“ค่าโง่” ที่คุณเคยเสียไป คุณได้บทเรียนอะไรกลับคืนมากันบ้างครับ ? มาถึงตอนนี้ ทำใจได้ - ให้อภัย - หรือยังเสียดายไม่หาย

ผมมาชวนคุย  เรื่องที่คุณอาจจะไม่อยากขุดคุ้ยมันขึ้นมา 

คำว่า "ค่าโง่" ชื่อมันไม่ค่อยเพราะ   คน(ที่คิดว่าตัวเอง)ฉลาด ย่อมไม่อยากยอมรับ  ว่าเคย พลาดแบบนั้นมาได้ 

คุณเคยโดนใครหลอก หรือ ต้องจ่ายอะไร แล้วมารู้ทีหลังว่า ไม่น่าเลย รู้งี้ …………………… เพี้ยนเพลีย

แล้วจากเหตุการณ์นั้น ประสบการณ์ที่คุณได้รับมา 
คุณสามารถพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส  พลิกความโง่ให้เป็นบทเรียน  
จนคุณคิดว่า คุ้มแล้วที่โดนหลอกวันนั้น ไม่งั้น วันนี้ อาจจะต้องเสียมากกว่านี้  มีไหมครับ ? 

ผมเอง เคยโดนโกงไปประมาณ เจ็ดหลักต้นๆ
เป็นรุ่นน้องที่สนิทกัน  ผมก็ช่วยเหลือเขาเรื่องเงินมาตลอด  คือไว้ใจครับ เห็นว่าเขาเป็นคนดี
กตัญญู ดูแลพ่อแม่ ขยันทำงาน รักความก้าวหน้า  

พอเขาลำบากมาที ก็มาขอให้ช่วย ครั้งละ หลักพันบ้าง หลักหมื่นบ้าง จนถึงหลักแสน 
ผมโอนไว ให้ทุกครั้งที่เห็นเขาลำบาก 

ไม่ได้มีเรื่องชู้สาวระหว่างกันนะครับ คบกันแบบพี่แบบน้องมานานหลายปี 
ถึงผมจะยอมรับว่า ผมก็มีใจให้เขานิดหน่อย  เขาเองก็อ่อยผมบ่อย  
แต่มองแล้ว มันจะไปกันไม่ได้ระยะยาว เดี๋ยวจะเสียมิตรภาพดีๆไป ผมเลยไม่เคยจีบ  ก็ทำตัวเป็นพี่ชายที่แสนดีให้เขาเรื่อยมา 

ผมรู้ครับ  ว่าอ่านมาถึงตอนนี้ คุณคงจะคิดว่า ทำไมผมโง่ซ้ำโง่ซ้อน  เผลอๆจะว่าผมหัวงูอีก 
ของเก่ายังไม่ใช้คืน ทำไมให้ก้อนใหม่ไปอีก  สะสมจนก้อนใหญ่ขนาดนี้ 

ตอนนั้น ไม่มีในหัวผมสักนิด ว่าเขาจะโกง  คิดว่ายังไง เขาต้องหามาคืน
(เขายืมไปเป็นค่ารักษาพยาบาล พ่อ และ แม่ครับ ทยอยป่วย ทยอยเข้าโรงพยาบาล)

พอเขาตกงาน เขาก็หายไปเลย  (ช่วงโควิดเป็นก้อนสุดท้ายที่ผมให้เขา ก็เกือบสองแสน) 

ผมก็ยังใจดี มองในแง่ดี ว่าเดี๋ยวเขาพร้อมมีงานทำ หางานใหม่ได้  เขาจะมาทยอยใช้หนี้เองนั่นแหละ 

ผมเคยไลน์ไปทวงถาม สามครั้ง (เว้นระยะห่างแต่ละครั้งเกือบปี) เขาอ่านและไม่ตอบ 

กว่าผมจะรู้ว่าเขาตั้งใจที่จะไม่จ่ายหนี้จริงๆ ก็ต้นปีนี้ครับ (ผมความรู้สึกช้ามาก คุณว่าไหม) 
เพราะผมเสนอจะหางานให้เขาทำ เขาจะได้มีเงินมาทยอยใช้หนี้ และมีเงินไว้ใช้จ่ายระหว่างนี้
ผมยังจะช่วยเขาอีกนะ ยังกะว่า ถ้าไม่มีเงินไปทำงาน เดี๋ยวผมโอนให้อีก (ตามคติพจน์ ช่วยแล้วต้องช่วยให้สุด)

พอเห็นปฏิกิริยาที่เขาตอบกลับมา เขาไม่ได้กระตือรือร้นดีใจที่จะได้ทำงาน ตามวิสัยที่คนตกงานนานๆทั้งหลายพึงจะเป็น
ผมจึงได้ถึงบางอ้อ 
เข้าไปส่องเฟส ถึงได้เห็นว่า ชีวิตช่วงนี้ (ตั้งแต่ตกงานมา) เขามีคนเลี้ยงดู ไม่ได้ลำบากอย่างที่คิดผม เขาไม่จำเป็นต้องทำงานก็ได้ 

รุ่นน้องที่นิสัยดี และใสซื่อในสายตาผมคนนั้น ไม่อยู่แล้ว  (คงหายไปนานแล้วแต่ผมเพิ่งรู้ตัว) 

ความรู้สึกหลังจากที่ ผมคิดได้  และพยายามเปลี่ยนความโง่ให้เป็นบทเรียน  คือ

1 ผมจะไม่ทวงอีกแล้ว  คนทวงหนี้ อายนะครับ ยิ่งทวงมันคือการตอกย้ำ ว่าเราเสียรู้ให้เขา
และคนจะใช้หนี้ เขาจะมีจิตสำนึก เขาจะติดต่อมา เขาจะไม่หายไปแบบนี้ครับ  คนจะไม่ใช้ ทวงยังไงเขาก็ไม่ใช้ 

2 ถ้าจะให้ใครยืมอีก ต้องทำสัญญาเงินกู้ พร้อมขอหลักประกัน 

3 พึงระวังสาวๆที่สวยและน่ารัก เวลามาบอกว่าเดือดร้อน พร้อมกับทำท่าออดอ้อนเอาใจ  
พอให้ไป ก็ทำท่าปลื้มใจมาก ว่าเราคือฮีโร่ช่วยชีวิตเขา   เราจะตายน้ำตื้นซะเอง  
ความเมตตากรุณา กับความยอมเพราะหลงเสน่ห์เขา มันมีเพียงเส้นบางๆกั้นอยู่ 

เฮ้อ ยิ่งเขียนยิ่งเจ็บปวด  เหมือนไปเปิดปากแผลเก่าที่มันตกสะเก็ดไปแล้ว ให้เลือดออกมาอีก ยังไงยังงั้น เพี้ยนสะอื้น

ตอนนี้ ผมทำใจได้ ยกหนี้ให้(ในใจ ไม่ได้ไลน์ไปบอก)   แต่ยังเสียดายความรู้สึก และมิตรภาพระหว่างกันมาก 
เงินก็เสียดายครับ  
คิดซะว่า ชาติก่อน ผมคงเคยไปเอาของของเขามา ชาตินี้ผมก็ใช้หนี้ให้เขาไปก็แล้วกัน  

บทเรียนครั้งนี้สอนให้รู้ว่า
"ไม่เชื่ออีกแล้วหัวใจของพวกมนุษย์"   ดนตรีมา 

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

(ผมล้อเล่นครับ  ผมไม่ดื่ม ไม่สูบ เวลาเสียใจ ไม่เคยคิดใช้สิ่งเสพติดแก้ปัญหาครับผม)
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
ขออนุญาตแชร์ค่าโง่ของผมเองนะครับ

1.เสียเงินให้บริษัทจัดหางาน(บริษัทจัดหางานที่ตั้งมาเพื่อหลอกลวงคนนะครับ)

บทเรียนที่ได้ อย่าหลงเชื่อใครง่ายๆ หาข้อมูลให้เยอะๆ ปรึกษาคนรู้หรือคนมีประสบการณ์

2.เสียเงินไปทำบริษัทขายตรง ก่อนอื่นต้องบอกว่าไม่ใช่บริษัทขายตรงไม่ดีนะครับ แต่มันมีขายตรงประเภทหลอกลวงทำกันเป็นลักษณะแชร์ลูกโซ่ บริษัทขายตรงที่ดีที่น่าเขื่อถือก็มีเยอะครับ

บทเรียนที่ได้  ต้องหาข้อมูลให้ชัดเจน ก่อนตัดสินใจสอบถามผู้รู้ อยากเห็นแก่เงินอย่าละโมบ

3.เสียเงินไปอบรมหลักสูตรที่คิดว่าจะทำให้หน้าที่การงานดีขึ้น ไม่ใช่หลักสูตรเขาไม่ดีนะครับ แต่เราประเมินตัวเองสูงเกินไป สุดท้ายไปอบรมไม่ได้อะไรเสียตังค์ฟรีเป็นหมื่น

บทเรียนที่ได้  ต้องประเมินศักยภาพตนเองก่อนตัดสินใจ อย่าใจร้อน หาข้อมูลให้เยอะๆสอบถามผู้รู้ผู้มีประสบการณ์

4.เสียเงินไปเรียนมหาวิทยาลัยเปิดแห่งหนึ่ง เพิ่งมารู้ทีหลังว่าไม่เหมาะกับตนเอง บทเรียนที่ได้คลายข้อ 3 ครับ

ประมาณนี้ครับเท่าที่จำได้ ยังไม่รวมค่าเสียเวลานะครับซึ่งมีอีกหลายเรื่อง

ทั้งหมดทั้งมวลที่กล่าวมาผมอยากสรุปว่า

ค่าโง่ที่เราเสียไปมันคุ้มกับสิ่งที่เราได้มาครับ

สิ่งที่ผมได้กลับคืนมาคือ

ผมเป็นคนละเอียดรอบคอบขึ้น พิจารณามากขึ้นในหลากหลายมิติหลากหลายมุมมอง

ไม่ใจเร็วด่วนได้

รอได้ในหลายๆสถานการณ์

เป็นคนสุขุม ฟังหูไว้หู พิจารณาและตัดสินใจทุกอย่างตามข้อเท็จจริง โดยเฉพาะเรื่องที่ต้องเสียเงินเสียเวลา

เติบโตมากขึ้นเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น

ประมาณนี้ครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่