ชลน่าน - พิธา โชว์หวาน ให้คำมั่นสัญญา เพื่อไทย พร้อมล่มหัวจมท้าย ก้าวไกล
https://www.khaosod.co.th/election-2023/news_7691078
“ชลน่าน – พิธา” โชว์หวาน ประกบมือเป็นรูปหัวใจ ให้คำมั่นสัญญา “เพื่อไทย” พร้อมล่มหัวจมท้าย “ก้าวไกล” ไม่ว่าอยู่สถานะไหน เหตุได้รับอาณัติจากประชาชนรวมกันกว่า 25 ล้านเสียง ปฏิเสธไม่ได้ เป็นข้อผูกมัดแน่นมาก
เมื่อเวลา 16.15 น. วันที่ 30 พ.ค. ที่พรรคประชาชาติ (ปช.) นพ.
ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวภายหลังการประชุมร่วม 8 พรรคการเมืองจัดตั้งรัฐบาล ที่มีการตั้งคณะกรรมการประสานงานเปลี่ยนผ่านรัฐบาลขึ้นมา ว่า ในส่วนความเชื่อมั่นของประชาชน เรื่องการทำงานร่วมกันของก้าวไกล เพื่อไทย ในการจัดตั้งรัฐบาล ตนในฐานะตัวแทนพรรคเพื่อไทย เราได้รับมอบอาณัติจากประชาชนมอบหมายให้เพื่อไทย และก้าวไกล รวมกัน 25 ล้านเสียง
เพราะฉะนั้นมีเจตจำนงของประชาชนเช่นนี้ เพื่อไทยและก้าวไกลปฏิเสธไม่ได้ จะทำความฝันของประชาชนให้บรรลุคือ รัฐบาลจากฝ่ายเสรีประชาธิปไตย ที่ต้องการปิดกั้นอำนาจไม่ชอบธรรมทั้งหลาย เราสองฝ่ายเห็นตรงกัน เป็นการมัดที่แน่น เป็นข้อผูกมัดที่เราคำนึงถึงเป็นอย่างมาก ให้ความมั่นใจ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นเราจะอยู่ด้วยกันตลอด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นพ.
ชลน่าน ยังได้พูดหยอกตกับสื่อว่า “
หวานไหม หวานไหม” พร้อมทั้งกอดและจับมือ
นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ก่อนพูดย้ำว่า “
เน้นย้ำไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เราจะอยู่ด้วยกันตลอดไป เพื่อตั้งรัฐบาลของพี่น้องประชาชนให้ได้”
เมื่อถามว่าที่ นพ.
ชลน่านพูดว่า เพื่อไทยกับก้าวไกลอยู่ด้วยกันตลอดนั้น สมมติหากเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองกับนาย
พิธา หรือพรรคก้าวไกล เพื่อไทยและพรรคร่วมจะจับมือจัดตั้งรัฐบาลอยู่หรือไม่ นพ.
ชลน่าน กล่าวว่า ไม่มีสมมติ หรืออุบัติเหตุ แต่ยืนยันไม่ว่าอะไรเกิดขึ้น เชื่อว่า 8 พรรคอยู่ด้วยกัน โดยเฉพาะก้าวไกล เพื่อไทย จะเป็นพรรคหลักที่จะนำเรื่องนี้ ขอให้ความมั่นใจ
“
ไม่มีแต่ จัดตั้งรัฐบาลด้วยกันอยู่แล้ว แต่ไม่ได้จัดตั้งตามกระทรวง จัดตั้งตาม MOU เพราะ MOU คือวาระร่วม จัดตั้งคณะทำงานตาม MOU สัปดาห์ก่อน เพื่อให้ประชาชนมั่นใจได้ว่า MOU ไม่ใช่กระดาษเปล่า แต่มีคณะทำงาน ทำได้จริง” นพ.ชลน่าน กล่าว
นพ.
ชลน่าน กล่าวด้วยว่า พรรคเพื่อไทยมี 3 ประเด็นที่จะแจ้งแก่ประชาชนคือ
1. เพื่อไทย สนับสนุนภารกิจที่เราได้แถลงต่อสื่อวันนี้ คือคณะกรรมการประสานงานระยะเปลี่ยนผ่าน จนคณะทำงานชุดต่างๆ คาดหวังนโยบายที่ดีที่สุดของรัฐบาลพวกเรา เป็นคำแถลงนโยบายที่ดีที่สุด นั่นคือเป้าหมายของพวกเรา
2. การจัดสรรตำแหน่งต่างๆ พรรคเพื่อไทย ยืนยันว่า เป็นการแบ่งงานกันทำตามวาระงาน ที่หัวหน้าพรรคก้าวไกล ว่าที่นายกฯ จะใช้วาระงานเป็นหลัก เสนอร่วมกันใน MOU กระทรวงใดก็แล้วแต่ จะยึดเป็นเรื่องสำคัญ และ
3. ดีลล้วง ดีลลับต่างๆ เพื่อไทยยืนยัน จะเปลี่ยนเป็นดีลรักให้หมด เพื่อรัฐบาลของพี่น้องประชาชน
ทั้งนี้ ภายหลังเสร็จสิ้นการแถลงข่าว นพ.
ชลน่าน และนาย
พิธา ได้นำมือมาประกบกันเป็นรูปหัวใจด้วย
พิธา ฟาดกลับ บิ๊กตู่ ยันไม่ก้าวก่ายงานขรก. เผยหลายหน่วยงาน อยากให้ข้อมูลเอง
https://www.khaosod.co.th/election-2023/news_7690461
พิธา ยันคณะทำงานเปลี่ยนผ่านรัฐบาล ไม่เคยละลาบละล้วงงานหรือสั่งการข้าราชการ-รัฐบาลรักษาการ ระบุหลายหน่วยงานอยากให้ข้อมูลเอง
เมื่อเวลา 14.25 น. วันที่ 30 พ.ค.2566 ที่พรรคประชาชาติ (ปช.) นาย
พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล 8 พรรคว่า วันนี้มาประชุมในเรื่องคณะทำงานเปลี่ยนผ่านรัฐบาล หรือ Transition Team เกี่ยวกับปัญหาของประชาชน ตั้งแต่เรื่องภัยแล้ง น้ำท่วม ราคาพลังงาน เรือดำน้ำ รวมถึงการประชุมสหประชาชาติ ในเดือน ก.ย.นี้ของรัฐบาลชุดใหม่
ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องที่ประชาชน ข้าราชการ และภาคเอกชน อาจจะถามในเมื่อเรามีเป้าหมายร่วมกันที่ชัดเจนในเอ็มโอยู เมื่อวันที่ 22 พ.ค.ที่ผ่านมา วันนี้จึงอยากมาพูดคุยกันเรื่องกระบวนการทำงาน เพื่อให้ถึงเป้าหมายตรงนั้น จึงอยากนัดประชุมพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลกันอยู่เรื่อยๆ ทุก 1-2 สัปดาห์ และจะจัดตั้งคณะทำงานแก้ไขปัญหาต่างๆ โดยเอาปัญหาประชาชนเป็นตัวตั้ง ไม่ได้แบ่งเป็นรายกระทรวงว่าจะต้องทำอะไรอย่างไร กฎหมายที่ค้างอยู่มีอะไรบ้าง พอเราประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นัดแรก เราจะได้เรียงลำดับความสำคัญในการประชุม ทั้งหมดนี้เป็นสาระคร่าวๆ ที่เตรียมมาพูดคุยกับหัวหน้าพรรคทั้ง 7 พรรค
เมื่อถามว่าในการประชุมวันนี้จะมีการพูดคุยเรื่องตำแหน่งประธานสภา หรือไม่ นาย
พิธา กล่าวว่า ไม่มี
เมื่อถามว่าการทำงานในขณะนี้เป็นการละลาบละล้วงรัฐบาลรักษาการหรือไม่ นาย
พิธา กล่าวว่า ไม่มีการละลาบละล้วงข้าราชการ เราทำงานในลักษณะคณะทำงานเปลี่ยนผ่าน พูดคุยกับภาคเอกชน หรือหากข้าราชการต้องการพูดคุยกับนักการเมืองก็เป็นสิทธิของข้าราชการ แต่ยืนยันว่าเราไม่เคยเข้าไปละลาบละล้วงขอข้อมูล หรือขอดูงบประมาณแต่อย่างใด
“
ทุกวันนี้ทางหน่วยงานราชการ เป็นคนเชิญเราเอง ซึ่งเชิญในฐานะนักการเมืองมากกว่า เขามีความกังวลใจในหลายๆ เรื่อง ที่ค้างอยู่ใน ครม.ชุดที่แล้ว ซึ่งยังไม่ได้รับการผลักดัน การไปพบกันแต่ละครั้งเรามีกรอบการทำงานว่า ไม่ได้ไปละลาบละล้วงหรือไปสั่งข้าราชการ ไม่เช่นนั้นอาจเกิดความสับสน ซึ่งในการประชุมวันนี้จะมีการพูดคุยกันเรื่องนี้ว่าต้องใช้ความระมัดระวัง” นาย
พิธา กล่าว
อย่างไรก็ตาม เวลานี้มีหลายหน่วยงานต้องการพูดคุยกับผม และต้องการนำเสนอนโยบายหน่วยงานแต่ละส่วน ซึ่งทุกอย่างเป็นไปตามหลักสากลในระยะเปลี่ยนผ่านว่าเราจะทำได้ตามขอบเขตแค่ไหน เพื่อให้ประชาชนมีความหวังและให้ข้าราชการมีภาระน้อยที่สุด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ พล.อ.
ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ติติงกรณีพรรคก้าวไกล ตั้งทีมงานเพื่อเปลี่ยนผ่านรัฐบาล เพื่อรับงานต่อจากรัฐบาล อาจจะไปขอข้อมูลกับส่วนราชการ โดยระบุว่า “
มันไม่ควร มันไม่สมควร ส่วนราชการเขายังอยู่กับรัฐบาลปัจจุบัน วันหน้าเขาก็เตรียมข้อมูลต่างๆ ส่งมอบ ซึ่งผมก็ย้ำไปหลายครั้งแล้ว”
แฉกลเม็ดส่วยหวย แยบยลใช้เบอร์ทองแทนสติ๊กเกอร์ ขายใบละ 200 บาท แลกไม่โดนจับ
https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_7691053
แฉกลเม็ดส่วยหวย แยบยลใช้เบอร์ทองแทนสติ๊กเกอร์ ขายใบละ 200 บาท แลกไม่โดนจับ พ่อค้าแม่ค้าหวยจำใจต้องซื้อ หวั่นมีปัญหาตามมาภายหลัง
เมื่อวันที่ 30 พ.ค.66 ผู้สื่อข่าวตรวจสอบพ่อค้าแม่ค้าขายลอตเตอรี่ในพื้นที่ จ.ระยอง กรณีเกี่ยวกับประเด็นที่นาย
วิโรจน์ ลักขณาอดิศร ว่าที่ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ออกมาแฉกระบวนการส่วยรถบรรทุก ก่อนออกมาแฉเพิ่มอีกในประเด็นส่วยหวย แผงไหนติดสติ๊กเกอร์ นั่นหมายความว่าสามารถขายเกินราคาได้ ตำรวจไม่จับ
จากการตรวจสอบพบว่า พ่อค้าแม่ค้าขายลอตเตอรี่ ในพื้นที่ ต.ห้วยโป่ง อ.เมือง จ.ระยอง เปิดเผยอ้างว่า พ่อค้าแม่ค้าในพื้นที่ต่างต้องจ่ายเงินให้กับตำรวจทุกเดือน แต่การเรียกเก็บเงินจะมาในรูปแบบของเบอร์ทอง ที่มีตัวเลขสามตัว โดยมีราคาใบละ 200 บาท พ่อค้าลอตเตอรี่รายใหญ่จะต้องซื้อ เบอร์ทอง 8 ใบ เป็นเงิน 1,600 บาท ส่วนเจ้าเล็กก็ลดหลั่นกันไป โดยเจ้าเล็กสุดต้องซื้อเบอร์ทอง 2 ใบ เป็นเงิน 400 บาท พ่อค้าแม่ค้าทุกคนต้องเก็บเบอร์ทองไว้เป็นหลักฐาน หากเรียกตรวจสอบ หากพ่อค้าแม่ค้าเจ้าไหนไม่จ่ายจะถูกจับและเสียค่าปรับเป็นเงินนับหมื่นบาท ทำให้ทุกรายต่างต้องยอมจ่าย ส่วนเบอร์ที่ซื้อจะแตกต่างกับเบอร์ทองทั่วไป ตัวเลขของเบอร์ทอง หากถูกรางวัลจะไม่ได้รับเงิน เท่ากับเป็นส่วยแลกกับการไม่ถูกจับ สำหรับพื้นที่ ต.ห้วยโป่ง มีพ่อค้าขายสลากกินแบ่งไม่ต่ำกว่า 30 ราย
ส่วนในพื้นที่ทั่วไปของจ.ระยอง เกือบทุกพื้นที่ต่างมีส่วยลอตเตอรี่ แต่พ่อค้าแม่ค้าไม่กล้าเปิดเผย เพราะกลัวจะถูกกลั่นแกล้ง เหมือนกับแม่ค้ารายหนึ่งที่เคยเปิดเผยเรื่องส่วยสติ๊กเกอร์ติดที่แผงลอตเตอรี่ที่ถูกจับหลังจากเปิดเผยข้อมูล
พ่อค้าแม่ค้าลอตเตอรี่ของระยองส่วนใหญ่ต่างจำเป็นต้องยอมจ่ายส่วยให้กับตำรวจ ไม่จ่ายก็ขายไม่ได้ จะให้ขายราคา 80 บาท ก็ขายไม่ได้เพราะต้นทุนมาก็เกินแล้ว
ทรูวิชั่นบล็อกข่าวการเมืองไทยอีกแล้ว ล่าสุดข่าวบีบีซีสัมภาษณ์พิธาหลังเลือกตั้ง
https://prachatai.com/journal/2023/05/104362
ทรูวิชั่นตัดสัญญาณภาพรายการข่าวบีบีซีชิ้นสัมภาษณ์ "ทิม พิธา" เกี่ยวกับผลการเลือกตั้งและกระแสต่างๆ ที่มีต่อพรรค ก่อนหน้านี้บริษัทก็เคยทำมาแล้วหลายครั้งกับข่าวที่เกี่ยวกับการเมืองไทยและบริษัทยังเคยเปิดรับสมัครตำแหน่งเซ็นเซอร์ข่าวต่างประเทศ
https://twitter.com/8td/status/1663356860903325696
30 พ.ค.2566
ธัญญารัตน์ ดอกสน นักข่าวจากสำนักข่าวบีบีซี ทวีตลงในทวิตเตอร์ส่วนตัวระบุว่า ช่วงเช้าวันนี้ช่องทรูวิชั่นตัดสัญญาณภาพรายการของสำนักข่าวบีบีซีช่วงที่มีการสัมภาษณ์
พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล โดยทางช่องขึ้นข้อความ
"Program will resume shortly" (รายการจะกลับมาฉายในไม่ช้า)
เนื้อหาบางส่วนของการสัมภาษณ์ที่สำนักข่าวบีบีซีตัดนำมาเผยแพร่บนเว็บไซต์ของสำนักข่าวภาคภาษาอังกฤษ
ทั้งนี้เนื้อหาที่ปรากฏในการสัมภาษณ์ระหว่าง
โจนาธาน เฮด นักข่าวจากบีบีซี และ
พิธา เป็นเรื่องหลังการเลือกการเลือกตั้งที่ผ่านมา รวมถึงมีคำถามที่เกี่ยวกับนโยบายของพรรคก้าวไกลที่จะแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ที่เป็นข้อหาหมิ่นประมาทกษัตริย์ แต่ถูกกระแสต่อต้านและ ส.ว.ก็แสดงท่าทีขัดขวางเหตุใดพรรคจึงไม่ยุติการผลักดันเรื่องนี้
พิธาตอบคำถามเรื่องนี้ว่าเป็นนโยบายที่พรรคให้สัญญาไว้กับประชาชนและจากการเลือกตั้งที่ผ่านมาประชาชนก็ยังลงคะแนนให้กับพรรคก้าวไกลเป็นจำนวนถึง 14 ล้านเสียงอีกด้วย
ที่ผ่านมา เมื่อ 25 เม.ย.2563 บริษัททรูเคยประกาศรับสมัครงานในตำแหน่งเซ็นเซอร์ข่าวต่างประเทศเป็นการเฉพาะ โดยระบุเนื้องานที่เจ้าหน้าที่ในตำแหน่งนี้ต้องทำคือการตรวจสอบสื่อต่างๆ เพื่อตัดส่วนที่ไม่เหมาะสมออก และ 2. ปฏิบัติงานควบคุมการออกอากาศรายการช่องข่าวต่างประเทศ เพื่อไม่ให้เนื้อหาที่ขัดต่อกฎหมายหรือข้อห้ามของประเทศไทย โดยเฉพาะขัดต่อ “กฎหมายรัฐธรรมนูญไทย มาตรา 112” ถูกออกอากาศ
JJNY : 6in1 ชลน่าน - พิธาโชว์หวาน│พิธาฟาดกลับตู่│แฉส่วยหวย│ทรูวิชั่นบล็อกข่าวพิธา│ส่งออกเม.ย.ติดลบ│รัสเซียวุ่น โดรนโจมตี
https://www.khaosod.co.th/election-2023/news_7691078
“ชลน่าน – พิธา” โชว์หวาน ประกบมือเป็นรูปหัวใจ ให้คำมั่นสัญญา “เพื่อไทย” พร้อมล่มหัวจมท้าย “ก้าวไกล” ไม่ว่าอยู่สถานะไหน เหตุได้รับอาณัติจากประชาชนรวมกันกว่า 25 ล้านเสียง ปฏิเสธไม่ได้ เป็นข้อผูกมัดแน่นมาก
เมื่อเวลา 16.15 น. วันที่ 30 พ.ค. ที่พรรคประชาชาติ (ปช.) นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวภายหลังการประชุมร่วม 8 พรรคการเมืองจัดตั้งรัฐบาล ที่มีการตั้งคณะกรรมการประสานงานเปลี่ยนผ่านรัฐบาลขึ้นมา ว่า ในส่วนความเชื่อมั่นของประชาชน เรื่องการทำงานร่วมกันของก้าวไกล เพื่อไทย ในการจัดตั้งรัฐบาล ตนในฐานะตัวแทนพรรคเพื่อไทย เราได้รับมอบอาณัติจากประชาชนมอบหมายให้เพื่อไทย และก้าวไกล รวมกัน 25 ล้านเสียง
เพราะฉะนั้นมีเจตจำนงของประชาชนเช่นนี้ เพื่อไทยและก้าวไกลปฏิเสธไม่ได้ จะทำความฝันของประชาชนให้บรรลุคือ รัฐบาลจากฝ่ายเสรีประชาธิปไตย ที่ต้องการปิดกั้นอำนาจไม่ชอบธรรมทั้งหลาย เราสองฝ่ายเห็นตรงกัน เป็นการมัดที่แน่น เป็นข้อผูกมัดที่เราคำนึงถึงเป็นอย่างมาก ให้ความมั่นใจ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นเราจะอยู่ด้วยกันตลอด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นพ.ชลน่าน ยังได้พูดหยอกตกับสื่อว่า “หวานไหม หวานไหม” พร้อมทั้งกอดและจับมือนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ก่อนพูดย้ำว่า “เน้นย้ำไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เราจะอยู่ด้วยกันตลอดไป เพื่อตั้งรัฐบาลของพี่น้องประชาชนให้ได้”
เมื่อถามว่าที่ นพ.ชลน่านพูดว่า เพื่อไทยกับก้าวไกลอยู่ด้วยกันตลอดนั้น สมมติหากเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองกับนายพิธา หรือพรรคก้าวไกล เพื่อไทยและพรรคร่วมจะจับมือจัดตั้งรัฐบาลอยู่หรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ไม่มีสมมติ หรืออุบัติเหตุ แต่ยืนยันไม่ว่าอะไรเกิดขึ้น เชื่อว่า 8 พรรคอยู่ด้วยกัน โดยเฉพาะก้าวไกล เพื่อไทย จะเป็นพรรคหลักที่จะนำเรื่องนี้ ขอให้ความมั่นใจ
“ไม่มีแต่ จัดตั้งรัฐบาลด้วยกันอยู่แล้ว แต่ไม่ได้จัดตั้งตามกระทรวง จัดตั้งตาม MOU เพราะ MOU คือวาระร่วม จัดตั้งคณะทำงานตาม MOU สัปดาห์ก่อน เพื่อให้ประชาชนมั่นใจได้ว่า MOU ไม่ใช่กระดาษเปล่า แต่มีคณะทำงาน ทำได้จริง” นพ.ชลน่าน กล่าว
นพ.ชลน่าน กล่าวด้วยว่า พรรคเพื่อไทยมี 3 ประเด็นที่จะแจ้งแก่ประชาชนคือ
1. เพื่อไทย สนับสนุนภารกิจที่เราได้แถลงต่อสื่อวันนี้ คือคณะกรรมการประสานงานระยะเปลี่ยนผ่าน จนคณะทำงานชุดต่างๆ คาดหวังนโยบายที่ดีที่สุดของรัฐบาลพวกเรา เป็นคำแถลงนโยบายที่ดีที่สุด นั่นคือเป้าหมายของพวกเรา
2. การจัดสรรตำแหน่งต่างๆ พรรคเพื่อไทย ยืนยันว่า เป็นการแบ่งงานกันทำตามวาระงาน ที่หัวหน้าพรรคก้าวไกล ว่าที่นายกฯ จะใช้วาระงานเป็นหลัก เสนอร่วมกันใน MOU กระทรวงใดก็แล้วแต่ จะยึดเป็นเรื่องสำคัญ และ
3. ดีลล้วง ดีลลับต่างๆ เพื่อไทยยืนยัน จะเปลี่ยนเป็นดีลรักให้หมด เพื่อรัฐบาลของพี่น้องประชาชน
ทั้งนี้ ภายหลังเสร็จสิ้นการแถลงข่าว นพ.ชลน่าน และนายพิธา ได้นำมือมาประกบกันเป็นรูปหัวใจด้วย
พิธา ฟาดกลับ บิ๊กตู่ ยันไม่ก้าวก่ายงานขรก. เผยหลายหน่วยงาน อยากให้ข้อมูลเอง
https://www.khaosod.co.th/election-2023/news_7690461
พิธา ยันคณะทำงานเปลี่ยนผ่านรัฐบาล ไม่เคยละลาบละล้วงงานหรือสั่งการข้าราชการ-รัฐบาลรักษาการ ระบุหลายหน่วยงานอยากให้ข้อมูลเอง
เมื่อเวลา 14.25 น. วันที่ 30 พ.ค.2566 ที่พรรคประชาชาติ (ปช.) นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล 8 พรรคว่า วันนี้มาประชุมในเรื่องคณะทำงานเปลี่ยนผ่านรัฐบาล หรือ Transition Team เกี่ยวกับปัญหาของประชาชน ตั้งแต่เรื่องภัยแล้ง น้ำท่วม ราคาพลังงาน เรือดำน้ำ รวมถึงการประชุมสหประชาชาติ ในเดือน ก.ย.นี้ของรัฐบาลชุดใหม่
ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องที่ประชาชน ข้าราชการ และภาคเอกชน อาจจะถามในเมื่อเรามีเป้าหมายร่วมกันที่ชัดเจนในเอ็มโอยู เมื่อวันที่ 22 พ.ค.ที่ผ่านมา วันนี้จึงอยากมาพูดคุยกันเรื่องกระบวนการทำงาน เพื่อให้ถึงเป้าหมายตรงนั้น จึงอยากนัดประชุมพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลกันอยู่เรื่อยๆ ทุก 1-2 สัปดาห์ และจะจัดตั้งคณะทำงานแก้ไขปัญหาต่างๆ โดยเอาปัญหาประชาชนเป็นตัวตั้ง ไม่ได้แบ่งเป็นรายกระทรวงว่าจะต้องทำอะไรอย่างไร กฎหมายที่ค้างอยู่มีอะไรบ้าง พอเราประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นัดแรก เราจะได้เรียงลำดับความสำคัญในการประชุม ทั้งหมดนี้เป็นสาระคร่าวๆ ที่เตรียมมาพูดคุยกับหัวหน้าพรรคทั้ง 7 พรรค
เมื่อถามว่าในการประชุมวันนี้จะมีการพูดคุยเรื่องตำแหน่งประธานสภา หรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า ไม่มี
เมื่อถามว่าการทำงานในขณะนี้เป็นการละลาบละล้วงรัฐบาลรักษาการหรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า ไม่มีการละลาบละล้วงข้าราชการ เราทำงานในลักษณะคณะทำงานเปลี่ยนผ่าน พูดคุยกับภาคเอกชน หรือหากข้าราชการต้องการพูดคุยกับนักการเมืองก็เป็นสิทธิของข้าราชการ แต่ยืนยันว่าเราไม่เคยเข้าไปละลาบละล้วงขอข้อมูล หรือขอดูงบประมาณแต่อย่างใด
“ทุกวันนี้ทางหน่วยงานราชการ เป็นคนเชิญเราเอง ซึ่งเชิญในฐานะนักการเมืองมากกว่า เขามีความกังวลใจในหลายๆ เรื่อง ที่ค้างอยู่ใน ครม.ชุดที่แล้ว ซึ่งยังไม่ได้รับการผลักดัน การไปพบกันแต่ละครั้งเรามีกรอบการทำงานว่า ไม่ได้ไปละลาบละล้วงหรือไปสั่งข้าราชการ ไม่เช่นนั้นอาจเกิดความสับสน ซึ่งในการประชุมวันนี้จะมีการพูดคุยกันเรื่องนี้ว่าต้องใช้ความระมัดระวัง” นายพิธา กล่าว
อย่างไรก็ตาม เวลานี้มีหลายหน่วยงานต้องการพูดคุยกับผม และต้องการนำเสนอนโยบายหน่วยงานแต่ละส่วน ซึ่งทุกอย่างเป็นไปตามหลักสากลในระยะเปลี่ยนผ่านว่าเราจะทำได้ตามขอบเขตแค่ไหน เพื่อให้ประชาชนมีความหวังและให้ข้าราชการมีภาระน้อยที่สุด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ติติงกรณีพรรคก้าวไกล ตั้งทีมงานเพื่อเปลี่ยนผ่านรัฐบาล เพื่อรับงานต่อจากรัฐบาล อาจจะไปขอข้อมูลกับส่วนราชการ โดยระบุว่า “มันไม่ควร มันไม่สมควร ส่วนราชการเขายังอยู่กับรัฐบาลปัจจุบัน วันหน้าเขาก็เตรียมข้อมูลต่างๆ ส่งมอบ ซึ่งผมก็ย้ำไปหลายครั้งแล้ว”
แฉกลเม็ดส่วยหวย แยบยลใช้เบอร์ทองแทนสติ๊กเกอร์ ขายใบละ 200 บาท แลกไม่โดนจับ
https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_7691053
แฉกลเม็ดส่วยหวย แยบยลใช้เบอร์ทองแทนสติ๊กเกอร์ ขายใบละ 200 บาท แลกไม่โดนจับ พ่อค้าแม่ค้าหวยจำใจต้องซื้อ หวั่นมีปัญหาตามมาภายหลัง
เมื่อวันที่ 30 พ.ค.66 ผู้สื่อข่าวตรวจสอบพ่อค้าแม่ค้าขายลอตเตอรี่ในพื้นที่ จ.ระยอง กรณีเกี่ยวกับประเด็นที่นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ว่าที่ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ออกมาแฉกระบวนการส่วยรถบรรทุก ก่อนออกมาแฉเพิ่มอีกในประเด็นส่วยหวย แผงไหนติดสติ๊กเกอร์ นั่นหมายความว่าสามารถขายเกินราคาได้ ตำรวจไม่จับ
จากการตรวจสอบพบว่า พ่อค้าแม่ค้าขายลอตเตอรี่ ในพื้นที่ ต.ห้วยโป่ง อ.เมือง จ.ระยอง เปิดเผยอ้างว่า พ่อค้าแม่ค้าในพื้นที่ต่างต้องจ่ายเงินให้กับตำรวจทุกเดือน แต่การเรียกเก็บเงินจะมาในรูปแบบของเบอร์ทอง ที่มีตัวเลขสามตัว โดยมีราคาใบละ 200 บาท พ่อค้าลอตเตอรี่รายใหญ่จะต้องซื้อ เบอร์ทอง 8 ใบ เป็นเงิน 1,600 บาท ส่วนเจ้าเล็กก็ลดหลั่นกันไป โดยเจ้าเล็กสุดต้องซื้อเบอร์ทอง 2 ใบ เป็นเงิน 400 บาท พ่อค้าแม่ค้าทุกคนต้องเก็บเบอร์ทองไว้เป็นหลักฐาน หากเรียกตรวจสอบ หากพ่อค้าแม่ค้าเจ้าไหนไม่จ่ายจะถูกจับและเสียค่าปรับเป็นเงินนับหมื่นบาท ทำให้ทุกรายต่างต้องยอมจ่าย ส่วนเบอร์ที่ซื้อจะแตกต่างกับเบอร์ทองทั่วไป ตัวเลขของเบอร์ทอง หากถูกรางวัลจะไม่ได้รับเงิน เท่ากับเป็นส่วยแลกกับการไม่ถูกจับ สำหรับพื้นที่ ต.ห้วยโป่ง มีพ่อค้าขายสลากกินแบ่งไม่ต่ำกว่า 30 ราย
ส่วนในพื้นที่ทั่วไปของจ.ระยอง เกือบทุกพื้นที่ต่างมีส่วยลอตเตอรี่ แต่พ่อค้าแม่ค้าไม่กล้าเปิดเผย เพราะกลัวจะถูกกลั่นแกล้ง เหมือนกับแม่ค้ารายหนึ่งที่เคยเปิดเผยเรื่องส่วยสติ๊กเกอร์ติดที่แผงลอตเตอรี่ที่ถูกจับหลังจากเปิดเผยข้อมูล
พ่อค้าแม่ค้าลอตเตอรี่ของระยองส่วนใหญ่ต่างจำเป็นต้องยอมจ่ายส่วยให้กับตำรวจ ไม่จ่ายก็ขายไม่ได้ จะให้ขายราคา 80 บาท ก็ขายไม่ได้เพราะต้นทุนมาก็เกินแล้ว
ทรูวิชั่นบล็อกข่าวการเมืองไทยอีกแล้ว ล่าสุดข่าวบีบีซีสัมภาษณ์พิธาหลังเลือกตั้ง
https://prachatai.com/journal/2023/05/104362
ทรูวิชั่นตัดสัญญาณภาพรายการข่าวบีบีซีชิ้นสัมภาษณ์ "ทิม พิธา" เกี่ยวกับผลการเลือกตั้งและกระแสต่างๆ ที่มีต่อพรรค ก่อนหน้านี้บริษัทก็เคยทำมาแล้วหลายครั้งกับข่าวที่เกี่ยวกับการเมืองไทยและบริษัทยังเคยเปิดรับสมัครตำแหน่งเซ็นเซอร์ข่าวต่างประเทศ
https://twitter.com/8td/status/1663356860903325696
30 พ.ค.2566 ธัญญารัตน์ ดอกสน นักข่าวจากสำนักข่าวบีบีซี ทวีตลงในทวิตเตอร์ส่วนตัวระบุว่า ช่วงเช้าวันนี้ช่องทรูวิชั่นตัดสัญญาณภาพรายการของสำนักข่าวบีบีซีช่วงที่มีการสัมภาษณ์พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล โดยทางช่องขึ้นข้อความ "Program will resume shortly" (รายการจะกลับมาฉายในไม่ช้า)
เนื้อหาบางส่วนของการสัมภาษณ์ที่สำนักข่าวบีบีซีตัดนำมาเผยแพร่บนเว็บไซต์ของสำนักข่าวภาคภาษาอังกฤษ
ทั้งนี้เนื้อหาที่ปรากฏในการสัมภาษณ์ระหว่างโจนาธาน เฮด นักข่าวจากบีบีซี และพิธา เป็นเรื่องหลังการเลือกการเลือกตั้งที่ผ่านมา รวมถึงมีคำถามที่เกี่ยวกับนโยบายของพรรคก้าวไกลที่จะแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ที่เป็นข้อหาหมิ่นประมาทกษัตริย์ แต่ถูกกระแสต่อต้านและ ส.ว.ก็แสดงท่าทีขัดขวางเหตุใดพรรคจึงไม่ยุติการผลักดันเรื่องนี้
พิธาตอบคำถามเรื่องนี้ว่าเป็นนโยบายที่พรรคให้สัญญาไว้กับประชาชนและจากการเลือกตั้งที่ผ่านมาประชาชนก็ยังลงคะแนนให้กับพรรคก้าวไกลเป็นจำนวนถึง 14 ล้านเสียงอีกด้วย
ที่ผ่านมา เมื่อ 25 เม.ย.2563 บริษัททรูเคยประกาศรับสมัครงานในตำแหน่งเซ็นเซอร์ข่าวต่างประเทศเป็นการเฉพาะ โดยระบุเนื้องานที่เจ้าหน้าที่ในตำแหน่งนี้ต้องทำคือการตรวจสอบสื่อต่างๆ เพื่อตัดส่วนที่ไม่เหมาะสมออก และ 2. ปฏิบัติงานควบคุมการออกอากาศรายการช่องข่าวต่างประเทศ เพื่อไม่ให้เนื้อหาที่ขัดต่อกฎหมายหรือข้อห้ามของประเทศไทย โดยเฉพาะขัดต่อ “กฎหมายรัฐธรรมนูญไทย มาตรา 112” ถูกออกอากาศ