ในวงดื่มไวน์ที่พ่อผมชวนเพื่อนๆมาก๊งกันตรงชานระเบียงหน้าบ้าน มีกันอยู่ 7 คนซึ่งแต่ล่ะคนอายุ 65-70 up กันทั้งสิ้น 4 คนเป็นอาจาร์ยหมอ อีกหนึ่งเป็นอาจาร์ยสอนมหาวิทยาลัย สองคนเป็นเจ้าของกิจการ บทสนทนาก็ไม่พ้นเรื่องการเมืองโดยเฉพาะวันเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึงนี้ ผมนั่งดื่มไปฟังคนแก่แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันไปแบบเพลินๆ บรรยากาศลื่นไหลเพราะทั้งแก๊งค์เห็นแบบเดียวกันคือไม่ชอบก้าวไกลและก็มีอยู่แค่ประเด็นเดียวประเด็นหลักที่ทุกคนรู้สึกไม่โอเคกับพรรคๆนี้
ที่น่าสนใจคือทุกคนจะกาให้พรรคลุงป้อม หลักๆคือต้องช่วยกันเทคะแนนให้ฝั่งนี้ไปต้านกับก้าวไกล (เออ แปลกที่พวกเพื่อนพ่อผมดันกลัวก้าวไกลไม่ใช่เพื่อไทย) แต่ที่น่าสนใจคือทำไมถึงเป็นลุงป้อมไม่ใช่อีกลุง? ง่ายๆคือลุงคนหนึ่งอยู่มานานมากแล้วและทุกคนก็มองว่าลุงป้อมคือ mastermind ตัวจริง
บทสนทนานั้นเป็นการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นของปัญญาชนที่พูดคุยกันเบาๆยิ้มๆและหัวเราะไม่เร่งเสียงหรือด่าทอพรรคการเมืองที่ตัวเองไม่ชอบแบบดุดันหยาบคาย ส่วนใหญ่เค้าก็โอเคกับแนวคิดของพรรคก้าวไกลและก็ยอมรับว่าพรรคนี้มีไอเดียใหม่ๆน่าสนใจแต่นะก็ติดกันอยู่กับการแสดงออกของวัยรุ่นที่เค้ามองว่าเป็น FC ของพรรคๆนี้ที่มักจะมีการแสดงออกที่ก้าวร้าวและก็เรื่องที่รับไม่ได้จริงๆ ผมเองก็มีประเด็นที่รับก้าวไกลไม่ได้เหมือนกันแต่คนล่ะประเด็นกันนะครับ ผมผิดหวังที่ก้าวไกลไม่ดันกัญชาให้เป็นตัว boost economy ของประเทศแบบ Amsterdam เค้า
ผมถูกถามว่าชอบพรรคไหนก็บอกคุณอาแกตรงๆว่าก้าวไกล ซึ่งทุกคนก็ open และไม่มีท่าทีที่จะหักล้างมุมมองผมหรือจะ debate อะไรแถมยังพยักหน้าและเห็นด้วยกับหลายๆนโยบายของพรรคเช่นเรื่อง ควันพิษ หรือ เกณททหาร
หลังไวน์หมดไปสามขวดต่างคนต่างแยกย้าย ผมเข้าใจนะว่าทำไมเพื่อนพ่อผมถึงมีความคิดทางการเมืองที่แตกต่างจากผมหรือคนรุ่นใหม่โดยสิ้นเชิง ผมมองว่าไม่ใช่เรื่องผิดอะไรกับการที่คนกลุ่มหนึ่งร็สึกว่าแบบนี้เท่านี้ทางนี้มันก็โอเคแล้วทำไมจะต้องเปลี่ยนด้วยและท่าทีในการแสดงออกของคนรุ่นหลานที่เค้าเห็นผ่านสื่อนั้นยิ่งทำให้เค้ารับไม่ได้กับบริบทของสังคมที่อาจจะเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิงหากก้าวไกลได้เป็นรัฐบาล ความนอบน้อมถ่อมตน ความเคารพผู้ใหญ่ จะยังมีอยู่ไหม นันน่าจะเป็นความวิตกกังวลในใจของพวกเค้า ในขณะที่คนอีกยุคก็คงงงๆว่าเพื่อนพ่อผมทำไมถึงโอเคหรือรับได้กับสภาพแบบนี้
ต่างคนต่างความคิดต่างความเชื่อโดยสิ้นเชิงครับ เลือกตั้งเท่านั้นผมว่าแฟร์สุด
แต่แปลกดีที่แทบไม่มีใครพูดถึงเพื่อไทยหรือทักษิณเลย ผมว่าทุกคนยังพอยอมรับได้หากเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาลมากกว่าอีกพรรคหนึ่งได้เป็น ...
ไปนั่งอยู่ในวงคนอายุ 60-70 ที่ดื่มไวน์กัน มีทั้งอาจาร์ยหมอและเจ้าของกิจการ ทั้งวงไม่เอาก้าวไกลแต่จะกาให้ลุงป้อม
ที่น่าสนใจคือทุกคนจะกาให้พรรคลุงป้อม หลักๆคือต้องช่วยกันเทคะแนนให้ฝั่งนี้ไปต้านกับก้าวไกล (เออ แปลกที่พวกเพื่อนพ่อผมดันกลัวก้าวไกลไม่ใช่เพื่อไทย) แต่ที่น่าสนใจคือทำไมถึงเป็นลุงป้อมไม่ใช่อีกลุง? ง่ายๆคือลุงคนหนึ่งอยู่มานานมากแล้วและทุกคนก็มองว่าลุงป้อมคือ mastermind ตัวจริง
บทสนทนานั้นเป็นการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นของปัญญาชนที่พูดคุยกันเบาๆยิ้มๆและหัวเราะไม่เร่งเสียงหรือด่าทอพรรคการเมืองที่ตัวเองไม่ชอบแบบดุดันหยาบคาย ส่วนใหญ่เค้าก็โอเคกับแนวคิดของพรรคก้าวไกลและก็ยอมรับว่าพรรคนี้มีไอเดียใหม่ๆน่าสนใจแต่นะก็ติดกันอยู่กับการแสดงออกของวัยรุ่นที่เค้ามองว่าเป็น FC ของพรรคๆนี้ที่มักจะมีการแสดงออกที่ก้าวร้าวและก็เรื่องที่รับไม่ได้จริงๆ ผมเองก็มีประเด็นที่รับก้าวไกลไม่ได้เหมือนกันแต่คนล่ะประเด็นกันนะครับ ผมผิดหวังที่ก้าวไกลไม่ดันกัญชาให้เป็นตัว boost economy ของประเทศแบบ Amsterdam เค้า
ผมถูกถามว่าชอบพรรคไหนก็บอกคุณอาแกตรงๆว่าก้าวไกล ซึ่งทุกคนก็ open และไม่มีท่าทีที่จะหักล้างมุมมองผมหรือจะ debate อะไรแถมยังพยักหน้าและเห็นด้วยกับหลายๆนโยบายของพรรคเช่นเรื่อง ควันพิษ หรือ เกณททหาร
หลังไวน์หมดไปสามขวดต่างคนต่างแยกย้าย ผมเข้าใจนะว่าทำไมเพื่อนพ่อผมถึงมีความคิดทางการเมืองที่แตกต่างจากผมหรือคนรุ่นใหม่โดยสิ้นเชิง ผมมองว่าไม่ใช่เรื่องผิดอะไรกับการที่คนกลุ่มหนึ่งร็สึกว่าแบบนี้เท่านี้ทางนี้มันก็โอเคแล้วทำไมจะต้องเปลี่ยนด้วยและท่าทีในการแสดงออกของคนรุ่นหลานที่เค้าเห็นผ่านสื่อนั้นยิ่งทำให้เค้ารับไม่ได้กับบริบทของสังคมที่อาจจะเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิงหากก้าวไกลได้เป็นรัฐบาล ความนอบน้อมถ่อมตน ความเคารพผู้ใหญ่ จะยังมีอยู่ไหม นันน่าจะเป็นความวิตกกังวลในใจของพวกเค้า ในขณะที่คนอีกยุคก็คงงงๆว่าเพื่อนพ่อผมทำไมถึงโอเคหรือรับได้กับสภาพแบบนี้
ต่างคนต่างความคิดต่างความเชื่อโดยสิ้นเชิงครับ เลือกตั้งเท่านั้นผมว่าแฟร์สุด
แต่แปลกดีที่แทบไม่มีใครพูดถึงเพื่อไทยหรือทักษิณเลย ผมว่าทุกคนยังพอยอมรับได้หากเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาลมากกว่าอีกพรรคหนึ่งได้เป็น ...