๗. สุพรหมสูตร ว่าด้วยสุพรหมเทพบุตร

กระทู้สนทนา
[๒๖๔] สุพรหมเทวบุตร ยืนอยู่ ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่งแล้ว ได้
กราบทูลพระผู้มีพระภาคด้วยคาถาว่า
                          จิตนี้สะดุ้งอยู่เป็นนิตย์ ใจนี้หวาดเสียวอยู่เป็นนิตย์ ถ้าเมื่อ
                          กิจทั้งหลายยังไม่เกิดขึ้น หรือเกิดขึ้นแล้วก็ตาม ถ้าความ
                          ไม่สะดุ้งกลัวมีอยู่ ข้าพระองค์ทูลถามแล้ว ขอจงตรัสบอก
                          ข้อนั้นแก่ข้าพระองค์ ฯ
             [๒๖๕] พระผู้มีพระภาคตรัสว่า
                          นอกจากปัญญาและความเพียร นอกจากความสำรวมอินทรีย์
                          นอกจากความสละวางโดยประการทั้งปวง เรายังไม่เห็นความ
                          สวัสดีแห่งสัตว์ทั้งหลาย ฯ
             สุพรหมเทวบุตรได้กล่าวดังนี้แล้ว ฯลฯ ก็อันตรธานไปในที่นั้นเอง ฯ
------------




ก็ในบทนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงถือเอาการเจริญโพชฌงค์ก่อน ภายหลังก็ทรงถือเอาอินทรียสังวร ก็จริงอยู่ ถึงอย่างนั้น โดยใจความอินทรียสังวร ก็พึงทราบว่า ทรงถือเอาก่อน ด้วยว่า เมื่อภิกษุถือเอาอินทรียสังวรแล้ว ก็เป็นอันถือเอาจตุปาริสุทธิศีลด้วย.
               ภิกษุตั้งอยู่ในจตุปาริสุทธิศีลนั้น เป็นนิสสัยมุตตกะ (พ้นจากการถือนิสสัยกับอุปัชฌาย์หรืออาจารย์) สมาทานตปคุณ กล่าวคือธุดงค์เข้าป่าเจริญกัมมัฏฐาน ย่อมทำโพชฌงค์ให้เกิดมีพร้อมกับวิปัสสนา. อริยมรรคของภิกษุนั้นทำนิพพานธรรมอันใดเป็นอารมณ์แล้วเกิดขึ้น นิพพานธรรมอันนั้น ชื่อว่าสัพพนิสสัคคะ.
               พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงเปลี่ยนเทศนาเป็นสัจจะ ๔.
               เมื่อจบเทศนา เทพบุตรก็ตั้งอยู่ในโสดาปัตติผล.
---------------
ด้วยพระเมตตากรุณาธิคุณของพระอรรถกถา ผู้เป็นพระสงฆ์สาวกของพระพุทธเจ้า จึงมีรายละเอียดให้เข้าใจในพระสูตรนี้ได้อย่างชัดเจน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่