ตอนผมยังเป็นหนุ่มๆนะครับ
ผมก็คิดอะไรคล้ายๆกับคนหนุ่มสาว สมัยนี้ นี่แหละครับ
คิดว่า ตัวเองมีความรู้ การศึกษาสูงกว่า พ่อแม่
คิดว่าตัวเองฉลาด กว่าพ่อแม่ อ่านอะไร "ขาด" กว่าพ่อแม่
พ่อแม่ เป็นอะไรที่หัวโบราณ ครา่ำครึ ไม่ทันสมัย
และผมก็คิดว่าผมฉลาด หาเหตุผล ร้อยแปดพันเก้า ในการหาความชอบธรรมต่างๆมาสนับสนุนความคิดตัวเอง
ไม่มีใครเอาผมจนหรอก ผมมีรูรอดหาความชอบธรรม อ้างไปเรื่อยเปื่อย
อ้างโน่น นี่ นั่นเก่งมาก เถียงพ่อ เถียงแม่ จะให้พวกท่าน คิดเหมือนเราให้ได้
อึดอัด แค้นใจ ทำไมเรื่องแค่นี้พวกท่านคิดไม่ได้วะ
วันนี้ผมบอกได้เลยครับ
ว่าผมเสียใจ กับท่าทีของผม ที่มีต่อพ่อแม่ ในวันแบบนั้น เมื่อกว่า 30 ปีมาแล้ว
ท่าทีของผม การแสดงออกของผม ทำให้พวกท่านเสียใจ
ผมเลวมาก เลวที่คิดว่าตัวเองฉลาด
และผมยังโง่มากอีกด้วย ที่เต็มไปด้วยความยึดมั่น ถือมั่น
คิดแต่ว่าตัวเองคิดถูกอยู่เสมอ และพร้อมที่จะ defend ความคิดของตนกับทุกคนในโลก
จะเอาชนะให้ได้...
เมื่อคืนนั่งกินเบียร์คุยกับเพื่อน...แก่กันหมดทุกคนแล้วนะครับ
นั่ง 4 คน หมดเบียร์ไปโหลกว่าๆ ไหนจะทดเวลาบาดเจ็บ ต่อเวลา ยิงลูกโทษ อิ อิ
เพื่อนคนนึงมันบอกว่า ลูกๆของมัน "งอน" พ่อแม่ ที่พ่อแม่จะไม่เลือกพรรคการเมืองนึง
ไม่ยอมพูดจาด้วย ถามคำ ตอบคำ...เวรกรรมแท้ๆ
นี่มันกูเลยนะเนี่ย เวรกรรมมีจริงครับพี่น้อง
ก็อยากจะเรียนถึงน้องๆ หนุ่มสาววันนี้ครับ
จงเลือกพรรคการเมืองที่ท่านอยากจะเลือก
เลือกไปเถอะ จะด้วยเหตุผลอะไรก็ตามครับ เลือกไปเถอะ
แต่อย่าไปอึดอัด และ เอาเป็นเอาตายกับท่าทีของคนรอบตัวเรา ที่เค้าคิดอ่านไม่เหมือนกับเรา
เราอาจจะทำให้คนที่เรารัก ต้องเสียใจกับท่าทีที่ไม่เป็นมิตรของเรา
อย่าไป "อิน" การเมือง ซะจนทำให้ครอบครัวต้องแตกแยก
อย่าไป "อิน" กับการเมืองจนถึงขั้นเห็นคนคิดต่างเป็นศัตรู นี่มันไม่ใช่วิถีประชาธิปไตย
ที่มาเขียนวันนี้ ไม่ได้แปลว่า ผมฉลาด อะไรเลย
ผมก็ยังโง่ เหมือนที่เคยโง่นั่นแหละ
แต่สิ่งที่ได้อะไมาบ้างจากประสบการณ์ ตอนนี้จะเลขหกอยู่รอมร่อระดับเดือน
คือ คิดได้ว่า วิถีแห่งประชาธิปไตย นั้น มันคืออิสระของทุกคนในระบอบ
การคิดว่า คนอื่นๆต้องมาคิดเหมือนเรานั้น ห่างไกล เจตนารมย์ของประชาธิปไตยอย่างยิ่ง
และใกล้คำว่า "เผด็จการ" มากขึ้นเรื่อยๆ
ยิ่งไปแสดงออก ด้อยค่าความคิดของคนที่เรารัก ก็ยิ่งไกลประชาธิปไตยออกไปทุกที
แล้วพออายุเยอะขึ้น เวลาผ่านไปอีก 20-30 ปี ความยึดมั่น ถือมั่น มันจะลดลงไปเองครับ
แล้วเราก็อาจจะกลับมานึกตลก กับท่าทีของเราในวันนี้
และอาจจะเสียใจกับความ ก้าวร้าวของเราในอดีต
แค่นี้แหละครับ เผื่อจะมีประโยชน์บ้าง
อ้อ...เพิ่งรู้ว่าเบียร์ช้าง อร่อยแฮะ
ประสพการณ์ชีวิต มันเป็นสิ่งที่จะได้มาโดยกาลเวลาเท่านั้นครับ
ผมก็คิดอะไรคล้ายๆกับคนหนุ่มสาว สมัยนี้ นี่แหละครับ
คิดว่า ตัวเองมีความรู้ การศึกษาสูงกว่า พ่อแม่
คิดว่าตัวเองฉลาด กว่าพ่อแม่ อ่านอะไร "ขาด" กว่าพ่อแม่
พ่อแม่ เป็นอะไรที่หัวโบราณ ครา่ำครึ ไม่ทันสมัย
และผมก็คิดว่าผมฉลาด หาเหตุผล ร้อยแปดพันเก้า ในการหาความชอบธรรมต่างๆมาสนับสนุนความคิดตัวเอง
ไม่มีใครเอาผมจนหรอก ผมมีรูรอดหาความชอบธรรม อ้างไปเรื่อยเปื่อย
อ้างโน่น นี่ นั่นเก่งมาก เถียงพ่อ เถียงแม่ จะให้พวกท่าน คิดเหมือนเราให้ได้
อึดอัด แค้นใจ ทำไมเรื่องแค่นี้พวกท่านคิดไม่ได้วะ
วันนี้ผมบอกได้เลยครับ
ว่าผมเสียใจ กับท่าทีของผม ที่มีต่อพ่อแม่ ในวันแบบนั้น เมื่อกว่า 30 ปีมาแล้ว
ท่าทีของผม การแสดงออกของผม ทำให้พวกท่านเสียใจ
ผมเลวมาก เลวที่คิดว่าตัวเองฉลาด
และผมยังโง่มากอีกด้วย ที่เต็มไปด้วยความยึดมั่น ถือมั่น
คิดแต่ว่าตัวเองคิดถูกอยู่เสมอ และพร้อมที่จะ defend ความคิดของตนกับทุกคนในโลก
จะเอาชนะให้ได้...
เมื่อคืนนั่งกินเบียร์คุยกับเพื่อน...แก่กันหมดทุกคนแล้วนะครับ
นั่ง 4 คน หมดเบียร์ไปโหลกว่าๆ ไหนจะทดเวลาบาดเจ็บ ต่อเวลา ยิงลูกโทษ อิ อิ
เพื่อนคนนึงมันบอกว่า ลูกๆของมัน "งอน" พ่อแม่ ที่พ่อแม่จะไม่เลือกพรรคการเมืองนึง
ไม่ยอมพูดจาด้วย ถามคำ ตอบคำ...เวรกรรมแท้ๆ
นี่มันกูเลยนะเนี่ย เวรกรรมมีจริงครับพี่น้อง
ก็อยากจะเรียนถึงน้องๆ หนุ่มสาววันนี้ครับ
จงเลือกพรรคการเมืองที่ท่านอยากจะเลือก
เลือกไปเถอะ จะด้วยเหตุผลอะไรก็ตามครับ เลือกไปเถอะ
แต่อย่าไปอึดอัด และ เอาเป็นเอาตายกับท่าทีของคนรอบตัวเรา ที่เค้าคิดอ่านไม่เหมือนกับเรา
เราอาจจะทำให้คนที่เรารัก ต้องเสียใจกับท่าทีที่ไม่เป็นมิตรของเรา
อย่าไป "อิน" การเมือง ซะจนทำให้ครอบครัวต้องแตกแยก
อย่าไป "อิน" กับการเมืองจนถึงขั้นเห็นคนคิดต่างเป็นศัตรู นี่มันไม่ใช่วิถีประชาธิปไตย
ที่มาเขียนวันนี้ ไม่ได้แปลว่า ผมฉลาด อะไรเลย
ผมก็ยังโง่ เหมือนที่เคยโง่นั่นแหละ
แต่สิ่งที่ได้อะไมาบ้างจากประสบการณ์ ตอนนี้จะเลขหกอยู่รอมร่อระดับเดือน
คือ คิดได้ว่า วิถีแห่งประชาธิปไตย นั้น มันคืออิสระของทุกคนในระบอบ
การคิดว่า คนอื่นๆต้องมาคิดเหมือนเรานั้น ห่างไกล เจตนารมย์ของประชาธิปไตยอย่างยิ่ง
และใกล้คำว่า "เผด็จการ" มากขึ้นเรื่อยๆ
ยิ่งไปแสดงออก ด้อยค่าความคิดของคนที่เรารัก ก็ยิ่งไกลประชาธิปไตยออกไปทุกที
แล้วพออายุเยอะขึ้น เวลาผ่านไปอีก 20-30 ปี ความยึดมั่น ถือมั่น มันจะลดลงไปเองครับ
แล้วเราก็อาจจะกลับมานึกตลก กับท่าทีของเราในวันนี้
และอาจจะเสียใจกับความ ก้าวร้าวของเราในอดีต
แค่นี้แหละครับ เผื่อจะมีประโยชน์บ้าง
อ้อ...เพิ่งรู้ว่าเบียร์ช้าง อร่อยแฮะ