ช่วงฤดูร้อนต่อฤดูฝนแบบนี้ คงเป็นช่วงเวลาที่เหล่า Durian Lover ตั้งตารอคอย ผมและผองเพื่อนก็เช่นกัน ปัจจุบันทุเรียนมีหลากหลายสายพันธุ์ หลายๆ จังหวัดต่างทยอยงัดความพิเศษของสายพันธุ์ทุเรียนพื้นบ้านออกมาให้เหล่าสาวกทุเรียนได้ลิ้มลองกันหลายรสชาติมาก แต่หนึ่งในนั้นคือ ทุเรียนหมอนทองระยอง ยังคงเป็นพันธุ์ที่ผมชื่นชอบ ด้วยเพราะความหวาน มัน พลูใหญ่ เม็ดลีบ ทำให้เวลากินแล้วรู้สึกได้รสชาติของทุเรียนเต็มปากเต็มคำ ในเมื่อช่วงนี้ทุเรียนกำลังทยอยออกผลผลิต มีหรือผมจะปล่อยโอกาสนั้นไป ว่าแล้วก็ปักหมุดมุ่งหน้าไปยังจังหวัดระยอง จังหวัดที่อุดมสมบูรณ์ด้วยผลไม้นานาพันธุ์ ไม่ว่าจะเป็นเงาะ สละ ลองกอง มังคุด ที่จะออกผลมาให้กินพร้อมๆ กับทุเรียน ครับ
ผมออกเดินทางจากลพบุรีตั้งแต่เช้ามืด เข้าเขตจังหวัดระยองในช่วงสายๆ ก่อนที่จะไปกินบุฟเฟต์ผลไม้ ผมขอแวะหากิจกรรมที่เผาผลาญพลังงานกันก่อน (จะได้กินผลไม้ได้เยอะๆ) โดยจุดหมายแรกผมมุ่งหน้าสู่สวนพฤกษศาสตร์ระยองครับ
สวนพฤกษศาสตร์ระยอง ตั้งอยู่ในอำเภอแกลง จัดตั้งขึ้นเพื่อเป็นศูนย์ศึกษาวิจัยและรวบรวมพรรณไม้ของภาคตะวันออก นอกจากนี้ยังเป็นพื้นที่อนุรักษ์ทรัพยากรพันธุ์พืชของพื้นที่ชุ่มน้ำและป่าเสม็ด กินพื้นที่ราวๆ 2,500 ไร่ อีกด้วย รวมถึงเป็นแหล่งพักผ่อนและเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศที่สำคัญของจังหวัดระยองด้วยครับ
โดยกิจกรรมที่สวนพฤกษศาสตร์ระยองเตรียมไว้ให้นักท่องเที่ยว ประกอบด้วย การนั่งเรือเครื่อง การพายคายัค การปั่นจักรยาน รอบๆ สวนพฤกษศาสตร์ครับ
การเข้ามาในสวนพฤกษศาสตร์ ไม่มีค่าบริการใดๆ แต่ถ้าหากใครต้องการทำกิจกรรม จะมีค่าบริการดังนี้
- ค่าบริการเรือเครื่อง ชั่วโมงละ 600 บาท นั่งได้ 6 คน
- ค่าเช่าคายัค ชั่วโมงละ 100 บาท 1 ลำ นั่งได้ 2 คน
- ค่าเช่าจักรยาน 2 ล้อ รอบละ 50 บาท
โดยสามารถติดต่อที่อาคารชั่วคราวชั้นเดียว ด้านซ้ายมือของภาพครับ
ใครที่ไม่อยากออกแรง ต้องการซึมซับกับบรรยากาศเพียงผิวเผิน ผมแนะนำให้นั่งเรือเครื่องครับ นั่งชิวๆ ภายใต้หลังคาเรือ ที่กันแดดกันฝนได้ ประมาณ 45 นาที ระหว่างทางจะได้สัมผัสกับแพหญ้าหนังหมา แพกอหญ้าที่ทับถมเป็นชั้นๆ ลอยอยู่บนผืนน้ำ มีความแข็งแรงขนาดให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปเดินบนแพหนังหมาได้ จากนั้นจะผ่านป่าเสม็ดพันปี และปิดท้ายด้วยทะเลบัวสีม่วง
แต่ถ้าใครมีเวลาน้อย แต่อยากสัมผัสกับธรรมชาติของป่าเสม็ดพันปี ก็สามารถเช่าจักรยานไปปั่นได้เช่นกัน
แต่ถ้าใครอยากที่จะสัมผัสกับป่าเสม็ดพันปีแบบใกล้ชิด และอยากออกกำลังแขน ผมขอแนะนำพายเรือคายัคครับ รับรองว่าคุณจะได้ภาพสวยๆ ไปอวดเพื่อนๆ อย่างแน่นอน
หลังจากติดต่อเช่าคายัคเรียบร้อยแล้ว นักท่องเที่ยวจะต้องใส่เสื้อชูชีพก่อนการพายคายัคนะครับ การพายคายัคที่นี่ บอกเลยว่าไม่ยาก เพราะน้ำนิ่ง ไม่มีคลื่น เหนื่อยไม่ได้เสี้ยวของการพายคายัคในทะเลครับ
เส้นทางการพาย เราต้องพายรอดใต้สะพานรักษ์เสม็ด มุมตรงนี้ ถ้าได้บินโครน จะสวยมากครับ เพราะจะได้เห็นภาพสะพานรักษ์เสม็ดมุม Top View ที่รายล้อมด้วยป่าเสม็ดพันปี
เมื่อพายพ้นสะพานรักษ์เสม็ดแล้ว เราจะเริ่มพบกับต้นเสม็ดขาว ที่อยู่ในอ้อมกอดของบัวสีม่วง ดูสวยงามมากๆ ครับ
ยิ่งพายเข้าไปลึกๆ เหมือนเราได้นั่ง Time machine ย้อนกลับเข้าไปในยุค Jurassic ด้วยรูปทรงของป่าเสม็ดขาวขนาดใหญ่ ผุดขึ้นมากลางพื้นที่ชุ่มน้ำจนเป็นป่าผืนใหญ่ พาลให้จินตนาการไปต่างๆ นานา ป่าเสม็ดขาวที่นี่นับเป็นป่าเสม็ดขาวผืนสุดท้ายของภาคตะวันออกที่มีความอุดมสมบูรณ์ จนได้รับฉายาว่า ป่าเสม็ดพันปี จุดนี้ เรือเครื่องเข้าไม่ถึงนะครับ เพราะระดับน้ำค่อนข้างตื้น
หลุดจากป่าเสม็ดพันปี เราก็จะพายผ่านทุ่งบัวสีม่วง ที่กำลังเบ่งบานอยู่ทั่วทั้งผืนน้ำ ใครอยากจะมาชมความสวยงามของดอกบัว แนะนำให้มาในช่วงเช้าๆ นะครับ เพราะถ้ายิ่งสาย ความสวยงามก็จะลดลงครับ
ระหว่างการพาย เราจะต้องคอยสังเกตธงสีที่จะเป็นตัวบอกทิศทางการพายของเรานะครับ หากเกิดกรณีฉุกเฉินสามารถโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ได้ (093-1389095 หรือ 038-638880) ผมใช้เวลาในการพายคายัคประมาณ 1 ชั่วโมงครับ
[CR] “ระยอง” วันเดียว..ก็เที่ยวได้
ผมออกเดินทางจากลพบุรีตั้งแต่เช้ามืด เข้าเขตจังหวัดระยองในช่วงสายๆ ก่อนที่จะไปกินบุฟเฟต์ผลไม้ ผมขอแวะหากิจกรรมที่เผาผลาญพลังงานกันก่อน (จะได้กินผลไม้ได้เยอะๆ) โดยจุดหมายแรกผมมุ่งหน้าสู่สวนพฤกษศาสตร์ระยองครับ
สวนพฤกษศาสตร์ระยอง ตั้งอยู่ในอำเภอแกลง จัดตั้งขึ้นเพื่อเป็นศูนย์ศึกษาวิจัยและรวบรวมพรรณไม้ของภาคตะวันออก นอกจากนี้ยังเป็นพื้นที่อนุรักษ์ทรัพยากรพันธุ์พืชของพื้นที่ชุ่มน้ำและป่าเสม็ด กินพื้นที่ราวๆ 2,500 ไร่ อีกด้วย รวมถึงเป็นแหล่งพักผ่อนและเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศที่สำคัญของจังหวัดระยองด้วยครับ
โดยกิจกรรมที่สวนพฤกษศาสตร์ระยองเตรียมไว้ให้นักท่องเที่ยว ประกอบด้วย การนั่งเรือเครื่อง การพายคายัค การปั่นจักรยาน รอบๆ สวนพฤกษศาสตร์ครับ
การเข้ามาในสวนพฤกษศาสตร์ ไม่มีค่าบริการใดๆ แต่ถ้าหากใครต้องการทำกิจกรรม จะมีค่าบริการดังนี้
- ค่าบริการเรือเครื่อง ชั่วโมงละ 600 บาท นั่งได้ 6 คน
- ค่าเช่าคายัค ชั่วโมงละ 100 บาท 1 ลำ นั่งได้ 2 คน
- ค่าเช่าจักรยาน 2 ล้อ รอบละ 50 บาท
โดยสามารถติดต่อที่อาคารชั่วคราวชั้นเดียว ด้านซ้ายมือของภาพครับ
ใครที่ไม่อยากออกแรง ต้องการซึมซับกับบรรยากาศเพียงผิวเผิน ผมแนะนำให้นั่งเรือเครื่องครับ นั่งชิวๆ ภายใต้หลังคาเรือ ที่กันแดดกันฝนได้ ประมาณ 45 นาที ระหว่างทางจะได้สัมผัสกับแพหญ้าหนังหมา แพกอหญ้าที่ทับถมเป็นชั้นๆ ลอยอยู่บนผืนน้ำ มีความแข็งแรงขนาดให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปเดินบนแพหนังหมาได้ จากนั้นจะผ่านป่าเสม็ดพันปี และปิดท้ายด้วยทะเลบัวสีม่วง
แต่ถ้าใครมีเวลาน้อย แต่อยากสัมผัสกับธรรมชาติของป่าเสม็ดพันปี ก็สามารถเช่าจักรยานไปปั่นได้เช่นกัน
แต่ถ้าใครอยากที่จะสัมผัสกับป่าเสม็ดพันปีแบบใกล้ชิด และอยากออกกำลังแขน ผมขอแนะนำพายเรือคายัคครับ รับรองว่าคุณจะได้ภาพสวยๆ ไปอวดเพื่อนๆ อย่างแน่นอน
หลังจากติดต่อเช่าคายัคเรียบร้อยแล้ว นักท่องเที่ยวจะต้องใส่เสื้อชูชีพก่อนการพายคายัคนะครับ การพายคายัคที่นี่ บอกเลยว่าไม่ยาก เพราะน้ำนิ่ง ไม่มีคลื่น เหนื่อยไม่ได้เสี้ยวของการพายคายัคในทะเลครับ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้