ผมจะพยายาม กระชับข้อความและคำถามให้สั้นที่สุด เท่าที่จะทำได้นะครับ
เมื่อปี 2018 ผมมีก้อน ที่หน้าด้านซ้าย ได้รับการผ่าตัด เอาก้อนออก (5 cm วัดโดยรวมเนื้อที่หมอเฉือนเผื่อออกมาด้วย)
พบว่าเป็นมะเร็ง แต่ก้อนไม่ได้อยู่ในต่อม หรืออวัยวะสำคัญใดๆ และจากการตรวจเนื้อเยื่อ ก็ไม่พบปฐมภูมิของมะเร็ง(หมายถึงว่าเป็นมะเร็งที่มีต้นตอ หรือ แพร่กระจายมาจากจุดไหน)
ไม่พบแม้แต่ชนิดของมัน โดยตอนแรก แล๊บ ระบุเบื้องต้นว่า อาจจะเป็นมะเร็งต่อมน้ำลาย ชนิด a หรือ b (a,b คือชนิดของมะเร็งต่อมน้ำลาย ทั้งนี้ผมจำชื่อเต็มไม่ได้ ขอใช้อักษรย่อ)
จากนั้นมีการนำเนื้องอกหรือก้อนดังกล่าวไปย้อมสีเพื่อหาชนิดของมะเร็ง ปรากฎว่า ก็ยังไม่พบแน่ชัดว่าเป็นชนิดไหน แพทย์ระบุไว้แค่ว่า ไกล้เคียงกับ ephitherail cacinoma ที่สุด (มะเร็งเนื้อเยื่อ) โดยเขายืนยันใช้คำว่าไกล้เคียง ซึ่งปกติชนิดนี้ มักไม่เกิดที่ ศรีษะและลำคอ
และจากการตรวจร่างกาย ยังไม่พบ ว่ามะเร็ง เกิดที่จุดอื่นในร่างกาย
ต่อมารักษาโดยการฉายแสง 33 รอบ
จนจบการรักษา มกราคม 2019
ต่อมา กรกฎาคม 2019 ได้มีก้อนใหม่ ขึ้นกรามซ้ายด้านล่าง บริเวณแผลผ่าตัด พอดี ประมาณ 1 cm โตเร็ว
สิงหาคม 2019 ผ่าตัด ตรวจพบว่าเป็นมะเร็งชนิดเดิม
โดยการวิเคราะห์ร่วมกับหมอ คาดว่า น่าจะมาจากตำแหน่งเดิม แต่ผ่าออกไม่หมด เนื่องจากการผ่าตัดเป็นการผ่าหน้าหู และตำแหน่งเนื้องอก อยู่เลยต่อมน้ำลายใหญ่ไป ทำให้การผ่าตัดค่อนข้างยากลำบาก ไม่เห็นขอบเขตที่ชัดเจนตอนผ่า เพราะเลือดไหลค่อนข้างเยอะ
จากนั้นฉายแสงต่อ อีก 33 รอบ
โดยรอบนี้ เป็นการฉายซ้ำจุดเดิม เพิ่มเติมคือ จุดที่ผ่าใหม่ + ฉายดักต่อมน้ำเหลือง บริเวณ คอ 2 จุด ท้ายทอย 1 จุด
(ลืมบอกว่าหมอฝังคลิป ไว้ในจุดที่ก้อนเคยอยู่ เพื่อให้หมอรังสีทราบตำแหน่งของก้อน)
ทำให้ จาก พ.ย. 2018-มค 2020 ผมฉายแสงไปทั้งหมด
66 รอบ
ผลข้างเคียงเยอะพอสมควร ขอยังไม่ลงรายละเอียดแต่ใครอยากทราบ ถามได้ครับ
แต่สามารถใช้ชีวิตได้ เหมือนคนปกติ แข็งแรงดี เตะปี๊บดัง และโฟโล่อาการ เรื่อยๆ จน 2 ปีหลัง ไปตรวจเพียง ปีละครั้ง
และครั้งล่าสุดพึ่งตรวจเมื่อ 10-12 เมษาที่ผ่านมา(ใช้เวลา3วัน)
ผลการตรวจ ร่างกาย ปกติ จะมีก็เรื่องผลข้างเคียงเท่านั้น
จากนั้นผมกลับมาใช้ชีวิตปกติ ปรากฏว่าเมื่อ ต้นเดือนที่ผ่านมา ผมมีเสียงจิ้งหรีดในหู และหูอักเสบ(นี่ก็คือ หนึ่งในผลข้างเคียง หูด้านซ้าย โดนเอฟเฟคจากรังสี จะอักเสบง่าย และบางทีก็มีภาวะอุดตัน )
จากนั้น 13 พค 2023 ที่ผ่านมา ผมไปหาหมอ หู คอ จมูก ที่คลีนิค เพื่อรักษาหูอักเสบ
ได้ยามาทา 7 วัน
ต่อมา วันที่ 20 พค ซึ่งผม คิดว่า หู น่าจะหายอักเสบแล้ว เพราะมันแห้งแล้ว หรือ ไกล้หายเต็มที่แล้ว เพราะทายาครบ7 วัน
แต่ผมคลำเจอก้อนที่ คอโดยบังเอิญ โดยเจอ ตรงบริเวณ
1.บนลูกกระเดือก เกือบถึงคาง เยื้องมาทางซ้าย 1 ก้อน เล็กมากเท่าที่ประมาณจากการคลำ คาดว่าไม่ถึง 1 cm
ไม่แข็ง นิ่มกว่าก้อนที่เคยเจอมากๆ กดไม่เจ็บ ขยับได้นิดเดียว มองตาเปล่าไม่เห็น
2มีตรงขวา อีกก้อน ลักษณะคล้ายกัน กับข้อ 1 แต่ตำแหน่งไม่สมมาตรกัน ฝั่งขวา จะอยู่สูงกว่าและค่อนมาตรงกลางคอมากกว่าเล็กน้อย ขนาดและลักษณะไกล้เคียงกัน
3.คอด้านซ้าย แต่ลึกมาก ต้องคลำละเอียดพอสมควรถึงจะเจอ ลักษณะเหมือน 1 กับ 2 แต่มีขนาดโตกว่า แต่ก็ไม่ถึง 1 cm แต่ก้อนนี้เวลากด มีเจ็บเล็กน้อย (เจ็บช่วงแรกๆ ตอนนี้ไม่เจ็บแล้ว)
4.คอด้านขวา ก้อนนี้ มันแปลกที่ ตำแหน่งมันจะสมมาตรกับข้อ 3 แต่ต่างตรงที่ กดไม่เจ็บ และคลำเจอยากกว่า ถ้าไม่ละเอียดจะไม่เจอเลย แต่พอเจอ ก็จะรู้ได้ ว่ามันอยู่ตำแหน่งเดียวกับข้อ 3 เป้ะ
ดังนั้น ก้อน ที่ 3,4 ยังไม่แน่ใจ ว่ามันเป็นก้อน จริงหรือไม่ หรือมันเป็นแค่ เนื้อเยื่อ เส้นเลือด อะไรต่างๆ ที่ทำให้คลำแล้ว รุ้สึกเหมือนก้อน เพราะมันมีทั้ง 2 ฝั่ง สมมาตรกัน
ข้อมูลก่อนจะถามอีกนิด ตอนปี 2019 ช่วงหลังฉายแสงเสร็จ ผมป้วยเป็นงูสวัส ซึ่งก็น่าจะมาจากผลพวงที่ภูมิต้านทานลด และติดเชื้อ ซึ่งหลังจากหายงูสวัส(เป็นงูสวัสบริดวณสีข้าง ชายโคลงล่าง ด้านซ้าย ) ซึ่งหลังจากหายโรคงูสวัส ผมคลำเจอก้อน ได้บริเวณไหปลาร้า กล้ามเนื้อคอ ไหล่ คอ หลายจุดมาก ตอนนั้นบอกตรงๆ ผมไม่ได้กลัวอะไรแล้ว เลยไม่ได้ใส่ใจอะไร ตายเป็นตาย ลามเป็นลาม ก็ปล่อยมันไป
แต่สุดท้ายมันหายไปเอง หายเกลี้ยง หายตอนไหนไม่รู้ เพราะคลำมันอยู่แค่ 2 วัน อรกที่เจอ ผมจึงมาหาข้อมูลทั้งจากหมอและด้านอื่นๆ และสรุปได้เองว่า มันน่าจะเกิดจากต่อมน้ำเหลืองโต เพราะ มีอาการอักเสบ จากงูสวัส
กลับมาที่คำถามนะครับ
ถามแค่ว่า ก้อนที่เจอ ตอนนี้ มีโอกาส เป็นแค่ต่อมน้ำเหลืองโต จากหูอักเสบ ได้ไหมครับ เพราะมันห่างจากหูพอสมควร
ใครมีประสบการณ์ หรือความรู้ว่าหลังจากฉายแสง หากมีก้อนขึ้นแบบนี้ มักจะเป็นแค่ ต่อมน้ำเหลืองโต จากภาวะอักเสบที่หู หรือที่อื่นๆ
หรืออาจเป็นก้อนน้ำเหลือง ที่เป็นเรื้อรังมานาน ที่ผมไม่ได้สังเกต และพึ่งเจอจะเป็นไปได้หรือไม่ครับ
ปกติผมจะคลำต่อมน้ำเหลือง โดยใข้ 3 นิ้วคลำตามจุดสำคัญ ตามที่หมอแนะนำ ซึ่งบริเวณนี้ ถ้าใช้ 3 นิ้วคลำ จะไม่เจอครับ เพราะมันเล็กมาก ตามที่บอก ว่าผมใช้นิ้วเดียว คลำเจอโดยบังเอิญ เลยคลำหาต่อ แล้วก็เจอก้อนต่อไป
ส่วนการหาหมอ โฟโล่อัพรอบที่ผ่านมา (ย้ำว่า เมษานี่เอง) หมอก็คลำนะครับ แต่ผมบอกตามตรง วิธีคลำของหมอ จะไม่เจอ ก้อน ที่ผมเล่ามานี้แน่นอน ส่วนหนึ่ง เพราะหมอ ไม่ได้คลำละเอียดมาก เพราะเราให้ข้อมูลว่าคลำทุกเดือน และมันไม่เจอจริงๆ
จึงไม่รู้ว่า ก้อนนค้มันมีมาก่อนแล้ว อยุ่มานาน หรือพึ่งเป็น
โปรดอย่าไล่ผมว่า ให้ไปพบหมอ จะดีที่สุดนะครับ
ผมเข้าใจครับ ว่าความขัวร์ที่สุด คือไปหาหมอ แต่ สาเหตุที่ผมต้องมาพิมพ์ยาวเหยียด เพื่อถามในนี้เพราะว่า
1.ผมเหนื่อยมากกับการหาหมอ มันพึ่งไปมา ทั้งโฟโล่อาการ ทั้งหมอหู หมอฟัน หมอกายภาย หมอรังสี หมอเส้นประสาทและสมอง
2.จากข้อ 1ปัจจัยเรื่องเงินก็เป็นส่วนสำคัญ ผมรักษาตัว ที่ ตจว. ปัจจุบันกลับมาทำงาน ทำให้การไปหาหมอ แต่ละครั้งไม่สะดวก และต้องใช้เงินพอสมควร การโฟโล่อัพ ผมจะกลับไปตรวจ ที่ ตจว เดินทาง 800 km ปีละครั้ง หากเกิดภาวะอื่นๆ เช่นหูอักเสบ ผมต้องไปคลีนิค ซึ่งคลีนิค ผมใช้เงินไปเยอะมาก ตอนนี้สถานะการ การเงินไม่ดี ลูกก็พึ่งเปิดเทรอม งานที่ผมทำ ก็ไม่มีรายได้มากพอ ที่จะใช้เงินบ่อยๆได้
ไม่ได้เป็นคนขี้เหนียว โดยเฉพาะเรื่องสุขภาพ แต่ ตั้งแต่หายป่วยมา ก็ไม่มีที่ไหน รับทำงาน หรือที่รับ ก็ไม่เหมาะกับสุขภาพเรา จากที่ฐานะ พอมีพอกิน ไม่รวย แต่มีเงินใข้ ไม่เดือดร้อน ก็กลายเป็น คนหาเช้ากินค่ำ โดยสมบูรณ์ เงินสำรอง ไม่มีเหลือ หากจำเป็นต้องใช้เงินก้อน เร่งด่วน ก็ต้องหยิบยืม
3.สุดท้ายแล้ว ผมก็ต้องไปหาหมออยุ่ดี เพราะอย่างน้อยก็มีนัดโฟโล่ แต่มันก็อีกเป็นปี จริงอยู่ว่าเราสามารถไปก่อนได้แต่ก็เพราะเหตุผล 123 ที่มาตั้งคำถาม เพราะอยากรุ้ และอยากฟังความเห็น หรือแม้แต่ผู้มีประสบการณ์ ยอมรับว่ากังวลใจ พอสมควร ผม ไม่ได้กลัวตายแล้วทุกวันนี้ แต่ผมไม่อยากกลับไปเข้าสู่กระบวนการรักษาอีกแล้ว และถ้าเป็นอีก โอกาสม้วนเดียวจบ มีสูง เพราะร่างกายเราช้ำมามาก
ผมห่วงลูก ลูกพึ่งเข้า ป1 และเขาติดผมมากๆ
4.ผมได้ปรึกษาหมอในเบื้องต้นแล้ว หมอก็แจ้งตามหลักการณ์ ด้วยความเป็นแพทย์เขาไม่สามารถ ตอบคำถามด้วยการคาดเดาได้ ต้องไปตรวจเท่านั้น แต่ จากที่ปรึกษา อาการ ณ เบื้องต้น หากไปพบหมอ เขาก็จะสันนิฐานเบื้องต้นว่าอาจมีภาวะอักเสบ และก้อนมันเล็กเกินไป ที่จะเจาะไปตรวจ ก็จะทำได้แค่ ให้เราสังเกต ว่าก้อนมันโตขึ้นหรือไม่ หรือเรามีอาการอิ่นๆทางร่างกายร่วมด้วยหรือไม่ไปก่อนเท่านั้น
หรือเต็มที่ ถ้าเราไม่สบายใจ อยากได้ข้อมูลที่มากขึ้น ก็อาจจะต้องทำอัลตร้าซาวน์ดู ซึ่งมันก็ไม่ได้ชี้ผลได้ชัดมากนัก
(เพราะอย่างตอนที่เป็นตอนแรก เขาซาวน์ดู และเจาะไปแล้วด้วยซ้ำ หมอซาวบอกเป็นแค่ำลโปรม่า และ เจาะไป ผลมันไม่อ่าน หมอ เขาเลยบอกว่า ถ้าเป็นมะเร็งผลมันคงขึ้นแล้ว นี่ผลไม่อ่าน และจากการซาวน์ จึงสรุปว่าเป็นแค่ก้อนไขมันธรรมดา)
หรือเต็มที่ หมอก็จะส่งตัวให้ทำ ct scan เนื่องจาก เรา เป็นผู้ป่วยโฟโล่ แต่หากไม่เจอจุดอื่น เจอแค่ ตรงนี้ มันก็อ่านไม่ชัดอยุ่ดี
และที่สำคัญ ถ้าจะ ct จาก lab เอกชน ก็ใข้เงินหลายหมื่น
หากกลับไปใข้สิท 30 บาท ตามรพ ที่รักษามา คิวมันก็ยาว อาจจะ 3-4 เดือนเลยทีเดียว
ซึ่งนัดโฟโล่รอบหน้า ผมมี ct อยุ่แล้ว
ตอนนี้ผมซื้อยา amoxxilin มาทานเอง (หมอแนะนำ)จะลองทานดูก่อน 7 วัน ถ้าไม่ยุบ ก็ต้องคอยดูต่อไป หากไม่ยุบ แต่ไม่โตขึ้นกว่าเดิม ผมจะรอจนกว่าจะโฟโลอัพรอบหน้า(เมษาปีหน้า) แต่ถ้ามันโตขึ้นแบบชัดเจน ผมจะรีบไปก่อนวันนัด
แต่ระหว่างนี้ ผมอยากได้คำตอบจากหลายท่านประกอบกันครับ หรือใครอยากถาม อะไรก็ได้นะครับ ถือว่าแลกเปลี่ยนกัน
คำถามผมมีแค่นั้นครับ
ฉายแสงเสร็จแล้ว 4-5 ปี เกิดก้อนตรงคอ มากกว่า 1 ก้อน พึ่งเจอ มีโอกาสที่จะเป็นก้อนธรรมดาๆ ได้มากน้อยขนาดไหนครับ
มี ก้อน ที่คอ
เมื่อปี 2018 ผมมีก้อน ที่หน้าด้านซ้าย ได้รับการผ่าตัด เอาก้อนออก (5 cm วัดโดยรวมเนื้อที่หมอเฉือนเผื่อออกมาด้วย)
พบว่าเป็นมะเร็ง แต่ก้อนไม่ได้อยู่ในต่อม หรืออวัยวะสำคัญใดๆ และจากการตรวจเนื้อเยื่อ ก็ไม่พบปฐมภูมิของมะเร็ง(หมายถึงว่าเป็นมะเร็งที่มีต้นตอ หรือ แพร่กระจายมาจากจุดไหน)
ไม่พบแม้แต่ชนิดของมัน โดยตอนแรก แล๊บ ระบุเบื้องต้นว่า อาจจะเป็นมะเร็งต่อมน้ำลาย ชนิด a หรือ b (a,b คือชนิดของมะเร็งต่อมน้ำลาย ทั้งนี้ผมจำชื่อเต็มไม่ได้ ขอใช้อักษรย่อ)
จากนั้นมีการนำเนื้องอกหรือก้อนดังกล่าวไปย้อมสีเพื่อหาชนิดของมะเร็ง ปรากฎว่า ก็ยังไม่พบแน่ชัดว่าเป็นชนิดไหน แพทย์ระบุไว้แค่ว่า ไกล้เคียงกับ ephitherail cacinoma ที่สุด (มะเร็งเนื้อเยื่อ) โดยเขายืนยันใช้คำว่าไกล้เคียง ซึ่งปกติชนิดนี้ มักไม่เกิดที่ ศรีษะและลำคอ
และจากการตรวจร่างกาย ยังไม่พบ ว่ามะเร็ง เกิดที่จุดอื่นในร่างกาย
ต่อมารักษาโดยการฉายแสง 33 รอบ
จนจบการรักษา มกราคม 2019
ต่อมา กรกฎาคม 2019 ได้มีก้อนใหม่ ขึ้นกรามซ้ายด้านล่าง บริเวณแผลผ่าตัด พอดี ประมาณ 1 cm โตเร็ว
สิงหาคม 2019 ผ่าตัด ตรวจพบว่าเป็นมะเร็งชนิดเดิม
โดยการวิเคราะห์ร่วมกับหมอ คาดว่า น่าจะมาจากตำแหน่งเดิม แต่ผ่าออกไม่หมด เนื่องจากการผ่าตัดเป็นการผ่าหน้าหู และตำแหน่งเนื้องอก อยู่เลยต่อมน้ำลายใหญ่ไป ทำให้การผ่าตัดค่อนข้างยากลำบาก ไม่เห็นขอบเขตที่ชัดเจนตอนผ่า เพราะเลือดไหลค่อนข้างเยอะ
จากนั้นฉายแสงต่อ อีก 33 รอบ
โดยรอบนี้ เป็นการฉายซ้ำจุดเดิม เพิ่มเติมคือ จุดที่ผ่าใหม่ + ฉายดักต่อมน้ำเหลือง บริเวณ คอ 2 จุด ท้ายทอย 1 จุด
(ลืมบอกว่าหมอฝังคลิป ไว้ในจุดที่ก้อนเคยอยู่ เพื่อให้หมอรังสีทราบตำแหน่งของก้อน)
ทำให้ จาก พ.ย. 2018-มค 2020 ผมฉายแสงไปทั้งหมด
66 รอบ
ผลข้างเคียงเยอะพอสมควร ขอยังไม่ลงรายละเอียดแต่ใครอยากทราบ ถามได้ครับ
แต่สามารถใช้ชีวิตได้ เหมือนคนปกติ แข็งแรงดี เตะปี๊บดัง และโฟโล่อาการ เรื่อยๆ จน 2 ปีหลัง ไปตรวจเพียง ปีละครั้ง
และครั้งล่าสุดพึ่งตรวจเมื่อ 10-12 เมษาที่ผ่านมา(ใช้เวลา3วัน)
ผลการตรวจ ร่างกาย ปกติ จะมีก็เรื่องผลข้างเคียงเท่านั้น
จากนั้นผมกลับมาใช้ชีวิตปกติ ปรากฏว่าเมื่อ ต้นเดือนที่ผ่านมา ผมมีเสียงจิ้งหรีดในหู และหูอักเสบ(นี่ก็คือ หนึ่งในผลข้างเคียง หูด้านซ้าย โดนเอฟเฟคจากรังสี จะอักเสบง่าย และบางทีก็มีภาวะอุดตัน )
จากนั้น 13 พค 2023 ที่ผ่านมา ผมไปหาหมอ หู คอ จมูก ที่คลีนิค เพื่อรักษาหูอักเสบ
ได้ยามาทา 7 วัน
ต่อมา วันที่ 20 พค ซึ่งผม คิดว่า หู น่าจะหายอักเสบแล้ว เพราะมันแห้งแล้ว หรือ ไกล้หายเต็มที่แล้ว เพราะทายาครบ7 วัน
แต่ผมคลำเจอก้อนที่ คอโดยบังเอิญ โดยเจอ ตรงบริเวณ
1.บนลูกกระเดือก เกือบถึงคาง เยื้องมาทางซ้าย 1 ก้อน เล็กมากเท่าที่ประมาณจากการคลำ คาดว่าไม่ถึง 1 cm
ไม่แข็ง นิ่มกว่าก้อนที่เคยเจอมากๆ กดไม่เจ็บ ขยับได้นิดเดียว มองตาเปล่าไม่เห็น
2มีตรงขวา อีกก้อน ลักษณะคล้ายกัน กับข้อ 1 แต่ตำแหน่งไม่สมมาตรกัน ฝั่งขวา จะอยู่สูงกว่าและค่อนมาตรงกลางคอมากกว่าเล็กน้อย ขนาดและลักษณะไกล้เคียงกัน
3.คอด้านซ้าย แต่ลึกมาก ต้องคลำละเอียดพอสมควรถึงจะเจอ ลักษณะเหมือน 1 กับ 2 แต่มีขนาดโตกว่า แต่ก็ไม่ถึง 1 cm แต่ก้อนนี้เวลากด มีเจ็บเล็กน้อย (เจ็บช่วงแรกๆ ตอนนี้ไม่เจ็บแล้ว)
4.คอด้านขวา ก้อนนี้ มันแปลกที่ ตำแหน่งมันจะสมมาตรกับข้อ 3 แต่ต่างตรงที่ กดไม่เจ็บ และคลำเจอยากกว่า ถ้าไม่ละเอียดจะไม่เจอเลย แต่พอเจอ ก็จะรู้ได้ ว่ามันอยู่ตำแหน่งเดียวกับข้อ 3 เป้ะ
ดังนั้น ก้อน ที่ 3,4 ยังไม่แน่ใจ ว่ามันเป็นก้อน จริงหรือไม่ หรือมันเป็นแค่ เนื้อเยื่อ เส้นเลือด อะไรต่างๆ ที่ทำให้คลำแล้ว รุ้สึกเหมือนก้อน เพราะมันมีทั้ง 2 ฝั่ง สมมาตรกัน
ข้อมูลก่อนจะถามอีกนิด ตอนปี 2019 ช่วงหลังฉายแสงเสร็จ ผมป้วยเป็นงูสวัส ซึ่งก็น่าจะมาจากผลพวงที่ภูมิต้านทานลด และติดเชื้อ ซึ่งหลังจากหายงูสวัส(เป็นงูสวัสบริดวณสีข้าง ชายโคลงล่าง ด้านซ้าย ) ซึ่งหลังจากหายโรคงูสวัส ผมคลำเจอก้อน ได้บริเวณไหปลาร้า กล้ามเนื้อคอ ไหล่ คอ หลายจุดมาก ตอนนั้นบอกตรงๆ ผมไม่ได้กลัวอะไรแล้ว เลยไม่ได้ใส่ใจอะไร ตายเป็นตาย ลามเป็นลาม ก็ปล่อยมันไป
แต่สุดท้ายมันหายไปเอง หายเกลี้ยง หายตอนไหนไม่รู้ เพราะคลำมันอยู่แค่ 2 วัน อรกที่เจอ ผมจึงมาหาข้อมูลทั้งจากหมอและด้านอื่นๆ และสรุปได้เองว่า มันน่าจะเกิดจากต่อมน้ำเหลืองโต เพราะ มีอาการอักเสบ จากงูสวัส
กลับมาที่คำถามนะครับ
ถามแค่ว่า ก้อนที่เจอ ตอนนี้ มีโอกาส เป็นแค่ต่อมน้ำเหลืองโต จากหูอักเสบ ได้ไหมครับ เพราะมันห่างจากหูพอสมควร
ใครมีประสบการณ์ หรือความรู้ว่าหลังจากฉายแสง หากมีก้อนขึ้นแบบนี้ มักจะเป็นแค่ ต่อมน้ำเหลืองโต จากภาวะอักเสบที่หู หรือที่อื่นๆ
หรืออาจเป็นก้อนน้ำเหลือง ที่เป็นเรื้อรังมานาน ที่ผมไม่ได้สังเกต และพึ่งเจอจะเป็นไปได้หรือไม่ครับ
ปกติผมจะคลำต่อมน้ำเหลือง โดยใข้ 3 นิ้วคลำตามจุดสำคัญ ตามที่หมอแนะนำ ซึ่งบริเวณนี้ ถ้าใช้ 3 นิ้วคลำ จะไม่เจอครับ เพราะมันเล็กมาก ตามที่บอก ว่าผมใช้นิ้วเดียว คลำเจอโดยบังเอิญ เลยคลำหาต่อ แล้วก็เจอก้อนต่อไป
ส่วนการหาหมอ โฟโล่อัพรอบที่ผ่านมา (ย้ำว่า เมษานี่เอง) หมอก็คลำนะครับ แต่ผมบอกตามตรง วิธีคลำของหมอ จะไม่เจอ ก้อน ที่ผมเล่ามานี้แน่นอน ส่วนหนึ่ง เพราะหมอ ไม่ได้คลำละเอียดมาก เพราะเราให้ข้อมูลว่าคลำทุกเดือน และมันไม่เจอจริงๆ
จึงไม่รู้ว่า ก้อนนค้มันมีมาก่อนแล้ว อยุ่มานาน หรือพึ่งเป็น
โปรดอย่าไล่ผมว่า ให้ไปพบหมอ จะดีที่สุดนะครับ
ผมเข้าใจครับ ว่าความขัวร์ที่สุด คือไปหาหมอ แต่ สาเหตุที่ผมต้องมาพิมพ์ยาวเหยียด เพื่อถามในนี้เพราะว่า
1.ผมเหนื่อยมากกับการหาหมอ มันพึ่งไปมา ทั้งโฟโล่อาการ ทั้งหมอหู หมอฟัน หมอกายภาย หมอรังสี หมอเส้นประสาทและสมอง
2.จากข้อ 1ปัจจัยเรื่องเงินก็เป็นส่วนสำคัญ ผมรักษาตัว ที่ ตจว. ปัจจุบันกลับมาทำงาน ทำให้การไปหาหมอ แต่ละครั้งไม่สะดวก และต้องใช้เงินพอสมควร การโฟโล่อัพ ผมจะกลับไปตรวจ ที่ ตจว เดินทาง 800 km ปีละครั้ง หากเกิดภาวะอื่นๆ เช่นหูอักเสบ ผมต้องไปคลีนิค ซึ่งคลีนิค ผมใช้เงินไปเยอะมาก ตอนนี้สถานะการ การเงินไม่ดี ลูกก็พึ่งเปิดเทรอม งานที่ผมทำ ก็ไม่มีรายได้มากพอ ที่จะใช้เงินบ่อยๆได้
ไม่ได้เป็นคนขี้เหนียว โดยเฉพาะเรื่องสุขภาพ แต่ ตั้งแต่หายป่วยมา ก็ไม่มีที่ไหน รับทำงาน หรือที่รับ ก็ไม่เหมาะกับสุขภาพเรา จากที่ฐานะ พอมีพอกิน ไม่รวย แต่มีเงินใข้ ไม่เดือดร้อน ก็กลายเป็น คนหาเช้ากินค่ำ โดยสมบูรณ์ เงินสำรอง ไม่มีเหลือ หากจำเป็นต้องใช้เงินก้อน เร่งด่วน ก็ต้องหยิบยืม
3.สุดท้ายแล้ว ผมก็ต้องไปหาหมออยุ่ดี เพราะอย่างน้อยก็มีนัดโฟโล่ แต่มันก็อีกเป็นปี จริงอยู่ว่าเราสามารถไปก่อนได้แต่ก็เพราะเหตุผล 123 ที่มาตั้งคำถาม เพราะอยากรุ้ และอยากฟังความเห็น หรือแม้แต่ผู้มีประสบการณ์ ยอมรับว่ากังวลใจ พอสมควร ผม ไม่ได้กลัวตายแล้วทุกวันนี้ แต่ผมไม่อยากกลับไปเข้าสู่กระบวนการรักษาอีกแล้ว และถ้าเป็นอีก โอกาสม้วนเดียวจบ มีสูง เพราะร่างกายเราช้ำมามาก
ผมห่วงลูก ลูกพึ่งเข้า ป1 และเขาติดผมมากๆ
4.ผมได้ปรึกษาหมอในเบื้องต้นแล้ว หมอก็แจ้งตามหลักการณ์ ด้วยความเป็นแพทย์เขาไม่สามารถ ตอบคำถามด้วยการคาดเดาได้ ต้องไปตรวจเท่านั้น แต่ จากที่ปรึกษา อาการ ณ เบื้องต้น หากไปพบหมอ เขาก็จะสันนิฐานเบื้องต้นว่าอาจมีภาวะอักเสบ และก้อนมันเล็กเกินไป ที่จะเจาะไปตรวจ ก็จะทำได้แค่ ให้เราสังเกต ว่าก้อนมันโตขึ้นหรือไม่ หรือเรามีอาการอิ่นๆทางร่างกายร่วมด้วยหรือไม่ไปก่อนเท่านั้น
หรือเต็มที่ ถ้าเราไม่สบายใจ อยากได้ข้อมูลที่มากขึ้น ก็อาจจะต้องทำอัลตร้าซาวน์ดู ซึ่งมันก็ไม่ได้ชี้ผลได้ชัดมากนัก
(เพราะอย่างตอนที่เป็นตอนแรก เขาซาวน์ดู และเจาะไปแล้วด้วยซ้ำ หมอซาวบอกเป็นแค่ำลโปรม่า และ เจาะไป ผลมันไม่อ่าน หมอ เขาเลยบอกว่า ถ้าเป็นมะเร็งผลมันคงขึ้นแล้ว นี่ผลไม่อ่าน และจากการซาวน์ จึงสรุปว่าเป็นแค่ก้อนไขมันธรรมดา)
หรือเต็มที่ หมอก็จะส่งตัวให้ทำ ct scan เนื่องจาก เรา เป็นผู้ป่วยโฟโล่ แต่หากไม่เจอจุดอื่น เจอแค่ ตรงนี้ มันก็อ่านไม่ชัดอยุ่ดี
และที่สำคัญ ถ้าจะ ct จาก lab เอกชน ก็ใข้เงินหลายหมื่น
หากกลับไปใข้สิท 30 บาท ตามรพ ที่รักษามา คิวมันก็ยาว อาจจะ 3-4 เดือนเลยทีเดียว
ซึ่งนัดโฟโล่รอบหน้า ผมมี ct อยุ่แล้ว
ตอนนี้ผมซื้อยา amoxxilin มาทานเอง (หมอแนะนำ)จะลองทานดูก่อน 7 วัน ถ้าไม่ยุบ ก็ต้องคอยดูต่อไป หากไม่ยุบ แต่ไม่โตขึ้นกว่าเดิม ผมจะรอจนกว่าจะโฟโลอัพรอบหน้า(เมษาปีหน้า) แต่ถ้ามันโตขึ้นแบบชัดเจน ผมจะรีบไปก่อนวันนัด
แต่ระหว่างนี้ ผมอยากได้คำตอบจากหลายท่านประกอบกันครับ หรือใครอยากถาม อะไรก็ได้นะครับ ถือว่าแลกเปลี่ยนกัน
คำถามผมมีแค่นั้นครับ
ฉายแสงเสร็จแล้ว 4-5 ปี เกิดก้อนตรงคอ มากกว่า 1 ก้อน พึ่งเจอ มีโอกาสที่จะเป็นก้อนธรรมดาๆ ได้มากน้อยขนาดไหนครับ