16″ WQXGA (2560 x 1600) IPS; 16:10 (240 Hz / 100% sRGB / 500 nits / DisplayHDR™ 400 Certified / NVIDIA® G-SYNC® Support / TÜV Low Blue Light Certified / Anti-glare) เท่าที่ใช้งานมานั้นเราสามารถเล่นเกมได้แบบไหลลื่น และ สีในส่วนมืดๆตอบสนองได้ดีครับ ด้วยความที่รองรับ G-Sync ด้วยทำให้ในหลายๆเกมที่เป็น FPS ภาพไม่ฉีกไม่ขาดด้วยนะ และ ด้วยพลังของ i7 + RTX แบบนี้ภาพสวยมากจริงๆส่วนการสู้แสงในหลายๆสภาพแสงอาจจะไม่ได้โหดมากนักด้วยสเปกที่ใส่มา แต่ถ้าควบคุมแสงได้ถือว่าสีออกมาสวยครับ และ ในแง่ของสายทำงานจริงๆมาตรฐาน HDR400 คือโหดมากๆ เรื่องจอตัวนี้น่าจะเด่นสุดแล้ว
KEYBOARD
ซึ่งข้อดีของการออกแบบ คีย์บอร์ดรุ่นนี้เขาพยายามยืดให้มันเต็มสุดของเครื่อง ทำให้เราจะไม่ต้องเจอปัญหาปุ่มโดนบีบหรือตัด Numberpad ออกไปอันนี้แหละดีงามมาก รวมถึงปุ่ม 4 ทิศทางที่มาแบบใหญ่สะใจสายเกมถูกใจแน่นอนและยังคงให้ RGB 4 Zone มาครบๆปรับแต่งได้และสามารถตั้งค่าคีย์ลัดต่างๆเหมือนเดิมเช่นกันในบางปุ่ม ส่วนเรื่องฟีลลิ่งในแง่ของการกดรู้สึกว่าแม้จะบางแต่ระยะกด 1.5มม. Lenovo Legion TrueStrike ทำได้ดีกว่าที่คิดในแง่ของการทำงานหรือพิมพ์ ส่วนในการเล่นเกม ซึ่งรองรับ 100% Anti-Ghosting อันนี้ดีมากๆ แถมการออกแบบปุ่มจะโค้งรับมือได้ดีฟีลลิ่งจะเป็นแบบ Tactile นิดๆครับแข็งๆนิด ผมชอบนะคล้ายๆใน PC Mechanic พวกนั้นแต่มาอยู่ใน Laptop แบบนี้วางนิ้วเบาๆได้ไม่ลั่นและตอนกดตอบสนองได้ไวมีระยะแข็งๆนิดๆอยากให้ลอง
CONNECTOR
ในส่วนของพอร์ตเชื่อมต่ออันนี้ขอชมว่าจัดเต็ม แม้จะสายถ่ายภาพก็ยังชอบคือมี SD Card Reader มาให้ครับ รวมถึงมีสวิตช์ปิดกล้องด้วย และการย้ายพอร์ตสำคัญๆมาด้านหลังทำให้ใช้งานไม่เกะกะเวลาลากเมาส์ หรือ ต่อสายออกหน้าจอครับ ด้านหลังจะมาพร้อมกับ ช่องระบายอากาศขนาดใหญ่สะใจ และ แทรกพอร์ตไว้ตรงกลางคือ DC-in + อีเทอร์เน็ต (RJ45) + USB 3.2 Gen 2 + USB 3.2 Gen 2 x เป็น Sleep&Charge ใช้ชาร์จแบตเตอรี่ เครื่องอื่นได้ + HDMI 2.1 ถือว่าครบมากๆ แต่แอบเสียดายว่า USB-C แบบ PD หรือ Displayport ไม่มีมาให้ด้านหลังเครื่องครับ
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้