ณ ปัจจุบันนี้ ยังไม่มีวิธีไหนที่จะใช้ พลังนิวเคลียร์ มาเปลี่ยนเป็นพลังงานขับเคลื่อนสิ่งต่างๆได้โดยตรง ใช่หรือไม่ครับ เช่น เรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ กับ เรือบรรทุกเครื่องบินพลังงานนิวเคลียร์ ก็เปลี่ยนพลังงานนิวเคลียร์ เป็น พลังงานความร้อน แล้ว ค่อยเปลี่ยนพลังงานความร้อน เป็นพลังงานกลอีกที ถึงยังไงก็ไม่มีวิธีที่จะเอามาเป็นพลังงานกลได้โดยตรง จึงทำให้เราไม่สามารถเห็น เครื่องบินพลังงานนิวเคลียร์ หรือ ยานอวกาศพลังงานนิวเคลียร์ได้ แต่รถยนต์พลังงานนิวเคลียร์ก็เป็นไปไม่ได้เช่นกันใช่หรือไม่ เพราะมันติดอยู่ที่ว่าแล้วเราจะใช้สิ่งใดมาหล่อเย็นความร้อน ลำพังแค่ลมเพียวๆอย่างเดียว มันก็อาจจะไม่สามารถลดความร้อนจากตรงนี้ได้ใช่ไหมครับ
แล้วปัจจุบันก็มีแต่ เทคโนโลยีสร้างดวงอาทิตย์เทียม ที่สร้างอุณหภูมิได้สูงอาจใกล้เคียงหรือมากกว่าความร้อนของดวงอาทิตย์ อันนี้จริงเท็จแค่ไหนผมก็ยังไม่ทราบรอผู้รู้มาตอบ
แต่ทำไมเราไม่มีเทคโนโลยีที่สร้างความเย็นจัดๆ แบบน้อยกว่าความเย็นสุดของเอกภพ คือ 0 เคลวินได้ ถ้าเท่าที่ผมอ่านงานวิจัยซึ่งมันจริงหรือเท็จยังไงก็ไม่ทราย มันเป็นไปได้แค่ในระดับอนุภาคเท่านั้นที่สามารถทำปฏิกิริยา หรือ ดึงกลไลพลังงานอะไรซักอย่าง ทำเกินอุณหภูมิติดลบเกิน0องศาเคลวินได้ มันเป็นไปได้แค่ไหนหรือเป็นงานวิจัยหลอกๆ แต่ก็เป็นไปได้ยากอยู่ดีทราจะทำเครื่องหล่อเย็น(ซึ่งกระบวนการอาจต้องใช้พลังงานระดับปฏิสสารเลย)มาหลาอเย็นอีกที
สู้เอาพลังงานที่เกิดจากปฏิสสาร มาใช่ได้โดยตรงจะไม่ดีกว่าเหรอ
สุดท้ายนี้ ในอนาคตอันใกล้หรือไกล เราอาจจะมองพลังงานนิวเคลียร์เป็นทางเลือกในอดีต เฉกเช่นเรามองพลังงานไอน้ำ เป็นสิ่งที่ล้าหลังกับพลังงานไฟฟ้าที่เราใช้อยู่ทุกวันนี้
แล้วอาจมีพลังงานทางเลือกใหม่ๆที่เทคโนโลยีของมนุษย์ยังคิดไม่ถึง
หรือมันต้องมีการสร้างธาตุกัมมันใหม่ๆในตารางธาตุหรือเปล่า หรือ จะใช่การแก้ไขปริศนาเรื่องแรงรวมทั้ง4ในจักรวาล การเข้าใจแรงโน้มถ่วง สสารมืด หรือ อนุภาคควอนตัม เรื่องหลุมดำอีก
รวมถึงองค์รวมความรู้ด้านต่างๆมาสร้างความเป็นไปได้ ที่ยังเป็นไปไม่ได้ในปัจจุบันนี้
ผมหวังอย่างยิ่งว่า ผมอาจจะไม่เห็นความก้าวหน้าในยุคนั้น เพราะมันคงใช้เวลาอีกนาน
แต่การมาของA.I. กับ ซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ก็อาจจะสร้างความเปลี่ยนแปลงให้เร็วยิ่งขึ้นได้
หรือ คิดแบบเพ้อฝัน ว่าจะมีอารยธรรมจากต่างดาวมาสอน มาแลกเปลี่ยนเทคโนโลยีหรือเปล่า
แต่มนุษย์จะไม่มีความคิดไม่มีเครดิตน่ะสิ เรามีความก้าวหน้า สร้างอารยธรรมมาในระดับนี้แล้ว สู้อีกสักหน่อยเราก็อาจจะถึงเส้นชัย สิ่งที่ใฝ่ฝันเอาไว้ เช่น การเดินทางข้ามผ่านระหว่างดวงดาว(Interstellar)ซึ่งใช่เวลานับปีแสง หรือ เรื่องอื่นๆที่ดีๆกับมนุษยชาติ
แต่เราอาจจะติดล่มความขัดแย้งที่เกิดขึ้น เช่น สงครามโลกครั้งที่3 ก็คงเป็นหายนะหรือเป็นการเกิดเทคโนโลยีใหม่ๆมาสู้กันทั้ง2ฝ่ายก็ได้
คนเราสู้กันเพราะผลประโยชน์ของแต่ละฝ่าย แต่คนพวกนี้ไม่เคยมองว่าเป็นการเสียผลประโยชน์กันทุกๆฝ่ายมากกว่า ภัยพิบัติล้างโลกตั้งหาก ภาวะโลกร้อน ความยากจนอดยากตั้งหาก ที่เป็นภัยโดยตรงกับมนุษยชาติทุกคน ทุกชาติพันธุ์
ผมไม่อยากเห็นการนำเอาเทคโนโลยีใหม่ๆ
มาใช้เพื่อ ฆ่าผู้คน
มาใช้เพื่อ ความละโมบโลภมาก ของคนไม่กี่คน
หรือ มาใช้เพื่อ ต่อรองเรื่องที่ไม่เป็นธรรม
เพราะสุดท้ายเรามีโลกใบนี้ใบเดียว
และต่อให้ทุกประเทศ มีดาวเคราะห์เป็นของตัวเอง มันก็ขัดแย้งกันอยู่ดี จะเกิดสงครามระหว่างดวงดาว เฉกเช่นใน Star War ก็ไม่แปลก
สู้มา สมานฉันท์กัน บนดาวโลกดวงนี้ดวงเดียวที่เราอยู่นี้แหละ แล้วรวมมือกันพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อดำรงเผ่าพันธุ์ของมนุษยชาติสืบไปจะไม่ดีกว่าเหรอ ให้มันเป็นเครดิตของมนุษยชาติ ของทุกๆคน ไม่สนสีผิว เชื้อชาติ ศาสนา หรือ LGBTQ+
ผมคงไม่อยากจะขอบคุณ สงครามหรอกน่ะ ที่มันเป็นตัวเร่งให้เกิดความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี แต่มันก็เป็นเรื่องจริงที่ไม่อาจจะหลีกเลี่ยงได้
ความก้าวหน้า บนคราบน้ำตาและทะเลเลือดของมนุษย์ ผมเลือกให้โลกนี้มีความเมตตานำความก้าวหน้าเสียยังจะดีกว่า
เฉกเช่นคำว่า เมตตาธรรมค้ำจุนโลก ก็ไม่ผิด
สุดท้ายจะทิ้ง คลิปวิวัฒนาการเครื่องบินของมนุษย์ครอบครัวหนึ่งที่มีความฝันเหมือนพี่ตูนที่อยากจะให้มนุษย์บินได้ แต่ไม่วายดันพัฒนามาเพื่อใช้ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ซึ่งกันและกันเสียอย่างนั้น
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ถามเรื่องพลังงานนิวเคลียร์ และ เทคโนโลยีที่จะมาแทนที่ และ การใช้ผิดจุด
แล้วปัจจุบันก็มีแต่ เทคโนโลยีสร้างดวงอาทิตย์เทียม ที่สร้างอุณหภูมิได้สูงอาจใกล้เคียงหรือมากกว่าความร้อนของดวงอาทิตย์ อันนี้จริงเท็จแค่ไหนผมก็ยังไม่ทราบรอผู้รู้มาตอบ
แต่ทำไมเราไม่มีเทคโนโลยีที่สร้างความเย็นจัดๆ แบบน้อยกว่าความเย็นสุดของเอกภพ คือ 0 เคลวินได้ ถ้าเท่าที่ผมอ่านงานวิจัยซึ่งมันจริงหรือเท็จยังไงก็ไม่ทราย มันเป็นไปได้แค่ในระดับอนุภาคเท่านั้นที่สามารถทำปฏิกิริยา หรือ ดึงกลไลพลังงานอะไรซักอย่าง ทำเกินอุณหภูมิติดลบเกิน0องศาเคลวินได้ มันเป็นไปได้แค่ไหนหรือเป็นงานวิจัยหลอกๆ แต่ก็เป็นไปได้ยากอยู่ดีทราจะทำเครื่องหล่อเย็น(ซึ่งกระบวนการอาจต้องใช้พลังงานระดับปฏิสสารเลย)มาหลาอเย็นอีกที
สู้เอาพลังงานที่เกิดจากปฏิสสาร มาใช่ได้โดยตรงจะไม่ดีกว่าเหรอ
สุดท้ายนี้ ในอนาคตอันใกล้หรือไกล เราอาจจะมองพลังงานนิวเคลียร์เป็นทางเลือกในอดีต เฉกเช่นเรามองพลังงานไอน้ำ เป็นสิ่งที่ล้าหลังกับพลังงานไฟฟ้าที่เราใช้อยู่ทุกวันนี้
แล้วอาจมีพลังงานทางเลือกใหม่ๆที่เทคโนโลยีของมนุษย์ยังคิดไม่ถึง
หรือมันต้องมีการสร้างธาตุกัมมันใหม่ๆในตารางธาตุหรือเปล่า หรือ จะใช่การแก้ไขปริศนาเรื่องแรงรวมทั้ง4ในจักรวาล การเข้าใจแรงโน้มถ่วง สสารมืด หรือ อนุภาคควอนตัม เรื่องหลุมดำอีก
รวมถึงองค์รวมความรู้ด้านต่างๆมาสร้างความเป็นไปได้ ที่ยังเป็นไปไม่ได้ในปัจจุบันนี้
ผมหวังอย่างยิ่งว่า ผมอาจจะไม่เห็นความก้าวหน้าในยุคนั้น เพราะมันคงใช้เวลาอีกนาน
แต่การมาของA.I. กับ ซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ก็อาจจะสร้างความเปลี่ยนแปลงให้เร็วยิ่งขึ้นได้
หรือ คิดแบบเพ้อฝัน ว่าจะมีอารยธรรมจากต่างดาวมาสอน มาแลกเปลี่ยนเทคโนโลยีหรือเปล่า
แต่มนุษย์จะไม่มีความคิดไม่มีเครดิตน่ะสิ เรามีความก้าวหน้า สร้างอารยธรรมมาในระดับนี้แล้ว สู้อีกสักหน่อยเราก็อาจจะถึงเส้นชัย สิ่งที่ใฝ่ฝันเอาไว้ เช่น การเดินทางข้ามผ่านระหว่างดวงดาว(Interstellar)ซึ่งใช่เวลานับปีแสง หรือ เรื่องอื่นๆที่ดีๆกับมนุษยชาติ
แต่เราอาจจะติดล่มความขัดแย้งที่เกิดขึ้น เช่น สงครามโลกครั้งที่3 ก็คงเป็นหายนะหรือเป็นการเกิดเทคโนโลยีใหม่ๆมาสู้กันทั้ง2ฝ่ายก็ได้
คนเราสู้กันเพราะผลประโยชน์ของแต่ละฝ่าย แต่คนพวกนี้ไม่เคยมองว่าเป็นการเสียผลประโยชน์กันทุกๆฝ่ายมากกว่า ภัยพิบัติล้างโลกตั้งหาก ภาวะโลกร้อน ความยากจนอดยากตั้งหาก ที่เป็นภัยโดยตรงกับมนุษยชาติทุกคน ทุกชาติพันธุ์
ผมไม่อยากเห็นการนำเอาเทคโนโลยีใหม่ๆ
มาใช้เพื่อ ฆ่าผู้คน
มาใช้เพื่อ ความละโมบโลภมาก ของคนไม่กี่คน
หรือ มาใช้เพื่อ ต่อรองเรื่องที่ไม่เป็นธรรม
เพราะสุดท้ายเรามีโลกใบนี้ใบเดียว
และต่อให้ทุกประเทศ มีดาวเคราะห์เป็นของตัวเอง มันก็ขัดแย้งกันอยู่ดี จะเกิดสงครามระหว่างดวงดาว เฉกเช่นใน Star War ก็ไม่แปลก
สู้มา สมานฉันท์กัน บนดาวโลกดวงนี้ดวงเดียวที่เราอยู่นี้แหละ แล้วรวมมือกันพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อดำรงเผ่าพันธุ์ของมนุษยชาติสืบไปจะไม่ดีกว่าเหรอ ให้มันเป็นเครดิตของมนุษยชาติ ของทุกๆคน ไม่สนสีผิว เชื้อชาติ ศาสนา หรือ LGBTQ+
ผมคงไม่อยากจะขอบคุณ สงครามหรอกน่ะ ที่มันเป็นตัวเร่งให้เกิดความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี แต่มันก็เป็นเรื่องจริงที่ไม่อาจจะหลีกเลี่ยงได้
ความก้าวหน้า บนคราบน้ำตาและทะเลเลือดของมนุษย์ ผมเลือกให้โลกนี้มีความเมตตานำความก้าวหน้าเสียยังจะดีกว่า
เฉกเช่นคำว่า เมตตาธรรมค้ำจุนโลก ก็ไม่ผิด
สุดท้ายจะทิ้ง คลิปวิวัฒนาการเครื่องบินของมนุษย์ครอบครัวหนึ่งที่มีความฝันเหมือนพี่ตูนที่อยากจะให้มนุษย์บินได้ แต่ไม่วายดันพัฒนามาเพื่อใช้ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ซึ่งกันและกันเสียอย่างนั้น
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้