เรื่องหุ้นไอทีวีพิธา
อยู่ดี ๆ ต้นปีนี้ ก็มีการซื้อขายหุ้นกัน เป็นการซื้อขายหุ้นนอกตลาด
เพราะหุ้นไอทีวีถูกถอดออกจากตลาดหลักทรัพย์ตั้งแต่ปี 2557 โน่นแล้ว
ก็แปลก หุ้นที่มีมูลค่าติดลบ เรียกว่า ติดดอยสูงลิบลิ่วเหนือเมฆ ดันมีคนยอมขาดทุนซื้อมาถือครอง
ต่อให้เล็งเห็นผลว่า จะชนะคดีที่ฟ้อง สปน. ค่าความเสียหายที่ได้ชดเชย ก็ไม่น่าจะคุ้มค่าต่อการลงทุนซื้อหุ้นนี้
หรือมองไกลไปถึงว่า หากชนะคดี ไอทีวีก็สามารถเปิดดำเนินการสื่อทีวีได้อีก
ก็ไม่น่าใช่ เพราะดิจิจตอลทีวีในวันนี้ ก็เลือดตาแทบกระเด็น ล้มหายตายจากไปก็หลายช่องแล้ว
พอซื้อหุ้นปั๊บ ผู้ซื้อก็เข้าประชุมผู้ถือหุ้นประจำปีเมื่อต้นปี 2566
พร้อมถามบอร์ดบริหารแบบถามชง เพื่อต้องการคำตอบ แล้วเอาคำตอบนั้นมาเป็นประเด็นทางการเมืองเรื่องร้องเล่นงานพิธา
นั่นคือคำถามว่า ปัจจุบันไอทีวียังดำเนินกิจการสื่ออยู่ไหม
ซึ่งบอร์ดบริหารได้ตอบว่า ยังดำเนินกิจการอยู่ตามวัตถุประสงค์ในหนังสือบริคนห์สนธิ 45 ข้อ (มีการทำสื่ออยู่ด้วย)
เท่านั้นแหละ ก็เอามาเล่นงานกัน
ทั้งที่ข้อเท็จจริง ไอทีวีไม่ได้เป็นสื่อตั้งแต่ปี 2550 ปัจจุบันไม่ได้ทำสื่อ
แม้จะมีรายได้ ก็มีรายได้จากการลงทุนอย่างอื่น มีรายได้จากการให้เช่าอุปกรณ์ และมีหนี้สินกว่าพันล้านบาท
หลังจากร้องเรียน วิธีการเดิม ๆ รูปแบบเดิม ๆ ก็ตามมา
นั่นคือ บรรดากากซากเผด็จการก็เสนอหน้าออกสื่อเพื่อสร้างกระแส ให้ความเห็นชี้นำสาธารณะว่า ผิด ๆ
ระดับเนติบริกรยิ่งมาแรง ถึงขั้นบอกว่าต้องมีการเลือกตั้งใหม่ไปโน่นเลย (พอโดนนักกฎหมายคนอื่นสวนเอา ก็ทำเงียบ)
ชี้นำ เพื่อเมื่อกรรมการตัดสินว่าผิด จะได้อ้างความชอบธรรมได้บ้าง
.
ก็เอาให้สุดไปเลยเพ่ ดูสิ จะบันไดไปได้ถึงไหน
ก็รูปแบบเดิม ๆ วิธีการเดิม ๆ สมรู้ร่วมคิดเดิม ๆ ตาใสหน้ามึนกันไป
เรื่องหุ้นไอทีวีพิธา
อยู่ดี ๆ ต้นปีนี้ ก็มีการซื้อขายหุ้นกัน เป็นการซื้อขายหุ้นนอกตลาด
เพราะหุ้นไอทีวีถูกถอดออกจากตลาดหลักทรัพย์ตั้งแต่ปี 2557 โน่นแล้ว
ก็แปลก หุ้นที่มีมูลค่าติดลบ เรียกว่า ติดดอยสูงลิบลิ่วเหนือเมฆ ดันมีคนยอมขาดทุนซื้อมาถือครอง
ต่อให้เล็งเห็นผลว่า จะชนะคดีที่ฟ้อง สปน. ค่าความเสียหายที่ได้ชดเชย ก็ไม่น่าจะคุ้มค่าต่อการลงทุนซื้อหุ้นนี้
หรือมองไกลไปถึงว่า หากชนะคดี ไอทีวีก็สามารถเปิดดำเนินการสื่อทีวีได้อีก
ก็ไม่น่าใช่ เพราะดิจิจตอลทีวีในวันนี้ ก็เลือดตาแทบกระเด็น ล้มหายตายจากไปก็หลายช่องแล้ว
พอซื้อหุ้นปั๊บ ผู้ซื้อก็เข้าประชุมผู้ถือหุ้นประจำปีเมื่อต้นปี 2566
พร้อมถามบอร์ดบริหารแบบถามชง เพื่อต้องการคำตอบ แล้วเอาคำตอบนั้นมาเป็นประเด็นทางการเมืองเรื่องร้องเล่นงานพิธา
นั่นคือคำถามว่า ปัจจุบันไอทีวียังดำเนินกิจการสื่ออยู่ไหม
ซึ่งบอร์ดบริหารได้ตอบว่า ยังดำเนินกิจการอยู่ตามวัตถุประสงค์ในหนังสือบริคนห์สนธิ 45 ข้อ (มีการทำสื่ออยู่ด้วย)
เท่านั้นแหละ ก็เอามาเล่นงานกัน
ทั้งที่ข้อเท็จจริง ไอทีวีไม่ได้เป็นสื่อตั้งแต่ปี 2550 ปัจจุบันไม่ได้ทำสื่อ
แม้จะมีรายได้ ก็มีรายได้จากการลงทุนอย่างอื่น มีรายได้จากการให้เช่าอุปกรณ์ และมีหนี้สินกว่าพันล้านบาท
หลังจากร้องเรียน วิธีการเดิม ๆ รูปแบบเดิม ๆ ก็ตามมา
นั่นคือ บรรดากากซากเผด็จการก็เสนอหน้าออกสื่อเพื่อสร้างกระแส ให้ความเห็นชี้นำสาธารณะว่า ผิด ๆ
ระดับเนติบริกรยิ่งมาแรง ถึงขั้นบอกว่าต้องมีการเลือกตั้งใหม่ไปโน่นเลย (พอโดนนักกฎหมายคนอื่นสวนเอา ก็ทำเงียบ)
ชี้นำ เพื่อเมื่อกรรมการตัดสินว่าผิด จะได้อ้างความชอบธรรมได้บ้าง