Day 5 วันนี้มีที่ที่ต้องไป 3 ที่เลยค่ะ เริ่มจากที่แรก
ที่แรกที่เราไปในวันนี้คือ United Nation Centre for Regional Deverlopment หรือ UN นั้นเองค่ะ ได้ไปฟังบรรยายเกี่ยวกับ SDGs และหลักการของรัฐบาลที่สนับสนุนให้เอกชนซื้อวัตุดิบจากบริษัทที่เข้าร่วมแทน ถึงแม้ว่าต้นทุนการผลิตจะสูงแต่ทั้งคนขายและคนซื้อสินค้าพึ่งพอใจกันทั้ง 2 ฝ่ายค่ะ หลังจากที่นั่งฟังเราได้ความรู้เพิ่มเติมมาเยอะมากมากเลยค่ะ
ถึงเวลาของอาหารเที่ยงแล้วค่ะ หลังจากที่กินเสร็จเราก็ได้ไปเยี่ยมชม Toyota Kaikan Museum ที่นี่มีการโชว์รถไฟฟ้าที่ดูล่ำมากเลยค่ะ ดูอนาคตมากมาก มีการสาธิตการประกอบชิ้นส่วนที่ลดการปล่อยมลพิษ ทุกอย่างในผังที่เขาโชว์รูปแรกเชื่อมโยงกับ SDGs หมดเลยค่ะ
ที่ที่ 3 ที่เราไปเป็นบริษัทผลิตชิ้นส่วน Meidoh ที่ผลิตให้ Toyota เป็นลูกค้าหลัก เราได้นั่งฟังบรรยายและได้เข้าชมโรงงาน ที่นี่เข้าแบ่งเป็นสัดเป็นส่วนมากว่าโรงงานนี้ทำขั้นตอนไหน แล้วส่งไปอีกในโรงงานที่ชอบมาก ๆ เลยคือถนนระหว่างโรงงานมีทางม้าลายจิ๋วอยู่ด้วย หลังจากชมเสร็จเราพบว่าในโรงงานกลิ่นค่อนข้างแรงเลยถามว่าคนในโรงงานที่ทำงานมีปัญหาเรื่องสุขภาพบ้างมั้ย เราเลยได้รู้ที่นี่มีกฎหมายที่พนักงานต้องตรวจปอดทุกปี ซึ่งเป็นการใส่ใจพนักงานที่ดีมาก นอกจากนี้ยังได้พูดคุยกับพนักงานคนไทยที่ทำงานอยู่ที่นี้ด้วย
ก็จบไปอีกวันแล้ว มือเย็นวันนี้อร่อยมาก เป็นเวลา 5 วันที่ผ่านไปไวมากมากเลยค่ะ T T
Day 6 วันนี้เป็นวันสุดท้ายก่อนกลับแล้วแพลนวันนี้น่าสนใจมากค่ะ เริ่มจากที่เราจะย้ายโรงแรมกันเพื่อไปโรงแรมที่ใกล้สนามบินมากกว่า
แล้วเราก็ได้ไปที่ Mori no Manabiya ( Environment Education Facility ) เราได้เดินขึ้นไปบนป่าแล้วเล่นกิจกรรมสีปริศนา โดยอ้างอิงจากสิ่งของในธรรมชาติ แล้วจับคู่สีให้คล้ายที่สุด
ถึงเวลาของอาหารเที่ยงอีกแล้ว หลังจากอาหารเที่ยงเราได้ไปที่ Ghibli Park สานฝันวัยเด็กมาก ๆ เลยค่ะ T T ที่นี่มีการจำลองฉากในอนิเมะ แล้วก็โชว์กระบวนการกว่าจะมาเป็นฉากฉาก หนึ่งในการ์ตูนที่เราดูผ่านการร่างบนกระดาษด้วยค่ะ
เราได้ไปทานข้าวเย็นที่ Aeon mall Tokoname ค่ะแล้วก็ไปเดินเล่นช้อปปิ้ง กดกาชาปอง มี Rio เพื่อนคนญี่ปุ่นเป็นไกด์ให้ค่ะ !
หมดวันแล้วค่ะได้เวลาเตรียมตัวกลับไทยแล้ว T T
Day 7 วันนี้เป็นวันที่เราต้องกลับไทยแล้วค่ะ
อยากขอบคุณตัวเองที่พยายามทำในตอนนั้นให้ดีแล้วคว้าโอกาสนั้นไว้ได้ ขอบคุณกทม.ที่จัดโครงการดี ๆ แบบนี้ เราได้เปิดโลก มองเห็นในสิ่งที่เราไม่เคยเห็นมาก่อน ได้ใช้ภาษา ได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์ มีหลายเรื่องที่เรายังไม่ได้เขียนไปอย่างเรื่องฟุตบาทที่นี่กว้างและเสมอกันทุกก้าวเลย จากประสบการณ์เดินบนฟุตบาทแถวบ้านแล้วเหมือนเดินอยู่ภูเขา T T ทั้งนี้การไปแลกเปลี่ยนครั้งนี้ทำให้เราได้โตขึ้นไปอีกก้าว ถือว่าเป็นประสบการณ์ชีวิตที่ดีสุดสุดเลยค่ะ ! ขอบคุณมากมากค่ะ !
ประสบการณ์แลกเปลี่ยนเยาวชนกับไอจิ - ประเทศญี่ปุ่น ! ( part 2 )
พอมาถึงครูที่โรงเรียนก็จะเป็นคนนำเราไปเดินชมรอบ ๆ โรงเรียนค่ะ ที่โรงเรียนนี้เขาสนับสนุนเด็กด้านกิจกรรมชมรมดีมาก ๆ ค่ะ สนามคือแบ่งเป็นส่วนใหญ่ ๆไว้สำหรับเล่นกีฬานั้น ๆ เลยค่ะ แล้วก็เด็กที่นี่ส่วนใหญ่ส่วนใหญ่จักรยานมาโรงเรียนค่ะ สภาพแวดล้อมในโรงเรียนร่มรื่นมาก มีต้นไม้แซมหมดทุกที่เลยค่ะ
หลักจากเดินชมโรงเรียนเสร็จเราก็ได้เข้าคลาสกับเด็กญี่ปุ่นค่ะ ครูให้เราสลับกันเขียนชื่อไทยให้ญี่ปุ่น ในรูปคือคนญี่ปุ่นเขียนให้ค่ะ อ่านว่า "Enni" เพราะในภาษาญี่ปุ่นออกเสียงเอินเอินค่อนข้างยาก กิจกรรมที่เราได้ทำคือเกมบรรไดงู SDGs หรือ Sustainable Deverlopment Goals ค่ะ โดยในแต่ละสีจะมีหัวข้อที่ไม่เหมือนกันให้เราตอบคำถามให้ถูกเพื่อถอยต่อค่ะ
หลังจากทานข้าวเที่ยงเราก็ได้ไปดู การสาธิต Kyudo เป็นศิลปะการยิงธนูของญี่ปุ่น แล้วได้ลองเรียน Koto ที่เป็นเครื่องดนตรีของญี่ปุ่นด้วยค่ะ เป็นกิจกรรมที่สนุกมากได้ลองทำอะไรใหม่ ๆ ด้วยค่ะ
หลังจากนั้นเราก็ต้องกลับโรงแรมแล้วค่ะ วันนี้ตอนเย็นได้ไปเดิน Donki ด้วยค่ะ หมดไปอีกวันแล้ว กิจกรรมที่ทางไอจิแพลนมาให้ค่อนข้างสนุกมากเลยค่ะ
Day 5 วันนี้มีที่ที่ต้องไป 3 ที่เลยค่ะ เริ่มจากที่แรก
ที่แรกที่เราไปในวันนี้คือ United Nation Centre for Regional Deverlopment หรือ UN นั้นเองค่ะ ได้ไปฟังบรรยายเกี่ยวกับ SDGs และหลักการของรัฐบาลที่สนับสนุนให้เอกชนซื้อวัตุดิบจากบริษัทที่เข้าร่วมแทน ถึงแม้ว่าต้นทุนการผลิตจะสูงแต่ทั้งคนขายและคนซื้อสินค้าพึ่งพอใจกันทั้ง 2 ฝ่ายค่ะ หลังจากที่นั่งฟังเราได้ความรู้เพิ่มเติมมาเยอะมากมากเลยค่ะ
ถึงเวลาของอาหารเที่ยงแล้วค่ะ หลังจากที่กินเสร็จเราก็ได้ไปเยี่ยมชม Toyota Kaikan Museum ที่นี่มีการโชว์รถไฟฟ้าที่ดูล่ำมากเลยค่ะ ดูอนาคตมากมาก มีการสาธิตการประกอบชิ้นส่วนที่ลดการปล่อยมลพิษ ทุกอย่างในผังที่เขาโชว์รูปแรกเชื่อมโยงกับ SDGs หมดเลยค่ะ
ที่ที่ 3 ที่เราไปเป็นบริษัทผลิตชิ้นส่วน Meidoh ที่ผลิตให้ Toyota เป็นลูกค้าหลัก เราได้นั่งฟังบรรยายและได้เข้าชมโรงงาน ที่นี่เข้าแบ่งเป็นสัดเป็นส่วนมากว่าโรงงานนี้ทำขั้นตอนไหน แล้วส่งไปอีกในโรงงานที่ชอบมาก ๆ เลยคือถนนระหว่างโรงงานมีทางม้าลายจิ๋วอยู่ด้วย หลังจากชมเสร็จเราพบว่าในโรงงานกลิ่นค่อนข้างแรงเลยถามว่าคนในโรงงานที่ทำงานมีปัญหาเรื่องสุขภาพบ้างมั้ย เราเลยได้รู้ที่นี่มีกฎหมายที่พนักงานต้องตรวจปอดทุกปี ซึ่งเป็นการใส่ใจพนักงานที่ดีมาก นอกจากนี้ยังได้พูดคุยกับพนักงานคนไทยที่ทำงานอยู่ที่นี้ด้วย
ก็จบไปอีกวันแล้ว มือเย็นวันนี้อร่อยมาก เป็นเวลา 5 วันที่ผ่านไปไวมากมากเลยค่ะ T T
Day 6 วันนี้เป็นวันสุดท้ายก่อนกลับแล้วแพลนวันนี้น่าสนใจมากค่ะ เริ่มจากที่เราจะย้ายโรงแรมกันเพื่อไปโรงแรมที่ใกล้สนามบินมากกว่า
แล้วเราก็ได้ไปที่ Mori no Manabiya ( Environment Education Facility ) เราได้เดินขึ้นไปบนป่าแล้วเล่นกิจกรรมสีปริศนา โดยอ้างอิงจากสิ่งของในธรรมชาติ แล้วจับคู่สีให้คล้ายที่สุด
ถึงเวลาของอาหารเที่ยงอีกแล้ว หลังจากอาหารเที่ยงเราได้ไปที่ Ghibli Park สานฝันวัยเด็กมาก ๆ เลยค่ะ T T ที่นี่มีการจำลองฉากในอนิเมะ แล้วก็โชว์กระบวนการกว่าจะมาเป็นฉากฉาก หนึ่งในการ์ตูนที่เราดูผ่านการร่างบนกระดาษด้วยค่ะ
เราได้ไปทานข้าวเย็นที่ Aeon mall Tokoname ค่ะแล้วก็ไปเดินเล่นช้อปปิ้ง กดกาชาปอง มี Rio เพื่อนคนญี่ปุ่นเป็นไกด์ให้ค่ะ !
หมดวันแล้วค่ะได้เวลาเตรียมตัวกลับไทยแล้ว T T
Day 7 วันนี้เป็นวันที่เราต้องกลับไทยแล้วค่ะ
อยากขอบคุณตัวเองที่พยายามทำในตอนนั้นให้ดีแล้วคว้าโอกาสนั้นไว้ได้ ขอบคุณกทม.ที่จัดโครงการดี ๆ แบบนี้ เราได้เปิดโลก มองเห็นในสิ่งที่เราไม่เคยเห็นมาก่อน ได้ใช้ภาษา ได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์ มีหลายเรื่องที่เรายังไม่ได้เขียนไปอย่างเรื่องฟุตบาทที่นี่กว้างและเสมอกันทุกก้าวเลย จากประสบการณ์เดินบนฟุตบาทแถวบ้านแล้วเหมือนเดินอยู่ภูเขา T T ทั้งนี้การไปแลกเปลี่ยนครั้งนี้ทำให้เราได้โตขึ้นไปอีกก้าว ถือว่าเป็นประสบการณ์ชีวิตที่ดีสุดสุดเลยค่ะ ! ขอบคุณมากมากค่ะ !