ชลัน
เช้าวันที่สองกับการเป็นครูกำมะลอของแทนคุณ แต่นั่นชายหนุ่มก็ไม่ได้คิดจะเอาเปรียบน้องพ็อตเตอร์ ระหว่างที่ปฏิบัติการสืบหาข้อมูลเขาก็จะทำหน้าที่ครูให้เด็กชายได้รับประโยชน์สูงสุด
เช้ามืดแทนคุณออกมาสูดอาการหน้าห้องพักของตนเองซึ่งอยู่ในโซนเดียวกันกับห้องพักลูกจ้างทั่วไป นักสืบหนุ่มจิบกาแฟร้อนหอมกรุ่นไปพร้อมสำรวจรอบ ๆ บริเวณ คนธรรมดาก็คงจะเพียงจิบกาแฟสบายใจเพลิน ๆ รอเวลาเข้างาน แต่นักสืบมือหนึ่งของสำนักงานนักสืบธาราอย่างเขามีหรือจะจิบกาแฟเฉย ๆ สายตาคอยสอดส่องพินิจดูอาณาจักรวรโชติโภคินไปด้วย และชายหนุ่มกำลังคิดว่าจะหาทางใกล้ชิดนกได้อย่างไร แต่ก็คงไม่เกินความสามารถหนุ่มหน้าตาดีอย่างเขา นึกอย่างนั้นก็ยิ้มบางให้กับความหล่อของตนเองที่โจชัวร์และเจ้านายจอมเพี้ยนไม่เคยสัมผัสได้สักที
'นึกถึงโจโฉ โจโฉก็มา' เหมือนฟ้าเป็นใจพอนึกถึงสาวใช้วัยกระเตาะ หล่อนก็โผล่หน้ามาให้เห็นพอดี หญิงสาวมองมาทางห้องพักของเขาและทำท่าจะเดินมาหา นักสืบหนุ่มยิ้มบางนาทีนี้แหละจะต้องใช้นกให้เกิดประโยชน์สูงสุด ไม่ได้หลอกมันคือการขอความร่วมมือทางอ้อมต่างหาก
ร่างเพรียวเดินนวยนาดฉีกยิ้มมาทางครูหนุ่ม หล่อนปลื้มในความหล่อเหลาของเขาใจจะขาดตั้งแต่แรกเจอ "พี่คุณตื่นเช้าจังเลยนะคะ กว่าจะถึงเวลาสอนคุณพ็อตเตอร์ก็แปดโมงเช้านู่น นี่เพิ่งจะตีสี่ครึ่งเอง" สาวใช้ถาม สงสัยแต่ไม่ใส่ใจ เขาจะตื่นมาทำอะไรก็เรื่องของเขาเถอะ ขอแค่ได้คุยได้ใกล้ชิดก็พอ สาวเจ้าบิดม้วนตัวอยู่ตรงหน้าร่างสูงที่กำลังยกแก้วกาแฟดื่ม
"พี่คุณชอบตื่นเช้า ๆ มารับอากาศในตอนเช้าครับ อีกอย่างตื่นเช้า ๆ แบบนี้มีเวลาทำอย่างอื่นได้อีกหลายอย่างเลย ว่าแต่... เอ น้องนกจะไปไหนเหรอ เห็นสะพายกระเป๋าแต่งตัวทะมัดทะแมงเชียว" นักสืบหนุ่มถามและมองสำรวจร่างเพรียวอย่างเต็มตา
นกถือว่าเป็นผู้หญิงสวยคนหนึ่ง ผิวคล้ำ ดวงตาโต คิ้วเข้มรับกับจมูกที่โด่งด้วยการศัลยกรรม มองรวม ๆ นกเองก็น่ารัก แต่นั่นก็ไม่ใช่สเปกของเขา พยาบาลสาวต่างหากที่ชายหนุ่มหมายปองต้องใจ
"นกจะไปจ่ายตลาดค่ะ ส่วนแม่ก็ดูแลงานในครัว เอ่อ นี่ก็เสียเวลามากแล้ว นกขอตัวนะคะ เดี๋ยวจ่ายตลาดช้าทำกับข้าวไม่ทันพวกคุณ ๆ ออกไปทำงานละก็ นกกับแม่โดนหักเงินเดือนแน่" สาวใช้วัยละอ่อนพูดด้วยท่าทางเสียดาย หล่อนไม่อยากจากครูหนุ่มสุดหล่อคนนี้ไปเลย อยากอยู่คุยด้วยนาน ๆ
"น้องนกครับให้พี่คุณพาไปมั้ย" แทนคุณเห็นโอกาสที่จะได้หลอกถามข้อมูลจากพยานบุคคลเขาจึงไม่รีรอคว้าโอกาสนั้นไว้ ชายหนุ่มเห็นสาวเจ้าทำท่าตกใจแบบคนไม่อยากจะเชื่อเขายิ่งชอบใจ จะได้หลอกถามเรื่องที่อยากรู้ได้ง่ายขึ้น "เพิ่งจะตีสี่ครึ่งเอง กลับมาพี่คุณก็ยังเตรียมการเรียนการสอนให้น้องพ็อตเตอร์ทัน"
"จะดีเหรอคะ" นกยิ้มหวาน ปากพูดเกรงใจแต่หัวใจกระโดดขึ้นรถเขาแล้ว
"ดีสิ ไม่เป็นไร พี่ก็เป็นลูกจ้างบ้านนี้เหมือนกันถือว่าช่วย ๆ กัน ปะ... มัวแต่โอ้เอ้เดี๋ยวสาย" แทนคุณตอบรวบรัด คว้ามือเรียวของนกอย่างตั้งใจเดินไปขึ้นรถมอเตอร์ไซค์ของตนเอง นิสัยปากว่ามือถึงอย่างนี้ไม่ใช่ตัวตนของชายหนุ่มแต่เพื่องานอะไรเขาก็ทำได้ทั้งนั้น ร่างเพรียวเดินตามแรงลากของมือหนาที่ฉุดให้เดินตาม "พี่พาไปจ่ายตลาดด้วยคันนี้" ชายหนุ่มผายมือไปยังรถบิ๊กไบค์ของตนเอง
สาวใช้วัยสาวฉีกยิ้ม "ค่ะพี่คุณ นกนั่งมอเตอร์ไซค์จนชินแล้ว แต่ยังไม่เคยซ้อนบิ๊กไบค์สักที"
แทนคุณพาสาวใช้วัยสาวออกไปจ่ายตลาดในตอนเช้า ระหว่างทางชายหนุ่มชวนคุยไปเรื่อยก่อนที่จะวกเข้าเรื่องที่ตนเองอยากรู้ เขาใช้วิธีชวนคุยจนเพลินเพื่อกลบเกลื่อนไม่ให้หล่อนสงสัย
"น้องนกครับ ทำไมน้องนกได้มาจ่ายตลาดเองล่ะ เมื่อวานพี่คุณก็เห็นน้องนกทำหน้าที่ตั้งหลายอย่างแหนะกับป้าอนงค์ แม่บ้านคนอื่น ๆ ไปไหนเหรอ" นักสืบหนุ่มถามระหว่างขับรถ เขาพาหญิงสาวขับไม่เร็วนักเพราะไม่อยากให้ถึงตลาดเร็ว ๆ จึงทำให้การคุยกันฝ่าสายลมพอที่จะฟังรู้เรื่อง "พี่สงสัยว่าบ้านคุณท่านใหญ่โตขนาดนี้มีแม่บ้านกี่คนกัน"
"ตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้วค่ะ ตั้งแต่ท่านเจ้าสัวเสียบ้านนี้มีคนใช้แค่สองคน มีแม่และก็นก ส่วนคนขับรถก็... เอ่อ... ไม่มีนานแล้ว และคุณท่านก็ไม่จ้างคนขับรถอีก คุณท่านบอกว่าไม่ชอบมีคนเยอะแยะในบ้านค่ะ ทั้งที่คุณเชษฐ์กับคุณสิทธิ์อยากจ้างแม่บ้านมาก ๆ แต่คุณท่านก็ไม่อนุญาต" นกเล่าเป็นฉาก ๆ ด้วยไม่คิดอะไรและถ้าแทนคุณรู้ก็ไม่เห็นจะเสียหายตรงไหน
นักสืบหนุ่มรู้มาแล้วว่าคนขับรถที่สาวใช้วัยสาวพูดถึง เขาโดนจับด้วยข้อหาฆ่าคนตาย แต่ก็แกล้งหน้าซื่อ เมื่อวานแม่บ้านก็พูดถึงคนขับรถแต่ก็ไม่ได้อธิบายต่อ เขาอยากรู้จึงแกล้งถามอีก "อ้าว คนขับรถต้องตกงานสิครับแบบนี้"
นกหน้าเจื่อน "จะเรียกว่าตกงานก็คงไม่ใช่ค่ะพี่คุณ นกไม่อยากพูดเลยกลัวพี่คุณตกใจ"
"โถ่ พี่เป็นผู้ชายนะ ไม่ได้ขี้ตกใจขนาดนั้น" แทนคุณผินหน้ามาคุยกับคนซ้อน ก่อนจะรีบหันกลับไปมองทางเช่นเดิม
"นกกลัวว่าถ้าพี่คุณรู้แล้วพี่คุณจะตกใจจนไม่กล้ามาทำงานอีกน่ะสิค่ะ ทีนี้แหละนกแย่แน่" ประโยคท้าย ๆ หญิงสาวพูดเสียงแผ่ว เมื่อปะทะกับสายลมขณะรถวิ่งทำให้แทนคุณไม่ได้ยินประโยคนั้น
"ไม่มีทาง พี่อยากได้งานทำจนตัวสั่น พี่ได้งานทำแล้วพี่ไม่ลาออกหรอก แล้วทำไมนกถึงคิดว่าพี่จะตกใจกลัวล่ะ บอกได้ไหมว่าคนขับรถเป็นอะไร"
นกเขยิบเข้ามาใกล้ ๆ แผ่นหลังของแทนคุณ มือก็กระชับกอดที่เอวของชายหนุ่มแน่น แนบปากไปที่ใบหูข้างหนึ่งของชายหนุ่มก่อนจะบอกความจริงเกี่ยวกับคนขับรถ "นายอินติดคุกข้อหาฆ่าท่านเจ้าสัวสุทินค่ะ"
แทนคุณทำเป็นตกใจกับสิ่งที่ได้ยินเบรกรถกระทันหันทำให้ตัวของนกกระแทกแนบชิดแผ่นหลังของเขาเข้าไปอีก "มีเรื่องฆ่ากันตายในบ้านด้วยเหรอน้องนก นี่พี่ต้องระวังตัวมั้ยครับ"
"โอ้ยพี่คุณไม่ต้องระวังตัวอะไรหรอกค่ะ ไอ้คนทำมันติดคุกไปแล้ว ที่นายอินมันฆ่าเจ้าสัวเพราะมันแค้นที่เจ้าสัวใช้งานมันหนัก ไม่ยอมให้มันมีวันหยุดพัก แถมยังด่ามันทุกวันอีก มันเลยแค้นสะสมพอมีโอกาสมันเลยฆ่าท่านเจ้าสัวเพื่อความสะใจค่ะ และเชิดเงินสามแสนบาทไปด้วย แต่ก็โดนจับจนได้เหมือนเดิม" นกเล่าให้ครูหนุ่มฟัง คนฟังพยักหน้าหงึก ๆ "มีอีกเรื่องนะคะ แต่ไม่รู้จริงไหม เขาว่ากันว่าครอบครัวนี้มีอาถรรพ์ค่ะ ใครที่ได้ครอบครองสมบัติก็มักจะตายอย่างน่าสมเพชทั้งนั้น นี่ถ้านกมีทางไปนกก็ไม่อยากอยู่ที่นี่หรอกค่ะ แต่นี่นกกับแม่ไม่มีที่ไปจำต้องอยู่ที่นี่แหละ อีกอย่างพวกคุณ ๆ ให้เงินเดือนเงินดาวน์สูงด้วย นกกับแม่เลยยอม ๆ อยู่กันไป"
ชายหนุ่มพยักหน้าเห็นด้วยเรื่องค่าจ้าง เพราะตนเองก็ถูกจ้างด้วยค่าแรงที่แพงแสนแพงกว่าอัตราเงินจ้างข้าราชการทั่วไป นกถึงจะเกิดมามีแม่ทำอาชีพเป็นคนรับใช้ แต่อนงค์ก็พยายามส่งเสียให้ลูกได้ดี กะว่าจะให้ลูกสาวจบปริญญาตรี มีงานทำที่ดีกว่าตนเอง แต่นกหัวไม่ดี ไม่อยากเรียนจึงขอแม่ว่าไม่เรียนแล้ว ขอจบเพียงระดับชั้น ป.ว.ส. และออกไปทำงานข้างนอก ทว่าไปไม่รอดนกจึงกลับมาทำงานเป็นสาวใช้กับแม่กลับมาพึ่งใบบุญของท่านเจ้าสัวสุทินและคุณแพรทองเช่นเดิม
สาวใช้วัยกระเตาะเล่าเรื่องภายในคฤหาสน์วรโชติโภคินเป็นฉาก ๆ จนนักสืบหนุ่มรู้ข้อมูลมากมาย เขายิ้มพอใจโดยที่นกไม่เห็น ไม่นานก็พาสาวใช้วัยละอ่อนมาถึงตลาดสด และอาสาเป็นคนหิ้วถุงให้เดินตามนกไปจ่ายตลาดจนซื้อครบทุกอย่างและพากลับบ้าน มาถึงคฤหาสน์วรโชติโภคินก็จวนหกโมง ทั้งเขาและนกรีบนำข้าวของที่ซื้อมาเข้าไปในครัวให้กับอนงค์
สาวใช้รุ่นใหญ่มองหน้าลูกสาวและครูหนุ่มด้วยใบหน้านิ่ง ก่อนจะส่งสายตาจิกไปยังลูกสาวของตน "เอ่อป้านงค์ครับ ผมตื่นเช้าว่าง ๆ เห็นนกกำลังจะไปตลาดพอดีเลยอาสาพาไปครับ" แทนคุณอธิบายเพราะเข้าใจสายตาคู่นั้นของแม่บ้านดี
"ขอบคุณค่ะคุณครู แต่วันหลังไม่ต้องเสียสละพานังนกมันไปหรอกนะคะ มันไปของมันทุกวันจนชิน" อนงค์ว่า
"ทำไมล่ะแม่ จะมาห้ามฉันกับพี่คุณทำไม ก็พี่คุณเขามีน้ำใจกับฉัน" นกต่อว่าผู้เป็นแม่ เพราะหล่อนไม่ชอบใจที่แม่สั่งห้ามตนกับแทนคุณสนิทสนมกัน
"นี่ก็สายแล้วผมขอตัวดีกว่าครับ" ชายหนุ่มขอตัว ไม่อยากอยู่เป็นตัวปัญหาให้กับสองแม่ลูก
"วันหลังพานกไปอีกนะคะพี่คุณ"
"ครับ ๆ ถ้าพี่ว่างนะ" ว่าแล้วเขาก็รีบเดินกลับออกไป ไม่สนใจเสียงบ่นว่าลูกสาวของอนงค์ที่ลอยมาให้ได้ยินตามหลัง
แทนคุณกลับมาอาบน้ำแต่งตัวอีกทั้งเตรียมสื่อการสอนสำหรับวันนี้ให้กับน้องพ็อตเตอร์ ในใจก็นึกถึงคำพูดของนกว่า 'บ้านนี้มีอาถรรพ์' ที่ใครได้ครอบครองสมบัติจะเกิดอาเพศ สมบัติอะไรนะ ถ้าเป็นสมบัติพัสถานที่บ้านหลังนี้ก็ต้องเป็นลูก ๆ ผู้สืบสันดานอยู่แล้วที่ต้องได้รับ แล้วจะมีสมบัติอะไรอีกที่เป็นอาถรรพ์ คฤหาสน์หลังนี้หรือ แทนคุณนึกพลางกระตุกยิ้มมุมปากและส่ายหัวให้กับคำพูดของนกที่ดูเลอะเทอะไร้สาระ
....
แทนคุณได้รับสิทธิพิเศษให้มาร่วมทานข้าวบนโต๊ะอาหารกับเจ้านายด้วย ส่วนเลอดาวพิมพ์ชนกขอให้ทานข้าวก่อนใครทุกมื้อเพราะต้องป้อนข้าวคุณแพรทอง พยาบาลสาวพาคุณแพรทองนั่งรถเข็นลงมาร่วมทานข้าวกับสมาชิกในบ้านที่โต๊ะอาหารลูกชายทั้งสองคนเมื่อเห็นผู้เป็นแม่ก็ยิ้มดีใจและรีบลุกไปรับประคบประหงม เห็นรอยยิ้มประดับบนใบหน้าจากที่เมื่อก่อนผู้เป็นแม่ไม่เคยยิ้มเลย ทั้งสองรู้สึกว่าคิดไม่ผิดที่เลือกเลอดาวมาเป็นผู้ดูแลแม่ของตน ทั้งที่วันนี้เพิ่งจะทำงานได้แค่สองวัน คนเป็นแม่ก็เปลี่ยนไปได้ขนาดนี้
"ต่อไปฉันจะลงมาทานข้าวกับทุกคนนะ" ประมุขของบ้านกล่าว "พยาบาลคนนี้ตัวเล็กแต่แรงแยะอุ้มประคองฉันขึ้นเตียงคล่องเชียว" คุณแพรทองหันไปชมลูกจ้างที่ยืนข้าง ๆ ตน
"นอกจากการทำกายภาพบำบัดแล้ว ผู้ป่วยควรได้สัมผัสกับบรรยากาศข้างนอกและสิ่งใหม่ ๆ บ้างค่ะ จะทำให้อาการป่วยดีขึ้น ดาวจึงแนะนำให้คุณท่านลงมาทานข้าว และออกไปสูดอากาศข้างนอกบ้าง" พยาบาลจำเป็นอธิบาย "ถ้าได้ออกไปข้างนอกด้วยก็จะดีมาก ๆ ค่ะ" เลอดาวหมายถึงการได้ออกไปเที่ยวตามสถานที่ต่าง ๆ
"ดีเลยคุณแม่จะได้หายวันหายคืนนะคะ" เอมอรลูกสะใภ้เล็กพูด
"จ้ะ" คุณแพรทองตอบ
พิมพ์ชนกเหลือบมองทั้งคู่แต่ก็ไม่ได้พูดค้านอะไร "ทานข้าวกันเถอะค่ะ"
วันนี้เป็นวันที่ครอบครัววรโชติโภคินทานข้าวกันพร้อมหน้าพร้อมตาแถมยังมีสมาชิกมาเพิ่มอีกนั่นคือแทนคุณกับเลอดาว ชายหนุ่มทานข้าวเงียบ ๆ ตอบเฉพาะเมื่อมีคนถาม คอยสังเกตุทุกคนในบ้านว่าใครน่าจะมีพิรุธที่สุดสำหรับเรื่องการตายของเจ้าสัวสุทิน
พิมพ์ชนกกับอภิเชษฐ์นิ่งขรึมน่าสงสัย ส่วนเอมอรกับอภิสิทธิ์ก็ประจบประแจงออกนอกหน้าจนน่าสงสัยเหมือนกัน ส่วนคนใช้สองแม่ลูกจะว่าน่าสงสัยก็ได้ โดยเฉพาะอนงค์ บางทีแม่บ้านคนนี้อาจจะมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับเจ้าสัว อะไร ๆ ก็สามารถเป็นไปได้หมด
ระหว่างทานข้าวน้องพ็อตเตอร์ตักข้าวเข้าปากแต่ตักพลาดทำให้ข้าวหกเลอะปากและตัว เอมอรและอภิสิทธิ์จ้องมองลูกชาย แทนคุณมองเห็นความเจ็บปวดในแววตาของทั้งคู่ อภิสิทธิ์ดูเหมือนจะร้องไห้ด้วยซ้ำ แต่แทนที่จะปลอบคนเป็นพ่อกับเอ่ยวาจาดุกับลูกชาย
"พ็อตเตอร์ป๊าบอกให้ตักข้าวเข้าปากดี ๆ หกเลอะตัวเองหมดแล้ว เห็นน้องตักมั้ย นิคกี้ไม่ทำข้าวหกสักเม็ด" อภิสิทธิ์ดุลูกชาย แทนคุณหมดความนับถือในความเป็นพ่อของอภิสิทธิ์จริง ๆ รู้อยู่แก่ใจว่าลูกชายเป็นแบบนี้ทำไมถึงต้องดุและเปรียบเทียบกับคนปกติด้วย จากนั้นแทนคุณก็ไปตั้งความหวังไว้กับเอมอรผู้เป็นแม่ของเด็กชาย หวังว่าคนเป็นแม่จะปลอบลูกชายบ้าง
"แม่เคยสอนแล้วใช่มั้ยว่าตักข้าวเบา ๆ ค่อย ๆ ทำไมยังต้องรีบ" เอมอรพูดทั้งน้ำตาคลอ นักสืบหนุ่มเข้าใจหัวอกคนเป็นแม่ที่สุด แต่หล่อนก็ไม่ควรจะต่อว่าลูกอย่างนั้น
"น้องพ็อตเตอร์ครับ มาพี่คุณป้อนดีกว่า" ด้วยความสงสารเด็กชาย ไหน ๆ เขาก็อาสารับหน้าที่เป็นครูสอนแล้ว รับหน้าที่ป้อนข้าวด้วยคงไม่เหนื่อยอะไร
"แต่คุณครูยังไม่ได้ทานข้าวเลยนะคะ" พิมพ์ชนกท้วง ปรายตามองน้องชายและน้องสะใภ้ของสามี ที่ทั้งคู่เป็นพ่อและแม่ทำไมไม่รับผิดชอบหน้าที่นี้
"ไม่เป็นไรครับคุณพิมพ์ จะว่าไปก่อนจะมาทำงานที่นี่ผมก็ไม่ค่อยทานมื้อเช้าเท่าไหร่"
สืบลับฉบับเลิฟ (2)
ชลัน
เช้าวันที่สองกับการเป็นครูกำมะลอของแทนคุณ แต่นั่นชายหนุ่มก็ไม่ได้คิดจะเอาเปรียบน้องพ็อตเตอร์ ระหว่างที่ปฏิบัติการสืบหาข้อมูลเขาก็จะทำหน้าที่ครูให้เด็กชายได้รับประโยชน์สูงสุด
เช้ามืดแทนคุณออกมาสูดอาการหน้าห้องพักของตนเองซึ่งอยู่ในโซนเดียวกันกับห้องพักลูกจ้างทั่วไป นักสืบหนุ่มจิบกาแฟร้อนหอมกรุ่นไปพร้อมสำรวจรอบ ๆ บริเวณ คนธรรมดาก็คงจะเพียงจิบกาแฟสบายใจเพลิน ๆ รอเวลาเข้างาน แต่นักสืบมือหนึ่งของสำนักงานนักสืบธาราอย่างเขามีหรือจะจิบกาแฟเฉย ๆ สายตาคอยสอดส่องพินิจดูอาณาจักรวรโชติโภคินไปด้วย และชายหนุ่มกำลังคิดว่าจะหาทางใกล้ชิดนกได้อย่างไร แต่ก็คงไม่เกินความสามารถหนุ่มหน้าตาดีอย่างเขา นึกอย่างนั้นก็ยิ้มบางให้กับความหล่อของตนเองที่โจชัวร์และเจ้านายจอมเพี้ยนไม่เคยสัมผัสได้สักที
'นึกถึงโจโฉ โจโฉก็มา' เหมือนฟ้าเป็นใจพอนึกถึงสาวใช้วัยกระเตาะ หล่อนก็โผล่หน้ามาให้เห็นพอดี หญิงสาวมองมาทางห้องพักของเขาและทำท่าจะเดินมาหา นักสืบหนุ่มยิ้มบางนาทีนี้แหละจะต้องใช้นกให้เกิดประโยชน์สูงสุด ไม่ได้หลอกมันคือการขอความร่วมมือทางอ้อมต่างหาก
ร่างเพรียวเดินนวยนาดฉีกยิ้มมาทางครูหนุ่ม หล่อนปลื้มในความหล่อเหลาของเขาใจจะขาดตั้งแต่แรกเจอ "พี่คุณตื่นเช้าจังเลยนะคะ กว่าจะถึงเวลาสอนคุณพ็อตเตอร์ก็แปดโมงเช้านู่น นี่เพิ่งจะตีสี่ครึ่งเอง" สาวใช้ถาม สงสัยแต่ไม่ใส่ใจ เขาจะตื่นมาทำอะไรก็เรื่องของเขาเถอะ ขอแค่ได้คุยได้ใกล้ชิดก็พอ สาวเจ้าบิดม้วนตัวอยู่ตรงหน้าร่างสูงที่กำลังยกแก้วกาแฟดื่ม
"พี่คุณชอบตื่นเช้า ๆ มารับอากาศในตอนเช้าครับ อีกอย่างตื่นเช้า ๆ แบบนี้มีเวลาทำอย่างอื่นได้อีกหลายอย่างเลย ว่าแต่... เอ น้องนกจะไปไหนเหรอ เห็นสะพายกระเป๋าแต่งตัวทะมัดทะแมงเชียว" นักสืบหนุ่มถามและมองสำรวจร่างเพรียวอย่างเต็มตา
นกถือว่าเป็นผู้หญิงสวยคนหนึ่ง ผิวคล้ำ ดวงตาโต คิ้วเข้มรับกับจมูกที่โด่งด้วยการศัลยกรรม มองรวม ๆ นกเองก็น่ารัก แต่นั่นก็ไม่ใช่สเปกของเขา พยาบาลสาวต่างหากที่ชายหนุ่มหมายปองต้องใจ
"นกจะไปจ่ายตลาดค่ะ ส่วนแม่ก็ดูแลงานในครัว เอ่อ นี่ก็เสียเวลามากแล้ว นกขอตัวนะคะ เดี๋ยวจ่ายตลาดช้าทำกับข้าวไม่ทันพวกคุณ ๆ ออกไปทำงานละก็ นกกับแม่โดนหักเงินเดือนแน่" สาวใช้วัยละอ่อนพูดด้วยท่าทางเสียดาย หล่อนไม่อยากจากครูหนุ่มสุดหล่อคนนี้ไปเลย อยากอยู่คุยด้วยนาน ๆ
"น้องนกครับให้พี่คุณพาไปมั้ย" แทนคุณเห็นโอกาสที่จะได้หลอกถามข้อมูลจากพยานบุคคลเขาจึงไม่รีรอคว้าโอกาสนั้นไว้ ชายหนุ่มเห็นสาวเจ้าทำท่าตกใจแบบคนไม่อยากจะเชื่อเขายิ่งชอบใจ จะได้หลอกถามเรื่องที่อยากรู้ได้ง่ายขึ้น "เพิ่งจะตีสี่ครึ่งเอง กลับมาพี่คุณก็ยังเตรียมการเรียนการสอนให้น้องพ็อตเตอร์ทัน"
"จะดีเหรอคะ" นกยิ้มหวาน ปากพูดเกรงใจแต่หัวใจกระโดดขึ้นรถเขาแล้ว
"ดีสิ ไม่เป็นไร พี่ก็เป็นลูกจ้างบ้านนี้เหมือนกันถือว่าช่วย ๆ กัน ปะ... มัวแต่โอ้เอ้เดี๋ยวสาย" แทนคุณตอบรวบรัด คว้ามือเรียวของนกอย่างตั้งใจเดินไปขึ้นรถมอเตอร์ไซค์ของตนเอง นิสัยปากว่ามือถึงอย่างนี้ไม่ใช่ตัวตนของชายหนุ่มแต่เพื่องานอะไรเขาก็ทำได้ทั้งนั้น ร่างเพรียวเดินตามแรงลากของมือหนาที่ฉุดให้เดินตาม "พี่พาไปจ่ายตลาดด้วยคันนี้" ชายหนุ่มผายมือไปยังรถบิ๊กไบค์ของตนเอง
สาวใช้วัยสาวฉีกยิ้ม "ค่ะพี่คุณ นกนั่งมอเตอร์ไซค์จนชินแล้ว แต่ยังไม่เคยซ้อนบิ๊กไบค์สักที"
แทนคุณพาสาวใช้วัยสาวออกไปจ่ายตลาดในตอนเช้า ระหว่างทางชายหนุ่มชวนคุยไปเรื่อยก่อนที่จะวกเข้าเรื่องที่ตนเองอยากรู้ เขาใช้วิธีชวนคุยจนเพลินเพื่อกลบเกลื่อนไม่ให้หล่อนสงสัย
"น้องนกครับ ทำไมน้องนกได้มาจ่ายตลาดเองล่ะ เมื่อวานพี่คุณก็เห็นน้องนกทำหน้าที่ตั้งหลายอย่างแหนะกับป้าอนงค์ แม่บ้านคนอื่น ๆ ไปไหนเหรอ" นักสืบหนุ่มถามระหว่างขับรถ เขาพาหญิงสาวขับไม่เร็วนักเพราะไม่อยากให้ถึงตลาดเร็ว ๆ จึงทำให้การคุยกันฝ่าสายลมพอที่จะฟังรู้เรื่อง "พี่สงสัยว่าบ้านคุณท่านใหญ่โตขนาดนี้มีแม่บ้านกี่คนกัน"
"ตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้วค่ะ ตั้งแต่ท่านเจ้าสัวเสียบ้านนี้มีคนใช้แค่สองคน มีแม่และก็นก ส่วนคนขับรถก็... เอ่อ... ไม่มีนานแล้ว และคุณท่านก็ไม่จ้างคนขับรถอีก คุณท่านบอกว่าไม่ชอบมีคนเยอะแยะในบ้านค่ะ ทั้งที่คุณเชษฐ์กับคุณสิทธิ์อยากจ้างแม่บ้านมาก ๆ แต่คุณท่านก็ไม่อนุญาต" นกเล่าเป็นฉาก ๆ ด้วยไม่คิดอะไรและถ้าแทนคุณรู้ก็ไม่เห็นจะเสียหายตรงไหน
นักสืบหนุ่มรู้มาแล้วว่าคนขับรถที่สาวใช้วัยสาวพูดถึง เขาโดนจับด้วยข้อหาฆ่าคนตาย แต่ก็แกล้งหน้าซื่อ เมื่อวานแม่บ้านก็พูดถึงคนขับรถแต่ก็ไม่ได้อธิบายต่อ เขาอยากรู้จึงแกล้งถามอีก "อ้าว คนขับรถต้องตกงานสิครับแบบนี้"
นกหน้าเจื่อน "จะเรียกว่าตกงานก็คงไม่ใช่ค่ะพี่คุณ นกไม่อยากพูดเลยกลัวพี่คุณตกใจ"
"โถ่ พี่เป็นผู้ชายนะ ไม่ได้ขี้ตกใจขนาดนั้น" แทนคุณผินหน้ามาคุยกับคนซ้อน ก่อนจะรีบหันกลับไปมองทางเช่นเดิม
"นกกลัวว่าถ้าพี่คุณรู้แล้วพี่คุณจะตกใจจนไม่กล้ามาทำงานอีกน่ะสิค่ะ ทีนี้แหละนกแย่แน่" ประโยคท้าย ๆ หญิงสาวพูดเสียงแผ่ว เมื่อปะทะกับสายลมขณะรถวิ่งทำให้แทนคุณไม่ได้ยินประโยคนั้น
"ไม่มีทาง พี่อยากได้งานทำจนตัวสั่น พี่ได้งานทำแล้วพี่ไม่ลาออกหรอก แล้วทำไมนกถึงคิดว่าพี่จะตกใจกลัวล่ะ บอกได้ไหมว่าคนขับรถเป็นอะไร"
นกเขยิบเข้ามาใกล้ ๆ แผ่นหลังของแทนคุณ มือก็กระชับกอดที่เอวของชายหนุ่มแน่น แนบปากไปที่ใบหูข้างหนึ่งของชายหนุ่มก่อนจะบอกความจริงเกี่ยวกับคนขับรถ "นายอินติดคุกข้อหาฆ่าท่านเจ้าสัวสุทินค่ะ"
แทนคุณทำเป็นตกใจกับสิ่งที่ได้ยินเบรกรถกระทันหันทำให้ตัวของนกกระแทกแนบชิดแผ่นหลังของเขาเข้าไปอีก "มีเรื่องฆ่ากันตายในบ้านด้วยเหรอน้องนก นี่พี่ต้องระวังตัวมั้ยครับ"
"โอ้ยพี่คุณไม่ต้องระวังตัวอะไรหรอกค่ะ ไอ้คนทำมันติดคุกไปแล้ว ที่นายอินมันฆ่าเจ้าสัวเพราะมันแค้นที่เจ้าสัวใช้งานมันหนัก ไม่ยอมให้มันมีวันหยุดพัก แถมยังด่ามันทุกวันอีก มันเลยแค้นสะสมพอมีโอกาสมันเลยฆ่าท่านเจ้าสัวเพื่อความสะใจค่ะ และเชิดเงินสามแสนบาทไปด้วย แต่ก็โดนจับจนได้เหมือนเดิม" นกเล่าให้ครูหนุ่มฟัง คนฟังพยักหน้าหงึก ๆ "มีอีกเรื่องนะคะ แต่ไม่รู้จริงไหม เขาว่ากันว่าครอบครัวนี้มีอาถรรพ์ค่ะ ใครที่ได้ครอบครองสมบัติก็มักจะตายอย่างน่าสมเพชทั้งนั้น นี่ถ้านกมีทางไปนกก็ไม่อยากอยู่ที่นี่หรอกค่ะ แต่นี่นกกับแม่ไม่มีที่ไปจำต้องอยู่ที่นี่แหละ อีกอย่างพวกคุณ ๆ ให้เงินเดือนเงินดาวน์สูงด้วย นกกับแม่เลยยอม ๆ อยู่กันไป"
ชายหนุ่มพยักหน้าเห็นด้วยเรื่องค่าจ้าง เพราะตนเองก็ถูกจ้างด้วยค่าแรงที่แพงแสนแพงกว่าอัตราเงินจ้างข้าราชการทั่วไป นกถึงจะเกิดมามีแม่ทำอาชีพเป็นคนรับใช้ แต่อนงค์ก็พยายามส่งเสียให้ลูกได้ดี กะว่าจะให้ลูกสาวจบปริญญาตรี มีงานทำที่ดีกว่าตนเอง แต่นกหัวไม่ดี ไม่อยากเรียนจึงขอแม่ว่าไม่เรียนแล้ว ขอจบเพียงระดับชั้น ป.ว.ส. และออกไปทำงานข้างนอก ทว่าไปไม่รอดนกจึงกลับมาทำงานเป็นสาวใช้กับแม่กลับมาพึ่งใบบุญของท่านเจ้าสัวสุทินและคุณแพรทองเช่นเดิม
สาวใช้วัยกระเตาะเล่าเรื่องภายในคฤหาสน์วรโชติโภคินเป็นฉาก ๆ จนนักสืบหนุ่มรู้ข้อมูลมากมาย เขายิ้มพอใจโดยที่นกไม่เห็น ไม่นานก็พาสาวใช้วัยละอ่อนมาถึงตลาดสด และอาสาเป็นคนหิ้วถุงให้เดินตามนกไปจ่ายตลาดจนซื้อครบทุกอย่างและพากลับบ้าน มาถึงคฤหาสน์วรโชติโภคินก็จวนหกโมง ทั้งเขาและนกรีบนำข้าวของที่ซื้อมาเข้าไปในครัวให้กับอนงค์
สาวใช้รุ่นใหญ่มองหน้าลูกสาวและครูหนุ่มด้วยใบหน้านิ่ง ก่อนจะส่งสายตาจิกไปยังลูกสาวของตน "เอ่อป้านงค์ครับ ผมตื่นเช้าว่าง ๆ เห็นนกกำลังจะไปตลาดพอดีเลยอาสาพาไปครับ" แทนคุณอธิบายเพราะเข้าใจสายตาคู่นั้นของแม่บ้านดี
"ขอบคุณค่ะคุณครู แต่วันหลังไม่ต้องเสียสละพานังนกมันไปหรอกนะคะ มันไปของมันทุกวันจนชิน" อนงค์ว่า
"ทำไมล่ะแม่ จะมาห้ามฉันกับพี่คุณทำไม ก็พี่คุณเขามีน้ำใจกับฉัน" นกต่อว่าผู้เป็นแม่ เพราะหล่อนไม่ชอบใจที่แม่สั่งห้ามตนกับแทนคุณสนิทสนมกัน
"นี่ก็สายแล้วผมขอตัวดีกว่าครับ" ชายหนุ่มขอตัว ไม่อยากอยู่เป็นตัวปัญหาให้กับสองแม่ลูก
"วันหลังพานกไปอีกนะคะพี่คุณ"
"ครับ ๆ ถ้าพี่ว่างนะ" ว่าแล้วเขาก็รีบเดินกลับออกไป ไม่สนใจเสียงบ่นว่าลูกสาวของอนงค์ที่ลอยมาให้ได้ยินตามหลัง
แทนคุณกลับมาอาบน้ำแต่งตัวอีกทั้งเตรียมสื่อการสอนสำหรับวันนี้ให้กับน้องพ็อตเตอร์ ในใจก็นึกถึงคำพูดของนกว่า 'บ้านนี้มีอาถรรพ์' ที่ใครได้ครอบครองสมบัติจะเกิดอาเพศ สมบัติอะไรนะ ถ้าเป็นสมบัติพัสถานที่บ้านหลังนี้ก็ต้องเป็นลูก ๆ ผู้สืบสันดานอยู่แล้วที่ต้องได้รับ แล้วจะมีสมบัติอะไรอีกที่เป็นอาถรรพ์ คฤหาสน์หลังนี้หรือ แทนคุณนึกพลางกระตุกยิ้มมุมปากและส่ายหัวให้กับคำพูดของนกที่ดูเลอะเทอะไร้สาระ
....
แทนคุณได้รับสิทธิพิเศษให้มาร่วมทานข้าวบนโต๊ะอาหารกับเจ้านายด้วย ส่วนเลอดาวพิมพ์ชนกขอให้ทานข้าวก่อนใครทุกมื้อเพราะต้องป้อนข้าวคุณแพรทอง พยาบาลสาวพาคุณแพรทองนั่งรถเข็นลงมาร่วมทานข้าวกับสมาชิกในบ้านที่โต๊ะอาหารลูกชายทั้งสองคนเมื่อเห็นผู้เป็นแม่ก็ยิ้มดีใจและรีบลุกไปรับประคบประหงม เห็นรอยยิ้มประดับบนใบหน้าจากที่เมื่อก่อนผู้เป็นแม่ไม่เคยยิ้มเลย ทั้งสองรู้สึกว่าคิดไม่ผิดที่เลือกเลอดาวมาเป็นผู้ดูแลแม่ของตน ทั้งที่วันนี้เพิ่งจะทำงานได้แค่สองวัน คนเป็นแม่ก็เปลี่ยนไปได้ขนาดนี้
"ต่อไปฉันจะลงมาทานข้าวกับทุกคนนะ" ประมุขของบ้านกล่าว "พยาบาลคนนี้ตัวเล็กแต่แรงแยะอุ้มประคองฉันขึ้นเตียงคล่องเชียว" คุณแพรทองหันไปชมลูกจ้างที่ยืนข้าง ๆ ตน
"นอกจากการทำกายภาพบำบัดแล้ว ผู้ป่วยควรได้สัมผัสกับบรรยากาศข้างนอกและสิ่งใหม่ ๆ บ้างค่ะ จะทำให้อาการป่วยดีขึ้น ดาวจึงแนะนำให้คุณท่านลงมาทานข้าว และออกไปสูดอากาศข้างนอกบ้าง" พยาบาลจำเป็นอธิบาย "ถ้าได้ออกไปข้างนอกด้วยก็จะดีมาก ๆ ค่ะ" เลอดาวหมายถึงการได้ออกไปเที่ยวตามสถานที่ต่าง ๆ
"ดีเลยคุณแม่จะได้หายวันหายคืนนะคะ" เอมอรลูกสะใภ้เล็กพูด
"จ้ะ" คุณแพรทองตอบ
พิมพ์ชนกเหลือบมองทั้งคู่แต่ก็ไม่ได้พูดค้านอะไร "ทานข้าวกันเถอะค่ะ"
วันนี้เป็นวันที่ครอบครัววรโชติโภคินทานข้าวกันพร้อมหน้าพร้อมตาแถมยังมีสมาชิกมาเพิ่มอีกนั่นคือแทนคุณกับเลอดาว ชายหนุ่มทานข้าวเงียบ ๆ ตอบเฉพาะเมื่อมีคนถาม คอยสังเกตุทุกคนในบ้านว่าใครน่าจะมีพิรุธที่สุดสำหรับเรื่องการตายของเจ้าสัวสุทิน
พิมพ์ชนกกับอภิเชษฐ์นิ่งขรึมน่าสงสัย ส่วนเอมอรกับอภิสิทธิ์ก็ประจบประแจงออกนอกหน้าจนน่าสงสัยเหมือนกัน ส่วนคนใช้สองแม่ลูกจะว่าน่าสงสัยก็ได้ โดยเฉพาะอนงค์ บางทีแม่บ้านคนนี้อาจจะมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับเจ้าสัว อะไร ๆ ก็สามารถเป็นไปได้หมด
ระหว่างทานข้าวน้องพ็อตเตอร์ตักข้าวเข้าปากแต่ตักพลาดทำให้ข้าวหกเลอะปากและตัว เอมอรและอภิสิทธิ์จ้องมองลูกชาย แทนคุณมองเห็นความเจ็บปวดในแววตาของทั้งคู่ อภิสิทธิ์ดูเหมือนจะร้องไห้ด้วยซ้ำ แต่แทนที่จะปลอบคนเป็นพ่อกับเอ่ยวาจาดุกับลูกชาย
"พ็อตเตอร์ป๊าบอกให้ตักข้าวเข้าปากดี ๆ หกเลอะตัวเองหมดแล้ว เห็นน้องตักมั้ย นิคกี้ไม่ทำข้าวหกสักเม็ด" อภิสิทธิ์ดุลูกชาย แทนคุณหมดความนับถือในความเป็นพ่อของอภิสิทธิ์จริง ๆ รู้อยู่แก่ใจว่าลูกชายเป็นแบบนี้ทำไมถึงต้องดุและเปรียบเทียบกับคนปกติด้วย จากนั้นแทนคุณก็ไปตั้งความหวังไว้กับเอมอรผู้เป็นแม่ของเด็กชาย หวังว่าคนเป็นแม่จะปลอบลูกชายบ้าง
"แม่เคยสอนแล้วใช่มั้ยว่าตักข้าวเบา ๆ ค่อย ๆ ทำไมยังต้องรีบ" เอมอรพูดทั้งน้ำตาคลอ นักสืบหนุ่มเข้าใจหัวอกคนเป็นแม่ที่สุด แต่หล่อนก็ไม่ควรจะต่อว่าลูกอย่างนั้น
"น้องพ็อตเตอร์ครับ มาพี่คุณป้อนดีกว่า" ด้วยความสงสารเด็กชาย ไหน ๆ เขาก็อาสารับหน้าที่เป็นครูสอนแล้ว รับหน้าที่ป้อนข้าวด้วยคงไม่เหนื่อยอะไร
"แต่คุณครูยังไม่ได้ทานข้าวเลยนะคะ" พิมพ์ชนกท้วง ปรายตามองน้องชายและน้องสะใภ้ของสามี ที่ทั้งคู่เป็นพ่อและแม่ทำไมไม่รับผิดชอบหน้าที่นี้
"ไม่เป็นไรครับคุณพิมพ์ จะว่าไปก่อนจะมาทำงานที่นี่ผมก็ไม่ค่อยทานมื้อเช้าเท่าไหร่"