มา ไหนๆเรื่องนี้ก็หาอ่านยากแล้ว เพราะไปนั่งไล่ดูเคสอื่นเจอน้อยมาก เลยมาเป็นหนึ่งในการแบ่งปันประสบการณ์เพิ่มละกัน จะขอเล่าย่อๆ
1.เหตุเกิดเมื่อวันที่8มิย เราโดนหัวค้อนกระเด็นใส่จมูกแบบเต็มแรง เพราะใช้งานอยู่ เดี๋ยวแนบรูปให้ดูเพราะมันไม่มีที่ล็อคตรงหัวใดๆ เลยหลุดมาใส่แบบไม่ทันตั้งตัว เลือดกำเดาแตก
2.ไปรพ.เข้าห้องฉุกเฉินเพราะตอนนั้นหมดสติด้วย สรุปเอ็กซเรย์ออกมาคือจมูกหัก แต่เราไม่ได้เห็นรูปผลเอ็กซเรย์นะ หมอในห้องฉุกเฉินแจ้งว่าจะนัดมาพบหมอเฉพาะทางอีกที แต่ปกติกระดูกอ่อนจะสมานได้เองไม่ต้องกังวล+ให้ยาแก้ปวดเม็ดสีชมพูมากิน
3.วันที่13มิย ไปพบหมอตามนัดหลังเกิดเหตุ5วัน ครั้งนี้ได้พบหมอหูคอจมูก เฉพาะทางละ เข้าไปปุ้บหมอบอกว่าจมูกไม่เท่ากันนะ ยุบไปข้างนึง ตอนนั้นยังงงอยู่เพราะเราดูผ่านๆก็ไม่ได้เห็นชัดขนาดนั้น เขาก็เปิดรูปเอ็กซเรย์วันนั้นให้ดูว่ามันหักแบบตกอะ แบบดั้งยุบอะ ไม่ได้ถ่ายมาด้วย5555 ก็คือหัก+ยุบ1ข้าง ตอนนี้จะยังไม่เห็นชัดมาก แต่หลังจากวันเกิดเหตุ2สัปดาห์จะชัดขึ้น เขาเลยให้เลือกว่าจะแก้ไหม หรือรับได้ให้เราตัดสินใจเอง เพราะถ้าจะทำต้องทำเลย ถ้าเกิน2สัปดาห์จะทำยากเพราะกระดูกมันสมานกันแล้วจะแก้ยากกว่า ทำยากกว่า คชจเยอะกว่า และเจ็บมากกว่า
ตอนแรกลังเลมากเพราะไม่อยากเจ็บตัว อุตส่าทนมาตั้ง5วัน+เริ่มหายเจ็บแล้ว
แต่สุดท้ายเลือกทำนะ เพราะกลัวรับไม่ได้ละต้องทำอยู่ดี เอาวะไม่อยากเสี่ยงต้องมานั่งลุ้นอีก
4.พอเราบอกหมอว่าโอเคตกลงทำ เขาก็ให้ไปเก็บเลือด+เอ็กซเรย์ปอด ละนัดวันเข้ามานอนพักฟื้นล่วงหน้าก่อนทำ1วัน *วันมาห้ามทาเล็บ และห้ามแต่งหน้า คนที่สักปากต้องแจ้งหมอด้วยนะ เพราะตอนผ่าตัด หมอจะคอยสังเกตุสีเล็บและสีปากเราด้วย
5.เข้ามานอนรพ.วันที่16มิย เขาก็จะมีเอกสารมาให้เซ็นยินยอมรับการรักษา ยินยอมให้ใช้ยาสลบ บลาๆ ให้เซ็นหลายแผ่นอยู่ แล้วหมอก็ให้งดน้ำงดอาหารหลังเที่ยงคืน แต่เอาจริงวันนั้นกินไรไม่ลงเพราะกังวลมากไม่เคยดมยาสลบเลย+ไปหาอ่านมาถ้ากินอะไรไปจะอันตรายมาก สรุปนอนหิวยันบ่ายอีกวัน จริงๆคือก็กินได้ก่อนเที่ยงคืนนั้นแหละ
6.วันที่17มิย พยาบาลเอาชุดมาให้เปลี่ยนตั้งแต่เช้า เป็นชุดเตรียมเข้าห้องผ่าตัด ถอดทุกอย่างออกหมด มีแค่ตัวกับชุดนั้นแหละ เกียมตัวขึ้นเขียง13.00น. ลืมบอกว่าตั้งแต่ไปนอนเขาจะมีพยาบาลคอยเข้ามาวัดความดันตลอด เช็คว่าร่างกายเราพร้อมมากน้อยแค่ไหน
7.ในห้องผ่าตัด ตอนนั้นกังวลกับยาสลบมากจริง คุยกับหมอหลายรอบมาก ว่ามีวิธีอื่นไหม ซึ่งหมอก็บอกว่ามันไม่ได้จริงๆมันคือการงัดกระดูกที่เราจะทนไม่ไหวแน่ๆ วิธีนี้ปลอดภัยที่สุดแล้ว ละความกูคือถามยันวินาทีสุดท้ายในห้องผ่าตัด ระหว่างนั้นเขาก็จัดท่าเริ่มมัดตัว แล้วก็แปะๆไรไม่รู้เต็มหน้าอก แล้วบอกเราว่าไม่ต้องกังวลหมอคอยดูอยู่ มีจอบอกการเต้นหัวใจ บอกอ็อกซิเจน บอกความดัน บอกไรไม่รู้อะสายเต็มไปหมด เขาบอกถ้าเป็นอะไรเขาก็ต้องรู้ ละก็ค่อยๆฉีดยาหลอดใหญ่มากและแสบมากจ้ะเข้าไป กับเอาท่อมาให้ดม แล้วก็หลับไปตอนไหนไม่รู้จำได้แค่นั้น
8.รู้สึกตัวอีกทีคือออกจากห้องผ่าตัดแล้ว มีพยาบาลมาเรียกว่าคนไข้ตื่นรึยังคะ รู้สึกตัวรึยัง แล้วก็มีเครื่องช่วยหายใจมั้งครอบหน้าอยู่ ละก็ตึงๆที่หน้า+เจ็บคอมากกกก เจ็บจนต้องขอน้ำ แต่เขาไม่ยอมให้กิน บอกต้องรอหมออนุญาติก่อน
9.กลับห้องพักฟื้น สภาพเริ่มแย่ละ เจ็บคอแบบกลืนน้ำลายไม่ไหว หน้าเริ่มบวม เริ่มเจ็บจมูก หมอบอกว่าเจ็บคอเพราะใส่เครื่องช่วยหายใจตอนผ่าตัด ต้องทนเอา เดี๋ยวก็หาย ส่วนจมูกห้ามโดนเด็ดขาดให้ระวังมากๆเพราะอาจเคลื่อนได้ เนื่องจากหมอใช้เครื่องมือเข้าไปงัดที่มันหัก+ยุบ ตอนนี้หมอดามซิลิโคนหรอเรียกถูกรึป่าว ยัดไว้ข้างในรูจมูกทั้ง2ข้าง ทำให้หายใจไม่สะดวกต้องหายใจทางปากเอา ละคือ!!เจ็บคอมาก ต้องมาหายใจทางนี้อีก เวลากินไม่ต้องพูดถึงไหนจะกลืนไหนจะเคี้ยวไหนจะหายใจ สภาพ
อันนี้คือรูปหลังออกจากห้องผ่าตัดเลย รูจมูก2ฝั่งเท่ากันละ ตึงแค่จมูก ยังไม่ค่อยบวม
10.หมอให้นอนดูอาการวันที่17มิยอีกคืน เพราะกลัวว่ายาสลบยังมีตกค้างอยู่อาจจะอันตราย คืนนั้นคือนอนไม่เป็นสุขละ เพราะหายใจลำบากไม่ถนัดเลย น้ำไหลจากจมูกตลอดไม่รู้น้ำมูกหรืออะไร แต่หมอบอกถ้าเป็นเลือดคืออันตรายให้รีบแจ้ง แล้วสภาพหน้าก็ดูไม่ได้บวมจนตาตุ่ย
11.วันที่18มิย หมอบอกจะอยู่ดูอาการหรือกลับ เลยบอกกลับเพราะอยู่ไม่เป็นสุขละ อยากถอดสายน้ำเกลือออก ปวดเส้นเลือด ปวดหัว ปวดคอ อาการแบบระบมช่วงบนมาก บอกไม่ถูก หมอเลยนัดหลังจากนี้อีก5วันมาถอดซิลิโคนที่ดามไว้ออก และรอดูผลต่อไป . . .
ซึ่งจริงๆแล้วถ้าวันเกิดเหตุ เราได้เจอหมอเฉพาะทาง เขาก็คงทำให้เลยไหมวะ ต้องมาเจ็บตัวซ้ำ2รอบทำไม
และการจะจามหรือไอ ทรมานมาก เพราะทำไม่ได้ ต้องอ้าปากกว้างๆเอาเพื่อให้ไม่จาม ไม่งั้นตะเตือนตะหมูก น้ำตาคือไหลแบบไหลเหมือนต้องฝืนสุดๆ เพิ่งเคยฝืนจามครั้งแรกในชีวิต ไม่ง่ายเลยจริงๆ
ได้ยากลับมาทาน4ตัว
-ยาแก้อักเสบฆ่าเชื้อ
-ยาแก้ปวด แบบปวดมากทนไม่ไหว *กินตอนทนไม่ไหว
-ยาแก้ลดน้ำมูก
-ยาแก้ลดอาการจาม ภูมิแพ้
เคสนี้+รวมนอนรพ 2 คืน ค่าใช้จ่าย 62,xxx จำเลขชัวร์ๆไม่ได้ ซึ่งแพงกว่าที่คิดไว้อยู่นะ หรือจริงๆก็ประมาณนี้
เดี๋ยวหลังจากไปเอาที่ดามออกจะมาใส่เพิ่มอีกที ตอนนี้เหลือแค่ลุ้นว่าอย่าให้มันมีปัญหาอะไรอีก แค่นี้ พอ
นี่เล่าแบบย่อละนะทำไมยังยาวอยู่
ปล.เราเข้ารพ.เอกชนนะ
จมูกหัก จมูกยุบ การรักษาแก้จมูกจากอุบัติเหตุ
1.เหตุเกิดเมื่อวันที่8มิย เราโดนหัวค้อนกระเด็นใส่จมูกแบบเต็มแรง เพราะใช้งานอยู่ เดี๋ยวแนบรูปให้ดูเพราะมันไม่มีที่ล็อคตรงหัวใดๆ เลยหลุดมาใส่แบบไม่ทันตั้งตัว เลือดกำเดาแตก
2.ไปรพ.เข้าห้องฉุกเฉินเพราะตอนนั้นหมดสติด้วย สรุปเอ็กซเรย์ออกมาคือจมูกหัก แต่เราไม่ได้เห็นรูปผลเอ็กซเรย์นะ หมอในห้องฉุกเฉินแจ้งว่าจะนัดมาพบหมอเฉพาะทางอีกที แต่ปกติกระดูกอ่อนจะสมานได้เองไม่ต้องกังวล+ให้ยาแก้ปวดเม็ดสีชมพูมากิน
3.วันที่13มิย ไปพบหมอตามนัดหลังเกิดเหตุ5วัน ครั้งนี้ได้พบหมอหูคอจมูก เฉพาะทางละ เข้าไปปุ้บหมอบอกว่าจมูกไม่เท่ากันนะ ยุบไปข้างนึง ตอนนั้นยังงงอยู่เพราะเราดูผ่านๆก็ไม่ได้เห็นชัดขนาดนั้น เขาก็เปิดรูปเอ็กซเรย์วันนั้นให้ดูว่ามันหักแบบตกอะ แบบดั้งยุบอะ ไม่ได้ถ่ายมาด้วย5555 ก็คือหัก+ยุบ1ข้าง ตอนนี้จะยังไม่เห็นชัดมาก แต่หลังจากวันเกิดเหตุ2สัปดาห์จะชัดขึ้น เขาเลยให้เลือกว่าจะแก้ไหม หรือรับได้ให้เราตัดสินใจเอง เพราะถ้าจะทำต้องทำเลย ถ้าเกิน2สัปดาห์จะทำยากเพราะกระดูกมันสมานกันแล้วจะแก้ยากกว่า ทำยากกว่า คชจเยอะกว่า และเจ็บมากกว่า
ตอนแรกลังเลมากเพราะไม่อยากเจ็บตัว อุตส่าทนมาตั้ง5วัน+เริ่มหายเจ็บแล้ว
แต่สุดท้ายเลือกทำนะ เพราะกลัวรับไม่ได้ละต้องทำอยู่ดี เอาวะไม่อยากเสี่ยงต้องมานั่งลุ้นอีก
4.พอเราบอกหมอว่าโอเคตกลงทำ เขาก็ให้ไปเก็บเลือด+เอ็กซเรย์ปอด ละนัดวันเข้ามานอนพักฟื้นล่วงหน้าก่อนทำ1วัน *วันมาห้ามทาเล็บ และห้ามแต่งหน้า คนที่สักปากต้องแจ้งหมอด้วยนะ เพราะตอนผ่าตัด หมอจะคอยสังเกตุสีเล็บและสีปากเราด้วย
5.เข้ามานอนรพ.วันที่16มิย เขาก็จะมีเอกสารมาให้เซ็นยินยอมรับการรักษา ยินยอมให้ใช้ยาสลบ บลาๆ ให้เซ็นหลายแผ่นอยู่ แล้วหมอก็ให้งดน้ำงดอาหารหลังเที่ยงคืน แต่เอาจริงวันนั้นกินไรไม่ลงเพราะกังวลมากไม่เคยดมยาสลบเลย+ไปหาอ่านมาถ้ากินอะไรไปจะอันตรายมาก สรุปนอนหิวยันบ่ายอีกวัน จริงๆคือก็กินได้ก่อนเที่ยงคืนนั้นแหละ
6.วันที่17มิย พยาบาลเอาชุดมาให้เปลี่ยนตั้งแต่เช้า เป็นชุดเตรียมเข้าห้องผ่าตัด ถอดทุกอย่างออกหมด มีแค่ตัวกับชุดนั้นแหละ เกียมตัวขึ้นเขียง13.00น. ลืมบอกว่าตั้งแต่ไปนอนเขาจะมีพยาบาลคอยเข้ามาวัดความดันตลอด เช็คว่าร่างกายเราพร้อมมากน้อยแค่ไหน
7.ในห้องผ่าตัด ตอนนั้นกังวลกับยาสลบมากจริง คุยกับหมอหลายรอบมาก ว่ามีวิธีอื่นไหม ซึ่งหมอก็บอกว่ามันไม่ได้จริงๆมันคือการงัดกระดูกที่เราจะทนไม่ไหวแน่ๆ วิธีนี้ปลอดภัยที่สุดแล้ว ละความกูคือถามยันวินาทีสุดท้ายในห้องผ่าตัด ระหว่างนั้นเขาก็จัดท่าเริ่มมัดตัว แล้วก็แปะๆไรไม่รู้เต็มหน้าอก แล้วบอกเราว่าไม่ต้องกังวลหมอคอยดูอยู่ มีจอบอกการเต้นหัวใจ บอกอ็อกซิเจน บอกความดัน บอกไรไม่รู้อะสายเต็มไปหมด เขาบอกถ้าเป็นอะไรเขาก็ต้องรู้ ละก็ค่อยๆฉีดยาหลอดใหญ่มากและแสบมากจ้ะเข้าไป กับเอาท่อมาให้ดม แล้วก็หลับไปตอนไหนไม่รู้จำได้แค่นั้น
8.รู้สึกตัวอีกทีคือออกจากห้องผ่าตัดแล้ว มีพยาบาลมาเรียกว่าคนไข้ตื่นรึยังคะ รู้สึกตัวรึยัง แล้วก็มีเครื่องช่วยหายใจมั้งครอบหน้าอยู่ ละก็ตึงๆที่หน้า+เจ็บคอมากกกก เจ็บจนต้องขอน้ำ แต่เขาไม่ยอมให้กิน บอกต้องรอหมออนุญาติก่อน
9.กลับห้องพักฟื้น สภาพเริ่มแย่ละ เจ็บคอแบบกลืนน้ำลายไม่ไหว หน้าเริ่มบวม เริ่มเจ็บจมูก หมอบอกว่าเจ็บคอเพราะใส่เครื่องช่วยหายใจตอนผ่าตัด ต้องทนเอา เดี๋ยวก็หาย ส่วนจมูกห้ามโดนเด็ดขาดให้ระวังมากๆเพราะอาจเคลื่อนได้ เนื่องจากหมอใช้เครื่องมือเข้าไปงัดที่มันหัก+ยุบ ตอนนี้หมอดามซิลิโคนหรอเรียกถูกรึป่าว ยัดไว้ข้างในรูจมูกทั้ง2ข้าง ทำให้หายใจไม่สะดวกต้องหายใจทางปากเอา ละคือ!!เจ็บคอมาก ต้องมาหายใจทางนี้อีก เวลากินไม่ต้องพูดถึงไหนจะกลืนไหนจะเคี้ยวไหนจะหายใจ สภาพ
อันนี้คือรูปหลังออกจากห้องผ่าตัดเลย รูจมูก2ฝั่งเท่ากันละ ตึงแค่จมูก ยังไม่ค่อยบวม
10.หมอให้นอนดูอาการวันที่17มิยอีกคืน เพราะกลัวว่ายาสลบยังมีตกค้างอยู่อาจจะอันตราย คืนนั้นคือนอนไม่เป็นสุขละ เพราะหายใจลำบากไม่ถนัดเลย น้ำไหลจากจมูกตลอดไม่รู้น้ำมูกหรืออะไร แต่หมอบอกถ้าเป็นเลือดคืออันตรายให้รีบแจ้ง แล้วสภาพหน้าก็ดูไม่ได้บวมจนตาตุ่ย
11.วันที่18มิย หมอบอกจะอยู่ดูอาการหรือกลับ เลยบอกกลับเพราะอยู่ไม่เป็นสุขละ อยากถอดสายน้ำเกลือออก ปวดเส้นเลือด ปวดหัว ปวดคอ อาการแบบระบมช่วงบนมาก บอกไม่ถูก หมอเลยนัดหลังจากนี้อีก5วันมาถอดซิลิโคนที่ดามไว้ออก และรอดูผลต่อไป . . .
ซึ่งจริงๆแล้วถ้าวันเกิดเหตุ เราได้เจอหมอเฉพาะทาง เขาก็คงทำให้เลยไหมวะ ต้องมาเจ็บตัวซ้ำ2รอบทำไม
และการจะจามหรือไอ ทรมานมาก เพราะทำไม่ได้ ต้องอ้าปากกว้างๆเอาเพื่อให้ไม่จาม ไม่งั้นตะเตือนตะหมูก น้ำตาคือไหลแบบไหลเหมือนต้องฝืนสุดๆ เพิ่งเคยฝืนจามครั้งแรกในชีวิต ไม่ง่ายเลยจริงๆ
ได้ยากลับมาทาน4ตัว
-ยาแก้อักเสบฆ่าเชื้อ
-ยาแก้ปวด แบบปวดมากทนไม่ไหว *กินตอนทนไม่ไหว
-ยาแก้ลดน้ำมูก
-ยาแก้ลดอาการจาม ภูมิแพ้
เคสนี้+รวมนอนรพ 2 คืน ค่าใช้จ่าย 62,xxx จำเลขชัวร์ๆไม่ได้ ซึ่งแพงกว่าที่คิดไว้อยู่นะ หรือจริงๆก็ประมาณนี้
เดี๋ยวหลังจากไปเอาที่ดามออกจะมาใส่เพิ่มอีกที ตอนนี้เหลือแค่ลุ้นว่าอย่าให้มันมีปัญหาอะไรอีก แค่นี้ พอ
นี่เล่าแบบย่อละนะทำไมยังยาวอยู่
ปล.เราเข้ารพ.เอกชนนะ