สวัสดีค่ะขออนุญาตเล่าย้อนก่อนนะคะ คือแต่เดิมบ้านเราอยู่กัน 5 คน ซึ่งเป็นบ้านของฝ่ายพ่อค่ะ สมาชิกคือ ปู่ ย่า พ่อแม่ และเราค่ะ เราอาศัยอยู่ตั้งแต่เกิดจนจบมัธยมปลาย ปัจจุบันเรามาเรียนมหาลัยในอีกจังหวัดหนึ่ง จะกลับเฉพาะตอนปิดเทอม แต่เดิมค่าใช้จ่ายเรื่องซื้อของทำกับข้าว ขนมหรือกาแฟต่างๆ รวมถึงของเครื่องใช้ภายในบ้าน และค่าเลี้ยงดูเราจนจบมัธยมแม่เราเป็นจ่ายค่ะ แม่เราทำงานเป็นพนักงานราชการ พ่อเราทำการเกษตรค่ะ
โดยปัจจุบันแม่เราเหลือญาติพี่น้องน้อยมากค่ะ ที่เราเคยเจอก็คือลุงที่เป็นพี่ชายแม่แค่คนเดียวค่ะซึ่งอยู่คนละจังหวัดส่วนพ่อเรามีพี่น้องรวมพ่อเป็น4คนะค่ะ ประกอบด้วยป้า1 ป้า2 ป้า3 และพ่อค่ะ
แต่ในปีที่ผ่านมาค่ะป้า2 ได้ออกจากงานเนื่องจากร้านที่เขาเคยทำปิดตัวลงค่ะ แล้วต่อมาก็ได้ขายบ้านในจังหวัดที่ตนเองอยู่และกลับไปอยู่ที่บ้านกับพ่อแม่เราค่ะ ทำให้ตอนนี้เขาได้ยึดห้องนอนของเราเป็นที่เรียบร้อยแล้วค่ะ
แต่ที่เป็นปัญหาเลยก็คือเรามักจะโทรคุยกับแม่เป็นประจำค่ะ ทำให้แม่เล่าให้ฟังค่ะ ว่าป้านั้นในตอนนี้ก็ไม่ไปทำงานใดๆ แต่ก็จะมีรับจ้างเอาเสื้อผ้ามาเย็บแก้ไข และนำผลไม้ที่สวนมาขายออนไลน์ ซึ่งรวมถึงทุเรียนที่พ่อเราเพิ่งลงทุนทั้งเงินทั้งแรงค่ะ แต่เงินเหล่านั้นที่เขาขายได้เขาก็เก็บไว้เองค่ะ
แม่เล่าให้ฟังว่าค่าของกินภายในบ้านหรือกับข้าวต่างๆแม่ก็ยังต้องเป็นคนจ่ายเองค่ะ โดยปกติขนมกาแฟที่ติดบ้านแม่ก็ซื้อตลอดค่ะ ส่วนป้าก็จ่ายแค่ในส่วนตัวเอง ป้าบอกว่ากาแฟเขาไม่กินก็เลยไม่ซื้อ แต่คนที่กินคือปู่เราสุดท้ายก็ลงเอยที่แม่เราซื้อเหมือนเดิมค่ะ
หรือแม่แค่ค่าอินเตอร์เน็ตในบ้าน ตอนนั้นแม่เรายุ่งจนลืมไปจ่ายทำให้ wifi ถูกตัด ป้าก็มาถามแม่ค่ะว่าไม่ได้จ่ายตังเหรอเน็ตใช้ไม่ได้ ทั้งๆที่ตนเองก็ใช้ร่วมกันแต่ก็ไม่มาช่วยจ่ายต้องรอให้แม่เราไปจ่ายค่ะ
ป้าเป็นคนชอบทำบุญค่ะ เขาเคยบอกกับคนในหมู่บ้านว่าเดี๋ยวจะทำขนมมาเลี้ยงช่างที่เข้ามาทำงานให้วัดค่ะ แต่พอตกเย็นไปซื้อของกับแม่เราเขาก็บอกให้แม่เราจ่ายค่าของให้ค่ะ
ที่บ้านมีห้องน้ำ 2 ห้องค่ะ คือชั้นบนและชั้นล่าง ชั้นล่างจะถูกใช้เป็นประจำทำให้สกปรกได้ง่าย แม่เราก็เป็นคนล้างมาโดยตลอดจนถึงแม้ตอนนี้ที่มีป้ามาอยู่ ส่วนในชั้นบนแต่เดิมเราจะเป็นคนล้างค่ะ แต่พอเรามาเรียนมหาลัยและตอนนี้ป้ากลับไปอยู่ห้องเราซึ่งอยู่บนชั้น2 ชั้นเดี๋ยวกับห้องน้ำนั้นป้าก็ไม่ยอมขัดล้างเช่นกันค่ะ
ที่บ้านตอนนี้เลี้ยงแมวและหมาค่ะ เมื่อไม่กี่วันก่อนเราโทรไปคุยกับที่บ้านเป็นปกติ แต่ป้ามารับสายเราเลยบอกว่าให้ฝากเก็บปลอกคอแมวให้ที่เพราะเราสั่งให้กับแมวที่เราเลี้ยงอยู่ที่หอค่ะ เขาก็บอกว่าให้ซื้อให้แมวที่บ้านด้วย เราเลยถามเขาว่าแล้วทำไมเขาไม่ซื้อ เขาก็บอกว่าหมดตังแล้วเพราะซื้อขนมให้หมา แต่เราไปเล่าให้แม่ฟังแม่เราบอกว่าแม่เราเป็นคนซื้อค่ะ ซึ่งใช่ค่ะ เพราะแม่เราเคยฝากให้เราซื้อขนมให้ และแม่ก็จะค่อยสั่งจากอินเตอร์เน็ตหรือไปซื้อทั้งอาหาร ขนมและของเล่นให้หมาเองค่ะ (คือเราซื้อให้ได้ค่ะ แต่เราแค่รู้สึกหงุดหงิดที่ได้ยินเขาพูดแบบนี้หลังจากที่เราได้ฟังแม่เล่าเรื่องทั้งหมดแล้ว และเราก็รู้มาแต่ไหนแต่ไรแล้วค่ะว่าป้าเราเขาเป็นคนขี้งกค่ะ เขางกแม้กระทั่งปู่และย่าที่ซึ่งเป็นพ่อแม่ของป้า ;ส่วนป้าคนอื่นๆนั้นไม่ได้ต่างกันมากเท่าไรค่ะ)
แม่เราทำงานเช้าถึงเย็น เสาร์อาทิตย์บางครั้งก็ต้องไปทำงานค่ะ นอกจากที่แม่จะต้องทำงานและซื้อกับข้าวหรือของมาทำก็ต้องกลับมาทำด้วย(แม่ต้องทำแบบนี้ตั้งแต่เราเด็กๆเลยค่ะ) แม่บอกว่ามีครั้งนึงป้าจะทำพะโล้ แต่ไม่เครื่องพะโล้เขาก็รอจนแม่เรากลับบ้านมาและให้ออกไปซื้อทั้งๆที่ป้าเขาอยู่บ้านตลอดค่ะ หรือมีครั้งนึงที่แม่เราไม่ได้ลุกมาช่วยป้าทำกับข้าวในตอนเช้าค่ะ แม่เล่าว่าวันนั้นป้า เขาก็มองแม่ด้วยสายตาแปลกๆค่ะ
ล่าสุดป้าเอาเราไปอ้างกับพ่อค่ะว่าเนี้ยเราชวนเขาติดแอร์กันค่ะ ซึ่งยอมรับว่าเด็กๆเราชอบขอให้มี่บ้านติดแอร์ให้ค่ะเพราะที่บ้านไม่มีแอร์เลยค่ะ แต่พอได้ยินแบบนี้ก็ไม่โอเคแล้วค่ะ และต่อให้ติดไปห้องนั้นก็ไม่ใช่ห้องเราแล้ว แล้วถ้าติดก็ต้องใช้เงินเยอะ เพราะถ้าติดอันนึง ย่าเห็นย่าก็คงจะติดที่ห้องย่าด้วย และสุดท้ายคนจ่ายทั้งค่าติดและค่าไฟก็คงไม่พ้นพ่อแม่เราค่ะ พอเราได้โทรคุยกับที่บ้านปกติเราก็เลยแกล้งๆพูดว่าไม่เอาแล้วแหละแอร์น่ะเปลืองถ้าจะติดเปลี่ยนเป็นพัดลมแอร์ดีกว่ามั้ง จะได้หลายตัวด้วย แต่พ่อก็เงียบไม่ได้ตอบอะไรค่ะ
เรารู้สึกแย่และเห็นใจแม่ทุกครั้งที่แม่เล่าให้ฟังค่ะ อย่างล่าสุดแม่เล่าให้ฟังว่าเดือนนี้แม่ไม่มีตังแล้วนะ เงินเดือนแม่หมดแล้วเพราะต้องจ่ายทั้งค่าของในบ้านค่ากับข้าว และปิดบัตรเครดิต ทำให้แม่ต้องเอาเงินเก็บมาใช้ แม่เล่าว่าแม่ต้องเอามาใช้แทบตลอดตั้งแต่ป้ามา ส่วนพ่อเราเรื่องเงินถ้าไม่ใช้ฝั่งพ่อ(พวกป้าๆ ป้าๆสามารถมายื้มเงินและไม่ยอมคืนพ่อได้) เขาก็จะบ่นบ้างไม่ค่อยสบอารมณ์เท่าไรและบอกว่าไม่มีเงินตังหมดค่ะ เรากับแม่ก็ทำใจค่ะ
ปล.1 ชี้แจ้งว่าพ่อก็เลี้ยงนะคะ อย่างค่าใช้จ่ายต่อเดือนตอนเรามาเรียนมหาลัยก็จะให้เดือนละ 7,000 ส่วนค่าอย่างอื่นก็มีช่วยจ่ายบ้างที่เคยขอเพิ่มนิดหน่อยเดือนละ~1,000 ซึ่งเราเคยขอทั้งพ่อทั้งแม่ แต่ตอนนี้ไม่ได้มีการขอเพิ่มใดๆแล้วค่ะ
คือก็เข้าใจพ่อนะคะว่าต้องรับผิดชอบเรื่องที่สวนด้วยค่ะ แต่ในบ้างครั้งแม่เราแค่จะขอให้มาออกค่าของที่ต้องซื้อเข้าบ้านพ่อก็จะบอกว่าไม่มีเหมือนกันค่ะ
ส่วนหอเราแม่เป็นคนรับผิดชอบให้ค่ะ ตกเดือนละ~3,500 และบางครั้งเราจะช่วยแม่จ่ายค่าไฟหอเองค่ะที่ 500 บาทค่ะ
ส่วนเรื่องค่าเล่าเรียนเราทำการกู้เงินเรียนเพื่อการศึกษาตั้งแต่เข้ามหาลัยแล้วค่ะ และตอนนี้ได้ทำการขอกู้รวมค่าเบี้ยงเลี้ยงเพิ่มขึ้นมาค่ะ เพื่อที่จะได้มีใช้เพิ่มเติมหากจะต้องมีค่าใช้จ่ายอะไรเพิ่มขึ้นมาเพราะจะได้ไม่ต้องขอพ่อแม่เพิ่มค่ะ
ปล.2 ป้าเป็นคนที่เชื่อเรื่องดวง เรื่องเหนือธรรมชาติค่ะ เขาวัดทำบุญ เคยไปบวชชีบ้างบางครั้ง แม่เล่าให้ฟังค่ะว่าป้าเคยไปดูดวงว่าในบั้นปลายถ้าอยากสบายก็ให้ไปอยู่กับคนที่เป็นผู้ชาย ไม่ว่าจะเป็นพี่น้องหรือหลานค่ะ
สรุปเลยนะคะหนูควรทำอย่างไรดีคะ พอจะมีวิธีไหนช่วยแก้ปัญหาได้บ้างรึป่าวคะ หรือหากถ้าหนูจะพูดให้ที่บ้านมีการแบ่งเงินเป็นกองกลางเพื่อใช้ในการซื้อของเข้าบ้าน และให้มีการแบ่งหน้าที่ภายในบ้านค่ะ หนูควรพูดกับทางผู้ใหญ่ยังไงดีคะ
คือหนูเคยบอกแม่ให้ลองพูดดูแล้วค่ะ แต่แม่บอกว่าขนาดพ่อยังไม่พูดอะไรเลย แม่จะไปพูดได้ยังไง
หนูควรทำยังไงดีเหรอคะ อยากให้อยากน้อยทุกคนในบ้านช่วยเห็นอกเห็นใจแม่บ้างค่ะ ถ้าเขาอยากมีเงินเก็บ แม่หนูเขาก็ต้องการมีเงินเก็บเช่นกันค่ะ ไม่อยากให้แม่ต้อทุกข์ลำบากใจค่ะ
จะพูดกับญาติผู้ใหญ่ยังไงเรื่องการแบ่งหน้าที่และค่าใช้จ่ายภายในบ้าน
โดยปัจจุบันแม่เราเหลือญาติพี่น้องน้อยมากค่ะ ที่เราเคยเจอก็คือลุงที่เป็นพี่ชายแม่แค่คนเดียวค่ะซึ่งอยู่คนละจังหวัดส่วนพ่อเรามีพี่น้องรวมพ่อเป็น4คนะค่ะ ประกอบด้วยป้า1 ป้า2 ป้า3 และพ่อค่ะ
แต่ในปีที่ผ่านมาค่ะป้า2 ได้ออกจากงานเนื่องจากร้านที่เขาเคยทำปิดตัวลงค่ะ แล้วต่อมาก็ได้ขายบ้านในจังหวัดที่ตนเองอยู่และกลับไปอยู่ที่บ้านกับพ่อแม่เราค่ะ ทำให้ตอนนี้เขาได้ยึดห้องนอนของเราเป็นที่เรียบร้อยแล้วค่ะ
แต่ที่เป็นปัญหาเลยก็คือเรามักจะโทรคุยกับแม่เป็นประจำค่ะ ทำให้แม่เล่าให้ฟังค่ะ ว่าป้านั้นในตอนนี้ก็ไม่ไปทำงานใดๆ แต่ก็จะมีรับจ้างเอาเสื้อผ้ามาเย็บแก้ไข และนำผลไม้ที่สวนมาขายออนไลน์ ซึ่งรวมถึงทุเรียนที่พ่อเราเพิ่งลงทุนทั้งเงินทั้งแรงค่ะ แต่เงินเหล่านั้นที่เขาขายได้เขาก็เก็บไว้เองค่ะ
แม่เล่าให้ฟังว่าค่าของกินภายในบ้านหรือกับข้าวต่างๆแม่ก็ยังต้องเป็นคนจ่ายเองค่ะ โดยปกติขนมกาแฟที่ติดบ้านแม่ก็ซื้อตลอดค่ะ ส่วนป้าก็จ่ายแค่ในส่วนตัวเอง ป้าบอกว่ากาแฟเขาไม่กินก็เลยไม่ซื้อ แต่คนที่กินคือปู่เราสุดท้ายก็ลงเอยที่แม่เราซื้อเหมือนเดิมค่ะ
หรือแม่แค่ค่าอินเตอร์เน็ตในบ้าน ตอนนั้นแม่เรายุ่งจนลืมไปจ่ายทำให้ wifi ถูกตัด ป้าก็มาถามแม่ค่ะว่าไม่ได้จ่ายตังเหรอเน็ตใช้ไม่ได้ ทั้งๆที่ตนเองก็ใช้ร่วมกันแต่ก็ไม่มาช่วยจ่ายต้องรอให้แม่เราไปจ่ายค่ะ
ป้าเป็นคนชอบทำบุญค่ะ เขาเคยบอกกับคนในหมู่บ้านว่าเดี๋ยวจะทำขนมมาเลี้ยงช่างที่เข้ามาทำงานให้วัดค่ะ แต่พอตกเย็นไปซื้อของกับแม่เราเขาก็บอกให้แม่เราจ่ายค่าของให้ค่ะ
ที่บ้านมีห้องน้ำ 2 ห้องค่ะ คือชั้นบนและชั้นล่าง ชั้นล่างจะถูกใช้เป็นประจำทำให้สกปรกได้ง่าย แม่เราก็เป็นคนล้างมาโดยตลอดจนถึงแม้ตอนนี้ที่มีป้ามาอยู่ ส่วนในชั้นบนแต่เดิมเราจะเป็นคนล้างค่ะ แต่พอเรามาเรียนมหาลัยและตอนนี้ป้ากลับไปอยู่ห้องเราซึ่งอยู่บนชั้น2 ชั้นเดี๋ยวกับห้องน้ำนั้นป้าก็ไม่ยอมขัดล้างเช่นกันค่ะ
ที่บ้านตอนนี้เลี้ยงแมวและหมาค่ะ เมื่อไม่กี่วันก่อนเราโทรไปคุยกับที่บ้านเป็นปกติ แต่ป้ามารับสายเราเลยบอกว่าให้ฝากเก็บปลอกคอแมวให้ที่เพราะเราสั่งให้กับแมวที่เราเลี้ยงอยู่ที่หอค่ะ เขาก็บอกว่าให้ซื้อให้แมวที่บ้านด้วย เราเลยถามเขาว่าแล้วทำไมเขาไม่ซื้อ เขาก็บอกว่าหมดตังแล้วเพราะซื้อขนมให้หมา แต่เราไปเล่าให้แม่ฟังแม่เราบอกว่าแม่เราเป็นคนซื้อค่ะ ซึ่งใช่ค่ะ เพราะแม่เราเคยฝากให้เราซื้อขนมให้ และแม่ก็จะค่อยสั่งจากอินเตอร์เน็ตหรือไปซื้อทั้งอาหาร ขนมและของเล่นให้หมาเองค่ะ (คือเราซื้อให้ได้ค่ะ แต่เราแค่รู้สึกหงุดหงิดที่ได้ยินเขาพูดแบบนี้หลังจากที่เราได้ฟังแม่เล่าเรื่องทั้งหมดแล้ว และเราก็รู้มาแต่ไหนแต่ไรแล้วค่ะว่าป้าเราเขาเป็นคนขี้งกค่ะ เขางกแม้กระทั่งปู่และย่าที่ซึ่งเป็นพ่อแม่ของป้า ;ส่วนป้าคนอื่นๆนั้นไม่ได้ต่างกันมากเท่าไรค่ะ)
แม่เราทำงานเช้าถึงเย็น เสาร์อาทิตย์บางครั้งก็ต้องไปทำงานค่ะ นอกจากที่แม่จะต้องทำงานและซื้อกับข้าวหรือของมาทำก็ต้องกลับมาทำด้วย(แม่ต้องทำแบบนี้ตั้งแต่เราเด็กๆเลยค่ะ) แม่บอกว่ามีครั้งนึงป้าจะทำพะโล้ แต่ไม่เครื่องพะโล้เขาก็รอจนแม่เรากลับบ้านมาและให้ออกไปซื้อทั้งๆที่ป้าเขาอยู่บ้านตลอดค่ะ หรือมีครั้งนึงที่แม่เราไม่ได้ลุกมาช่วยป้าทำกับข้าวในตอนเช้าค่ะ แม่เล่าว่าวันนั้นป้า เขาก็มองแม่ด้วยสายตาแปลกๆค่ะ
ล่าสุดป้าเอาเราไปอ้างกับพ่อค่ะว่าเนี้ยเราชวนเขาติดแอร์กันค่ะ ซึ่งยอมรับว่าเด็กๆเราชอบขอให้มี่บ้านติดแอร์ให้ค่ะเพราะที่บ้านไม่มีแอร์เลยค่ะ แต่พอได้ยินแบบนี้ก็ไม่โอเคแล้วค่ะ และต่อให้ติดไปห้องนั้นก็ไม่ใช่ห้องเราแล้ว แล้วถ้าติดก็ต้องใช้เงินเยอะ เพราะถ้าติดอันนึง ย่าเห็นย่าก็คงจะติดที่ห้องย่าด้วย และสุดท้ายคนจ่ายทั้งค่าติดและค่าไฟก็คงไม่พ้นพ่อแม่เราค่ะ พอเราได้โทรคุยกับที่บ้านปกติเราก็เลยแกล้งๆพูดว่าไม่เอาแล้วแหละแอร์น่ะเปลืองถ้าจะติดเปลี่ยนเป็นพัดลมแอร์ดีกว่ามั้ง จะได้หลายตัวด้วย แต่พ่อก็เงียบไม่ได้ตอบอะไรค่ะ
เรารู้สึกแย่และเห็นใจแม่ทุกครั้งที่แม่เล่าให้ฟังค่ะ อย่างล่าสุดแม่เล่าให้ฟังว่าเดือนนี้แม่ไม่มีตังแล้วนะ เงินเดือนแม่หมดแล้วเพราะต้องจ่ายทั้งค่าของในบ้านค่ากับข้าว และปิดบัตรเครดิต ทำให้แม่ต้องเอาเงินเก็บมาใช้ แม่เล่าว่าแม่ต้องเอามาใช้แทบตลอดตั้งแต่ป้ามา ส่วนพ่อเราเรื่องเงินถ้าไม่ใช้ฝั่งพ่อ(พวกป้าๆ ป้าๆสามารถมายื้มเงินและไม่ยอมคืนพ่อได้) เขาก็จะบ่นบ้างไม่ค่อยสบอารมณ์เท่าไรและบอกว่าไม่มีเงินตังหมดค่ะ เรากับแม่ก็ทำใจค่ะ
ปล.1 ชี้แจ้งว่าพ่อก็เลี้ยงนะคะ อย่างค่าใช้จ่ายต่อเดือนตอนเรามาเรียนมหาลัยก็จะให้เดือนละ 7,000 ส่วนค่าอย่างอื่นก็มีช่วยจ่ายบ้างที่เคยขอเพิ่มนิดหน่อยเดือนละ~1,000 ซึ่งเราเคยขอทั้งพ่อทั้งแม่ แต่ตอนนี้ไม่ได้มีการขอเพิ่มใดๆแล้วค่ะ
คือก็เข้าใจพ่อนะคะว่าต้องรับผิดชอบเรื่องที่สวนด้วยค่ะ แต่ในบ้างครั้งแม่เราแค่จะขอให้มาออกค่าของที่ต้องซื้อเข้าบ้านพ่อก็จะบอกว่าไม่มีเหมือนกันค่ะ
ส่วนหอเราแม่เป็นคนรับผิดชอบให้ค่ะ ตกเดือนละ~3,500 และบางครั้งเราจะช่วยแม่จ่ายค่าไฟหอเองค่ะที่ 500 บาทค่ะ
ส่วนเรื่องค่าเล่าเรียนเราทำการกู้เงินเรียนเพื่อการศึกษาตั้งแต่เข้ามหาลัยแล้วค่ะ และตอนนี้ได้ทำการขอกู้รวมค่าเบี้ยงเลี้ยงเพิ่มขึ้นมาค่ะ เพื่อที่จะได้มีใช้เพิ่มเติมหากจะต้องมีค่าใช้จ่ายอะไรเพิ่มขึ้นมาเพราะจะได้ไม่ต้องขอพ่อแม่เพิ่มค่ะ
ปล.2 ป้าเป็นคนที่เชื่อเรื่องดวง เรื่องเหนือธรรมชาติค่ะ เขาวัดทำบุญ เคยไปบวชชีบ้างบางครั้ง แม่เล่าให้ฟังค่ะว่าป้าเคยไปดูดวงว่าในบั้นปลายถ้าอยากสบายก็ให้ไปอยู่กับคนที่เป็นผู้ชาย ไม่ว่าจะเป็นพี่น้องหรือหลานค่ะ
สรุปเลยนะคะหนูควรทำอย่างไรดีคะ พอจะมีวิธีไหนช่วยแก้ปัญหาได้บ้างรึป่าวคะ หรือหากถ้าหนูจะพูดให้ที่บ้านมีการแบ่งเงินเป็นกองกลางเพื่อใช้ในการซื้อของเข้าบ้าน และให้มีการแบ่งหน้าที่ภายในบ้านค่ะ หนูควรพูดกับทางผู้ใหญ่ยังไงดีคะ
คือหนูเคยบอกแม่ให้ลองพูดดูแล้วค่ะ แต่แม่บอกว่าขนาดพ่อยังไม่พูดอะไรเลย แม่จะไปพูดได้ยังไง
หนูควรทำยังไงดีเหรอคะ อยากให้อยากน้อยทุกคนในบ้านช่วยเห็นอกเห็นใจแม่บ้างค่ะ ถ้าเขาอยากมีเงินเก็บ แม่หนูเขาก็ต้องการมีเงินเก็บเช่นกันค่ะ ไม่อยากให้แม่ต้อทุกข์ลำบากใจค่ะ