เพื่อนสำหรับเรา
ส่วนใหญ่คำว่าเพื่อนที่เราเจอชอบมาในเรื่องราวที่แฝงไปด้วยคำถามมากมายมหาศาลคำถามที่เกิดขึ้นในหัว??????? โดยที่ส่วนตัวก็ไม่ได้คาดหวังกับคำว่าเพื่อนสนิท เพราะมีประสบการณ์ตรงๆกับคำว่าเพื่อน
***เริ่มต้นเลย ขอเล่าตั้งแต่เพื่อนสมัยประถม ตัวเราเองไม่มีเพื่อนที่สนิท เพราะเราชอบโดนแกล้งนั่นนี่ แต่ก็ไม่ได้ถือสา แต่เพื่อนในห้องชอบที่จะเข้าหาเรา แบบมายืมของใช้ส่วนตัว ปากกา ดินสอ ยางลบ สี ฯลฯ และประเด็นยืมต่อๆกันไปเรื่อย ทำของเราหาย (จบ กลับบ้านขอซื้อใหม่โดนบ่น) ต่อมาเวลาทำงาน การบ้านที่เราสามารถทำได้ ทำเสร็จเพื่อนขอดูเราบอกเราสอนเขาให้เขาดูเขาลอก พอส่งได้คะแนนเท่ากันหมด ก็ดี ถือว่าช่วยกัน แต่ๆๆ ในเวลาที่เราขอความช่วยเหลือ เพื่อนทำเสร็จ รีบส่ง รีบเก็บไม่ให้ ไม่บอก โอเค และเราก็ไม่คิดอยากมีเพื่อนหรือเพื่อนสนิทตั้งแต่นั่นมา ต่อ
----เพื่อนมัธยมต้น เราเป็นหัวหน้าห้องจาก ม.1- 3 ซึ่งม.1-3 อยู่ห้องร่วมกันกับเพื่อนกลุ่มเดียวมาตลอด เป็นหัวหน้าที่เหนื่อยมาก ลาออกจากการเป็นหัวหน้าก็ไม่ได้เพราะเพื่อนส่วนใหญ่หัวดื้อ ไม่เชื่อฟังครูประจำชั้นและแม้กระทั่งครูรายวิชา โดนเรียนยกห้องบ้าง ยกเว้นเราเพราะเขาไม่ได้นัดเราไมบอกด้วยซ้ำว่าจะโดนเรียน หรือไม่ยอมส่งงานบ้าง เพื่อนผู้ชายก็มีนัดกันดูคลิปโป้จนโดนจับเข้าห้องปกครอกยกกลุ่ม ส่วนกลุ่มผู้หญิงนัดตีกันแย่งผู้ชายกับอีกห้องโดนจับเข้าห้องปกครองยกแก๊ง เห้อ วีรกรรมหนักๆทั้งนั้น เราผู้เป็นหัวหน้าห้องกับเพื่อนอีก2คนซึ้งเพื่อน2คนนั้นมีนิสัยที่เงียบมาก แต่ก็ไม่ได้สนิทกันกับเราเท่าไหร่เพราะเขามีเพื่อนสนิทที่อยู่อีกห้อง ก็เลยเป็นว่า ม.ต้นเราก็ไม่มีเพื่อนสนิทเลย
----เพื่อนมัธยมปลาย เราได้เป็นหัวหน้าห้องตอน ม.4 หนีไม่พ้นจริงๆ แต่เราเริ่มมีเพื่อนสนิทซึ่งมีกันอยู่ในกลุ่ม 5-6 คน แล้วกลุ่มเราคือกลุ่มที่ค่อนข้างเก่ง ถ้าให้เทียบเกรดก็คือ 3.9-3.8 แต่ตอนนั้นไม่ได้คิดเรื่องเกรดหรืออะไร แค่คิดว่าตั้งใจเรียน และเรากับเพื่อนในกลุ่มพอคบๆกันไป ถึงเวลาสอบ เพื่อนในกลุ่มช่วยกันติวก็ปกติ แต่พอสอบผลคะแนนออกมา เราได้คะแนนเยอะ เหตุเกิดคือเพื่อนบางคนในกลุ่มไม่พอใจ เห้อ..! เขาก็ไม่ค่อยอยากพูดกับเรา ก็ทำเมินใส่ เราก็ปกติ ก็อยู่กันไปแบบไม่ค่อยพอใจเรา แต่ก็มีประเด็ดเพิ่มมาอีกคือ มีคนมาชอบเรา แต่! ดันเป็นคนที่เพื่อนในกลุ่มแอบชอบ แล้วคือเพื่อนไม่ได้บอกใครหรือเล่าให้ใครฟังว่าแอบชอบคนคนนี้ ตัวคนที่มาชอบเราก็ไม่รู้เรื่องว่าเพื่อนกลุ่มเราชอบเขา แต่เรากับคนที่มาชอบเราก็คุยกันแบบไม่ได้บอกใครจนได้เทอมหนึ่ง มารู้คือว่าเพื่อนในกลุ่มชอบคนคนเดียวกันคือ ม.5 ที่เราเปิดตัวว่าคบกัน หลักจากนั่นเราก็แยกออกจากกลุ่มเพราะเพื่อนที่เขาแอบชอบคนเดียวกันกับเรา เขาไม่พอใจเรามากๆๆๆๆ เราเลยออกมาใช้ชีวิตของเราคนเดียวปกติ แต่มีเพื่อนในห้องก็มาคุยเล่นด้วยบ้าง แต่ก็ไม่ได้สนิทใจ เพราะส่วนใหญ่เขาก็มีกลุ่มเดิมอยู่แล้ว เราก็ไม่อยากไปแทรกกลางกลุ่มเพื่อน ก็เลยใช้ชีวิตอยู่ของเราแบบปกติ ม.5-6 เราไม่ได้เป็นหัวหน้าห้อง เพราะเราขอลาออกจากการเป็นหัวหน้าและให้เหตุผลว่าเราเป็นหัวหน้ามาตั้งแต่ม.ต้นจนม.ปลายแล้ว ขอให้คนอื่นได้ทำบ้าง ก็เลยไม่ได้เป็น ดีใจสุดๆ หลักจากที่ออกจากกลุ่มมา เพื่อนกลุ่มเดิมก็ไม่พอใจสาระพัด มีแกล้งเช่น ไปทัศนศึกษา ขโมยป้ายห้อยคอเราไปฉีกทิ้ง หรือฟ้องครูว่าเราลอกข้อสอบ(ไม่ใช้เรื่องจริง) ปัญหาเยอะแยะ พูดจากระแทกใส่บ้างก็มี แต่เราก็ไม่ได้เดือนร้อนมากมาย จนมาถึง ม.6 เป็นช่วงสอบเข้ามหาลัย เรากับแฟนติวหนังสือกัน แล้วเราดันสอบติดรอบโควต้า คือดีใจมาก แล้วก็สอบได้ที่เรียนก่อนเพื่อน แต่ประเด็นเราไม่ได้ดูประกาศผลสอบเอง แต่เพื่อนกลุ่มเดิมแอบไปดูแล้วมากระจายข่าวในห้อง เพราะวันที่ประกาศผลสอบเรามีซ้อมจะไปแข่งงานศิลปหัตถกรรม เลยลืมดูผล แต่ก็ดีใจและได้ไปเรียนต่างจังหวัดคนเดียวโดยไม่เพื่อนที่อยู่ รร.เดียวกันเลย ในหัวตอนนั่นคืออยากไปไกลๆคนพวกนี้ จากนั่นก็ไม่ได้ติดต่อเลย
----เพื่อนมหาลัย ปี 1 มีเพื่อนสนิท คือก็รู้สึกว่าตอนนั่นคือชีวิตที่มีเพื่อนสนิทกันมากๆ คือมันดีมากจริงๆ แต่เหตุการณ์ไม่คาดคิด ปี 3 ตอนแรกเราสนิทอยู่ด้วยกันกับแค่เพื่อน2 คน แต่เพื่อนเราเด็กเก่งเกรด 4.00 ก็จะมีเพื่อนในห้องชอบมาขอความช่วยเหลือด้านการเรียน ก็ปกติ ก็มีติวนั่นนี่ แต่พอมาเรื่อยๆ เพื่อนเริ่มเข้าหาแล้วแยกเราออกจากเพื่อนสนิท เริ่มพูดจาว่าร้ายใส่ความเท็จ เราเอกมารู้ที่หลักก็สายไปที่จะอธิบาย เพราะเขาแอบนินทราว่าร้ายหลับหลังมาตลอดหลังจากนั้นเราก็เลิกคบกันกับเพื่อนสนิท เพื่อนคนนั้นก็ไปอยู่กับกลุ่มใหม่ที่มีหลายคน มีคนเอาอกเอาใจพูดคุยดี แต่ชอบนินทาหลับหลัง เราก็ไม่สนใจ อยู่คนเดียวเรียนปกติ แต่ก็มีเพื่อนในห้องอีกกลุ่มมาเล่นมาคุยกับเรา แต่เพื่อนกลุ่มนั้นบางคนไปฟังไปเชื่อเพื่อนกลุ่มที่ทำให้เราแตกแยกกับเพื่อนสนิทแล้วมาพลอยคิดเกลียดเราไปด้วย ซึ้งไม่ชอบเราโดยที่ไม่มีเหตุผลอะไร ก็พยายามพูดให้ร้ายกับเราตลอดแต่ก็มีเพื่อนบางคนที่ไม่ได้เชื่อก็ชอบมาพูดคุยกับเราแต่ๆก็มาในรูปแบบเอาเรื่องเราไปพูดลับหลังนินทราให้คนอื่นฟัง สุดๆจริงจากนั่นมาเราพยายามไม่สนิทไม่ค่อยคุยหรือไปไหนมาไหนกับเพื่อน ก็มีเพื่อนคุยบางแต่ไม่สนิท ก็ตั้งใจเรียนสอบเรียนจบปริญญา (แต่จะบอกว่าเพื่อนเรียนป.ตรี นิสัยโหดร้ายกว่าที่คิดเล่าแค่คร่าวๆมีรายละเอียนเยอะเกิน) แต่มาเจอเพื่อนทำงาน หนักพอๆกันชอบพูดลับหลัง นินทรา เอาดีเข้าตัว เห้อ... ตอนนี้ตัดสินใจไม่มีเพื่อนสนิทเลยแม้แต่คนเดียว ทำงานกลับบ้าน ไปเที่ยวไปชิวกับแฟนคนที่คบมาตั้งแต่สมัยมัธยม ไปเที่ยวกับแฟนกับครอบครัว ส่วนใหญ่ใช้ชีวิตหลักๆอยู่กับครอบครัวซึ่งเป็นเซฟโซนเราทำให้มีความสุขมากๆๆๆ
ปล.เพื่อนตั้งแต่ประถมจนถึงป.ตรี มีนิสัยเหมือนกันคือ ยืมของ ยืมเงิน ประมาณ 80% ไม่เคยได้คืน นี่แหละทำให้เรารู้สึกเพื่อนไม่ได้สำคัญกับชีวิตเราเลย
เพื่อนไม่ใช่ส่วนสำคัญของชีวิต
ส่วนใหญ่คำว่าเพื่อนที่เราเจอชอบมาในเรื่องราวที่แฝงไปด้วยคำถามมากมายมหาศาลคำถามที่เกิดขึ้นในหัว??????? โดยที่ส่วนตัวก็ไม่ได้คาดหวังกับคำว่าเพื่อนสนิท เพราะมีประสบการณ์ตรงๆกับคำว่าเพื่อน
***เริ่มต้นเลย ขอเล่าตั้งแต่เพื่อนสมัยประถม ตัวเราเองไม่มีเพื่อนที่สนิท เพราะเราชอบโดนแกล้งนั่นนี่ แต่ก็ไม่ได้ถือสา แต่เพื่อนในห้องชอบที่จะเข้าหาเรา แบบมายืมของใช้ส่วนตัว ปากกา ดินสอ ยางลบ สี ฯลฯ และประเด็นยืมต่อๆกันไปเรื่อย ทำของเราหาย (จบ กลับบ้านขอซื้อใหม่โดนบ่น) ต่อมาเวลาทำงาน การบ้านที่เราสามารถทำได้ ทำเสร็จเพื่อนขอดูเราบอกเราสอนเขาให้เขาดูเขาลอก พอส่งได้คะแนนเท่ากันหมด ก็ดี ถือว่าช่วยกัน แต่ๆๆ ในเวลาที่เราขอความช่วยเหลือ เพื่อนทำเสร็จ รีบส่ง รีบเก็บไม่ให้ ไม่บอก โอเค และเราก็ไม่คิดอยากมีเพื่อนหรือเพื่อนสนิทตั้งแต่นั่นมา ต่อ
----เพื่อนมัธยมต้น เราเป็นหัวหน้าห้องจาก ม.1- 3 ซึ่งม.1-3 อยู่ห้องร่วมกันกับเพื่อนกลุ่มเดียวมาตลอด เป็นหัวหน้าที่เหนื่อยมาก ลาออกจากการเป็นหัวหน้าก็ไม่ได้เพราะเพื่อนส่วนใหญ่หัวดื้อ ไม่เชื่อฟังครูประจำชั้นและแม้กระทั่งครูรายวิชา โดนเรียนยกห้องบ้าง ยกเว้นเราเพราะเขาไม่ได้นัดเราไมบอกด้วยซ้ำว่าจะโดนเรียน หรือไม่ยอมส่งงานบ้าง เพื่อนผู้ชายก็มีนัดกันดูคลิปโป้จนโดนจับเข้าห้องปกครอกยกกลุ่ม ส่วนกลุ่มผู้หญิงนัดตีกันแย่งผู้ชายกับอีกห้องโดนจับเข้าห้องปกครองยกแก๊ง เห้อ วีรกรรมหนักๆทั้งนั้น เราผู้เป็นหัวหน้าห้องกับเพื่อนอีก2คนซึ้งเพื่อน2คนนั้นมีนิสัยที่เงียบมาก แต่ก็ไม่ได้สนิทกันกับเราเท่าไหร่เพราะเขามีเพื่อนสนิทที่อยู่อีกห้อง ก็เลยเป็นว่า ม.ต้นเราก็ไม่มีเพื่อนสนิทเลย
----เพื่อนมัธยมปลาย เราได้เป็นหัวหน้าห้องตอน ม.4 หนีไม่พ้นจริงๆ แต่เราเริ่มมีเพื่อนสนิทซึ่งมีกันอยู่ในกลุ่ม 5-6 คน แล้วกลุ่มเราคือกลุ่มที่ค่อนข้างเก่ง ถ้าให้เทียบเกรดก็คือ 3.9-3.8 แต่ตอนนั้นไม่ได้คิดเรื่องเกรดหรืออะไร แค่คิดว่าตั้งใจเรียน และเรากับเพื่อนในกลุ่มพอคบๆกันไป ถึงเวลาสอบ เพื่อนในกลุ่มช่วยกันติวก็ปกติ แต่พอสอบผลคะแนนออกมา เราได้คะแนนเยอะ เหตุเกิดคือเพื่อนบางคนในกลุ่มไม่พอใจ เห้อ..! เขาก็ไม่ค่อยอยากพูดกับเรา ก็ทำเมินใส่ เราก็ปกติ ก็อยู่กันไปแบบไม่ค่อยพอใจเรา แต่ก็มีประเด็ดเพิ่มมาอีกคือ มีคนมาชอบเรา แต่! ดันเป็นคนที่เพื่อนในกลุ่มแอบชอบ แล้วคือเพื่อนไม่ได้บอกใครหรือเล่าให้ใครฟังว่าแอบชอบคนคนนี้ ตัวคนที่มาชอบเราก็ไม่รู้เรื่องว่าเพื่อนกลุ่มเราชอบเขา แต่เรากับคนที่มาชอบเราก็คุยกันแบบไม่ได้บอกใครจนได้เทอมหนึ่ง มารู้คือว่าเพื่อนในกลุ่มชอบคนคนเดียวกันคือ ม.5 ที่เราเปิดตัวว่าคบกัน หลักจากนั่นเราก็แยกออกจากกลุ่มเพราะเพื่อนที่เขาแอบชอบคนเดียวกันกับเรา เขาไม่พอใจเรามากๆๆๆๆ เราเลยออกมาใช้ชีวิตของเราคนเดียวปกติ แต่มีเพื่อนในห้องก็มาคุยเล่นด้วยบ้าง แต่ก็ไม่ได้สนิทใจ เพราะส่วนใหญ่เขาก็มีกลุ่มเดิมอยู่แล้ว เราก็ไม่อยากไปแทรกกลางกลุ่มเพื่อน ก็เลยใช้ชีวิตอยู่ของเราแบบปกติ ม.5-6 เราไม่ได้เป็นหัวหน้าห้อง เพราะเราขอลาออกจากการเป็นหัวหน้าและให้เหตุผลว่าเราเป็นหัวหน้ามาตั้งแต่ม.ต้นจนม.ปลายแล้ว ขอให้คนอื่นได้ทำบ้าง ก็เลยไม่ได้เป็น ดีใจสุดๆ หลักจากที่ออกจากกลุ่มมา เพื่อนกลุ่มเดิมก็ไม่พอใจสาระพัด มีแกล้งเช่น ไปทัศนศึกษา ขโมยป้ายห้อยคอเราไปฉีกทิ้ง หรือฟ้องครูว่าเราลอกข้อสอบ(ไม่ใช้เรื่องจริง) ปัญหาเยอะแยะ พูดจากระแทกใส่บ้างก็มี แต่เราก็ไม่ได้เดือนร้อนมากมาย จนมาถึง ม.6 เป็นช่วงสอบเข้ามหาลัย เรากับแฟนติวหนังสือกัน แล้วเราดันสอบติดรอบโควต้า คือดีใจมาก แล้วก็สอบได้ที่เรียนก่อนเพื่อน แต่ประเด็นเราไม่ได้ดูประกาศผลสอบเอง แต่เพื่อนกลุ่มเดิมแอบไปดูแล้วมากระจายข่าวในห้อง เพราะวันที่ประกาศผลสอบเรามีซ้อมจะไปแข่งงานศิลปหัตถกรรม เลยลืมดูผล แต่ก็ดีใจและได้ไปเรียนต่างจังหวัดคนเดียวโดยไม่เพื่อนที่อยู่ รร.เดียวกันเลย ในหัวตอนนั่นคืออยากไปไกลๆคนพวกนี้ จากนั่นก็ไม่ได้ติดต่อเลย
----เพื่อนมหาลัย ปี 1 มีเพื่อนสนิท คือก็รู้สึกว่าตอนนั่นคือชีวิตที่มีเพื่อนสนิทกันมากๆ คือมันดีมากจริงๆ แต่เหตุการณ์ไม่คาดคิด ปี 3 ตอนแรกเราสนิทอยู่ด้วยกันกับแค่เพื่อน2 คน แต่เพื่อนเราเด็กเก่งเกรด 4.00 ก็จะมีเพื่อนในห้องชอบมาขอความช่วยเหลือด้านการเรียน ก็ปกติ ก็มีติวนั่นนี่ แต่พอมาเรื่อยๆ เพื่อนเริ่มเข้าหาแล้วแยกเราออกจากเพื่อนสนิท เริ่มพูดจาว่าร้ายใส่ความเท็จ เราเอกมารู้ที่หลักก็สายไปที่จะอธิบาย เพราะเขาแอบนินทราว่าร้ายหลับหลังมาตลอดหลังจากนั้นเราก็เลิกคบกันกับเพื่อนสนิท เพื่อนคนนั้นก็ไปอยู่กับกลุ่มใหม่ที่มีหลายคน มีคนเอาอกเอาใจพูดคุยดี แต่ชอบนินทาหลับหลัง เราก็ไม่สนใจ อยู่คนเดียวเรียนปกติ แต่ก็มีเพื่อนในห้องอีกกลุ่มมาเล่นมาคุยกับเรา แต่เพื่อนกลุ่มนั้นบางคนไปฟังไปเชื่อเพื่อนกลุ่มที่ทำให้เราแตกแยกกับเพื่อนสนิทแล้วมาพลอยคิดเกลียดเราไปด้วย ซึ้งไม่ชอบเราโดยที่ไม่มีเหตุผลอะไร ก็พยายามพูดให้ร้ายกับเราตลอดแต่ก็มีเพื่อนบางคนที่ไม่ได้เชื่อก็ชอบมาพูดคุยกับเราแต่ๆก็มาในรูปแบบเอาเรื่องเราไปพูดลับหลังนินทราให้คนอื่นฟัง สุดๆจริงจากนั่นมาเราพยายามไม่สนิทไม่ค่อยคุยหรือไปไหนมาไหนกับเพื่อน ก็มีเพื่อนคุยบางแต่ไม่สนิท ก็ตั้งใจเรียนสอบเรียนจบปริญญา (แต่จะบอกว่าเพื่อนเรียนป.ตรี นิสัยโหดร้ายกว่าที่คิดเล่าแค่คร่าวๆมีรายละเอียนเยอะเกิน) แต่มาเจอเพื่อนทำงาน หนักพอๆกันชอบพูดลับหลัง นินทรา เอาดีเข้าตัว เห้อ... ตอนนี้ตัดสินใจไม่มีเพื่อนสนิทเลยแม้แต่คนเดียว ทำงานกลับบ้าน ไปเที่ยวไปชิวกับแฟนคนที่คบมาตั้งแต่สมัยมัธยม ไปเที่ยวกับแฟนกับครอบครัว ส่วนใหญ่ใช้ชีวิตหลักๆอยู่กับครอบครัวซึ่งเป็นเซฟโซนเราทำให้มีความสุขมากๆๆๆ
ปล.เพื่อนตั้งแต่ประถมจนถึงป.ตรี มีนิสัยเหมือนกันคือ ยืมของ ยืมเงิน ประมาณ 80% ไม่เคยได้คืน นี่แหละทำให้เรารู้สึกเพื่อนไม่ได้สำคัญกับชีวิตเราเลย