มีใครเคยเป็นโรคเยื่อบุเจริญผิดที่ในกล้ามมดลูกไหมคะ มาแชร์กันหน่อยคะ

เริ่มต้นเลยนะคะ คือเมื่อวันที่19 เม.ย ได้ไปหาคุณหมอที่เมืองไทยเพื่อตรวจภายในเพราะมีอาการปวดท้อง หน่วงท้องน้อย เวลาปวดท้องจะปวดแบบบิดๆ ปวดเหมือนเป็นประจำเดือน ปวดบางครั้งร้าวลงก้นลงขาปวดจนเดินไม่ได้ เป็นแบบนี้มาปีๆเคยตรวจกับหมอประจำตัวที่ต่างประเทศที่อยู่หมอที่นี้ตรวจไม่เจออะไรเจอแต่ว่าเป็นก้อนซีสต์ในรังไข่เพราะช่วงที่ตรวจใกล้จะเป็นประจำเดือน หลังจากนั้นก็เข้าออกหาหมอตลอดที่ต่างประเทศเพราะปวดทุกวัน สรุปได้แค่ยาพารามากินแก้ปวด จนทำให้รู้สึกว่าหรือว่าเราเป็นคนขี้วิตกกังวลจนจิตตกและคิดไปเองว่าปวดท้อง ก็ทนๆแบบนี้ไปเรื่อยๆคะ จนมีโอกาสได้กลับไปเมืองไทยเพราะคุณยายป่วยหนักเป็นมะเร็งระยะที่กระจายไปทั่วร่างกายและคุณยายก็จากไปเพราะมะเร็งปากมดลูก จนทำให้คุณแม่และคุณตาเป็นห่วงมากจนให้ไปตรวจกับคุณหมอที่โรงพยาบาลรัฐที่เมืองไทย ยอมรับคะว่าตอนนั้นคิดมากกังวลคือหรือซีสต์ในรังไข่เรามันใหญ่ขึ้น จะต้องผ่าแน่เลยเพราะปวดหนักมากบ่อยๆ ไม่ได้คิดเรื่องที่ว่าตัวเองจะเป็นโรคเยื่อบุเจริญผิดที่ ไม่มีโรคนี้ในหัวสมองเลยเพราะหมอประจำตัวบอว่าเจอแค่ซีสต์ในรังไข่ ต่อนะคะ..

ถึงวันตรวจ 19.04.66 เริ่มต้นด้วยการตื่นแต่เช้าคะตั้งแต่ตี5เพื่อรอบัตรคิวอธิบายให้เจ้าหน้าที่ฟังเกี่ยวกับสาเหตุที่มาเขาก็บอกให้ทำนั้นนี้ แต่จะบอกว่าพนักงานที่นั้นไม่ค่อยจะตอนรับดีเท่าไหร่พูดจาไม่ค่อยเป็นมิตรแต่ก็ผ่านไปได้ด้วยดีคะเพราะคิดว่าเขาคงตื่นเช้าเลยอาจจะหงุดหงิด พอได้คิวปุ๊ปก็ขึ้นตึกนารีเวชคลีนิคยังไม่เปิดคะตอนนั้นจำได้ว่าน่าจะ7โมงนั่งรอๆคะ ลงไปหาซื้ออะไรกินและก็ขึ้นมานั่งรอต่อ พอถึงคิวซักประวัติพยาบาลที่นั้นคือพูดจาดีมากๆคะถามดีมากต่างกับข้างล่างที่ไปเปิดบัตรคิวมาก พอพยาบาลซักประวัติเสร็จเขาก็ให้ไปเปลี่ยนผ้าถุง เปลี่ยนผ้าถุงเสร็จก็เข้ามานั่งรอคิวต่อ นั่งแล้วเบื่อคะเลยคุยกับพี่คนข้างๆว่าเป็นอะไรทำไมมาตรวจ คุยสักพักพี่เขาก็เข้าไปตรวจ พอถึงตาเราก็ใจหวิวกลัวที่จะขึ้นขาหย่าง เพราะมีประสบการณ์ที่ต่างประเทศคือหมอทำเจ็บมาก แต่พอเข้าไปหมอเริ่มซักประวัติอีกครั้งว่าเป็นอะไรมาถึงมาตรวจ เราก็ได้เล่าให้หมอฟังว่ามีอาการปวดท้อง ปวดมาก เวลามีประจำเดือนก็ปวด ทั้งๆที่ใส่เข็มยาคุม บางครั้งนั่งก็อึดอัดท้องน้อยมากอย่างนั่งเครื่องบินมาเมืองไทยก็คืออึดอัดมันเหมือนมีอะไรกดท้องน้อยจนทรมาน ต้องปลดกระดุมกางเกงเลยทีเดียว จะอธิบายแบบไหนดีมันอธิบายยากมาก แต่ก็คืออึดอัดแน่นท้องมากก็แล้วกันคะ ก็บอกหมอไปตามความจริงว่าเคยไปตรวจCT Scanแล้วเขาเจอซีสต์ที่รังไข่ ก็เลยคิดว่ามันน่าจะใหญ่ขึ้นเลยมาหาคุณหมอในวันนี้ พอเสร็จปั๊ปคุณหมอก็ให้ไปอีกห้องนึงคะ พอดีว่าหมอเขาซักประวัติว่าคุณยายเป็นมะเร็งปากมดลูกก็เลยถามว่าจะตรวจไหม แต่มีค่าใช้จ่ายนะเพราะว่าไม่ได้อยู่ในเกณฑ์อายุที่ทางสาธารณสุขเขากำหนด ก็เลยบอกหมอไปว่าตรวจคะ หมอให้เข้าไปกับผู้ช่วยพยาบาล ผู้ช่วยเขาก็ให้ขึ้นเก้าอี้ที่จะทำการตรวจ อยากจะบอกคะว่าตอนนั้นใจกลัวมากกลัวเจ็บ พอหมอเข้ามาก็เริ่มมือเย็นไปหมดยิ่งเห็นอุปกรณ์ก็ใจหวิวหนักไปอีก แต่ก็ทำใจดีสู้เสือคะสะกดจิตตัวเองว่าไม่เจ็บๆๆ จนหมอใส่ถุงมือเริ่มทำการสอดปากเป็ด จะบอกว่าคุณหมอมือเบามากและไม่เจ็บเลยสักนิดเดียวใช้เวลาไปแปปเดียว พอเสร็จจากนั้นคุณหมอก็ให้ออกไปรออีกห้องหนึ่งเพื่อที่จะทำการอุลตร้าซาวด์ นั่งรอๆๆไม่ถึง20นาทีคุณหมอเรียกให้เข้าไปในห้องเพื่ออุลตร้าซาวด์ช่วงล่าง ที่ทำคือเป็นแบบสอดเข้าช่องคลอดไม่ได้ดูจากหน้าท้องคะ คุณหมอก็ดูที่รังไข่บอกว่าไม่มีก้อนซีสต์แล้วนะคะ คิดในใจอ่าวแล้วทำไมถึงปวดท้องหล่ะคิดไปเองแน่ๆเลยกับอาการที่ปวด ตอนนั้นจิตตกคิดว่าตัวเองต้องเป็นคนวิตกไปเองแน่ๆ ระหว่างนั้นคุณหมอก็ตรวจกดนั้นนี่ เสร็จคุณหมอก็บอกว่าเดี๋ยวเราไปคุยกันอีกห้องนึงนะคะ เพราะต้องดูสาเหตุว่าทำไมถึงปวดท้อง ออกจากห้องอุลตร้าซาวด์ปั้ปก็คิดไปต่างๆนาๆ นั่งรอๆอีกครั้งคะ ครั้งนี้จิตใจห่อเหี่ยวไปกว่าเดิมแต่ในใจก็ดีแล้วไม่ใช่หรอที่ไม่มีซีสต์แล้ว สักพักผู้ช่วยก็เรียกเข้าไปหาคุณหมอ คุณหมอก็เปิดใบผลอุลตร้าซาวด์ในคอมพิวเตอร์ก็เริ่มอธิบายบอกว่าไม่พบก้อนซีสต์นะคะ เราก็เลยถามคุณหมอต่อ แล้วอาการที่ปวดหลังล่ะคะเกิดจากอะไร คุณหมอบอกว่าเป็นเพราะมดลูกกลับด้านคะเลยทำให้คนไข้นั้นปวดหลังเพราะมดลูกไปกดทับที่ด้านหลัง เคลียร์ไป1คำถาม จากนั้นคุณหมอก็เริ่มถามกลับบ้าง เวลามีเพศสัมพันธ์กับสามีมีอาการเจ็บไหม ก็เลยตอบไปคะว่ามีอาการเจ็บคะ บางครั้งเจ็บแต่พูดกับสามีไม่ได้เพราะกลัวจะเกิดปัญหาชีวิตคู่ บางครั้งพอมีอะไรเสร็จก็จะเจ็บท้องน้อยมากๆแต่ก็ไม่เคยได้บอกทางสามีคะ คุณหมอเขาก็ฟังพอเปิดไปรูปถัดไปหมอก็บอกว่าให้ดูที่รูปนะคะ ปกติมดลูกของคนเราจะรูปร่างเหมือนลูกแพร์แต่ของคนไข้คือมันกลม เราก็พูดไปเหมือนลูกแอปเปิลหรอคะ คุณหมอตอบว่าไม่ใช่คะ เหมือนลูกส้มโอคะ ตอนนั้นยอมรับว่าตกใจแต่ไม่รู้ตกใจเรื่องอะไรก่อนว่ามดลูกโตหรือมดลูกกลับด้าน คุณหมอก็เริ่มอธิบายคะว่าเมื่อกี้ตอนตรวจภายในคือไม่เห็นติ่งอะไรทุกอย่างปกติ แต่จากผลคือมดลูกโตน่าจะเป็นเพราะเยื่อบุมันไปเจริญที่กล้ามเนื้อมดลูก(Adenomyosis) ตอนนั้นยอมรับเลยคะว่าไม่เคยรู้อะไรเกี่ยวกับโรคนี้เลยคะ จากนั้นคุณหมอก็ให้ใบอุลตร้าซาวด์มา4รูป และก็สั่งยาให้ และก็อธิบายเกี่ยวกับการรักษา คุณหมอก็จะถามว่าตอนนี้คุมกำเนิดยังไงอยู่ ก็เลยบอกว่าตอนนี้ฝั่งเข็มยาคุมแบบ3ปีอยู่คะแต่ใกล้จะหมดอายุแล้วครบกำหนดที่จะต้องเปลี่ยน คุณหมอก็ถามเรื่องประจำเดือน ก็บอกคุณหมอคะว่าตั้งแต่ฝั่งมาก็มีประจำเดือนตลอดทุกเดือนแต่2ปีหลังเริ่มมา2-3เดือนครั้ง และก็ถามเรื่องอาการปวด ก็บอกคุณหมอว่าปวดประจำเดือนมากคะ ไม่มีก็ปวด จากนั้นคุณหมอก็เลยสั่งยากินให้คะ และก็บอกว่าให้ฝั่งยาคุมไปเรื่อยๆเพื่อที่จะไม่ให้เป็นประจำเดือนเพื่อที่เยื่อบุจะได้ไม่เจริญไปอีก จากนั้นคุณหมอก็สั่งเข็มยาคุมแบบ5ปีให้เพื่อเปลี่ยนกับที่กำลังจะหมดอายุ จากนั้นออกจากห้องคุณหมอและก็ไปเปลี่ยนชุดเพื่อที่จะลงไปจ่ายค่ายาและก็ไปเอาเข็มยาคุมอันใหม่มาเพื่อให้คุณหมอใส่ให้

เดินลงมาคือคนเยอะมากรอคิวรับยาเยอะมาก คิวคือ692 บนจอคือยังอยู่ที่4ร้อยต้นๆ รอและก็รอคะ ระหว่างรอก็ไปหาซื้ออะไรทาน และก็รอต่อคะ นั่งไปนั่งมามีพี่คนหนึ่งมาถาม น้องคิวไหนจะต้องขึ้นไปหาหมออีกไหม เราก็ตกใจพี่เขารู้ได้ไงว่าเราไปตึกไหนมา สรุปคุยไปคุยมาคือพี่เขาเป็นคนไข้ที่เข้าไปก่อนหน้าเรา แถมเป็นโรคเดียวกัน แต่เคสพี่เขามดลูกโตมากจนต้องตัดมดลูกทิ้ง ได้ฟังแล้วก็อึ้ง ก็ยิ่งคำถามต่อเลยคะว่าพี่รักษายังไงก่อนหน้านี้ พี่เขาก็บอกว่า รักษาตามอาการนะ นี้พี่ก็พึ่งคลอดน้องมา1ปีแต่เยื่อบุมันก็ไม่ยุบแถมพี่ตรวจเลือดเจอว่าเซลล์มันจะกลายเป็นเนื้อร้ายคุณหมอเลยให้ตัดมดลูก จากนั้นพี่เขาก็ไป ทิ้งให้เรานั่งอึ้งอยู่แบบนั้นจนถึงคิวรับยา พอรับยาจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว จากนั้นก็ขึ้นไปหาหมอเพื่อถอดและใส่เข็มยาคุม จากนั้นก็พยายามหาข้อมูลเรื่องมดลูกโตเพราะเยื้อบุเจริญผิดที่ในกล้ามเนื้อมดลูก จะต้องทำไงสาเหตุมาจากอะไร แต่ตอนนี้ปลงแล้วคะ อย่างน้อยถ้าหากต้องตัดก็ไม่เสียใจเพราะมีลูก2คนแล้ว เลยอยากฟังประสบการณ์ของพี่ๆน้องๆท่านอื่นคะว่าใครเคยมีประสบการณ์บ้างและรักษายังไงต่อ…
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่