1. รถเราถูกชนท้ายวันที่ 3 ก.พ.66 เวลาประมาณ 19.30 น. คู่กรณีเราเป็นลูกค้า LMG แจ้งอุบัติเหตุมี จนท มาดูที่เกิดเหตุ รถเราเสียหาย และมีทรัพย์สินในรถเสียหาย (ส้มโอ) เราได้แจ้งทางคู่กรณีทันที แต่ประกันคู่กรณีบ่ายเบี่ยงบอกส้มโอ ไม่เสียหาย เพราะมีเปลือกหนา เราได้แย้งไปว่าส้มโอเราเปลือกบาง ไม่หนาเหมือนที่ จนท.LMG บอก เรากล้าให้ผ่าลูกส้มโอ ดูได้ จนท.LMG บอกให้เรานับจำนวนส้มโอ ว่าเสียหายกี่ลูก ซึ่งขณะนั้นบนถนนมีรถเยอะมาก อยู่ในช่องทางด่วน และมืดมาก เราจึงแย้งไปว่ารถเยอะขนาดนี้ มืดด้วย เราไม่ขึ้นไปนับส้มโอที่เสียหาย เพราะเรากลัวเกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อน บนรถก้อมืด จนท.LMG บอกว่าถ้าเราไม่ขึ้นไปนับแจ้งจำนวนที่เสียหายไม่ได้ บ.ไม่สามารถเคลมของที่เสียหายได้ เราจึงบอกให้ จนท.LMG ขึ้นไปนับเองเลย ตัวจนท.ยังไม่ขึ้นไปดูเลย บอกมองไม่เห็น ดูไม่รู้ว่าลูกไหนเสียหาย แต่บ่ายเบี่ยงอย่างเดียวเลย ว่าถ้าตอนนี้เราแจ้งจำนวนไม่ได้ เราจะเคลมกับบริษัทฯ ไม่ได้ ทางเราก้อไม่ยอม ระหว่างที่เจรจาของเสียหาย จนท.LMG ได้ติดต่อกับจนท.อีกคน ซึ่งบอกว่าเป็นหัวหน้า ได้พูดคุยตลอดเวลา และน้ำเสียงของ จนท. จะขู่เราตลอดว่าเราจะต้องแจ้งจำนวนให้ได้ในขณะนั้น เราก้อไม่ยอม
สรุป จนท.LMG จึงพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่พอใจ บอกถ้าตกลงกันไม่ได้ต้องไปโรงพักนะ เราจึงตอบไปว่าพร้อมค่ะ ของเราเสียหายจะไม่รับผิดชอบได้ไง ไปถึงโรงพักแจ้งความลงบันทึกประจำวัน กว่าจะเสร็จเกือบเที่ยงคืน จนท.LMG ให้เราเอาใบแจ้งความไปติดต่อที่ บ.LMG สนง.ใหญ่ วันจันทร์ เพราะเสาร์ อาทิตย์ บริษัทฯ หยุด เราก้อตกลง
2. แต่วันรุ่งขึ้นที่เป็นวันเสาร์ ประมาณ 10.30 น. จนท.LMG ที่ทำเรื่องเมื่อคืน โทรบอกเราว่าเด๋วจะมี จนท.LMG อีกคนโทรหาเรา ชื่อ* และเบอร์มือถือ* จะดูแลในเคสของเรา แต่พอ จนท.LMG โทรมา กลับบอกว่าไม่ให้เราเข้าไปที่ สนง.ใหญ่ แล้วให้เราแจ้งจำนวนส้มโอที่เสียหาย เราจึงบอกกลับไปว่าเราขอไปที่สนง.ใหญ่ ดีกว่า เพราะมี จนท.อยู่ด้วยจะได้เห็นความเสียหายทั้ง 2 ฝ่าย เด๋วจะมาบ่ายเบี่ยงไม่รับผิดชอบอีก และเรากลัวว่า ถ้าเปิดประตูด้านข้าง และท้ายรถ จะปิดไม่ได้ ซึ่งขณะนั้นรถจอดอยู่หน้าคอนโด แดดก้อร้อนมาก เราเลยโดน จนท.ดุว่าทำไมเอารถไปจอดตากแดด ไม่หาที่จอดในร่ม เราเลยบอกไปว่าเราอยู่คอนโด ไม่ได้อยู่ทาวเฮ้าส์ หรือบ้านเดี่ยว มีแต่ที่จอดรถแบบนี้ ยังมาดุเราอีกว่าไม่รู้จักไปหาที่จอดที่ร่มๆ หรือใต้ต้นไม้ เราเลยพูดย้อนกลับไปว่าคอนโดอยู่ในซอยเล็กๆ ไม่มีต้นไม้ ถ้าไม่เชื่อส่ง จนท.มาดูให้เห็นกะตาดีกว่าจะมาสั่งให้เราทำโน่น ทำนี่ ทางปลายสายเลยบอกจะส่ง จนท.มาดูหน้างานก่อนเที่ยง พอ จนท.มาเราก้อบอกแฟนให้ถ่ายวีดีโอไว้เป็นหลักฐาน เพราะไม่มั่นใจว่าบ.LMG จะเคลมให้หรือไม่ เพราะตั้งแต่เกิดเหตุเราโดนจนท.พูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่ดีเลย ทั้งดุ และขู่ด้วย ทั้งที่เราเป็นฝ่ายถูก
ช่วงที่จนท.มาตรวจสอบความเสียหาย เราผ่าส้มโอให้เห็นว่าส้มโอเปลือกบาง ไม่ได้เปลือกหนา อย่างที่จนท.แย้งมา เราเลือกส้มโอที่ถูกแรงกระแทกช้ำ แตก บางลูกถูกคลิปหนีบเจาะเป็นรู ให้ จนท. เพื่อเคลมแค่บางส่วน ทั้งๆ ที่ควรจะเคลมมากกว่านี้ แต่เรายก และเลือกจนปวดหลัง แดดก้อร้อนมาก แล้วก้อไม่ไหวกับจนท.ปลายสาย
สรุปเราเคลมได้แต่ต้นทุนส้ม ค่าเสียเวลาหยุดร้านขาดรายได้ เคลมไม่ได้ จนท.บอกคนละส่วน ให้เราไปเคลมส่วนนี้ หลังจากรถเราซ่อมเสร็จ ให้ยื่นเรื่องค่าขาดประโยชน์
3. หลังจากรถเราซ่อมเสร็จ เรายื่นเรื่องค่าขาดประโยชน์ที่สนง.ใหญ่ ด้วยตนเอง เรื่องที่เคลม
3.1 รถเข้าซ่อม 15 วัน
3.2 นัดเจรจาส้มโอเสียหาย 1 วัน
3.3 วันที่เอารถเข้าประเมินความเสียหายก่อนอนุมัติซ่อม 1 วัน
ทั้งหมด 17 วัน ๆ ละ 2,000 บาท เป็นเงิน 34,000 บาท
(ยังไม่รวมวันที่ตระเวณหาอู่ซ่อม เพราะรถเราเป็นรถฟู๊ดทรัค เสียหายที่ตัวรถ และหลังคา ไม่มีอู่ที่ซ่อมทั้ง 2 อย่างในอู่เดียว ต้องขับรถไปอู่ประกัน ไปร้านหลังคา ทำใบเสนอราคา แล้วมาบ.วิริยะ เพื่อคลุมราคาหลังคา เพราะไม่มีร้านเข้าร่วมบ.ประกันเลย ก่อนไปโทรเข้าคอลเซนเตอร์ แนะนำไปอู่หลายที่แต่ไม่มีทำหลังคา)
มี จนท.รับเอกสาร แล้วบอกว่าจะมีจนท.ติดต่อกลับ ภายใน 7 วันทำการไม่รวมเสาร์ อาทิตย์
ถ้าไม่มีจนท.ติดต่อกลับให้โทรตามเบอร์นี้*
ผ่านไป 13 วัน (รวมติดวันหยุด) เราติดต่อไปหลายครั้งมาก มีแต่ให้ฝากข้อความ แต่ไม่มีโทรกลับ เราพยายามติดต่อช่องทางอื่นๆ ของบ.LMG รวมถึงคู่กรณี (คนชน) ให้ช่วยติดต่อให้ ถึงมีจนท.โทรกลับ แล้วบอกจะดูเรื่องให้ อีก 2 วัน จนท.ติดต่อมาบอกให้ค่าบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้นได้แค่ 15 วันละ 700 เป็นเงิน 10,500 บาท
จึงเกิดคำถาม
1. ค่าขาดประโยชน์ จ่ายให้เฉพาะวันที่วันที่รถซ่อมอยู่ในอู่, วันที่นัดเจรจาทรัพย์สิน (ส้มโอ) เสียหาย จนท.บอกเคลมส่วนนี้ไม่ได้ให้ไปเคลมหล้งรถซ่อมเสร็จ, วันที่ขับรถไปหาอู่ประเมินราคา ประเมินค่าซ่อมหลังคา เสียค่าน้ำมันรถ ขาดรายได้ ส่วนนี้ จนท.บอกเคลมส่วนนี้ไม่ได้
2. บ.LMG บอกปัดทุกกรณีไม่เกี่ยว เป็นเรื่องของเรา กับ บ.ประกันเรา แล้วต้นเหตุเกิดจากลูกค้าคุณขับรถมาชนเราไม่ใช่หรือ ทำให้เราเดือดร้อน ขาดรายได้ มีภาระหนี้เพิ่มขึ้น
3. จนท.บ.LMG พูดอะไรก้อได้ เพื่อรักษาผลประโยชน์ให้กับบริษัท ไม่ต้องรับผิดชอบคำพูดที่พูดออกมา ไม่ต้องนึกถึงความถูกต้อง ความเดือดร้อนของคู่กรณีเลย
เคลมค่าขาดประโยชน์ ประกันบ่ายเบี่ยงบอกไม่เกี่ยว เป็นปัญหาส่วนตัวของเรา แบบนี้ได้ด้วยใช่มั้ย
สรุป จนท.LMG จึงพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่พอใจ บอกถ้าตกลงกันไม่ได้ต้องไปโรงพักนะ เราจึงตอบไปว่าพร้อมค่ะ ของเราเสียหายจะไม่รับผิดชอบได้ไง ไปถึงโรงพักแจ้งความลงบันทึกประจำวัน กว่าจะเสร็จเกือบเที่ยงคืน จนท.LMG ให้เราเอาใบแจ้งความไปติดต่อที่ บ.LMG สนง.ใหญ่ วันจันทร์ เพราะเสาร์ อาทิตย์ บริษัทฯ หยุด เราก้อตกลง
2. แต่วันรุ่งขึ้นที่เป็นวันเสาร์ ประมาณ 10.30 น. จนท.LMG ที่ทำเรื่องเมื่อคืน โทรบอกเราว่าเด๋วจะมี จนท.LMG อีกคนโทรหาเรา ชื่อ* และเบอร์มือถือ* จะดูแลในเคสของเรา แต่พอ จนท.LMG โทรมา กลับบอกว่าไม่ให้เราเข้าไปที่ สนง.ใหญ่ แล้วให้เราแจ้งจำนวนส้มโอที่เสียหาย เราจึงบอกกลับไปว่าเราขอไปที่สนง.ใหญ่ ดีกว่า เพราะมี จนท.อยู่ด้วยจะได้เห็นความเสียหายทั้ง 2 ฝ่าย เด๋วจะมาบ่ายเบี่ยงไม่รับผิดชอบอีก และเรากลัวว่า ถ้าเปิดประตูด้านข้าง และท้ายรถ จะปิดไม่ได้ ซึ่งขณะนั้นรถจอดอยู่หน้าคอนโด แดดก้อร้อนมาก เราเลยโดน จนท.ดุว่าทำไมเอารถไปจอดตากแดด ไม่หาที่จอดในร่ม เราเลยบอกไปว่าเราอยู่คอนโด ไม่ได้อยู่ทาวเฮ้าส์ หรือบ้านเดี่ยว มีแต่ที่จอดรถแบบนี้ ยังมาดุเราอีกว่าไม่รู้จักไปหาที่จอดที่ร่มๆ หรือใต้ต้นไม้ เราเลยพูดย้อนกลับไปว่าคอนโดอยู่ในซอยเล็กๆ ไม่มีต้นไม้ ถ้าไม่เชื่อส่ง จนท.มาดูให้เห็นกะตาดีกว่าจะมาสั่งให้เราทำโน่น ทำนี่ ทางปลายสายเลยบอกจะส่ง จนท.มาดูหน้างานก่อนเที่ยง พอ จนท.มาเราก้อบอกแฟนให้ถ่ายวีดีโอไว้เป็นหลักฐาน เพราะไม่มั่นใจว่าบ.LMG จะเคลมให้หรือไม่ เพราะตั้งแต่เกิดเหตุเราโดนจนท.พูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่ดีเลย ทั้งดุ และขู่ด้วย ทั้งที่เราเป็นฝ่ายถูก
ช่วงที่จนท.มาตรวจสอบความเสียหาย เราผ่าส้มโอให้เห็นว่าส้มโอเปลือกบาง ไม่ได้เปลือกหนา อย่างที่จนท.แย้งมา เราเลือกส้มโอที่ถูกแรงกระแทกช้ำ แตก บางลูกถูกคลิปหนีบเจาะเป็นรู ให้ จนท. เพื่อเคลมแค่บางส่วน ทั้งๆ ที่ควรจะเคลมมากกว่านี้ แต่เรายก และเลือกจนปวดหลัง แดดก้อร้อนมาก แล้วก้อไม่ไหวกับจนท.ปลายสาย
สรุปเราเคลมได้แต่ต้นทุนส้ม ค่าเสียเวลาหยุดร้านขาดรายได้ เคลมไม่ได้ จนท.บอกคนละส่วน ให้เราไปเคลมส่วนนี้ หลังจากรถเราซ่อมเสร็จ ให้ยื่นเรื่องค่าขาดประโยชน์
3. หลังจากรถเราซ่อมเสร็จ เรายื่นเรื่องค่าขาดประโยชน์ที่สนง.ใหญ่ ด้วยตนเอง เรื่องที่เคลม
3.1 รถเข้าซ่อม 15 วัน
3.2 นัดเจรจาส้มโอเสียหาย 1 วัน
3.3 วันที่เอารถเข้าประเมินความเสียหายก่อนอนุมัติซ่อม 1 วัน
ทั้งหมด 17 วัน ๆ ละ 2,000 บาท เป็นเงิน 34,000 บาท
(ยังไม่รวมวันที่ตระเวณหาอู่ซ่อม เพราะรถเราเป็นรถฟู๊ดทรัค เสียหายที่ตัวรถ และหลังคา ไม่มีอู่ที่ซ่อมทั้ง 2 อย่างในอู่เดียว ต้องขับรถไปอู่ประกัน ไปร้านหลังคา ทำใบเสนอราคา แล้วมาบ.วิริยะ เพื่อคลุมราคาหลังคา เพราะไม่มีร้านเข้าร่วมบ.ประกันเลย ก่อนไปโทรเข้าคอลเซนเตอร์ แนะนำไปอู่หลายที่แต่ไม่มีทำหลังคา)
มี จนท.รับเอกสาร แล้วบอกว่าจะมีจนท.ติดต่อกลับ ภายใน 7 วันทำการไม่รวมเสาร์ อาทิตย์
ถ้าไม่มีจนท.ติดต่อกลับให้โทรตามเบอร์นี้*
ผ่านไป 13 วัน (รวมติดวันหยุด) เราติดต่อไปหลายครั้งมาก มีแต่ให้ฝากข้อความ แต่ไม่มีโทรกลับ เราพยายามติดต่อช่องทางอื่นๆ ของบ.LMG รวมถึงคู่กรณี (คนชน) ให้ช่วยติดต่อให้ ถึงมีจนท.โทรกลับ แล้วบอกจะดูเรื่องให้ อีก 2 วัน จนท.ติดต่อมาบอกให้ค่าบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้นได้แค่ 15 วันละ 700 เป็นเงิน 10,500 บาท
จึงเกิดคำถาม
1. ค่าขาดประโยชน์ จ่ายให้เฉพาะวันที่วันที่รถซ่อมอยู่ในอู่, วันที่นัดเจรจาทรัพย์สิน (ส้มโอ) เสียหาย จนท.บอกเคลมส่วนนี้ไม่ได้ให้ไปเคลมหล้งรถซ่อมเสร็จ, วันที่ขับรถไปหาอู่ประเมินราคา ประเมินค่าซ่อมหลังคา เสียค่าน้ำมันรถ ขาดรายได้ ส่วนนี้ จนท.บอกเคลมส่วนนี้ไม่ได้
2. บ.LMG บอกปัดทุกกรณีไม่เกี่ยว เป็นเรื่องของเรา กับ บ.ประกันเรา แล้วต้นเหตุเกิดจากลูกค้าคุณขับรถมาชนเราไม่ใช่หรือ ทำให้เราเดือดร้อน ขาดรายได้ มีภาระหนี้เพิ่มขึ้น
3. จนท.บ.LMG พูดอะไรก้อได้ เพื่อรักษาผลประโยชน์ให้กับบริษัท ไม่ต้องรับผิดชอบคำพูดที่พูดออกมา ไม่ต้องนึกถึงความถูกต้อง ความเดือดร้อนของคู่กรณีเลย