มลพิษ มีกี่ประเภท

กระทู้สนทนา
เรากำลังเผชิญอยู่ในโลกของมลพิษอย่างแท้ทรู ความจำเป็นเร่งด่วน คือ ต้องทำความรู้จักมัน
วันนี้เริ่มจาก มลพิษ มีกี่ประเภท

มลพิษเป็นสารหรือสิ่งปนเปื้อนที่อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพหรือสิ่งแวดล้อมได้ 
สามารถแบ่งออกเป็นหลายประเภทตามลักษณะและแหล่งที่มาได้แก่

มลพิษทางอากาศ: เช่น ฝุ่นละออง เชื้อโรค ก๊าซพิษ เป็นต้น
มลพิษทางน้ำ: เช่น สารเคมี โลหะหนัก เชื้อโรค เป็นต้น
มลพิษทางดิน: เช่น สารเคมี โลหะหนัก เป็นต้น
มลพิษทางอาหาร: เช่น สารเคมี ฮอร์โมน ฟีโรโมน เชื้อโรค เป็นต้น
มลพิษจากแสง: เช่น แสง UV และรังสีเอ็กซ์-เรย์ เป็นต้น
มลพิษจากเสียง: เช่น เสียงดังจากการประกอบอาคาร รถยนต์ เป็นต้น
มลพิษจากการใช้สารเคมี: เช่น สารเคมีที่ใช้ในอุตสาหกรรม เคมีภัณฑ์ในบ้าน เป็นต้น
มลพิษจากการใช้ยา: เช่น ยาฆ่าแมลง ยาฆ่าวัชพืช เป็นต้น
มลพิษจากสิ่งปนเปื้อนในอาหาร: เช่น สารเคมี ซากสัตว์ วัตถุปนเปื้อน เป็นต้น
มลพิษจากสิ่งเสพติด: เช่น ยาบ้า แอลกอฮอล์ นิโคติน กัญชา เป็นต้น

แล้วมลพิษมีผลกระทบอย่างไรกับสุขภาพ ?

มลพิษสามารถมีผลกระทบต่อสุขภาพได้หลายรูปแบบขึ้นอยู่กับประเภทและปริมาณของมลพิษที่เกิดขึ้น 
แต่โดยรวมแล้วผลกระทบที่เกิดขึ้นสามารถแบ่งได้เป็น 3 กลุ่มใหญ่ๆ ดังนี้

ผลกระทบต่อร่างกาย: มลพิษอาจเป็นสาเหตุของการเกิดโรคหรือภาวะสุขภาพที่ไม่ดี เช่น โรคมะเร็ง โรคหัวใจ โรคปอด ภาวะสมองเสื่อม ปัญหาการตั้งครรภ์และการเจริญเติบโตของเด็ก รวมถึงการทำลายระบบต่างๆ ของร่างกาย เช่น ระบบประสาท ระบบภูมิคุ้มกัน เป็นต้น

ผลกระทบต่อสภาพแวดล้อม: มลพิษสามารถทำลายสิ่งแวดล้อมได้ รวมถึงสิ่งมีชีวิตทั้งพืชและสัตว์ เช่น การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ การทำลายป่าไม้ การทำลายป่าชายเลน การปล่อยน้ำเสียลงสู่แม่น้ำและทะเล ฯลฯ

ผลกระทบต่อเศรษฐกิจ: มลพิษสามารถส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจได้ เช่น การเสื่อมเสียสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติทำให้เกิดความเสียหายต่ออุตสาหกรรมและการผลิต รวมถึงมีผลต่อรายได้และคุณภาพชีวิตของประชากรในพื้นที่

มลพิษที่พบได้บ่อยในชีวิตประจำวัน ?

มีสารมลพิษหลายชนิดที่พบได้บ่อยในชีวิตประจำวันของเรา โดยเฉพาะในสิ่งที่เราบริโภค และสิ่งแวดล้อมที่เรามีส่วนประกอบ 
โดยสารมลพิษที่พบได้บ่อยที่สุดได้แก่

- สารเคมีในอาหาร: อาหารที่เราบริโภคอาจมีสารเคมีต่างๆ เช่น ปิโตรเลียม ดีเซล 
   ซึ่งเป็นสารเคมีที่มีผลต่อสุขภาพได้ เช่น การเป็นสาเหตุของโรคมะเร็ง
- สารเคมีในสิ่งทองผ้า: การใช้สิ่งทองผ้าที่มีสารเคมีต่างๆ เช่น สีผ้า สารกันเสียง เป็นต้น อาจมีผลกระทบต่อผิวหนังและสุขภาพได้
- สารเคมีในเครื่องสำอาง: สารเคมีต่างๆ ที่ใช้ในเครื่องสำอางอาจมีผลกระทบต่อผิวหนังและสุขภาพได้ เช่น พาราเบน ซัลเฟต ฯลฯ
- สารเคมีในบ้าน: สารเคมีในบ้าน เช่น ซัลเฟต อะลูมิเนียม ฯลฯ อาจมีผลกระทบต่อสุขภาพได้
   เช่น การเป็นสาเหตุของโรคหายใจ และการทำลายระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย
- สารเคมีในสิ่งแวดล้อม: สารเคมีในสิ่งแวดล้อม เช่น แก๊สเรือนกระจก ฝุ่น PM2.5 ฯลฯ อาจมีผลกระทบต่อสุขภาพ

อาการและอันตรายของการสัมผัสมลพิษในร่างกาย ?

อาการของการสัมผัสมลพิษในร่างกายจะแตกต่างกันไปตามชนิดของมลพิษและปริมาณที่สัมผัส อาการที่พบบ่อยได้แก่
ผิวหนังแดง ปวกเปียก หรือระคายเคือง
การอักเสบของผิวหนัง
การแสดงอาการแพ้ที่ผิวหนัง เช่น ผื่นแพ้ที่ผิวหนัง ผื่นแดง และอาการคัน
อาการหายใจลำบาก เหนื่อยหอบ หรือแสบคอ
อาการปวดศีรษะ แน่นหน้าอก หรือจมูกไม่ได้
อันตรายของการสัมผัสมลพิษในร่างกายขึ้นอยู่กับปริมาณของมลพิษที่สัมผัส และชนิดของมลพิษ อาการที่เกิดขึ้นอาจไม่รุนแรงแต่ถ้ามีการสัมผัสซ้ำๆ อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพได้ และมีความเสี่ยงในการเป็นโรคมะเร็ง โรคหอบหืด และโรคเบาหวาน เป็นต้น ดังนั้นหากมีอาการสัมผัสมลพิษต้องพบแพทย์เพื่อรับการตรวจและรักษาให้ทันที

วิธีป้องกันการสัมผัสและการสูบหายใจมลพิษ

1. อ่านป้ายเตือนหรือคำแนะนำการใช้งานของสารที่ติดอยู่บนบรรจุภัณฑ์ของสารพิษ และปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด
2. สวมอุปกรณ์ป้องกันเมื่อทำงานในสภาพแวดล้อมที่มีสารพิษอยู่ อุปกรณ์ป้องกันเช่นหน้ากากป้องกันฝุ่น หน้ากากป้องกันแก๊สพิษ ถุงมือป้องกัน เป็นต้น
3. ไม่เข้าไปในพื้นที่ที่มีสารพิษอยู่ หรือถ้าจำเป็นต้องเข้าไปในพื้นที่ดังกล่าว ควรมีการตรวจสอบและประเมินความเสี่ยงก่อนที่จะเข้าไป
4. ไม่เก็บสารพิษอยู่ในบ้านหรือที่ทำงานเกินจำเป็น และไม่ทิ้งขวดหรือบรรจุภัณฑ์ของสารพิษไว้ในที่ต่างๆ ในบ้านหรือที่ทำงาน
5. ควรรู้จักสารพิษที่พบได้บ่อยในชีวิตประจำวัน เช่น สารเคมีในเครื่องทำความสะอาด สารกันแดด หรือสารกำจัดแมลง และเรียนรู้วิธีใช้งานอย่างถูกต้อง
6. ระมัดระวังเมื่อใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าหรือเครื่องจักรที่สามารถสร้างสารพิษได้ เช่น เครื่องเป่าลม เครื่องจักรตัดหญ้า เป็นต้น

การตรวจวัดระดับมลพิษในอากาศ, น้ำ, และดิน

1. การวัดระดับมลพิษในอากาศ
อุปกรณ์วัดคุณภาพอากาศ เช่น ตัววัด PM2.5, PM10, ก๊าซเช่น CO, NO2, SO2, O3 เป็นต้น
สถานีวัดคุณภาพอากาศ (Air quality monitoring station) ซึ่งเป็นเครื่องวัดและบันทึกข้อมูลคุณภาพอากาศในพื้นที่ที่ติดตั้ง

2. การวัดระดับมลพิษในน้ำ
อุปกรณ์วัดคุณภาพน้ำ เช่น ตัววัดค่า pH, ตัววัดความเค็ม, ตัววัดสารละลาย เป็นต้น
การสุ่มตัวอย่างน้ำ (Water sampling) โดยการเก็บตัวอย่างน้ำจากแหล่งน้ำ หรือที่ผ่านไปในระบบท่อที่นำน้ำไปใช้

3. การวัดระดับมลพิษในดิน
อุปกรณ์วัดคุณภาพดิน เช่น ตัววัดค่า pH, ตัววัดค่าความชื้นในดิน, ตัววัดสารพิษในดิน เป็นต้น
การสุ่มตัวอย่างดิน (Soil sampling) โดยการเก็บตัวอย่างดินจากพื้นที่ที่สนใจ
การวัดระดับมลพิษในอากาศ น้ำ และดินมีประโยชน์ในการตรวจสอบคุณภาพสิ่งแวดล้อม และช่วยประเมินความเสี่ยงที่มีต่อสุขภาพของมนุษย์และสิ่งมีชีวิต

วิธีการกำจัดมลพิษในสิ่งแวดล้อม

วิธีการกำจัดมลพิษในสิ่งแวดล้อมแบ่งออกเป็นหลายวิธี ขึ้นอยู่กับลักษณะและปริมาณของมลพิษนั้น ๆ ดังนี้
การใช้ตัวกรอง (Filtration) หรือการใช้เครื่องกรองอากาศ (Air purifier) ในการกรองอากาศ เพื่อลดจำนวนฝุ่นละอองและสารพิษที่อยู่ในอากาศ
การใช้วิธีพ่นน้ำฉีดฉาบ (Spraying) เพื่อล้างผิวดินและต้นไม้จากสารเคมีที่ติดตัวอยู่
การใช้วิธีดับเพลิง (Combustion) เพื่อย่อยสลายและกำจัดมลพิษเช่นพลาสติกหรือขยะอันตราย โดยใช้เครื่องเผา (Incinerator) เป็นต้น
การใช้วิธีกำจัดโดยการหมัก (Biodegradation) เช่น การใช้จุลินทรีย์เพื่อย่อยสลายสารพิษในดินหรือน้ำ
การใช้วิธีผสมผสาน (Integrated approach) เช่น การใช้เทคโนโลยีสารเคมีเพื่อยับยั้งการเจริญของจุลินทรีย์ที่ก่อให้เกิดมลพิษในน้ำหรือดิน
การใช้วิธีลดการใช้สารพิษในการผลิต (Pollution prevention) เช่น การใช้วัตถุดิบที่ไม่มีสารพิษเข้ามาในกระบวนการผลิตสินค้า
การใช้วิธีการทำลาย (Destruction) เช่น การใช้เทคโนโลยีเปลี่ยนมลพิษเป็นสารที่ไม่มีอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม เช่น การใช้เทคโนโลยีพลาสม่า

ความเสี่ยงในการสัมผัสมลพิษในสถานที่ทำงาน

1. การใช้สารเคมี: การใช้สารเคมีในกระบวนการผลิตสามารถเป็นสาเหตุให้เกิดมลพิษภายในสถานที่ทำงานได้ เช่น การใช้สารเคมีในอุตสาหกรรมเคมี การใช้ยาฆ่าแมลงในสวนปาล์ม หรือการใช้สารทำความสะอาดในโรงแรม

2.การเผาไหม้: การเผาไหม้ขยะหรือวัสดุที่มีสารพิษอยู่ภายในสามารถเป็นสาเหตุให้เกิดมลพิษภายในสถานที่ทำงานได้ เช่น การเผาไหม้พลาสติก หรือการเผาไหม้เศษไม้ในโรงงาน

3. การดูดควัน: การดูดควันหรือความเป็นอากาศที่มีฝุ่นละอองหรือสารพิษอยู่ในอากาศภายในสถานที่ทำงานสามารถเป็นสาเหตุให้เกิดมลพิษได้ เช่น การทำงานในโรงงานที่มีความเสี่ยงต่อการสัมผัสสารเคมีหรือฝุ่นละออง

4. การใช้เครื่องจักร: การทำงานในสถานที่ที่มีการใช้เครื่องจักรหรือเครื่องจักรยานยนต์เป็นสาเหตุให้เกิดมลพิษภายในสถานที่ทำงานได้ เช่น การทำงานในโรงงานผลิตรถยนต์ หรือการใช้เครื่องจักรในการก่อสร้าง

******* สนับสนุนให้ทุกคนสู้กับมลภาวะอย่างเข้าใจ CEF Serum เซรั่มต้านอนุมูลอิสระ จากมลพิษ ********
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่