อัพเดทจากกระทู้ที่ผ่านมาที่เคยตั้งประเด็นมีอยู่ว่าคู่กรณียึดติดกับราคาที่อู่เสนอมาก่อนอนุมัติคือ 25X,XXX บาท **เชฟโรเลตโคโลราโด 2017
แต่ประกันและอู่ประเมินส่วนเสียหายจริงและตกลงราคายอดสุดท้ายกันที่ 15X,XXX บาท (รวมค่าขาดประโยชน์)
ซึ่งรายละเอียดชิ้นส่วนที่เสียหาย+กับราคาของแต่งได้ประเมินตามราคาที่คู่กรณีเสนอมาแล้วอนุมัติครบทุกชิ้นส่วน ซึ่งถ้าคู่กรณีเคลมนอกเหนือประกันไม่สามารถอนุมัติให้ได้ (ประกันได้แจ้งว่าตรวจราคากลางเรียบร้อยแล้ว) ซึ่งทางตัวเราเองก็ทำการประเมินทำเป็นไฟล์ส่วนเสียหายไว้อย่างละเอียด ราคาชิ้นส่วนคู่กรณีได้ส่งราคาตามที่เคยแต่งก่อนชนให้และชิ้นส่วนที่ไม่แต่งประเมินตาราคากลาง เช่นเดียวกับทางประกัน (จะต้องแจ้งก่อนว่ารถคู่กรณีชนฝั่งคนขับด้านหน้าฝั่งเดียว มีส่วนเสียหายอีกฝั่ง(ฝั่งซ้ายข้างคนขับ) คือล้อแม็กแตก (ฝั่งคนขับไม่เสียหาย) ) ซึ่งจะไม่ขอลงรายละเอียดทุกชิ้นแต่จะระบุชิ้นส่วนสำคัญคร่าวๆให้ทุกคนได้อ่านและพิจารณา เช่น แก้มข้างฝั่งคนขับ 1 ชิ้น +หุ้มคาร์บอน ฝากระโปงถลอกไม่ถึงบุบ(หุ้มฝาคาร์บอนใหม่) ไฟหน้ารวมไฟตัดหมอก ที่ครอบไฟตัดหมอก กันชนหน้าแต่ง กระจังหน้า เป็นต้น **ราคาค่าหุ้มคาร์บอนแต่ละที่คู่กรณีส่งมาไม่เกินชิ้นละ 2x,xxx บาทอาจมีปลายๆ
เหตุจาการล่าช้าเนื่องคู่กรณีคิดว่าค่าซ่อม 20X,XXX ไม่เพียงพอจะซ่อมรถตนเองจึงปฏิเสธประกัน 3 รอบในยอดเงินที่อนุมัติ
อัพเดทล่าสุดทางประกันและทางอู่ได้ตกลงราคาตามประเมินได้ยอดข้างต้นตามที่แจ้งเรียบร้อยแล้วแต่คู่กรณีไม่พอใจเนื่องจากแจ้งว่าจัดซื้ออุปกรณ์และแจ้งเคลมยอด 19X,XXX +ค่าขาดประโยชน์ต้องได้เกินกว่านั้น(ในส่วนนี้ประกันแจ้งว่าอนุมัติเริ่มจากวันที่เคลม)
**การอนุมัติค่าขาดประโยชน์จะรวมกับกับที่คู่กรณีปฏิเสธยอดการเคลมไหม? (ซึ่งรถชนช่วงกลางเดือนธันวาคม 65 )
จากเหตุการณ์นี้คู่กรณีต้องการให้ไปคุยที่อู่เพื่อจะให้เราจ่ายส่วนต่างให้ได้และโทรมาหาทุกวันไลน์มาขู่ฟ้องตลอดนับครั้งไม่ถ้วนเพราะต้องการเงินส่วนที่เหลือให้ได้ (เคสนี้มีการเรียกค่าสินน้ำใจไปแล้ว และยอมจ่ายให้เรียบร้อย 5,xxx บาท) (ค่ารถยกเราจ่าย ค่าที่จอดส่วนกลางเราจ่าย)
ขอภัยหากบางคำทำให้ไม่เข้าใจ ทุกคนมีความคิดเห็นกับเรื่องนี้อย่างไร
ประกันประเมินความเสียหายคู่กรณี และอนุมัติจ่ายเรียบร้อยแล้วแต่คู่กรณีไม่พอใจ
แต่ประกันและอู่ประเมินส่วนเสียหายจริงและตกลงราคายอดสุดท้ายกันที่ 15X,XXX บาท (รวมค่าขาดประโยชน์)
ซึ่งรายละเอียดชิ้นส่วนที่เสียหาย+กับราคาของแต่งได้ประเมินตามราคาที่คู่กรณีเสนอมาแล้วอนุมัติครบทุกชิ้นส่วน ซึ่งถ้าคู่กรณีเคลมนอกเหนือประกันไม่สามารถอนุมัติให้ได้ (ประกันได้แจ้งว่าตรวจราคากลางเรียบร้อยแล้ว) ซึ่งทางตัวเราเองก็ทำการประเมินทำเป็นไฟล์ส่วนเสียหายไว้อย่างละเอียด ราคาชิ้นส่วนคู่กรณีได้ส่งราคาตามที่เคยแต่งก่อนชนให้และชิ้นส่วนที่ไม่แต่งประเมินตาราคากลาง เช่นเดียวกับทางประกัน (จะต้องแจ้งก่อนว่ารถคู่กรณีชนฝั่งคนขับด้านหน้าฝั่งเดียว มีส่วนเสียหายอีกฝั่ง(ฝั่งซ้ายข้างคนขับ) คือล้อแม็กแตก (ฝั่งคนขับไม่เสียหาย) ) ซึ่งจะไม่ขอลงรายละเอียดทุกชิ้นแต่จะระบุชิ้นส่วนสำคัญคร่าวๆให้ทุกคนได้อ่านและพิจารณา เช่น แก้มข้างฝั่งคนขับ 1 ชิ้น +หุ้มคาร์บอน ฝากระโปงถลอกไม่ถึงบุบ(หุ้มฝาคาร์บอนใหม่) ไฟหน้ารวมไฟตัดหมอก ที่ครอบไฟตัดหมอก กันชนหน้าแต่ง กระจังหน้า เป็นต้น **ราคาค่าหุ้มคาร์บอนแต่ละที่คู่กรณีส่งมาไม่เกินชิ้นละ 2x,xxx บาทอาจมีปลายๆ
เหตุจาการล่าช้าเนื่องคู่กรณีคิดว่าค่าซ่อม 20X,XXX ไม่เพียงพอจะซ่อมรถตนเองจึงปฏิเสธประกัน 3 รอบในยอดเงินที่อนุมัติ
อัพเดทล่าสุดทางประกันและทางอู่ได้ตกลงราคาตามประเมินได้ยอดข้างต้นตามที่แจ้งเรียบร้อยแล้วแต่คู่กรณีไม่พอใจเนื่องจากแจ้งว่าจัดซื้ออุปกรณ์และแจ้งเคลมยอด 19X,XXX +ค่าขาดประโยชน์ต้องได้เกินกว่านั้น(ในส่วนนี้ประกันแจ้งว่าอนุมัติเริ่มจากวันที่เคลม)
**การอนุมัติค่าขาดประโยชน์จะรวมกับกับที่คู่กรณีปฏิเสธยอดการเคลมไหม? (ซึ่งรถชนช่วงกลางเดือนธันวาคม 65 )
จากเหตุการณ์นี้คู่กรณีต้องการให้ไปคุยที่อู่เพื่อจะให้เราจ่ายส่วนต่างให้ได้และโทรมาหาทุกวันไลน์มาขู่ฟ้องตลอดนับครั้งไม่ถ้วนเพราะต้องการเงินส่วนที่เหลือให้ได้ (เคสนี้มีการเรียกค่าสินน้ำใจไปแล้ว และยอมจ่ายให้เรียบร้อย 5,xxx บาท) (ค่ารถยกเราจ่าย ค่าที่จอดส่วนกลางเราจ่าย)
ขอภัยหากบางคำทำให้ไม่เข้าใจ ทุกคนมีความคิดเห็นกับเรื่องนี้อย่างไร