ผมจำโน๊ตในสเกลไม่แม่นแต่พอรู้สเต็ปนิดๆ แต่ชอบกดข้ามผิดสเต็ป หรือลั่นโดนลิ่มอื่นบ้าง ต้องมาบันทึกทีละประโยคซ้ำไปซ้ำมา พอเขียนเสร็จ เอ้า ลืมทำนองที่เหลือในหัวไปแล้ว แต่ให้ถ้าจะเอาเมาส์จิ้มนี่คงหนักกว่าเดิมอีกนอกจากจำโน๊ตในสเกลไม่ได้แล้ว note duration ก็ไม่จำด้วย ต้องมาค่อยๆ เลื่อนขยับทีละ 1 ตัวเขบ็ด บางทีคิดได้เป็น dorian note เยอะๆ เราก็แบ่งไม่ถูก อยากได้ความสดของเพลงมากกว่าเทคนิค เลยไม่ชอบจิ้มโน๊ต การจิ้มโน๊ตให้เป็นเพลงเป็นอะไรที่ง่ายอยู่แล้วถ้าเข้าใจ แต่เหตุผลที่ผมไม่ทำ เพราะมันแข็ง และไม่สร้างสรรค์ ไม่มีจิตวิญาณ มันดูเหมือนผมเป็น AI ที่ใช้แต่สูตร อยากเอาเวลาส่วนของทำโครงทำทำนอง ไปลงดีเทลตรง arranging ดีกว่า คนที่อยู่ในยุคที่ไม่มีเทคโนโลยี การแกะเพลงจากการฟังเยอะๆ คงได้สกิลด้านสเกลกับรึทึ่มแบบคล่องๆ แน่นๆ (แถมได้สำเนียงและเทคนิคของศิลปินที่ชอบอีกด้วย มันจะฝังเข้าไปในหัวของคุณต่อให้คุณไม่ต้องการ) แบบมีคนเล่นให้ฟังรอบหนึ่งแล้วขอแกะรอบหนึ่ง แล้วเล่นตามได้เลย อาจจะเสียเวลาไปบ้างนะ แต่ฝึกเล่นเครื่องดนตรีสักชิ้นให้ได้ตามชีต แล้วต่อมาก็ฝึกแกะเพลงด้วยการฟังให้คล่องๆ ผมคิดว่าจะช่วยให้การแต่งเพลงในชีวิตเราดีขึ้นมากๆเลย
แต่อย่าเข้าใจผิดว่าการแกะเพลงคือการเล่นให้หมือนอย่างเดียวนะ นึกถึงตอนที่ผมเล่นกีต้าร์เพลงที่มาแกะได้ แล้วรุ่นพี่คนหนึ่งเขาได้ยินเลยถามว่าเล่นได้ยังไง ผมเลยบอกว่าดู tab รุ่นพี่ไม่มีสีหน้าแสดงความชื่นชมยินดีเลย มองมาแบบหน้าบึ้ง+สายตาที่เหยียดหยาม และบอกให้ผมไปฝึกอ่านโน๊ตซะ 5555555555 ตอนนั้นผมอยู่มัธยม ผมก็ไม่เข้าใจพี่เขาหรอก แต่ย้อนมาคิดคือพี่เขากำลังหวังดีกับเรา
สิ่งที่ DAW และเครื่องมือที่มีความสะดวกเยอะๆไม่มีให้
แต่อย่าเข้าใจผิดว่าการแกะเพลงคือการเล่นให้หมือนอย่างเดียวนะ นึกถึงตอนที่ผมเล่นกีต้าร์เพลงที่มาแกะได้ แล้วรุ่นพี่คนหนึ่งเขาได้ยินเลยถามว่าเล่นได้ยังไง ผมเลยบอกว่าดู tab รุ่นพี่ไม่มีสีหน้าแสดงความชื่นชมยินดีเลย มองมาแบบหน้าบึ้ง+สายตาที่เหยียดหยาม และบอกให้ผมไปฝึกอ่านโน๊ตซะ 5555555555 ตอนนั้นผมอยู่มัธยม ผมก็ไม่เข้าใจพี่เขาหรอก แต่ย้อนมาคิดคือพี่เขากำลังหวังดีกับเรา