สวัสดีค่ะ
คือเราอยากเลิกกับแฟนที่คบมา3ปี ตอนแรกคบกันไม่มีปัญหาอะไร ต้องบอกก่อนว่าเรากับแฟนแยกกันอยู่ต่างคนต่างอยู่บ้านพ่อแม่
จนกระทั่งย้ายไปอยู่ต่างประเทศด้วยกัน ทำให้ได้ใช้ชีวิตร่วมกันมากขึ้น เรารู้สึกว่ากับคนนี้ยังไม่ใช่ เรื่องความรักเราไปกันรอด แต่พวกเรากลับมีปัญหากันเรื่องงานบ้าน ปัญหาเล็กๆน้อยๆในบ้าน หรือไม่ก็ปัญหากับเพื่อนร่วมงานเรา
1.เราไปทำงานเจอเพื่อนร่วมงานใหม่ เค้าก็หึงหวงทั้งๆที่ไม่มีอะไร บางทีก็ชวนทะเลาะกันเรื่องนี้ ทั้งๆที่เราเหนื่อยอยากนอน
2.พอนอนเตียงเดียวกันทุกคืน บางทีเราอยากรีบนอน อีกฝ่ายก็ดันไม่ยอมนอน นั่งเล่นมือถือ เล่นเกม ไม่ยอมปิดไฟห้องนอน ไม่ใส่หูฟัง
แล้วเราเคยเป็นโรคนอนไม่หลับมาก่อน พอโดนรบกวนบ่อยๆโรคนอนไม่หลับมันก็กลับมา เราเคยคุยกับแฟนเราแล้วเรื่องนี้ เค้าก็ปรับให้บ้างแต่พอเผลอๆก็เป็นแบบเดิมอีก
3.ไปทำงานร้านอาหารมากลับบ้านมาไม่ยอมอาบน้ำแล้วมานอนบนเตียงเลย บางทีก็หลับทั้งๆที่ยังไม่แปรงฟัน
4.เรื่องข้าวของในบ้าน เราเป็นคนที่ใส่ใจกับเรื่องข้าวของในบ้าน อะไรจำเป็นเราก็จะซื้อเข้าบ้าน แต่กับฝั่งเค้าชอบพวกเสื้อผ้า รองเท้า ก็จะซื้ออยู่แค่นั้น พอเราเสนอว่าอยากซื้อของเข้าบ้านเพิ่มเค้าก็จะหงุดหงิด เป็นเราที่ต้องจ่ายเงินซื้อเอง แทนที่จะหารๆกัน
5.ไม่ค่อยช่วยกันทำอาหารหรือล้างจาน บางทีมีเราทั้งทำอาหารทั้งล้างจานคนเดียว ทั้งๆที่เราก็ต้องออกไปทำงานเหมือนกัน
6.เค้ามีสังคมมีเพื่อนใหม่ ก็ไปกินเหล้ากลับบ้านดึก บางวันเช้า บางวันติดต่อไม่ได้จนถึง9โมงเช้า บางวันเมากลับมาแบบไม่รู้ตัว นี้ต้องไปรับถึงหน้าร้านเหล้าพาขึ้นอูเบอร์กลับ เรารู้ว่าเค้าไปกับเพื่อนผู้ชายไม่มีอะไร แต่เราหงุดหงิดตรงทำไมไปกินเหล้าได้แต่ดูแลตัวเองไม่ได้ ไปแล้วชอบไม่มีสติกลับมา ทั้งๆที่ก็โตๆกันแล้ว
มีวันนึงที่เราหงุดหงิดมากคือเค้าไปกินเหล้าแล้วลากเพื่อนผู้หญิงที่เมากลับห้องมาด้วย แล้วไม่ถามเราก่อนว่าพามาได้มั้ย ทั้งๆที่เราก็อยู่ด้วย ดันพาผู้หญิงอีกคนมานอนบนเตียงเรา (เค้านอนบนโซฟา) สรุปวันนั้นเราก็ไม่ได้นอนถึงเช้า ด้วยความที่เราไม่ได้รู้จักกับผู้หญิงอีกคนเลยไม่อยากนอนเตียงเดียวกันด้วย เราเลยไปนั่งอยู่ที่ living room จนเช้า
หลายคนอาจจะมองว่ามันไม่ใช่ปัญหา แต่สำหรับเรามองว่ามันคือปัญหา เราคุยกับเค้าหลายรอบแล้ว บางทีเค้าก็ปรับให้ แล้วเผลอๆก็กลับไปเป็นอีก ตั้งแต่เราบอกเลิกเค้าครั้งแรกเราเสียใจมากๆ เพราะเป็นการทำให้คนที่เรารักเจ็บปวด แต่ด้วยความที่ยังอยู่ห้องเดียวกันอยู่ แล้วเราอยู่ต่างประเทศไม่ได้มีเงินย้ายออกจากห้องเลยยังนอนด้วยกัน สุดท้ายเค้าก็ขอโอกาสเราอีกหลายรอบ พอมารอบหลังๆเรารู้สึกว่ามันไม่ใช่แล้ว เราไม่ได้รักเค้าแล้ว เราทำตัวเย็นชามาก เหมือนความรักมันหมดไปแล้ว แต่พูดยังไงเค้าก็ไม่ยอมเลิกกับเรา เค้าบอกเค้าจะยอมเลิกถ้าเราไปมีคนอื่น และนี่เป็นจุดเริ่มต้นของ Part 2
-- Part 2 --
เป็นเรื่องของนายเอ กับเรา และแฟนเรา
นายเอเคยเป็นเพื่อนสนิทของแฟนเราสมัยเรียน นายเออยู่ประเทศนี้มาก่อนเรากับแฟนจะย้ายมา ทำให้ช่วงแรกๆ นายเอช่วยเหลือเรากับแฟนเราในการปรับตัวตอนย้ายเข้ามาใหม่
เรากับแฟนดันหาห้องพักที่อยู่ในตึกเดียวกับนายเอได้ เลยทำให้ได้เจอกันบ่อยขึ้น ช่วงแรกๆทุกอย่างสงบราบรื่นดี
จนกระทั่งวันนึง พวกเรานัดกันไปซื้อของใช้ที่จำเป็น แต่แฟนเราแฮงค์ไปไม่ได้ ด้วยความที่ของมันจำเป็นต้องใช้วันนี้ เราเลยไปกับนายเอสองคน เลยได้คุยกันมากขึ้น
ทำให้เรากับนายเอสนิทกันมากขึ้น เราเปิดใจเล่าปัญหาของเรากับแฟนให้นายเอฟัง ซึ่งนายเอเป็นคนที่ตรงกันข้ามกับแฟนเราหลายอย่าง เช่นเป็นคนรับฟังแบบตั้งอกตั้งใจฟัง ไม่พูดแทรก ช่วยทำงานบ้าน เป็นคนอยู่ติดบ้าน ไม่ชอบไปร้านเหล้า
ด้วยความที่อยู่ไม่ไกลกัน ทำให้เรากับนายเอ ได้เจอกันบ่อย เช่นไปซื้อของด้วยกัน ทำกับข้าวด้วยกัน เล่นเกมด้วยกัน จนความสัมพันธ์มันมากกว่าเพื่อน
กลายเป็น friend with benefit กันแทน
เรายอมรับว่าเราชอบนายเอ เราอยากเริ่มต้นใหม่ อยากบอกแฟนว่าเราคบกับคนใหม่แล้ว แต่เราทำไม่ได้เพราะนายเอกับแฟนเราเคยเป็นเพื่อนสนิทกันมาก่อน นายเอก็ไม่ได้อยากให้แฟนเรารู้เรื่องนี้
เนื่องจากแฟนเราบอกว่า เค้าจะยอมปล่อยเราไปถ้าเรามีคนใหม่ เราเคยบอกกับแฟนว่าเราชอบนายเอมากๆ เค้าก็ยังไม่ยอมปล่อยเราไป ถ้าเรากับนายเอไม่ได้คบกันหรือมีอะไรกันจริงๆ(แฟนเรายังไม่รู้) เราอึดอัดมาก อยากจะบอกมันไปให้จบๆ แต่ก็สงสารนายเอที่คิดมากเรื่องนี้ เราเลยไม่กล้าบอก
เพื่อนๆคิดว่ายังไงดีคะ เราควรบอกหรือไม่ควรบอกแฟนเราเรื่องนี้ดี เราพยายามจะจบความสัมพันธ์กับเค้าก่อนเพราะอยากเริ่มใหม่ แต่เค้าไม่ยอม กลายเป็นตอนนี้เราเป็นคนคบซ้อนแทน แบบนี้เราผิดมากมั้ย
อยากเลิกกับแฟน แต่แฟนไม่ยอมเลิก ตอนนี้แอบคบกับเพื่อนแฟน รู้สึกผิดมากค่ะ
คือเราอยากเลิกกับแฟนที่คบมา3ปี ตอนแรกคบกันไม่มีปัญหาอะไร ต้องบอกก่อนว่าเรากับแฟนแยกกันอยู่ต่างคนต่างอยู่บ้านพ่อแม่
จนกระทั่งย้ายไปอยู่ต่างประเทศด้วยกัน ทำให้ได้ใช้ชีวิตร่วมกันมากขึ้น เรารู้สึกว่ากับคนนี้ยังไม่ใช่ เรื่องความรักเราไปกันรอด แต่พวกเรากลับมีปัญหากันเรื่องงานบ้าน ปัญหาเล็กๆน้อยๆในบ้าน หรือไม่ก็ปัญหากับเพื่อนร่วมงานเรา
1.เราไปทำงานเจอเพื่อนร่วมงานใหม่ เค้าก็หึงหวงทั้งๆที่ไม่มีอะไร บางทีก็ชวนทะเลาะกันเรื่องนี้ ทั้งๆที่เราเหนื่อยอยากนอน
2.พอนอนเตียงเดียวกันทุกคืน บางทีเราอยากรีบนอน อีกฝ่ายก็ดันไม่ยอมนอน นั่งเล่นมือถือ เล่นเกม ไม่ยอมปิดไฟห้องนอน ไม่ใส่หูฟัง
แล้วเราเคยเป็นโรคนอนไม่หลับมาก่อน พอโดนรบกวนบ่อยๆโรคนอนไม่หลับมันก็กลับมา เราเคยคุยกับแฟนเราแล้วเรื่องนี้ เค้าก็ปรับให้บ้างแต่พอเผลอๆก็เป็นแบบเดิมอีก
3.ไปทำงานร้านอาหารมากลับบ้านมาไม่ยอมอาบน้ำแล้วมานอนบนเตียงเลย บางทีก็หลับทั้งๆที่ยังไม่แปรงฟัน
4.เรื่องข้าวของในบ้าน เราเป็นคนที่ใส่ใจกับเรื่องข้าวของในบ้าน อะไรจำเป็นเราก็จะซื้อเข้าบ้าน แต่กับฝั่งเค้าชอบพวกเสื้อผ้า รองเท้า ก็จะซื้ออยู่แค่นั้น พอเราเสนอว่าอยากซื้อของเข้าบ้านเพิ่มเค้าก็จะหงุดหงิด เป็นเราที่ต้องจ่ายเงินซื้อเอง แทนที่จะหารๆกัน
5.ไม่ค่อยช่วยกันทำอาหารหรือล้างจาน บางทีมีเราทั้งทำอาหารทั้งล้างจานคนเดียว ทั้งๆที่เราก็ต้องออกไปทำงานเหมือนกัน
6.เค้ามีสังคมมีเพื่อนใหม่ ก็ไปกินเหล้ากลับบ้านดึก บางวันเช้า บางวันติดต่อไม่ได้จนถึง9โมงเช้า บางวันเมากลับมาแบบไม่รู้ตัว นี้ต้องไปรับถึงหน้าร้านเหล้าพาขึ้นอูเบอร์กลับ เรารู้ว่าเค้าไปกับเพื่อนผู้ชายไม่มีอะไร แต่เราหงุดหงิดตรงทำไมไปกินเหล้าได้แต่ดูแลตัวเองไม่ได้ ไปแล้วชอบไม่มีสติกลับมา ทั้งๆที่ก็โตๆกันแล้ว
มีวันนึงที่เราหงุดหงิดมากคือเค้าไปกินเหล้าแล้วลากเพื่อนผู้หญิงที่เมากลับห้องมาด้วย แล้วไม่ถามเราก่อนว่าพามาได้มั้ย ทั้งๆที่เราก็อยู่ด้วย ดันพาผู้หญิงอีกคนมานอนบนเตียงเรา (เค้านอนบนโซฟา) สรุปวันนั้นเราก็ไม่ได้นอนถึงเช้า ด้วยความที่เราไม่ได้รู้จักกับผู้หญิงอีกคนเลยไม่อยากนอนเตียงเดียวกันด้วย เราเลยไปนั่งอยู่ที่ living room จนเช้า
หลายคนอาจจะมองว่ามันไม่ใช่ปัญหา แต่สำหรับเรามองว่ามันคือปัญหา เราคุยกับเค้าหลายรอบแล้ว บางทีเค้าก็ปรับให้ แล้วเผลอๆก็กลับไปเป็นอีก ตั้งแต่เราบอกเลิกเค้าครั้งแรกเราเสียใจมากๆ เพราะเป็นการทำให้คนที่เรารักเจ็บปวด แต่ด้วยความที่ยังอยู่ห้องเดียวกันอยู่ แล้วเราอยู่ต่างประเทศไม่ได้มีเงินย้ายออกจากห้องเลยยังนอนด้วยกัน สุดท้ายเค้าก็ขอโอกาสเราอีกหลายรอบ พอมารอบหลังๆเรารู้สึกว่ามันไม่ใช่แล้ว เราไม่ได้รักเค้าแล้ว เราทำตัวเย็นชามาก เหมือนความรักมันหมดไปแล้ว แต่พูดยังไงเค้าก็ไม่ยอมเลิกกับเรา เค้าบอกเค้าจะยอมเลิกถ้าเราไปมีคนอื่น และนี่เป็นจุดเริ่มต้นของ Part 2
-- Part 2 --
เป็นเรื่องของนายเอ กับเรา และแฟนเรา
นายเอเคยเป็นเพื่อนสนิทของแฟนเราสมัยเรียน นายเออยู่ประเทศนี้มาก่อนเรากับแฟนจะย้ายมา ทำให้ช่วงแรกๆ นายเอช่วยเหลือเรากับแฟนเราในการปรับตัวตอนย้ายเข้ามาใหม่
เรากับแฟนดันหาห้องพักที่อยู่ในตึกเดียวกับนายเอได้ เลยทำให้ได้เจอกันบ่อยขึ้น ช่วงแรกๆทุกอย่างสงบราบรื่นดี
จนกระทั่งวันนึง พวกเรานัดกันไปซื้อของใช้ที่จำเป็น แต่แฟนเราแฮงค์ไปไม่ได้ ด้วยความที่ของมันจำเป็นต้องใช้วันนี้ เราเลยไปกับนายเอสองคน เลยได้คุยกันมากขึ้น
ทำให้เรากับนายเอสนิทกันมากขึ้น เราเปิดใจเล่าปัญหาของเรากับแฟนให้นายเอฟัง ซึ่งนายเอเป็นคนที่ตรงกันข้ามกับแฟนเราหลายอย่าง เช่นเป็นคนรับฟังแบบตั้งอกตั้งใจฟัง ไม่พูดแทรก ช่วยทำงานบ้าน เป็นคนอยู่ติดบ้าน ไม่ชอบไปร้านเหล้า
ด้วยความที่อยู่ไม่ไกลกัน ทำให้เรากับนายเอ ได้เจอกันบ่อย เช่นไปซื้อของด้วยกัน ทำกับข้าวด้วยกัน เล่นเกมด้วยกัน จนความสัมพันธ์มันมากกว่าเพื่อน
กลายเป็น friend with benefit กันแทน
เรายอมรับว่าเราชอบนายเอ เราอยากเริ่มต้นใหม่ อยากบอกแฟนว่าเราคบกับคนใหม่แล้ว แต่เราทำไม่ได้เพราะนายเอกับแฟนเราเคยเป็นเพื่อนสนิทกันมาก่อน นายเอก็ไม่ได้อยากให้แฟนเรารู้เรื่องนี้
เนื่องจากแฟนเราบอกว่า เค้าจะยอมปล่อยเราไปถ้าเรามีคนใหม่ เราเคยบอกกับแฟนว่าเราชอบนายเอมากๆ เค้าก็ยังไม่ยอมปล่อยเราไป ถ้าเรากับนายเอไม่ได้คบกันหรือมีอะไรกันจริงๆ(แฟนเรายังไม่รู้) เราอึดอัดมาก อยากจะบอกมันไปให้จบๆ แต่ก็สงสารนายเอที่คิดมากเรื่องนี้ เราเลยไม่กล้าบอก
เพื่อนๆคิดว่ายังไงดีคะ เราควรบอกหรือไม่ควรบอกแฟนเราเรื่องนี้ดี เราพยายามจะจบความสัมพันธ์กับเค้าก่อนเพราะอยากเริ่มใหม่ แต่เค้าไม่ยอม กลายเป็นตอนนี้เราเป็นคนคบซ้อนแทน แบบนี้เราผิดมากมั้ย