หรือนี่จะเป็นเหตุที่ว่า ทำไมการละเมิดลิขสิทธิ์ควรเป็นเรื่องระหว่าง คนที่เกีย่วข้องเท่านั้น

จากรณีดราม่าระวห่าง ยูทูบเบอร์คนหนึ่งที่ยอดซับหลัก10ล้าน เมื่อ4เดือนก่อน
และจากที่ดู ช่องของคนที่ถูกหาว่าโดนก๊อปมา ซึ่งเป็นดังมากกกกกก ในโลกยูทูบเบอร์ระดับโลก ก็ไม่ได้แยแสอะไรหรือแสดงออกว่า ข้าจะเอาเรื่องเอ็งให้ได้ แถมคนที่ทำช่องแนวแบบนายคนนี้ก็เยอะด้วย

และที่ดูดราม่าจากฝั่งไทย เหมือนจะมาจากประเด็นความหมั่นไส้ส่วนตัวมากกว่าเรื่อง ก๊อปไม่ก๊อป

ยิ่งถ้าดูจาก lifestyle ของนายคนนี้ผ่านทางคลิปที่นายคนนี้ทำนั้น..แหม ใครๆก็คงอิจฉาแหล่ะ (คงจะมีแหล่ะพวกที่แบบ อะไรวะ ยูทูบเบอร์แบบมัน ทำไมชีวิตมันดูกินหรูอยู่แพงกว่าข้าจังวะ ไปเที่ยวต่างประเทศ ไปกินโอมากาเสะ ไปทำกิจกรรมที่ดูแพงๆ แถมมีงบมาเอานั่นนี่ทำลายเล่นอีก!! ทำไม!! ทำไม!!)

และจากที่ดู contents จำพวกที่คล้ายกัน..โอ้โห เกลื่อนอะ ทั้งโดยคนไทยและต่างประเทศ ถ้าYouTubeใช้หลักเกณฑ์นี้ในการบินช่อง ผมว่าบินกันหมดแน่นอน

และจากการอ่านบรรดาคอมมเนท์ที่ด่ายูทูบเบอร์คนนั้น...นี่ถ้าให้กฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์เป็นแบบ ใครฟ้องก็ได้ คงวุ่นวายเละเทะแน่นอน คงกลายเป็นเครื่องมือเล่นงานคนที่ตัวเองไม่ชอบของคนบางกลุ่มแน่ๆ ไม่ใช่สิ ทุกกลุ่มเลย (แบบเดียวกับที่กฎหมายตัวหนึ่งกำลังทำอยู่)

ให้มันเป็นเรื่องแค่ระหว่าง เจ้าของลิขสิทธิ์ คนที่มีอำนาจในลิชสิทธิ์นั้น กับ คนที่โดนหาว่าละเมิด ก็พอหล่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่