แม้ว่าจะไม่เคยลงทุนในประเทศไทย เห็นช่วงนี้มีการพูดถึงตลาด SET ในแง่ลบมากเป็นพิเศษ จริงๆเรื่องแย่ๆก็มีมานานแล้ว ไม่ใช่เพิ่งเป็น และ ก็เป็นทั่วโลก มากน้อยต่างกันไป การลงโทษก็ต่างกันไป แต่หลักๆ คือ นักลงทุนต้อง Do your own DD (due diligence). 

ประเทศไทยขาด Checks and Balances ที่มีประสิทธิภาพ ในทุกวงการค่ะ (สำหรับ SET คุณต้องมี short sellers และ activist investors ที่ดีและเก่ง)

อันนี้เคยพูดมาก่อนแล้ว ...นักลงทุน ไม่ถึงกับว่า ไม่มีทางรู้ ว่าอันไหน จริง หรือ ปลอม แค่หาทางรู้ได้ยาก (มาก) จากความรู้สึกส่วนตัวของดิฉัน ในตลาด SET มีการตกแต่งบัญชี อย่างน้อย 90% ของตลาด (ในจำนวนนี้ 5% แต่งเล็กๆน้อยๆให้แค่ดูดีขึ้น อีก 95% แต่งเยอะมากๆ แบบผู้หญิงบางคนที่ต้องผ่านการศัลยกรรมด้วยผู้เชี่ยวชาญ จนจำหน้าเดิมไม่ได้)  และ 50% ของตลาด ไม่มีธุรกิจอยู่จริง (หลอกลวง) ค่ะ และ การโกง ทำกันเป็นขบวนการ มีเจ้าหน้าที่ SET ร่วมด้วย ดังนั้น คิดดูเอาเองว่า SET index ควรเป็นเท่าไหร่ (น่าจะลงไปถึง 12xx)

จากข้อความข้างต้น เรื่องการคดโกง และ การได้เห็นกระทู้ตำหนิ การบริการของธนาคารต่างๆ และ เคยได้ยินว่า ธนาคารนั่นนี่ ทำกำไรมากมายขนาดนั้นนี้โน้น แต่ในโลกความจริง กลับมีบริการที่แย่มากๆ (ระบบแย่ แต่พนักงานส่วนใหญ่โอเค) ทั้ง online and in person นอกจากนี้เริ่มมีการยกเลิก website ตามๆกัน เลยมั่นใจว่า ธนาคารก็ทำยิ่งกว่าแต่งบัญชีเล็กๆน้อยๆ แน่นอน 

(จริงๆ เคยคิดจะเปิดบัญชีธนาคารในไทย แต่ก็ล้มเลิกไป หลังจากไปฟังเจ้าหน้าที่อธิบาย และ คิดเปรียบเทียมกับบริการของทางอเมริกาแล้ว เลยไม่เอาดีกว่า เพราะในชีวิตประจำวันเท่าที่ผ่านมาก็ไม่มีความจำเป็น)

แต่ไม่ว่า คุณ จะเป็น bulls or bears, longs or shorts คุณก็สามารถทำเงินได้ทุกวัน ถ้าเก่ง และ ดวงดี จริง

ไม่ว่าตลาดจะเป็นอย่างไร ก็มีคนเข้ามาอยู่ดี คนที่เข้ามาก็เป็น gambler กันทั้งนั้น และ รู้ดีว่า trading น่ะ เงินเยอะ และ ง่ายกว่า งาน อื่นๆ (จำนวนคนเล่นได้ มี มากกว่า จำนวนคนเล่นเสีย อยู่บ้าง ตลาดจึงยังมีความดึงดูดใจมากค่ะ มันขึ้นอยู่กับว่า คุณอยู่กลุ่มไหน ได้หรือเสีย เป็นส่วนมาก)

credit: personal financial advisor

Happy trading ka.