ก่อนที่จะมาถึงจุดนี้ทุกคนมีความทุกข์ความสุขเป็นเรื่องธรรมดาแต่ถ้า สมมุติว่าเราซึมเศร้ามากจนเกินไปนี้อาจเรียกปกติได้หรอหรืออาจจะรู้สึกเศร้าท้อเหนื่อยหรือผิดหวังเป็นระยะๆ เช่น 3วันต่อส.ด หรือ 1ส.ด แล้วเป็นๆหายๆตลอดปีแบบนี้ จะเข้าค่ายหรือเป็น"ภาวะซึมซ่อนเร้น"หรือป่าว?? แต่ยังไงถ้ามีความทุกข์ความเศร้า เสียใจบ่อยก็ไม่ได้มีข้อดีอยู่แล้ว แต่ถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆยิ่งคนที่มีอาการแบบนี้เริ่มจากเป็น"ภาวะซึมเศร้าซ่อนเร้น"ก็อาจส่งผลต่อกลายเป็นโรคซึมเศร้าได้ไหม? ยังไงเสียถ้าปล่อยไว้ก็ไม่ดี แต่ๆๆๆ ยังไงก็ตามหากคนที่สงสัยแล้วสังเกตตัวเองมานานก็อาจจะสงสัยและอาจจะไม่กล้าไปพบจิตแพทย์หรือครอบครัวแค่คิดว่าคงไม่เป็นอะไรมาก ซึ่งรู้สึกว่าเป็นความคิดที่ผิดมากที่ไม่ได้ใส่ใจถึงจุดๆนั้น บ้างที่ทุกๆคนหรือคนใก้ลตัวอาจไม่สังเกตเห็นความผิดปกติของคนที่มีอาการแบบนี้เลยด้วยซ้ำ ในปัจจุบัน 2566 มีเด็กที่อายุไม่เกิน 18 ปี เป็นจำนวนมากคิดอยาจะจบชีวิตตัวเองยิ่งเป็นทั้งสังคมคนรอบตัวและสิ่งที่ผปค.อาจไม่สังเกตเห็นหรือตัวเด็กไม่ได้เปิดเผย นั้นอาจเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวที่อาจเกิดขึ้นหลังจากนี้ก็ได้ ทุกคนอาจรู้ดีความทรงจำแย่ๆที่ไม่อาจลืมรวมกับปัญหาใหม่ที่เกิดขึ้นตามกาลเวลานั้นก็"เป็นเหตุที่ทำให้เกิดการสะสม" เรื่องแย่ๆใครๆก็ไม่อยากเจอ ยิ่งเป็นเด็กหรือคนที่อ่อนไหวง่ายยิ่งเสี่ยงต่อปัจจัยการเกิดภาวะซึมเศร้า คนรอบข้างไม่รู้ว่าคนๆหนึ่งไปเจออะไรมาในวันช่วงเวลาชีวิตและวัยของเค้า ถ้ามีคนๆหนึ่งมาพูดสิ่งที่ทำร้ายจิตใจและความรู้สึกของคุณ_บวกกับตัวคุณเองที่รู้สึกว่าแค่นี้ยังไม่พออีกหรอทำไมต้องมาเจอะไรแบบนี้อีก_ ตัวคนพูดอาจไม่คิดอะไรแต่คนที่ฟังนี้สิ... คุณคงเค้าใจใช่ไหม
ยังไงก็เถอะรวมถึงเราเองที่พิมพ์ข้อความนี้ก็ยังสงสัยว่าจะยังไงต่อกับชีวิตนี้ดี เหนื่อยท้อเหมือนกันเห็นข่าวเด็กที่อายุไม่เกิน18 ปี จากไปจากโลกนี้บ่อยๆ ก็ไม่ได้อยากเห็นตัวเองอยู่ในข่าวแบบนั้นเหมือนกัน ไม่อยากให้ใครรู้ด้วยซ้ำว่าเราอยากจะทำแบบนั้น ถ้าพ่อกับแม่เห็นเราออกข่าวแบบนั้นคงเสียใจมาก ก็นะเกลียดความคิดตัวเองที่คิดแบบนี้เหมือนกันแหละ ก็ไม่ได้อยากทำแต่แค่รู้สึกว่าความกดดันต่างๆมันดูมากเกินกว่าเราจะรับไหวยิ่งตอนนี้คิดว่าตัวเองใกล้ถึงเวลาเก็บเกี่ยวแล้ว...ในอนาคตวันใดวันหนึ่งหากเลือกได้ก็อยากเป็นแค่ลมในอากาศที่พัดความเย็นสดชื่นมาให้คนอื่นๆเท่านั้น ก็คงจะเพียงพอแล้ว สำหรับชีวิตเล็กๆนี้
เป็นซึมเศร้าหรือป่าว? หรืออาจเป็นเราเอง
ยังไงก็เถอะรวมถึงเราเองที่พิมพ์ข้อความนี้ก็ยังสงสัยว่าจะยังไงต่อกับชีวิตนี้ดี เหนื่อยท้อเหมือนกันเห็นข่าวเด็กที่อายุไม่เกิน18 ปี จากไปจากโลกนี้บ่อยๆ ก็ไม่ได้อยากเห็นตัวเองอยู่ในข่าวแบบนั้นเหมือนกัน ไม่อยากให้ใครรู้ด้วยซ้ำว่าเราอยากจะทำแบบนั้น ถ้าพ่อกับแม่เห็นเราออกข่าวแบบนั้นคงเสียใจมาก ก็นะเกลียดความคิดตัวเองที่คิดแบบนี้เหมือนกันแหละ ก็ไม่ได้อยากทำแต่แค่รู้สึกว่าความกดดันต่างๆมันดูมากเกินกว่าเราจะรับไหวยิ่งตอนนี้คิดว่าตัวเองใกล้ถึงเวลาเก็บเกี่ยวแล้ว...ในอนาคตวันใดวันหนึ่งหากเลือกได้ก็อยากเป็นแค่ลมในอากาศที่พัดความเย็นสดชื่นมาให้คนอื่นๆเท่านั้น ก็คงจะเพียงพอแล้ว สำหรับชีวิตเล็กๆนี้