เพื่อนๆในนี้ใครชอบทะเลบ้าง เราชอบทะเลมากเเต่เป็นคนเหนือไม่มีโอกาสได้ไปทะเลมากนัก เรามากทมบ่อย มาสอบ เเละเห็นว่าหัวหินเป็นทะเลที่ไม่ไกลจากกรุงเทพมากนัก หลังสอบเสร็จ+เศร้า เลยตัดสินใจไปผ่อนคลายที่หัวหินสักพัก
เริ่มที่วันที่ 1 มิ.ย. 2566 เริ่มจากเดินทางไปที่สถานีรถไฟหัวลำโพง ตั๋วรถไฟไปหัวหิน44บาท รถออก09.20
ถึงหันหินประมาณ
14.30 ช้าไปสิบห้านาที
หลังจากนั้นก็เดินหาโฮลเทลที่จองไว้อยู่ใกล้ๆสถานีรถไฟ พอถึงห้องทำทุกอย่างเสร็จ ก็ทักหาเพื่อนที่อยู่หัวหิน เพื่อนก็เป็นคนที่เจอจากเเอปๆหนึ่งเป็นฝรั่งอยู่ที่หัวหิน2สัปดาห์ก่อนเรามา
เรากับเขาช่วยกันวางแพลนก่อนเรามาหัวหินก่อน1อาทิตย์ วันเเรกที่เเพลนไว้ก็คือ ขี่ม้า
เเต่ก่อนอื่นยังเหลือเวลาเพื่อนยังไม่มาเราเลยไปสำรวจหาดหัวหินก่อน เย็นมากทั้งๆที่เเดดจัดเเต่พออยู่ริมหาดก็รู้สึกว่าลมเเรงอยู่นะ
รอไปสักพักเพื่อนก็โทรตามละ ได้เวลาทำภารกิจขี่ม้าเเล้ว Let's go!
นี่เป็นครั้งเเรกเลยละที่เราจะได้ลองขี่ม้า ที่นี่อยู่ซอย61ท้ายซอย ขี่ม้า30นาที600บาท เราคิดว่ามันเเอบเเพงนะพยามต่อราคาเขา ต่อเเลบอ้อนวอนสุด555+ เพราะมา2คนเขาก็เลยลดให้คนละ50 ก็ยังดี ภารกิจขี่ม้าเริ่มขึ้นเเล้ว ตอนขึ้นไปบนหลังม้าก็ชิวๆนะเพราะมีคนบังคับให้ พอผ่านไปสักพักเขาจะให้เราบังคับเองเเต่คนดูเเลก็อยู่เเถวนี้แหละ เราเกร็งไปหมดเเต่ก็ผ่านมาได้อย่างทุลักทุเล ส่วนอีกคนนั้นดูชิลมาก
นี่เจ้าตัวที่เราขี่ ชื่อดีเซล
พอขี่ม้าเสร็จที่ต่อไปก็คือ วัดเขาตะเกียบ เพื่อนได้เหมารถไว้เเล้วไป3ที่ 700เเพงนะสำหรับเรา เเต่เเชร์กันได้ ที่เเรกไปถึงก็เดินขึ้นบันไดไปจะเจอเเต่ลิง ตอนเเรกก็มองว่าน่ารักจนก็ทั่งมันเเย่งน้ำมะนาวโซดาจากเราไป ช็อคมาก55 เเละเราก็เดินขึ้นไปถึงจุดสูงสุดทำให้มองลงมาเห็นวิวที่สวยมาก
ที่ต่อมาคือหาดเขาตะเกียบ กว่าจะถึงเกือบจะมืดเเต่ก็ยังสว่าง เราชอบหาดนี้นะสงบดี เเต่เราเเค่เดินเล่นเเถวนั้นแหละ เรากับเพื่อนคนนี้ก็เลยได้คุยกันมากขึ้น สัพเพเหระ เราชอบนะเวลาที่ได้รู้จักคนใหม่ๆมันทำให้เรามองโลกกว้างขึ้น เราคงโชคดีด้วยที่ได้เจอเเต่คนดีๆ
หลังจากเดินจนมืด ก็ไปต่อที่ hippie bar เป็นบาร์ริมชาดหาด อันนี้เราหาข้อมูลมาเอง เห็นดูชิวๆบรรยากาศริมชายหาดตอนกลางคืนก็สวยดี นี่ถ้ามาคนเดียวเหมือนเคยคงเหงาน่าดูเลย
เราสั่ง White Russian เเก้ว300คิดว่าคงเบาๆเเต่กินได้ชิลเเต่ยังดื่มไม่ถึงเเก้ว เริ่มรู้ว่ามันเเรงอยู่นะสำหรับเรา อาจเป็นเพราะเราไม่ค่อยดื่มเเอล หรือเพราะคออ่อนอยู่เเล้ว บรรยากาศที่นี่ดีมากเรามองไปรอบๆเเละนั่งคุยกันไปจนดึก ก็พากันเดินทางกลับที่พัก อยู่คนละที่เเต่ใกล้ๆกัน จากนั้นก็เเยกย้ายกันไปนอน เราถึงโฮสเทลดึก นึกว่ามีคนอยู่เต็มห้องรวมเเต่ได้ยินเสียงพี่ผู้ชายเตียงบนบอกให้เราเปิดไฟได้ ที่เเรกๆไม่กล้ากลัวรบกวนคนอื่น เเต่พี่เขาอยู่คนเดียวในห้อง สรุปห้องนั้นมีเเค่เรากับพี่คนนั้นเเค่2คน ก็ถือว่าได้ทำความรู้จักเพื่อนใหม่ไปในตัว พี่เขาบอกว่าไม่ได้ตั้งใจมาค้างเเต่เพราะมาส่งลูกค้าที่มาเที่ยวเเล้วมันดึกเเล้วขับรถกลับไม่ไหวเลยต้องนอนที่นี่ เเละก็รอเราตั้งเเต่เย็นเพราะในห้องนั้นไม่มีใครเลย พี่เขาเห็นของเราที่ห้องเลยคิดว่ามีอีกคนเเน่ๆเเต่เราก็เที่ยวเพลินกลับดึก เราเลยคุยกันจนดึกก็เเยกย้ายนอน
พอถึงเช้าวันที่2 เรานัดนัดกับเพื่อนไว้ตอนบ่ายจะไปเที่ยวกัน ตอนเช้าเลยว่างเเต่นี่นอนไม่หลับก็เลยไปดูพระอาทิตขึ้นเเต่ตีห้าครึ่ง คนตอนเช้าไม่เยอะ ถ่ายรูปออกมาสวยดีเราชอบมากๆ
ถ่ายรูปจนหนำใจก็กลับมาที่พักพอดีพี่คนนั้นตื่นพอดีเเกบอกว่าจะพาไปกินข้าวมันไก่ที่อร่อยที่สุด เเล้วพี่เขาก็พาไปกินร้านหนึ่งในหัวหินชื่อว่า ร้านข้าวมันไก่ลมหวล หัวหิน" พอได้ลองก็อร่อยจริงๆ อยากให้ทุกคนที่ไปหัวหินลองกินข้าวมันไก่ร้านนี้กันนะ อร่อยมากจริงๆ เขาไม่ได้จ้างเนะ เราพูดจริงๆมันอร่อยที่สุดที่เคยกิน เรากินจนอิ่ม จากนั้นพี่เขาก็ใจดีจะพาไปเที่ยวอีกเเต่เเค่ใกล้ๆให้เราเลือกมา เราเลยเลือกไปเขาหินเหล็กไฟ วิวสวยเเต่ร้อน อยู่นานไม่ได้
พอชมวิวเสร็จเราก็ให้พี่เขาพาไป skoop beach cafe ที่ริมหาดเขาตะเกียบ
ทะเลที่นี่ยังสวยมาก สวยกว่าตอนเย็นอีก เรานั่งชิลดื่มกาเเฟสักพักก็พากันกลับไปที่พักเราเก็บของย้ายโรงแรม พี่เขาก็ใจดีไปส่งไปอีก เกรงใจมากเเต่ก็คิดว่าโชคดีมากเหมือนกัน พอเราถึงโรงเเรมที่ใหม่ก็ขอบคุณเขาเเล้วก็ say goodbye กัน จากนั้นก็พักผ่อน เรารอจนถึงเที่ยง เพื่อนก็ทักมาเกี่ยวกับเเพลนวันนี้มี4ที่
ที่เเรกคือ มูลนิธิช้างหัสดิน เขามีกิจกรรมให้ทำ เราเลือกให้อาหารกับจับช้าง300บาท ก็เข้าไปทำความรู้จักน้องๆพี่ๆช้าง น่ารักดี
ที่ๆ2คือบ้านศิลปินหัวหิน เราไปที่นั่นสำรวจผลงานศิลปะใช้เวลานานเลย
จากนั้นที่ๆ3ก็คือ เขาหินเหล็กไฟ จริงๆเราเคยไปละเมื่อเช้า บอกเพื่อนไปเเต่ก็ไปเป็นเพื่อนเขาอีกรอบ
วิวก็คือยังสวยเหมือนเดิมเพิ่มเติมคือร้อนกว่า ถ่ายรูปชมวิวอีก30นาที เเล้วก็กลับ ให้ grabไปส่งที่Night market
night market คือที่สุดท้ายของวันนี้ เเต่ตอนเราไปถึงยังไม่ใช่ตอนค่ำเลยไม่มีอะไร เราก็อยู่เเถวๆนั้นนั่งคาเฟ่ใกล้ๆรอ
พอค่ำๆก็พากันเดินไป night market เราเเนะนำเพื่อนให้ทานข้าวเกรียบปากหม้อ นางก็บอกว่าอร่อยดี
เราสองคนก็หาของกินเเล้วก็เเยกกันกับหออีกครั้ง เเต่ครั้งนี้คงไม่มีโอกาสได้เจอกันอีก เพราะเราจะกลับกทมเเล้วก็กลับบ้าน ส่วนเขาก็จะไปประจวบอีก1สัปดาห์เเล้วก็กลับอเมริกา เราก็เลย say goodbye กันตอนนั้นไปเลย วันที่3ตอนบ่ายเราก็กลับกทมด้วยรถไฟที่สถานีรถไฟหัวหิน จากประสบการณ์ที่เราได้เจอเพื่อนใหม่คนนี้เเค่2วันทำให้เราเปลี่ยนไปมากเลย ลืมเรื่องเครียดๆทิ้งไปหมด ตั้งเเต่วันเเรกที่ได้มาที่นี่ ได้ขี่ม้า มันก็หายไปเลยความเศร้านั้นเเละอาจเป็นเพราะเราก็ไม่ได้สนิทกันขนาดที่ต้องพูดถึงเรื่องนั้นเราเลยลืมๆไปมันก็ทำให้ลืมได้จริงๆ ประสบการณ์ครั้งนี้เป็นอะไรที่สุดยอดมาก เราได้เจอ holiday friend ที่เป็นมิตรภาพเเละความทรงจำที่ดี ได้ลองอะไรใหม่ๆ ได้ ขี่ม้า, ลองจับช้าง,ให้อาหารช้าง,ได้ลองไปบาร์ครั้งแรก ,ได้ลองไปสำรวจเมืองกับเพื่อนครั้งแรก ปกติเราเที่ยวคนเดียวตลอด เเต่ครั้งนี้ไม่ ก็สนุกดีนะ
สรุปค่าใช้จ่ายทริปนี้เราจ่ายไปรวมทั้งหมด2500 2วัน 2 คืน กับ 7-8 สถานี่ท่องเที่ยว
ทริปนี้เราเดินทางด้วยgrab เเล้วก็เเชร์ค่ารถ ของกิน ทุกๆอย่างหาร2 ถ้าเราไปคนเดียวเราคงไม่ได้ไปไหนเยอะเเบบนี้หรอก เเต่นี่หารเลย2ก็เลยจ่ายไหว
จบไปเเล้วกับทริป 3 วัน 2คืนของเรา
ขอบคุณที่อ่านจบนะคะ ยาวมาก อยากมาเเชร์ประสบการณ์ที่หัวหิน ที่นี่คนเป็นมิตรมาก อาหารก็ราคากลางๆไม่เเพงมากถ้าไม่ใช่อาหารในห้าง ไว้ใครอยากจะไปสอบถามอะไรเพิ่มเติมหลังไมค์ได้ค่ะ ยินดีที่จะตอบ
[CR] รีวิวหัวหินฉบับไปคนเดียว3วัน2คืน เเต่ไม่เดียวดาย
เพื่อนๆในนี้ใครชอบทะเลบ้าง เราชอบทะเลมากเเต่เป็นคนเหนือไม่มีโอกาสได้ไปทะเลมากนัก เรามากทมบ่อย มาสอบ เเละเห็นว่าหัวหินเป็นทะเลที่ไม่ไกลจากกรุงเทพมากนัก หลังสอบเสร็จ+เศร้า เลยตัดสินใจไปผ่อนคลายที่หัวหินสักพัก
เริ่มที่วันที่ 1 มิ.ย. 2566 เริ่มจากเดินทางไปที่สถานีรถไฟหัวลำโพง ตั๋วรถไฟไปหัวหิน44บาท รถออก09.20
ถึงหันหินประมาณ
14.30 ช้าไปสิบห้านาที
หลังจากนั้นก็เดินหาโฮลเทลที่จองไว้อยู่ใกล้ๆสถานีรถไฟ พอถึงห้องทำทุกอย่างเสร็จ ก็ทักหาเพื่อนที่อยู่หัวหิน เพื่อนก็เป็นคนที่เจอจากเเอปๆหนึ่งเป็นฝรั่งอยู่ที่หัวหิน2สัปดาห์ก่อนเรามา
เรากับเขาช่วยกันวางแพลนก่อนเรามาหัวหินก่อน1อาทิตย์ วันเเรกที่เเพลนไว้ก็คือ ขี่ม้า
เเต่ก่อนอื่นยังเหลือเวลาเพื่อนยังไม่มาเราเลยไปสำรวจหาดหัวหินก่อน เย็นมากทั้งๆที่เเดดจัดเเต่พออยู่ริมหาดก็รู้สึกว่าลมเเรงอยู่นะ
รอไปสักพักเพื่อนก็โทรตามละ ได้เวลาทำภารกิจขี่ม้าเเล้ว Let's go!
นี่เป็นครั้งเเรกเลยละที่เราจะได้ลองขี่ม้า ที่นี่อยู่ซอย61ท้ายซอย ขี่ม้า30นาที600บาท เราคิดว่ามันเเอบเเพงนะพยามต่อราคาเขา ต่อเเลบอ้อนวอนสุด555+ เพราะมา2คนเขาก็เลยลดให้คนละ50 ก็ยังดี ภารกิจขี่ม้าเริ่มขึ้นเเล้ว ตอนขึ้นไปบนหลังม้าก็ชิวๆนะเพราะมีคนบังคับให้ พอผ่านไปสักพักเขาจะให้เราบังคับเองเเต่คนดูเเลก็อยู่เเถวนี้แหละ เราเกร็งไปหมดเเต่ก็ผ่านมาได้อย่างทุลักทุเล ส่วนอีกคนนั้นดูชิลมาก
นี่เจ้าตัวที่เราขี่ ชื่อดีเซล
พอขี่ม้าเสร็จที่ต่อไปก็คือ วัดเขาตะเกียบ เพื่อนได้เหมารถไว้เเล้วไป3ที่ 700เเพงนะสำหรับเรา เเต่เเชร์กันได้ ที่เเรกไปถึงก็เดินขึ้นบันไดไปจะเจอเเต่ลิง ตอนเเรกก็มองว่าน่ารักจนก็ทั่งมันเเย่งน้ำมะนาวโซดาจากเราไป ช็อคมาก55 เเละเราก็เดินขึ้นไปถึงจุดสูงสุดทำให้มองลงมาเห็นวิวที่สวยมาก
ที่ต่อมาคือหาดเขาตะเกียบ กว่าจะถึงเกือบจะมืดเเต่ก็ยังสว่าง เราชอบหาดนี้นะสงบดี เเต่เราเเค่เดินเล่นเเถวนั้นแหละ เรากับเพื่อนคนนี้ก็เลยได้คุยกันมากขึ้น สัพเพเหระ เราชอบนะเวลาที่ได้รู้จักคนใหม่ๆมันทำให้เรามองโลกกว้างขึ้น เราคงโชคดีด้วยที่ได้เจอเเต่คนดีๆ
หลังจากเดินจนมืด ก็ไปต่อที่ hippie bar เป็นบาร์ริมชาดหาด อันนี้เราหาข้อมูลมาเอง เห็นดูชิวๆบรรยากาศริมชายหาดตอนกลางคืนก็สวยดี นี่ถ้ามาคนเดียวเหมือนเคยคงเหงาน่าดูเลย
เราสั่ง White Russian เเก้ว300คิดว่าคงเบาๆเเต่กินได้ชิลเเต่ยังดื่มไม่ถึงเเก้ว เริ่มรู้ว่ามันเเรงอยู่นะสำหรับเรา อาจเป็นเพราะเราไม่ค่อยดื่มเเอล หรือเพราะคออ่อนอยู่เเล้ว บรรยากาศที่นี่ดีมากเรามองไปรอบๆเเละนั่งคุยกันไปจนดึก ก็พากันเดินทางกลับที่พัก อยู่คนละที่เเต่ใกล้ๆกัน จากนั้นก็เเยกย้ายกันไปนอน เราถึงโฮสเทลดึก นึกว่ามีคนอยู่เต็มห้องรวมเเต่ได้ยินเสียงพี่ผู้ชายเตียงบนบอกให้เราเปิดไฟได้ ที่เเรกๆไม่กล้ากลัวรบกวนคนอื่น เเต่พี่เขาอยู่คนเดียวในห้อง สรุปห้องนั้นมีเเค่เรากับพี่คนนั้นเเค่2คน ก็ถือว่าได้ทำความรู้จักเพื่อนใหม่ไปในตัว พี่เขาบอกว่าไม่ได้ตั้งใจมาค้างเเต่เพราะมาส่งลูกค้าที่มาเที่ยวเเล้วมันดึกเเล้วขับรถกลับไม่ไหวเลยต้องนอนที่นี่ เเละก็รอเราตั้งเเต่เย็นเพราะในห้องนั้นไม่มีใครเลย พี่เขาเห็นของเราที่ห้องเลยคิดว่ามีอีกคนเเน่ๆเเต่เราก็เที่ยวเพลินกลับดึก เราเลยคุยกันจนดึกก็เเยกย้ายนอน
พอถึงเช้าวันที่2 เรานัดนัดกับเพื่อนไว้ตอนบ่ายจะไปเที่ยวกัน ตอนเช้าเลยว่างเเต่นี่นอนไม่หลับก็เลยไปดูพระอาทิตขึ้นเเต่ตีห้าครึ่ง คนตอนเช้าไม่เยอะ ถ่ายรูปออกมาสวยดีเราชอบมากๆ
ถ่ายรูปจนหนำใจก็กลับมาที่พักพอดีพี่คนนั้นตื่นพอดีเเกบอกว่าจะพาไปกินข้าวมันไก่ที่อร่อยที่สุด เเล้วพี่เขาก็พาไปกินร้านหนึ่งในหัวหินชื่อว่า ร้านข้าวมันไก่ลมหวล หัวหิน" พอได้ลองก็อร่อยจริงๆ อยากให้ทุกคนที่ไปหัวหินลองกินข้าวมันไก่ร้านนี้กันนะ อร่อยมากจริงๆ เขาไม่ได้จ้างเนะ เราพูดจริงๆมันอร่อยที่สุดที่เคยกิน เรากินจนอิ่ม จากนั้นพี่เขาก็ใจดีจะพาไปเที่ยวอีกเเต่เเค่ใกล้ๆให้เราเลือกมา เราเลยเลือกไปเขาหินเหล็กไฟ วิวสวยเเต่ร้อน อยู่นานไม่ได้
พอชมวิวเสร็จเราก็ให้พี่เขาพาไป skoop beach cafe ที่ริมหาดเขาตะเกียบ
ทะเลที่นี่ยังสวยมาก สวยกว่าตอนเย็นอีก เรานั่งชิลดื่มกาเเฟสักพักก็พากันกลับไปที่พักเราเก็บของย้ายโรงแรม พี่เขาก็ใจดีไปส่งไปอีก เกรงใจมากเเต่ก็คิดว่าโชคดีมากเหมือนกัน พอเราถึงโรงเเรมที่ใหม่ก็ขอบคุณเขาเเล้วก็ say goodbye กัน จากนั้นก็พักผ่อน เรารอจนถึงเที่ยง เพื่อนก็ทักมาเกี่ยวกับเเพลนวันนี้มี4ที่
ที่เเรกคือ มูลนิธิช้างหัสดิน เขามีกิจกรรมให้ทำ เราเลือกให้อาหารกับจับช้าง300บาท ก็เข้าไปทำความรู้จักน้องๆพี่ๆช้าง น่ารักดี
ที่ๆ2คือบ้านศิลปินหัวหิน เราไปที่นั่นสำรวจผลงานศิลปะใช้เวลานานเลย
จากนั้นที่ๆ3ก็คือ เขาหินเหล็กไฟ จริงๆเราเคยไปละเมื่อเช้า บอกเพื่อนไปเเต่ก็ไปเป็นเพื่อนเขาอีกรอบ
วิวก็คือยังสวยเหมือนเดิมเพิ่มเติมคือร้อนกว่า ถ่ายรูปชมวิวอีก30นาที เเล้วก็กลับ ให้ grabไปส่งที่Night market
night market คือที่สุดท้ายของวันนี้ เเต่ตอนเราไปถึงยังไม่ใช่ตอนค่ำเลยไม่มีอะไร เราก็อยู่เเถวๆนั้นนั่งคาเฟ่ใกล้ๆรอ
พอค่ำๆก็พากันเดินไป night market เราเเนะนำเพื่อนให้ทานข้าวเกรียบปากหม้อ นางก็บอกว่าอร่อยดี
เราสองคนก็หาของกินเเล้วก็เเยกกันกับหออีกครั้ง เเต่ครั้งนี้คงไม่มีโอกาสได้เจอกันอีก เพราะเราจะกลับกทมเเล้วก็กลับบ้าน ส่วนเขาก็จะไปประจวบอีก1สัปดาห์เเล้วก็กลับอเมริกา เราก็เลย say goodbye กันตอนนั้นไปเลย วันที่3ตอนบ่ายเราก็กลับกทมด้วยรถไฟที่สถานีรถไฟหัวหิน จากประสบการณ์ที่เราได้เจอเพื่อนใหม่คนนี้เเค่2วันทำให้เราเปลี่ยนไปมากเลย ลืมเรื่องเครียดๆทิ้งไปหมด ตั้งเเต่วันเเรกที่ได้มาที่นี่ ได้ขี่ม้า มันก็หายไปเลยความเศร้านั้นเเละอาจเป็นเพราะเราก็ไม่ได้สนิทกันขนาดที่ต้องพูดถึงเรื่องนั้นเราเลยลืมๆไปมันก็ทำให้ลืมได้จริงๆ ประสบการณ์ครั้งนี้เป็นอะไรที่สุดยอดมาก เราได้เจอ holiday friend ที่เป็นมิตรภาพเเละความทรงจำที่ดี ได้ลองอะไรใหม่ๆ ได้ ขี่ม้า, ลองจับช้าง,ให้อาหารช้าง,ได้ลองไปบาร์ครั้งแรก ,ได้ลองไปสำรวจเมืองกับเพื่อนครั้งแรก ปกติเราเที่ยวคนเดียวตลอด เเต่ครั้งนี้ไม่ ก็สนุกดีนะ
สรุปค่าใช้จ่ายทริปนี้เราจ่ายไปรวมทั้งหมด2500 2วัน 2 คืน กับ 7-8 สถานี่ท่องเที่ยว
ทริปนี้เราเดินทางด้วยgrab เเล้วก็เเชร์ค่ารถ ของกิน ทุกๆอย่างหาร2 ถ้าเราไปคนเดียวเราคงไม่ได้ไปไหนเยอะเเบบนี้หรอก เเต่นี่หารเลย2ก็เลยจ่ายไหว
จบไปเเล้วกับทริป 3 วัน 2คืนของเรา
ขอบคุณที่อ่านจบนะคะ ยาวมาก อยากมาเเชร์ประสบการณ์ที่หัวหิน ที่นี่คนเป็นมิตรมาก อาหารก็ราคากลางๆไม่เเพงมากถ้าไม่ใช่อาหารในห้าง ไว้ใครอยากจะไปสอบถามอะไรเพิ่มเติมหลังไมค์ได้ค่ะ ยินดีที่จะตอบ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้