สำหรับคนที่สนใจ semiconductors, chips, AI

สักพักใหญ่ๆมาแล้วมีข่าวเรื่องบริษัทในยุโรป (หรือทั่วโลกก็ว่าได้) อยากย้าย หรือ ย้ายแล้ว หรือจะเข้าใหม่ มาทำการซื้อขายในตลาดอเมริกา (primary US-listed / primary listing) เพราะปัญหาเรื่องเงิน Tight liquidity, drop in pension fund investments 

เช่นมีความกลัวและกังวลในตลาดหุ้นลอนดอน หลังจาก Prime Minister Rishi Sunak ทำ stock market reforms แต่ก็ถูกวิจารณ์ว่า  listing rules will pass greater risks on to investors บริษัทเลยโยกย้ายเปลี่ยนแปลง หรือ ไม่อยากเข้ามา แม้ว่าปัญหาที่แท้จริงเกิดจากใครหรืออะไรกันแน่ อาจจะข้ออ้างไปอย่างนั้น แต่ แค่อยากไปตลาดใหญ่ ทุนหนา (เดาเอาค่ะ) อย่างไรก็ตาม Rishi Sunak อยากให้ ARM เข้าตลาดลอนดอน แต่ดูเหมือน ARM เลือกจะไปตลาดนิวยอร์คแทน (money talks)

ARM Holdings plc จะเข้าตลาดอเมริกา ในปีนี้แต่ไม่รู้วันแน่นอน กำลังรอดูสถานการณ์ตลาดอยู่ สมัครไปแล้วเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา จะเป็นหุ้น ADR stock - American depositary มีค่าธรรมเนียม ประมาณ 2 cents per share ต่อปี  จ่ายให้ underwriter ยกเว้นขายหุ้นไปก่อนวันกำหนดจ่ายค่าธรรมเนียม

ARM, the Cambridge-based British semiconductor maker. It makes computer chips.

ARM ถูกซื้อไปด้วยเงินสด $32 billion  ในปี 2016 โดย SoftBank จากญี่ปุ่น ต่อมาไม่นาน ปี 2020 บริษัท Nvidia ได้เจรจาขอซื้อจากญี่ปุ่น ในราคา $40 billion และมีช่วงหนึ่งมูลค่าบริษัท ARM ขึ้นไปถึง $80 billion เพราะอิงกับราคาหุ้นของ Nvidia (That value rose to about $80 billion at one point due to it being pegged to Nvidia’s share price.) แต่การซื้อขายไม่สำเร็จเพราะปัญหา กฏหมาย antitrust จากทั้ง U.S. and Europe.

London’s investment appeal is unraveling as Arm heads to the US despite the company being British and owned by a Japanese conglomerate. The most likely market it will trade on is the Nasdaq. Reuters says Goldman Sachs, JPMorgan Chase, Barclays, and Mizuho Financial Group are set to underwrite the deal.

แม้ตอนนั้น บอกว่า หวังว่าจะได้เงินมากกว่า $50 billion สำหรับ IPO แต่ตอนนี้เกิด semiconductor frenzy ในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา ไม่รู้ว่าราคาจะเท่าไหร่ เพราะ NVIDIA Corporation (NVDA) เองก็มูลค่าใกล้จะแตะ trillion dollars แล้ว แถมด้วยปัญหา IPO hype ก็เป็นเรื่องที่ต้องระวังกันด้วยค่ะ

ส่วนอีกเรื่องคือ มี มหาเศรษฐีชื่อดัง บอกว่าในการแข่งขัน AI race คนที่ชนะคือคนที่สร้าง personal assistant หรือ ผู้ช่วยส่วนตัว สำเร็จ

เรื่องนี้ข้าพเจ้าเชื่อว่ามันจะเกิดขึ้น อยากเห็นเร็วๆ ดีกว่ามนุษย์เพราะซื่อสัตย์ไว้ใจได้ ไม่นินทา เหมาะกับตำแหน่ง personal assistant

Good luck and happy trading ka.

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่