ตอนนี้มีประเด็นเรียกร้องให้แต่งไปรเวทและทรงผมรวมถึงสีผม ซึ่งเป็นประเด็นที่นักเรียนเรียกร้องกันมาตั้งแต่ปี 63
ก็เข้าใจเหตุผลว่า ทุกวันนี้เรามีบัตรนักเรียน มีการจ้างรปภ การใช้ชุดนักเรียนบอกสถานะหรือเอื้อความเอ็นดูจากคนนอก ก็จำเป็นน้อยลง (เราคงอยากสละที่นั่งมากขึ้น ถ้าเห็นเด็กตัวเล็กๆใส่ชุดนักเรียน) ส่วนเรื่องทรงผม สีผม ก็ตามสมัย
แต่ในมุมผมที่อยู่ฝ่ายอนุรักษ์นิยม ก็ยังอยากให้แต่งเครื่องแบบ โดยเฉพาะเด็กเล็ก เพื่อปลูกฝังวินัย ยังอยากให้โรงเรียนขัดเกลาตรงนี้ก่อนปล่อยเด็กสู่การเรียนขั้นถัดไป
น่าจะเริ่มแก้ไขที่กฏกระทรวง ปรับให้ สมาคมครูและผู้ปกครอง สามารถกำหนดแนวทางได้ เด็กก็จะอยู่ในฝั่งผู้ปกครองและออกเสียงได้ตามต้องการ
สุดท้ายน่าจะเกิดการแยกเป็นโรงเรียนที่แต่งไปรเวท ปล่อยอิสระทรงผม สีผม (ก้าวหน้า) และโรงเรียนที่คงแบบเดิม (อนุรักษนิยม) ในปีการศึกษาถัดไปก็ติดป้ายหน้าโรงเรียนแจ้งผู้ปกครองที่จะเอาเด็กใหม่เข้ามาเรัยน
แบบนี้ดีไหมครับ ทุกโรงเรียนไม่จำเป็นต้องไปรเวทเหมือนกัน ลดข้อครหาอำนาจนิยมโดยสร้างทางเลือก น่าจะดี ถ้าสังคมเอนไปทางก้าวหน้าโรงเรียนแบบแรกย่อมมีมากกว่า
ประเด็นเรื่องเครื่องแบบและทรงผมนักเรียน ทำแบบนี้ดีไหม
ก็เข้าใจเหตุผลว่า ทุกวันนี้เรามีบัตรนักเรียน มีการจ้างรปภ การใช้ชุดนักเรียนบอกสถานะหรือเอื้อความเอ็นดูจากคนนอก ก็จำเป็นน้อยลง (เราคงอยากสละที่นั่งมากขึ้น ถ้าเห็นเด็กตัวเล็กๆใส่ชุดนักเรียน) ส่วนเรื่องทรงผม สีผม ก็ตามสมัย
แต่ในมุมผมที่อยู่ฝ่ายอนุรักษ์นิยม ก็ยังอยากให้แต่งเครื่องแบบ โดยเฉพาะเด็กเล็ก เพื่อปลูกฝังวินัย ยังอยากให้โรงเรียนขัดเกลาตรงนี้ก่อนปล่อยเด็กสู่การเรียนขั้นถัดไป
น่าจะเริ่มแก้ไขที่กฏกระทรวง ปรับให้ สมาคมครูและผู้ปกครอง สามารถกำหนดแนวทางได้ เด็กก็จะอยู่ในฝั่งผู้ปกครองและออกเสียงได้ตามต้องการ
สุดท้ายน่าจะเกิดการแยกเป็นโรงเรียนที่แต่งไปรเวท ปล่อยอิสระทรงผม สีผม (ก้าวหน้า) และโรงเรียนที่คงแบบเดิม (อนุรักษนิยม) ในปีการศึกษาถัดไปก็ติดป้ายหน้าโรงเรียนแจ้งผู้ปกครองที่จะเอาเด็กใหม่เข้ามาเรัยน
แบบนี้ดีไหมครับ ทุกโรงเรียนไม่จำเป็นต้องไปรเวทเหมือนกัน ลดข้อครหาอำนาจนิยมโดยสร้างทางเลือก น่าจะดี ถ้าสังคมเอนไปทางก้าวหน้าโรงเรียนแบบแรกย่อมมีมากกว่า