JJNY : เศรษฐา ปลุกเลือกเพื่อไทย│'ธนาธร'ลุยโคราช ปราศรัยอัดนักการเมือง│ภาคปชช.ตรวจสอบผู้สมัครรทสช.│ไทยติดบัญชี WL อีกปี

เศรษฐา ปลุกเลือกเพื่อไทยเป็นรัฐบาล ขจัดยากจน ชูเป๋าเงินดิจิทัล กระตุ้นศก.ครั้งใหญ่ 
https://www.khaosod.co.th/election-2023/news_7655374
 
 
เราต้องชนะทันที! เศรษฐา ปลุกเลือกเพื่อไทยเป็นรัฐบาล ขจัดความเหลื่อมล้ำ-ยากจน ชูนโยบายเป๋าเงินดิจิทัล กระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่
 
เมื่อวันที่ 10 พ.ค. 2566 นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย (พท.) และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย เรื่อง “ถึงเวลาปลุกชีวิตเศรษฐกิจที่หลับใหล” ระบุว่า 
 
ตลอด 8 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยไม่สามารถเดินต่อหน้าไปได้ และยังคงก้าวถอยหลังอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะจากสถานการณ์โรคระบาดหรือแนวการทางบริหารประเทศที่ล้มเหลว คนไทยถูกกดให้จนลงจนลง แล้วแจกเงินครั้งละไม่กี่ร้อยบาท เพื่อหยอดน้ำข้าวต้มยื้อเวลาให้พอประทังชีวิต โดยไม่มีการคำนึงถึงวิธีเพิ่มรายได้ ลดรายจ่าย และแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำอย่างยั่งยืน
 
วันนี้ประเทศไทยรอไม่ได้อีกแล้ว ผมยืนยันว่าเราต้องชนะทันที เพื่อให้เพื่อไทยได้มีโอกาสเข้าไปเปลี่ยนแปลงเศรษฐกิจของประเทศโดยเร็วที่สุด ด้วยนโยบายเติมเงิน 10,000 เข้ากระเป๋าเงินดิจิทัล (Digital Wallet) ที่จะเข้าไปปั๊มหัวใจประเทศด้วยการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ ประชาชนไทยอายุ 16 ปีขึ้นไปจะได้รับทันที เพราะเป้าหมายของเราคือการทำให้ประเทศไทยไม่ต้องมีคนจนอีกต่อไป” นายเศรษฐา ระบุ
 
นายเศรษฐา ระบุว่า การกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งนี้ไม่จำกัดอยู่เพียงแค่ในเมืองหลวงหรือเมืองใหญ่เท่านั้น แต่เม็ดเงินจะถูกกระจายไปทั่วประเทศ ทุกอำเภอ และทุกตำบล ตามจำนวนประชาชนไทยอายุ 16 ปีขึ้นไปในแต่ละพื้นที่
 
นายเศรษฐา ระบุต่อว่า เงิน 10,000 ในกระเป๋าเงินดิจิทัลของพี่น้องประชาชนนั้น ไม่ได้แจกแล้วหมดไป แต่เราออกแบบโดยหวังผลให้นำไปสู่การใช้จ่ายเพื่อฟื้นชีวิตให้กับเศรษฐกิจทั้งระบบ และคงเงินให้หมุนเวียนอยู่ในชุมชน อยู่ในระบบ นโยบายนี้จึงมาพร้อมเงื่อนไขสำคัญ 4 อย่าง คือ 1.เปิดกระเป๋าเงินดิจิทัล 2.ใช้ได้เฉพาะอาหารของใช้ประจำวัน หรือวัตถุดิบประกอบสัมมาชีพ 3.ใช้ได้ภายในพื้นที่ 4 กิโลเมตรตามที่อยู่หน้าบัตรประชาชนเท่านั้น 4.แจกรอบเดียวเท่านั้น ต้องใช้ให้หมดภายใน 6 เดือน
 
หน้าที่ของผมคือการเปลี่ยนสิ่งที่ใครก็มองว่าเป็นไปไม่ได้ให้เกิดขึ้นจริง วันที่ 14 พ.ค. นี้ ขอโอกาสให้เพื่อไทยได้เข้าไปจัดการกับศัตรูที่มีชื่อว่าความเหลื่อมล้ำและความยากจน” นายเศรษฐา ระบุ
 
https://www.facebook.com/100090705406699/posts/pfbid0Zo9nTnJM2PuzZYKAAMGTYDN5YU1oGMag5MveTxPb5fxiWKautgWWkgkEgbHZ8EgAl/?mibextid=cr9u03




แซะใครนะ? 'ธนาธร' ลุยโคราช ปราศรัยอัดนักการเมือง เมื่อก่อนขึ้นเวทีเสื้อแดง วันนี้อยู่พรรคทหาร
https://ch3plus.com/news/political/morning/347358
 
วานนี้ (9 พ.ค. 66) คาราวานก้าวไกลเดินทางต่อเนื่อง เป็นวันที่ 4 มีการจัดเวทีปราศรัยใหญ่ใน 2 จังหวัด พร้อมกัน ได้แก่ คาราวานสายเลือดอีสาน ที่ จ.นครราชสีมา และคาราวานสายมาเหนือ ที่ จ.พิษณุโลก โดยทั้ง 2 เวที มีประชาชนร่วมฟังปราศรัยอย่างหนาแน่นคล้ายกัน

สำหรับจุดแรก คาราวานสายเลือดอีสาน เปิดเวทีปราศรัยใหญ่ในช่วงเย็น ในช่วงหนึ่งของการปราศรัย

นายธนาธร ระบุว่า ตลอดการรณรงค์หาเสียงของพรรคก้าวไกลนั้น เราได้ทำให้ทุกคนตระหนักแล้ว ถึงปัญหาที่เกิดจากขุนทหาร นายทุนผูกขาด นักการเมืองไร้อุดมการณ์ ที่ปกครองบ้านเมืองมาก่อนหน้านี้ การรัฐประหารที่ผ่านมาทุกคนย่อมเห็นได้ชัดแล้วว่าตอนที่ทำ ก็ทำไปโดยอ้างว่านักการเมืองเลว นักการเมืองทุจริต แต่สุดท้ายพอจะสืบทอดอำนาจก็ตระหนักได้ว่าหนีการเลือกตั้งไม่ได้ พากันเอานักการเมืองที่ด่าว่าเลววันก่อนมาอยู่พรรคตัวเอง โดยนักการเมืองพวกนี้ก็เหลือเชื่อ ก่อนนี้ขึ้นเวทีเสื้อแดงสู้เพื่อประชาธิปไตยอยู่ มาอีกปีไปอยู่พรรคการเมืองสืบทอดอำนาจของทหารเสียแล้ว คือเคยขึ้นเวทีเสื้อแดงที่โคราชนี่เอง

นายธนาธรกล่าวต่อไปว่า ดังนั้น 14 พ.ค. นี้เป็นโอกาสอันดีจริงๆ ที่เราจะเปลี่ยนแปลงผลักดันประเทศไทยไปข้างหน้า พรรคก้าวไกลรู้ดีว่าเรื่องที่เสนอเป็นเรื่องยาก แต่ประเทศไทยจะไปต่อไม่ได้ ถ้าเราไม่ต่อสู้กับกลุ่มทุนผูกขาด นักการเมืองที่สมคบกับผู้สืบทอดอำนาจ กองทัพ รัฐราชการ ที่เป็นโซ่ตรวนที่ฉุดรั้งไม่ให้ประเทศไทยก้าวไปข้างหน้า

วันนี้ ทุกคนเห็นแล้วว่าฝ่ายอนุรักษนิยมต้องการสร้างให้เกิดความเกลียดชัง เนื้อหาที่ผลิตออกมาแต่ละอย่าง ล้วนใส่ร้ายป้ายสี ทำให้ทุกคนเกลียดกัน เอาการเมืองแห่งความกลัวมาขาย กลัวนู่นกลัวนี่ไปหมด

แต่การเมืองที่พวกเราอยากทำคือสิ่งตรงกันข้าม เราไม่ทำการเมืองที่สร้างความกลัวความเกลียดชัง แต่เราทำงานการเมืองด้วยการสร้างการเมืองแห่งความหวัง ความหวังว่าข้างหน้าของเรามีแสงสว่าง มีอนาคตที่ดีของลูกหลานรออยู่ จะจับมือแล้วเดินไปข้างหน้าด้วยกันไหม

ถ้าอยากได้การเมืองแบบนี้ เดินไปกับพวกเรา จ้างพวกเราไปทำงาน จะทำงานให้คุ้มค่า ไม่เกรงใจนายทุนใหญ่ นักการเมืองไร้อุดมการณ์ การทุจริตคอร์รัปชัน นายพล ผู้มีบารมีคนไหน เราจะเกรงใจคนเดียวคือเจ้านายของเรา และเจ้านายของเรามีคนเดียว คือประชาชน” ธนาธรกล่าว


 
ภาคประชาชน ชี้เป้ากกต.พะเยา ตรวจสอบผู้สมัคร รทสช. ส่อหาเสียงผิดกม.เลือกตั้ง
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_7655227
 
งานเข้าไม่หยุด! ภาคประชาชน ชี้เป้า กกต.พะเยา ตรวจสอบ ผู้สมัคร ส.ส. พรรค รวมไทยสร้างชาติ หาเสียงเข้าข่ายผิดกฎหมายเลือกตั้ง
 
วันที่ 10 พ.ค.2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังผู้สมัคร ส.ส.เขตพื้นที่ภาคเหนือ และภาคอีสาน ของพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ประมาณ 10 คน นำโดยนายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข ผู้สมัคร ส.ส.เลย เขต 1 ได้เดินทางมารวมตัวกันบริเวณหน้าสำนักงานพรรครวมไทยสร้างชาติ กรุงเทพฯ เพื่อเรียกร้องให้ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค และ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค ฝากไปถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรค และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ที่รับปากไว้กับผู้สมัคร ส.ส.ว่าจะดูแลเรื่องเงินตามกฎหมาย

โดยหนึ่งในผู้สมัคร ที่มาเรียกร้องระบุว่า ขณะนี้ไม่ได้รับการเหลียวแล โดยทุกคนมีค่าใช้จ่าย อย่างรถแห่หาเสียงก็ไม่จ่าย ผู้สมัครต่างติดหนี้ ติดสินต่างถูกลอยแพ จึงเป็นตัวแทนมาที่พรรค แต่ยืนยันยังคงเดินหน้าทางการเมืองต่อ ยังสู้ ซึ่งรู้สึกอึดอัดใจ แต่ไม่ต้องการทำลายใครนั้น
 
ล่าสุด เพจ “พะเยา เอาแห๋มเม๊าะ” โดยภาคประชาชนแห่งชาติ 77 จังหวัดพะเยา ได้แชร์เพจเฟซบุ๊กบุคคลรายหนึ่งที่เผยแพร่คลิปติ๊กต๊อก กรณี นายปรีชาแถลงข่าวกรณีดังกล่าว จากนั้น เพจพะเยา เอาแห๋มเม๊าะ ยังโพสต์ข้อความระบุว่า 
 
“อ้าว งานเข้าแล้ว อำเภอปง พะเยา เห็นกันทั่วหน้า กกต.พะเยา ตรวจสอบด้วย”
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่